“วิธีระงับความโกรธ”

ถาม : กราบพระอาจารย์

ให้ช่วยสอนวิธีระงับความโกรธเจ้าค่ะ

 เวลาที่เกิดขึ้นเรามีวิธีจัดการอย่างไร

และจะมีวิธีการให้อภัยบุคคลอื่น

ที่คิดและทำไม่ดีกับเราอย่างไรคะ

พระอาจารย์ : ขั้นตอนก็ใช้พุทโธก็ได้

เวลาใครเขาทำให้เราโกรธเราก็ใช้พุทโธ

อย่าไปคิดถึงเรื่องที่เขาทำให้เราโกรธ

พอเราอยู่กับพุทโธพุทโธไป 5 นาที

 เราก็ลืมเรื่องที่ทำให้เราโกรธได้ เราก็หายโกรธ

ถ้าอยากจะหายอย่างถาวรก็ต้องให้อภัยเขา

 คิดว่าการโกรธนี้มันเป็นภัยกับเรา

 ความโกรธนี้มันไม่ได้เป็นภัยกับคนที่โกรธหรอก

 เขาไม่รู้เรื่อง ไอ้เราจะตายเอากินไม่ได้นอนไม่หลับ

เพราะความโกรธ ดังนั้น ถ้าเราอยากจะสบาย

เราก็ต้องให้อภัยเขา พอเราให้อภัยเขาแล้ว

เราก็จะหายโกรธ พอหายโกรธแล้วเราก็จะสบาย

 ดังนั้น เราต้องเห็นโทษของความโกรธ

ว่ามันเป็นพิษเป็นภัยกับเรา

 และเห็นคุณค่าของการให้อภัย

ว่าเป็นวิธีที่จะทำให้เราหายโกรธ

 แล้วจะทำให้เราไม่มีปัญหากับใครด้วย

 ถ้าเราโกรธใครถ้าเราไม่ไปตอบโต้เขาจบมันก็จบ

 แต่ถ้าเราโกรธใครแล้วเราไปล้างแค้นไปทำร้ายเขา

 เดี๋ยวเขาก็กลับมาล้างแค้นเราต่อ

มันก็จะจองเวรจองกรรมกันไป

บางทีข้ามภพข้ามชาติไปเลยก็มี

 ดังนั้น เราต้องเห็นโทษของความโกรธ

และเห็นคุณของการให้อภัย

 และอีกข้อหนึ่งถ้าเราอยากจะไม่โกรธ

เลยก็ต้องไปกำจัดของต้นเหตุของความโกรธ

 ต้นเหตุของความโกรธก็คือความอยาก

อยากให้เขาไม่ด่าเรา

 เราโกรธเขาแล้วเวลาเขาด่าเรา

 แต่ถ้าอยากให้เขาด่าเรา

 เวลาเขาโกรธเราจะดีใจ เราก็จะไม่โกรธ

 ดังนั้น ถ้าจะไม่ให้โกรธก็ต้องอยากให้เขาด่าเรา

 แล้วพอมีความอยากพอได้สิ่งที่เราอยากได้

 เราก็จะดีใจใช่ไหม แต่คงจะทำยาก

 อย่างน้อยก็อย่าไปอยากให้เขาทำอะไร

หรือไม่ทำอะไรก็พอ ถ้าเราไม่มีความอยากกับเขาแล้ว

เขาจะทำอะไรเราไม่เดือดร้อนหรอก

 เห็นไหมคนที่เราไม่รู้จักเราไม่มีความอยากกับเขา

เขาไปทำอะไรเราไม่เดือดร้อน

 แต่คนที่เรารู้จักนี่พอเขาทำอะไรนิดอะไรหน่อย

เราก็จะเดือดร้อน เพราะเราจะเกิด

ความอยากให้เขาทำหรือไม่ทำขึ้นมา

 ดังนั้น ถ้าอยากจะไม่โกรธใครเลย

ก็ต้องละความอยากให้คนนั้นเป็นอย่างนั้น

ให้คนนี้เป็นอย่างนี้ ให้เขาทำอย่างนั้นหรือทำอย่างนี้

 ถ้าเราไม่มีความอยากเหล่านี้แล้ว

ใครจะทำอะไรก็จะไม่ทำให้เราโกรธได้.

พระอาจารย์สุขาติ อภิชาโต

.................................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑









ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ