happy memories
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2568
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
28 กุมภาพันธ์ 2568
 
All Blogs
 
DIOR Gold House @ Central Chidlom




เห็นตึกสีทองอร่ามหลังนี้ในเฟซบุคเมื่อต้นปีแต่ลืมอัพลงบล็อก (เหมียนเคย) ตึก "Dior Gold House" ด้านนอกออกแบบสไตล์ฝรั่งจ๋า แต่ด้านในผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัวมาก โดยเฉพาะงานหวาย ออกแบบเท่ได้ใจ ค้นภาพและข้อมูลจากหลายเวบ มีคนแวะไปถ่ายรูปและรีวิวให้อย่างดี อัพบล็อกแล้วก็อยากจะหาเวลาไปชมและแชะรูปด้วยตัวเองสักครั้ง











สิ้นสุดการรอคอยกับ Dior Gold House คอนเซปต์สโตร์รูปแบบสแตนอโลน (ชั่วคราว) แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งบริเวณถนนเพลินจิต บนพื้นที่ระหว่างเซ็นทรัลชิดลมและเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ (หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ลานมรกต’ นั่นเอง) พร้อมเปิดต้อนรับทุกคนตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม ค.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป







เรียกได้ว่าข่าวลือ DIOR จะมาเปิด Pop-Up Store ในบ้านเรานั้นไม่เกินจริง คราวนี้ได้ติดแกลมกันแน่ ๆ เพราะ ๘ ธันวาคมที่ผ่านมา "DIOR Pop-Up Store" แห่งแรกในไทย จะเผยความหรูหราให้ทุกคนได้เห็นเต็มตา








เชื่อว่าใครก็ตามที่เดินทางผ่านย่านใจกลางเมืองสุดแกลมอย่างชิดลม เพลินจิต จะต้องสงสัยว่าอาคารสีทองสุดอลังการที่ตั้งอยู่ ณ ลานมรกต (พื้นที่ว่างที่อยู่ระหว่างเซ็นทรัล ชิดลม และเอ็มบาสซี่) คืออะไร ซึ่งก็เป็นอันสรุปแล้วว่าอาคารสีทองสุดอร่ามตาที่ว่าคือ DIOR Pop-Up Store หรือในอีกชื่อที่ว่า "DIOR Gold House" หรือ ดิออร์โกลด์เฮาส์ 







Dior Gold House เป็นส่วนหนึ่งแผนงานระดับโลกครั้งภายใต้โครงการชื่อว่า ‘Dior Around The World’ โดยที่ก่อนหน้านี้ทางแบรนด์ได้เปิดโปรเจกต์ Dior Seongsu ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้กับสถาปัตยกรรม โดดเด่นด้วยอาคารสีเงินประดับโลหะขัดเงาให้ความรู้สึกทันสมัย และต่อมาที่กรุงเทพที่ยกเอาสีทองและความรุ่มรวยทางศิลปะและงานหัตถศิลป์เป็นตัวชูโรง เนรมิตลานว่างเปล่าให้กลายเป็น ‘อุทยานกลางกรุง’ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจำลองอาคารเลขที่ ๓๐ Avenue Montaigne เมซงแห่งแรกในปี ค.ศ. ๑๙๙๔๖ โดยเมอซิเออร์ Christian Dior (คริสติยง ดิออร์) และสีทองยังสื่อถึงความนิรันดร์ของแบรนด์ซึ่งเนรมิตโดยช่างศิลป์ไทย ผสมผสานเลิศระหว่างความเลอค่าแบบฉบับฝรั่งเศสและเสน่ห์อารยศิลป์ของไทยได้อย่างลงตัว







สำหรับความน่าสนใจของ "DIOR Gold House" คือการจำลองภายนอกอาคารมาจากร้านสาขาหลักในกรุงปารีสดิออร์โกลด์เฮาส์ได้รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องความรักที่มีต่อธรรมชาติของคริสเตียน ดิออร์ โดยอาคารแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมเลขที่ ๓๐ บนถนนมองแตญ ในกรุงปารีส ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านดิออร์แห่งแรก ภายในอาคารเต็มไปด้วยผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินไทยมากมาย อาทิ กรกต อารมย์ดี, วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์, ศรัณย์ เย็นปัญญา และอีกหลายท่าน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและความสร้างสรรค์ของศิลปินไทย







ภายในอาคารสีทองเรืองรองแห่งนี้จัดแสดงไอเทมโดย Maria Grazia Chiuri, Kim Jones, และ Dior Maison อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสตรีหรือบุรุษ รวมถึงคอลเล็กชั่นเครื่องหนังอย่าง รองเท้า, เข็มขัด, กระเป๋า, เครื่องประดับ ตลอดจนของตกแต่งบ้าน และเอกซ์คลูซีฟไอเทมมากมาย




นอกจากนี้ ดิออร์โกลด์เฮาส์ยังเป็นการเฉลิมฉลองให้กับงานฝีมืออันประณีตและความเป็นเลิศทางศิลปะในทุกแขนง ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของดิออร์ที่มุ่งเน้นถึงความสวยงามและความประณีตบรรจงในทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ และยังเป็นการตอกย้ำความผูกพันอันแนบแน่นระหว่างดิออร์กับประเทศไทยอีกด้วย







อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือในส่วนของ Café Dior ที่พร้อมให้ทุกคนได้เข้ามาลองลิ้มรสชั้นเครื่องดื่มและเมนูพิเศษเลิศสไตล์ฝรั่งเศส ภายใต้บรรยากาศงานศิลป์การจักสานตอกไม้ไผ่ ด้วยฝีมือของ กรกต อารมญ์ดี และภายนอกท่ามกลางบรรยาศจำลองป่าใจกลางกรุงพร้อมด้วยประติมากรรมตกแต่งมากมายที่เชื่อมโยงกับ Dior และความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของประเทศไทย







นอกจากนี้ Dior Gold House ยังเปรียบเสมือนเป็นเวทีที่มอบพื้นที่ให้กับคนไทยผู้มีไอเดียสร้างสรรค์ผลงานทางด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม และการตกแต่ง ได้แสดงผลงานร่วมกับทาง Dior โดยทางแบรนด์ได้คัดสรรค์ศิลปินผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง ๙ ท่าน ตั้งแต่

บุญเสริม เปรมธาดา กับผลงานสร้างสรรค์เก้าอี้มูลช้างที่โดดเด่นด้วยรอยเท้าช้างที่ประทับบนที่นั่ง

560 Studio โดย ศรันย์ เย็นปัญญา ผลงานสร้างสรรค์รถตุ๊กตุ๊กจักสานสะท้อนความเป็นไทย และเก้าอี้ Tête-à-tête ที่เล่าผ่านเทคนิคและฝีมือช่างไทย

ชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ผลงานประติมากรรมตกแต่งภายในบูติกที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลและอัพไซเคิล

เอกรัตน์ วงษ์จริต ผลงานออกแบบเก้าอี้นั่งนำเสนอการใช้เทคนิคกระเบื้องโมเสกจำลองงานศิลป์ในวัด


a


วาสนา โดยศิลปินรองศาสตราจารย์วาสนา สายมา และสาวิน สายมา สร้างสรรค์กระเป๋าถือ Lady Dior ด้วยหัตถศิลป์สานดอกไม้ไผ่พื้นบ้านไทย และกรกต อารมญ์ดี ผลงานรังสรรค์ตอกไม้ไผ่รังสรรค์ขึ้นรูปเป็นสามมิติของพืชพันธุ์ ดอกไม้ และ นก ทุกชิ้นพร้อมแล้วให้ทุกท่านได้สัมผัสงานหัตถศิลป์ชั้นยอดของไทยที่เชื่อมโยงกับคุณค่าแห่งแบรนด์ Dior

รองศาสตราจารย์วาสนา สายมา หนึ่งในศิลปินไทย ผู้อยู่เบื้องหลัง ผลงานสร้างสรรค์กระเป๋าถือ Lady Dior ด้วยหัตถศิลป์สานดอกไม้ไผ่พื้นบ้านไทย เมื่อพูดถึงงานจักสาน ภาพที่เราคิดไว้คงไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าการสานปลาตะเพียน กระด้ง ตะกร้า หรือสารพัดข้าวของเครื่องใช้ ที่มีแต่ญาติผู้ใหญ่เท่านั้นที่เป็นคนคอยซื้อหามาให้เราใช้งาน แทบไม่มีงานจักสานชิ้นไหนเลยที่เราเป็นคนซื้อ หรือคิดจะซื้อด้วยตัวเอง




แต่งานของรองศาสตราจารย์วาสนา สายมา อาจารย์สอนหลักสูตรออกแบบอุตสาหกรรม คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เจ้าของแบรนด์ Vassana ก็ทำให้เราได้เห็นงานจักสานไม้ไผ่ในมุมมองใหม่ ที่สนุกทั้งดีไซน์และใหม่ด้วยฟังก์ชันการใช้งาน

อ.วาสนา กล่าวว่า ร้อยมาลัยจากตอกไม้ไผ่เป็นงานจักสานเครื่องประดับแบบไทย ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ใช้เป็นเครื่องสูง เครื่องบูชา ชนิดต่าง ๆ ในงานพิธีไทยโบราณ ดังกล่าวนี้ เป็นงานที่ได้ต่อยอดจากงานจักสานไม้ไผ่ทั่วไปภูมิปัญญาพื้นบ้านดั้งเดิมให้กลับคืนความเป็นเอกลักษณ์แบบไทยที่หยิบจับต้องได้ง่าย ๆ โดยการจักสานออกมาเป็นตอกไผ่แต่ละเส้นมาร้อยเรียงเป็น ดอกมะลิ ดอกจำปี ดอกพิกุล ดอกรัก ดอกไม้ต่าง ๆ เชื่อมเรียงต่อกัน จับรวมมัดเป็นพู่ลงตัวอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ใช้วิธีการทำลายเชื้อราแบบภูมิปัญญาสมัยโบราณด้วยวิธีการแช่น้ำส้ม ตากแห้ง ต้มเพื่อขจัดแป้ง เป็นต้น พร้อมสร้างแบรนด์ “วาสนา” ขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน






นอกจากความสวยงามที่สะกดทุกสายตาแล้ว ความอร่อยของทุกเมนูซิกเนเจอร์ยังได้เชฟระดับสามดาวอย่าง Mauro Colagreco ที่จะเติมเต็มด้วยมนตร์เสน่ห์ด้วยเมนูของหวาน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดอกดาวเรือง และใบเตย มาเป็นองค์ประกอบหลักที่เป็น
ซิกเนเจอร์ของไทยโดยเฉพาะ มาผสมผสานระหว่างไลฟ์สไตล์ การออกแบบ และแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อยและความพิเศษทั้งหมดนี้


Cappuccino
Neroli ค็อกเทล
Labeille ขนมหวานซิกเนเจอร์
Classic French croissant with pistachio
La Rose
L’Abeille
ใครอยากสัมผัสคาเฟ่ในลุคคุณหนู Dior ก็เตรียม Booking เดือนมกราคมได้เลย









Café DIOR by Mauro Colagreco (Dior Gold House)

Location: Dior Gold House
Open
เวลาเปิด: ๑๐.๐๐ น. - ๑๙.๐๐ น. (เปิดทุกวัน)

โทรศัพท์: ๐๘๐-๐๗๖-๕๗๖๑
สถานีรถไฟฟ้ร: ชิดลม
















































































ภาพและข้อมูลจาก
sanook.com
tongpaii.me
matichon.co.th
ellementhailand.com
เพจ Kiccha Buranond






บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่






Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2568 23:08:01 น. 0 comments
Counter : 553 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณร่มไม้เย็น, คุณ**mp5**, คุณกะว่าก๋า, คุณmultiple, คุณดอยสะเก็ด, คุณSleepless Sea, คุณkae+aoe, คุณeternalyrs, คุณThe Kop Civil, คุณปรศุราม, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณอุ้มสี, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณปัญญา Dh, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณกาปอมซ่า, คุณสองแผ่นดิน, คุณทองกาญจนา, คุณtuk-tuk@korat


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.