Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

No.15 เที่ยว ป่าสวย หนาว แบบดิบ ๆ สุข ๆ



บล๊อกอันดับ 15







สวัสดีครับ พี่กานต์ ผมพรานก๋อง จะมารับครับ
โอเค มารับได้เลย พร้อมแล้วครับ

พวกเรามีเป้ กระเป๋าใส่ของส่วนตัวรวม เก้าชีวิตก็มีบอย เจ๊สุ น๊อต
นส.เค็ง เอ้ย เคียงดาว น้อยเลขา เจ้าช้าง แขกคนสวย นส.หมีหน้า
งั้น ๆ แต่หุ่นดี ดูแล้วทำให้เราอึดอัดมาก อิ อิ. เราเอารถฝากต่อ
ที่ภูไอรา รีสอร์ท ที่พักแสนสวยสบาย ราคาไม่แพง เราพักฟรี ก็
บริษัทเราพามาสัมนา จ่ายทุกสิ่งให้แล้วทุกอย่าง.

บริษัทให้สัมนาเสร็จ พวกเราก็พากันเที่ยวต่อ(วางแผนไว้ล่วงหน้า)
พรานก๋อง ขึ้นรถสต๊าทดังฉื่ม เข้าเกียร์หนึ่งดัง ก๊อก พารถวิ่งขึ้นข้าง
เขื่อนคลองท่าด่าน เปลี่ยนเกียร์ปรับความเร็วเสียงรถดังสม่ำเสมอ
อยู่ในรถรู้สึกอบอุ่นข้างหน้า แต่แผ่นหลังเย็นเจี๊ยบเพราะอากาศหนาว

ไม่นานรถจอดที่ลานจอด มองไปข้างล่าง แผ่นน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา
มีหมอกลอยเป็นแผ่น บาง ๆ คลุมเป็นหย่อม ๆ ไกลออกไปทิวเขา
เขียวยาวขวงหน้าไกลลิบ ขวามือเป็นสันเขื่อนคอนกรีตใหญ่ ใช่แล้ว
ครับ เขื่อนที่นครนายก.

สิบสองชีวิตค่อยไต่ตลิ่งลงไปข้างล่างค่อนข้างชัน มีเรือจอดรออยู่
เรือมีหลังคลุม เครื่องอยู่ท้าย ลูกหาบสองคนช่วยขนสัมภาระลงไว้
หัวเรือ ส่วนเป้ของใครของมันเก็บไว้กับตัว พอลงเรือลูกหาบแจก
เสื้อชูชีพสีส้มให้ใส่คนละตัว.

เกือบสี่สิบห้านาที เรือแล่นไปต้นน้ำ ดังตึก ๆ ไม่มีดัง บ้าน ๆ บ้าง
เนาะ ไม่นานก็ถึงปลายทาง ลูกหาบช่วยกันขนของลง แล้วก็คอย
รับสาว ๆ ค่อนข้างสวย บางคน อิ อิ อายุมาก ก็สวยแบบกระเปิ๊บ
กระป๊าบ 555

พากันเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขา ทางเดินเล็กสีแดง มีก้อนหินขวาง
บ้างเป็นระยะ บางขณะก็ไต่เขาขึ้นทำเอาเหงื่อซึม สาว ๆ ขอพักริม
ลำห้วยมีน้ำไม่มาก ใส ไหลดังจุ๋งจิ๋ง.

สาวหมีร่างเล็ก ก้มตัววักน้ำล้างหน้า แขนขา ส่วนเจ๊สุแหย่เท้าลงแช่

เจ๊ไม่เย็นเท้าเหรอ สงสัยตีนเอ้ยเท้าจะเหม็นอับแหง ๆ เจ้าช้างแซว
เออ..มันอับ แต่เจ๊สงสัยว่า มันจะอับน้อยกว่า เงาะของเอ็งว่าเจ้าช้าง

พี่ช้างเอาเงาะมาด้วยเหรอ แบ่งให้แขกกินมั่งเด๊ะ แขกคนสวยพาซื่อ

แหม แขกกินเงาะ ผมก็แย่ อิ อิ ไม่ได้ห่อมาด้วย แขกอย่าไปเชื่อ
เจ๊สุ เจ้าช้างเขิน.

ลูกหาบหาบสัมภาระ เดินล่วงหน้าไปไม่นานก็ หายลับไปบนเขา
เราเดินกันต่อ ทางเดินเล็กสีแดงคดเคี้ยวไปมา ผ่านหญ้าสูงแค่เข่า
ตลอดทางร่มรื่นด้วย ต้นไม้ใหญ่ บางช่วงมีกอไผ่ป่าขึ้นเป็นระยะ

พรานก๋องชี้ให้ดู ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ผุดใต้กอไผ่ที่มีใบร่วงสีน้ำตาล
อ่อน ลำต้นเป็นลำ ลาย ๆ สูงแค่เอว ใบกว้างลายเหมือนกัน นี่เขา
เรียกว่าต้นบุก ใต้ดินมีหัว ถ้าไม่มีอะไรกิน ก็ขุดหัวขึ้นมาต้มกินได้
แต่จะเป็นชนิดเดียวกับที่ ญี่ปุ่นสั่งจากไทยไปทำเส้นโอเด้งหรือ
เปล่าไม่รู้เหมือนกัน.

พรานก๋องจ๋า สุเหนื่อยแล้วขอพักหน่อย เจ๊สุพูดพรางนั่งลงที่ขอนไม้
เชิญครับ พักเหนื่อยแล้วค่อยเดินต่อ เวลาเข้าป่าเวลาจะนั่งหรือก้าว
ผ่านกอหญ้าทึบ ใช้ไม้เคาะ หวดไปบ้าง อย่างขอนไม้ที่เจ๊สุ นั่งมี
ปลวกขึ้นบ้าง ถ้าข้างล่างมีหลืบหรือรู เป็นรอยเรียบลืนไหล อย่าไป
นั่งนะครับ.
มีอะไรเหรอ เจ๊สุถาม
ก็ มีรูเลื่อมมัน งูมักจะอยู่ครับ
โอ้ย...เจ๊สุรีบมองหารู แล้วค้อนใส่พรานก๋อง.. แล้วก็ไม่บอก

พักไม่นานเหงื่อแห้งอย่างรวดเร็ว ก็อากาศยังเย็น พวกเราก็เดินกัน
ต่ออีกครึ่งชั่วโมง ทางเริ่มลาดลงเป็นแอ่งเขา หรือแอ่งดอย มีต้นบุก
ขึ้น ผสมกับไผ่ชนิดไม่มีหนาม เงาไม้ยังปกคลุมไปทั่ว เสียงน้ำไหล
อยู่ข้างล่าง ไม่นานพรานก๋องก็พาไต่ลงตลิ่ง ข้างล่างเป็นหาดทราย
ค่อนข้างกว้าง ลำธารไม่กว้างมากเป็นร่องลึก น้ำใส ไหลผ่านก้อน
หิน ดัง คลิก ๆ.

พวกเราจะพักค้างคืนที่นี่. ลูกหาบจะช่วยกันกางเต๊นท์ เห็นคาบสี
เหลืองปนแดงตามต้นไม้ใหญ่ นั่นเป็นรอยน้ำไหลบ่าในหน้าฝน แต่
จะไม่ท่วมนานเหมือนท่วมท้องนา. อีกอย่างหน้านี้หนาวไม่มีน้ำไหล
มาก ปลอดภัยแน่นอนครับ พรานก๋องบอก.

ริมตลิ่งที่สูงมีต้นไม้ใหญ่ แผ่กิ่ง ใบคลุม ร่มครึ้ม. ลูกหาบกำลังเก็บ
ของแขวนไว้ที่ต้นไม้.

พรานก๋อง แจกห่ออาหารกลางวัน เป็นข้าวเหนียวห่อด้วยใบตองกล้วย
แห้ง แกะมาแล้วหอมนิด ๆ มีน้ำพริกแดงใส่ในถุงพลาสติกเล็ก กับ
หมูแดดเดียวเป็นแผ่นบางแต่ใหญ่ขนาดฝ่ามือเด็กคนละ สองชิ้นแถม
ด้วยใส่กรอก ที่เรียกแบบทางเหนือว่า ใส้อั่วอีกคนละท่อน

ลูกหาบต้มน้ำร้อน ๆ ใส่ใบชาจีน หอมมาให้ ไอร้อน ลอยขึ้น กินข้าว
กันอย่างอร่อย จิบน้ำชาใส่ถ้วยเมลามีนสีฟ้าอ่อน

พี่พราน จัดอาหารกลางวันอร่อย หนูแขกคนสวยพูดชม
เอ... พี่พรานก๋องเป็นคนเหนือเหรอ มีใส่อั่วให้กินด้วย เจ้าช้างถาม
พรานก๋อง ยิ้ม.....ไม่ตอบ

ผมสังเกตรูปร่างพี่พราน สูงหกฟุต ตัดผมสั้นคล้ายสกินเฮด มีผ้าสีเขียว
ขี้ม้า พันบนห้วหนา ใส่เสื้อคอกลมสีกรมท่า กางเกงคล้ายกางเกงชาว
เลสีเดียวกัน ยาวคลุมตาตุ่ม ใส่รองเท้าแบบนัก จ๊อกกิ้งใช้

ตรงเอวด้านขวา มีมีดเหน็บใหญ่ยาวแขวนติดกับตัว ข้างหลังมีเป้ใส่
ของตลอดเวลา ใบหน้าสีน้ำตาล ตาคม ชอบยิ้มเห็นไรฟันขาวสอาด

เย็นนี้ผมจะมีเนื้อกวาง กับผักป่าให้กิน รับรองว่าเนื้อหวาน อร่อย
พี่พาล เอ้ยพี่พราน จะใจร้ายยิงกวางให้พวกหนูกินเหรอ น้องหมีร่าง
เล็กพูดเชิงต่อว่ากลาย ๆ

เปล่า ผมเตรียมมาก่อนแล้ว คนอื่นเขาฆ่า แหมคุณหมีจะให้ผมเข้าคุก
เสียแล้ว ป่าเขาใหญ่ที่ทอดยาวมานี้ เขาห้ามล่าสัตว์ ผมจะเล่าให้ฟังที
หลัง เดี๋ยวอิ่ม เอาของทิ้งไว้ที่นี่ ผมจะพาเดินไปเที่ยวต่อ ไม่ไกลมี
น้ำตกเล็ก สวยให้ดู

พรานก๋องพาเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขา ผ่านต้นไทร ไม้ใหญ่ไปตลอด
บางช่วง พาลุยน้ำผ่านลำห้วยไปอีกฝั่ง เพราะฝั่งเดิมเป็นเขาสูงไม่เหมาะ
จะเดิน ยามเดินผ่านลำธารน้ำเย็นสบาย ปลาคล้ายปลากระบอกเป็น
ปลาเกล็ด ว่ายไปมาไม่กลัวคน

พี่ เราจับปลามากินได้เป่า คุณน้อยเลขานาย นาน ๆ พูด ถาม.
พี่น้อยจะจับกินเหรอ เจ้าช้างถาม
บ้า ฉันจะไปมีปัญหาจับ แกจับให้ทีเด๊ะเจ้าช้าง

ปลาพลวง จริง ๆ กินได้ แต่ต้องเลือกฤดู ช่วงนี้มีลูกไม้ป่าร่วงใส่น้ำ
ปลากินเข้าไป ถ้าเราจับมากิน ก็เมา อ๊วก.

เดินไม่นาน เสียงนกร้อง เสียงค่อนข้างใหญ่ พรานก๋องใช้นิ้วชี้แตะ
ปาก ให้สัญญานเงียบ ชี้ไปข้างบนต้นไม้สูงใหญ่

พี่นกเหรอ เจ้าน๊อตถามพลางยกกล้องคอมแพคเตรียมยิงภาพ
พวกเรายืนนิ่ง แหงนคอตั้ง มองไปข้างบน พอนัยตาปรับภาพก็เห็น
นกเงือกสองตัวอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่.
เจ้าน๊อตกดกล้องดังแชะ.

พี่บอย ถ่ายไงดีเห็นนกนิดเดียว
น๊อตกล้องน๊อต เขาเอาไว้ถ่ายสาว ๆ ใกล้ ๆ เอ็งจะถ่ายนกอยู่ไกล
มันจะไปเห็นอะไร บอยนัก กม. ร่างใหญ่พูดเบา ๆ

พี่พรานส่งสัญญานเดินต่อ เจ๊สุรีบเอาหมวกปีกใหญ่ใส่ แต่พอเดิน
ผ่านกิ่งไม้ ก็ถูกเกี่ยวร่วงหล่นกับพื้น

เจ๊สุเขาอยากเป็นนางเอก เดินกลางทุ่งหญ้าอัฟริกัน หมวกตกไม่
เป็นไร ใช่เปล่าเจ๊
ทลึ่งนะเอ็ง เจ้าช้าง หัวของฉันไม่ใช่หัวของแก...ยังไงฉันก็สวย
กว่าทุกคนแหละ.
ใช่สวยกว่า ช้างแน่อยู่แล้ว แต่สวยน้อยกว่า......ไม่พูดดีกว่า

ไม่นานนัก เสียงน้ำตก ดังอยู่ไม่ไกล พอพ้นไหล่หินโต ข้างล่าง
มีน้ำตก กว้างประมาณสิบเมตร กระแสน้ำไหลพุ่งลงข้างล่าง ดัง
กึกก้อง ยามกระทบแผ่นน้ำ พุ่งกระแทกน้ำลงไปล่าง แล้วพุ่งพ้น
น้ำขึ้นข้างบน เป็นฝอยฟุ้งไปทั่ว.

นั่งพักที่น้ำตก ยังไม่มีชื่อนะครับ ใครจะอาบก็ได้นะครับ เราจะ
อยู่ประมาณชั่วโมง
อาบไม่ไหวมั้งพี่พราน น้ำมันเย็น ช้าง..ขอนั่งพัก ล้างขา ล้าง
จักกะแรก็พอ

เออ เจ้าช้างแกล้างจักกะแร้ให้มากหน่อย ฉันเดินตามแก กลิ่น
เต่าแกแรงมาก เจ๊สุพูด

แหมเจ๊เรื่องธรรมดา ผมหนุ่มฮอโมนหนุ่มมันแรง กลิ่นมันก็แรง
ตาม เจ๊น่าจะชอบนะ เห็นไปฝรั่งเศส บอกว่าหนุ่มหล่อ ไม่ค่อย
อาบน้ำเหมือน ช้าง มันก็กลิ่นเดียวกันนะแหละ.

ทุเรศ นะเจ้าช้าง ไปไกล ๆ เลย.

ส่วนผม ไม่ลงเล่นน้ำเด็ดขาด ก็ มัน เย็น..... ใช้นิ้วแตะน้ำ แตะ
เปลือกตาสองข้างก็พอ 5555

หลังจากพักหายเหนือย กินน้ำในกระติกหอมใบเตยที่ลูกหาบใส่
มาให้ ก็พากันเดินกลับ

ลงมาถึงแค้มป์ตั้งเต๊นท์ แสงอาทิตย์เริ่มลดแสงลง ความหนาว
เริ่มมาเยือน ลูกหาบสองคนหอบกิ่งไม้แห้งเป็นกองโต.

เอ้อ..เวลานอนในป่า มีหมอนลมติดมากับเต๊นท์ หมอนเตี้ย บิด
ไปบิดมานอนไม่สบาย วิธีแก้ช่วยกันโกยทรายให้เรียบ พูนทราย
ส่วนหัวให้สูงกว่า ลูกหาบจะช่วยกางเต๊นท์ให้ ดีไหมครับ

ดีครับพี่.......แต่ ช้าง นอนขาดหมอนข้างไม่ได้ ทำไงดี
แกก็นอน กอดกับ บอยซิ เจ๊สุแนะนำ
ไม่เอาพี่ พี่บอย จะ.....อิ๋ย ๆ ช้างกลัว.
ไอ้บ้า ใครจะไปทำแกวะ. บอยร่างยักย์บ่น

พอโกยทรายปรับที่เสร็จ ก็ชวนกันไปอาบน้ำ พวกเราชายเหลือ
กก.ในคนละตัว อาบไม่นานหรอก มัน หนาว......

เจ๊สุ กับสาว ๆ กระมิดกระเมี้ยนนุ่งกระโจมอกด้วย ผ้าถุงหลากสี
ดูทุลักทุเล ด้วยความที่ไม่ค่อยได้นุ่งผ้าถุงกัน พากันไปอาบเลย
ก้อนหินใหญ่ คงกลัวหนุ่ม ๆ เห็นไหล่ขาว ๆ แหง แหม จะดูของ
ขาว ๆ หน่อย หวงซะอีก.
เวลาผลัดผ้าแต่งตัว สาว ๆ ไปผลัดผ้าหลัง ผ้าผืนใหญ่ที่พรานขึง
ตึงให้พวกผู้หญิง.

ใกล้กองไฟขนาดเล็ก มีแสงวับแวม ลูกหาบก่อไฟให้คลายความ
หนาวเย็น พรานก๋องจัดการปูผ้าผืนใหญ่สำหรับทุกคนได้นั่งอย่าง
สบาย แสงตะเกียงแก๊สส่งแสงขาวนวลเพิ่มให้วงกินข้าวสว่างขึ้น

แสงไฟจากกองไฟผสมกับตะเกียงแก๊ส จับใบหน้าสาว ๆ แต่ละ
คนแต่งตัวตามสบายเน้นความอุ่น. เจ๊สุกางเกงผ้าสำลีสีแดงเสื้อ
สีเขียวปริ๊ด เสื้อกันหนาวสีนำเงิน แขก พี่น้อย เคียงดาว นส.หมี
แต่งตัวหลากสี ทับด้วยเสื้อกันหนาว มีสดุดตาก็ นส.แขกสวม
หมวกแดงแบบซานตาคลอส ปลายพับห้อยลงมาข้างหู สวยน่ารัก

ผู้ชายกลุ่มเรา ก็กางเกงยีน เสื้อที่ใส่ตอนกลางวัน มีกลิ่นอยู่บ้าง
อิ อิ กันกลิ่นออกโดยใส่เสื้อกันหนาวทับเก็บไว้ข้างใน 5555
เสื้อที่ใส่ก็เป็นเสื้อโหล เป็นผ้านวม เดินฝีจักรเป็นรูปสี่เหลี่ยมเต็ม
ตัว ก็ไปซื้อกันที่ตลาดโรงเกลือ.

ลูกหาบยก หม้อแกงใบใหญ่มาสองใบ กลิ่นหอม ไอร้อนฉุย
แกงอะไรพี่พราน
อ๋อ แกงผักกูด ใส่เนื้อกวางย่างรมควัน น้ำพริกแกงก็ใส่พริก หอม
แดง กะปิ เกลือโขลกพอแหลก ลูกหาบผัดน้ำพริกจนหอม ใส่น้ำ
พอประมาณ น้ำเดือด โรยเนื้อกวางย่างรมควันเป็นฝอยใส่ปิดฝา
น้ำเดือดไอน้ำพุ่งก็ ใช้มือจับผักกูด บิดจนขาดยาวพอคำโยน
ใส่แกง น้ำแกงจะซึมเข้าก้าน ใบผักกูด.
คนไปมา ให้น้ำเดือด น้ำหวานของเนื้อกวางจะออกมา ก่อนยกลง
บีบมะนาวตัดลงไปนิด จะทำให้ใบผ้กกูดเขียว แต่ไม่ใส่มะนาวมาก
เดี๋ยวจะกลายเป็นแกงส้ม. พรานก๋องเล่าวิธีการแกงอย่างละเอียด
กลิ่นแกงที่ตักออกใส่ชาม หอมโชยไปทั่ววงกินข้าว.

ผักกูดลูกหาบไปเก็บบนน้ำตกข้างบน มีเยอะ
เอ... งั้นพี่พราน ก็คิดค่าอาหารลดลงนะ พี่ไม่ได้ซื้อเก็บแถวนี้
ได้ครับ คุณสุ. อ้อทานข้าวกันเลย ยังมีไข่คนอีกอย่าง

พรานแบกไข่สดมา ไม่แตกเหรอ คุณน้อยเลขาถาม
ไม่แตกครับ เป็นไข่ผงทำที่แปดริ้ว เขาทำขายส่งตปท. เราก็ซื้อ
มาเดินป่าสดวกดี.

ระหว่างนั่งกินข้าว อาหารร้อน ค่อนข้างมาก รอบตัวมืด เสียงน้ำใน
ลำห้วยดังจุ๋งจิ๋ง ตลอดเวลา ความหนาวแผ่สร้านไปทั่วทุกคน

พี่พราน น้ำอะไร หอมจัง เจ้าช้างชูแก้วขึ้นถาม
น้ำมะตูมครับ เราเอาเปลือกมะตูมตากแห้ง แล้วปิ้งไฟอ่อนจนหอม
แล้วจับโยนใส่หม้อน้ำเดือด พอน้ำเหลืองดี ก็เปิดฝาดื่มได้เลย

แต่พี่พราน...เจ้าช้างช่างมีคำถามตลอดเวลา เขาว่าดื่มน้ำมะตูมแล้ว
ลดกำหนัดไม่ใช่เหรอ คนแก่เขาถึงชงให้พระฉันแทนน้ำ จะได้ลด
กำหนัดให้พระไปในตัว

เออ...ช้างแกกินให้มากหน่อย จะได้ลด 5555 เจ๊สุพูดพรางตีไหล่
เจ้าช้างดังปั๊บ.
ไม่จริงครับ พรานก๋องบอกพลางชี้ไปยังลูกหาบที่นั่งยิ้มฟันขาวใกล้
ๆ ลองถามดูว่าจริงหรือเปล่า มันกินมาหลายปี ทุกวันมีเมียสองคน
พร้อมกัน จริงเปล่าเจ้าสิทธิ.

แฮะ ๆ ผมได้เมียคนที่สองโดยบังเอิญ มีลูก หกคนเท่านั้นเอง.

หลังกินข้าวเย็นที่ร้อน พวกเราย้ายมานั่งรอบกองไฟขนาดเล็ก มี
แสงแวว วาว วิบวับ เหมือนนัยตาสาว ดูมีเสน่ห์ น่าดู ยามแสงจับ
ต้องใบหน้าแต่ละคน อุ้ย น่ารัก โรแมนติกที่สุด ชักอยากแต่งงาน
เสียแล้ว แต่...ยังหาไม่ได้.

ส่วนเจ๊สุ ก็สวยเหมือนกัน ยามไฟสลัว 5555
เจ๊สุ ผมจะร้องเพลงให้ฟังนะ
เพลงอะไร สาวขอนแก่นเหรอ ช้าง
ไม่ช่าย... ผมจะร้องเพลง พี่สาวครับ เจ้าช้างกรีดกีต้าร์โปร่ง
ปี้สาวครับ ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ฮักปี้บ่อมีหน่าย แถมทำตาซื้ง
ใส่เจ๊สุ...จนจบเพลง
เจ๊สุ ก็ทำตาซี้งตามไปด้วย ก็ แก เป็น สาว แ ก....อิ อิ ยังโสด

พี่กานต์ ร้องเพลงรักในซีเมเจอร์แล้วมองหน้าหนู แหมทำตาซี้ง
สาวเค็ง เคียงเดือนต่อว่า คงขวยเขิน...

ก็เห็นคนสวย พี่อยากเป็นเหมือนเนื้อเพลง แอบรัก เค็งอยู่ในใจ
อยู่หนใดหมายแอบอิง วันทั้งวันฉันมองเหม่อ คิดถึงเค็งทุกเวลา

บ้าพี่กานต์นี่ สาวเคียงเดือน ค้อน...
พี่กานต์ ชอบของแปลกเหรอพี่..... สาวหมีเย้า.รู้ว่าเพื่อนเหมือน
จะเป็นทอม 555

ตกดึก ผลัดกันร้องเพลง เริ่มชักหิว พี่พรานก๋องเอา หัวมันเทศ
โยนใส่กองขี้เถ้าร้อน ๆ สิบกว่าหัว เอาขี้เถ้ากลบ ไม่นานเสียงดัง
ฟี้..ปุ... แล้วก็เงียบ.
พี่พรานเขี่ยหัวมัน ที่เริ่มเหี่ยว ร้อนระอุออกมา ใส่ใบตองกล้วย
สด แล้วใช้มือขวา กดไปบนหัวมัน แตกออกมาเป็นสีเหลืองทอง
ไอร้อน ฉุย เลื่อนใบตองให้ สาวหมีคนแรก.

เอ... ยังไงเสียแล้วพี่พรานก๋องนี่
พวกเรากินมันร้อน หอมเปื้อนขี้เถ้าบ้างนิดหน่อย อร่อยทำให้
อุ่นขึ้น ร้องเพลงจนเจ้าช้างเจ็บนิ้วที่ดิดกีต้าร์โปร่ง ต้องโยนให้
บอย หนุ่ม กม.ร่างบึกเล่นแทน ส่วนนักร้องก็ร้องเกือบทุกคน
ยกเว้น คุณน้อยเลขา นั่งฟังเงียบ ๆ ส่วนคนอื่น ร้องจนเสียง
แหบแห้ง นาน ๆ ได้โชว์พลังเสียง บางคนก็ร้อง หลงคีย์ก็มี

พอเริ่มหาว พี่พรานก๋องก็บอกว่า ใครง่วงเข้านอนในเต็นท์อย่า
ลืมรูดซิบให้สนิทนะครับ.
พี่ ผมรูดแล้ว แน่นมาก เจ้าช้างพูด
ตลึ่งนะแก เจ้าช้างพี่พรานเขาหมายถึง ซิบเต็นท์เว้ย เจ๊สุบอก

คืนนั้นเรานอน ฟังเสียงน้ำไหล อากาศเย็นสบาย อิ อิ นอนห่ม
ผ้า สวมหมวกไหมพรม คอก็ใส่ผ้าพันคอ ถุงเท้าหนาใส่อีก ไม่
นาน ก็หลับ ผลอยไปพร้อมกับเสียงน้ำในลำห้วย.

เช้ามืดเสียงไก่ป่าร้องอยู่ไกล เหนือเนินเขา อากาศหนาวเย็นจน
ปวดท้องฉี่ รูดซิบ เต๊นท์นะครับ ออกมาข้างนอกมืดมาก

เพื่อความสุขตัวเอง ผมรีบคว้าไฟฉายก้าวเดินไปในความมืดไกล
พอสมควรเพื่อลดน้ำหนัก. ไม่นานนักก็สบาย ทีแรกกะว่าจะ
ไปลดน้ำหนักที่ลำห้วยฝั่งโน้น เจ๊สุห้ามตอนหัวค่ำว่า

เช้า ๆ ให้ผู้หญิงไปฝั่งโน้น ผู้ชายห้ามไปเด็ดขาด

แสงอาทิตย์เริ่มส่อง สาว ๆ ทั้งห้าคนพากัน ถือกระดาษม้วนเดิน
ข้ามลำห้วยไป.
เจ๊สุ เวลานั่งระวังนะ เจ้าช้างตะโกนแซว
ระวังอะไรช้าง งู..เหรอ
ระวังหญ้ามันแทง..........5555 เจ้าช้างตอบ
ทลึ่งนะแก เจ๊สุสวนกลับ.

ทั้งชายและหญิงล้างหน้า แปรงฟันที่ลำห้วย น้ำใส อุ่นสบายไม่เย็น
เช็ดหน้า หญิงก็ผัดหน้าด้วยแป้งนานาชนิด ให้สวยงาม มีคนเดียว
ใช้ น้ำหยดลงที่แป้งพอเปียกก็ ใช้นิ้วสามนิ้วปะแป้ง ปะลงที่แก้มสอง
ข้าง ดูน่าร้กไปอีกแบบ ใครรู้เปล่า ก็แขกคนสวยไง. ดูสวยแต่ติด
พิเรนพิกล เหมือนสาวเมียนม่า หรือ นางเอกละคร เอ้ ใครนะ...นึก
ออกไหมครับ.หมวย ๆ หน่อย.

พวกเรานั่งบนผ้าผืนใหญ่เดิม กองไฟยังลุกเหมือนเดิม แต่เพิ่มอีก
กอง ให้อบอุ่น อาหารเช้าที่ลูกหาบทำมาเสริฟก็มี
ขนมปังปิ้ง ทาเนย กองโต ไข่คนคนละถ้วย
ตับกวาง กับเนื้อกวางสดย่าง ร้อน ชิ้นโตขนาดฝ่ามือเด็ก อย่างละ
ชิ้น ส่วนผักมี หัวปลีต้ม ลอกเปลือกสีเข้มออกเหลือสีออกขาว ผ่าสี่
ชิมแล้ว เค็มนิด มันหน่อย จากนมข้นจืดโรย.แทนกะทิ

เครื่องดื่มมี ชาร้อนใส่นม กาแฟจะกิน ม๊อคคา หรือ เอกเปรสโซ่พี่
พรานก๋อง จัดการชงให้ทุกคน.

แต่ละคนติดใจเนื้อกวางย่าง ร้อน เวลาเฉือน ไอร้อนกรุ่นแทรกขึ้นมา
จาก เนื้อที่สุกด้านนอก ด้านในออกสีชมภู หวานหอม จิ้มกับวูสเตอร์
ซอสก็ ฉิกโฉ่ ขอเพิ่มได้ไม่อั้น.
ส่วนผม พอกินอิ่ม ตบท้ายด้วย ม๊อคค่าร้อน ๆ สุดยอดจริง ๆ

พี่กานต์ ดูพรานก๋องใช้มือซ้ายจับซ่อมจิ้มที่เนื้อกวาง มือขวาใช้มีด
กดเบา ๆ คล้ายเลื่อย ฝานเนื้อกินทีละชิ้น เวลาจับถ้วยกาแฟใช้นิ้ว
หนีบหูถ้วย ยกดื่ม.... หมีว่าพรานคงมีความรู้ ผ่านงานมาเยอะ

เออ. ใช่พี่ก็ว่าอย่างนั้น

พี่พราน ถามจริง ๆ เถอะ พี่เป็นคนในเมืองหรือเปล่า เจ้าบอยร่าง
ยักษ์ถาม.

ผมทำงานในเมืองด้วย ทำสวนที่จันทบุรี พาคนไปเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่เขาใหญ่นี้ บางทีก็พาเที่ยวป่า ที่ อ.ปายครับ.

พี่พูดเมื่อวานว่า ไม่ได้ฆ่ากวาง แล้วพี่เอามาจากไหนคะ แขกคนสวย
ถามด้วยความอยากรู้.

พอดี....พรานก๋องหยุด แล้วมองหน้าพวกเรา ก็ผมเปิดบริษัทแล้ว
สั่งเนื้อกวาง รูซ่า จากออสเตรเลียมาขาย ส่วนใหญ่จะขายให้ภัตรา
คารในกรุงเทพ ร้านอาหารที่ อ.แกลงระยองก็ส่ง คนมาทานอาหาร
ที่ระยองก็คิดว่า เป็นเนื้อกวางที่ป่า เขาชะเมา ไม่ใช่หรอกครับ.

ออสเตรเลียเขามีฟาร์มเลี้ยงกวาง รูซ่า แล้วก็ชำแหละเป็นชิ้นส่วนเช่น
สะโพก เนื้ออก สันนอก สันใน เนื้อขา ตับ ฟริ๊ชจนแข็งใส่ตู้แช่มา.
ผมกับเพื่อนก็ช่วยกันขาย ส่วนใหญ่เพื่อนจะจัดการส่ง เก็บเงินเข้า
บัญชี พอว่างผมก็พาพวกคุณเที่ยวป่า.

งั้นพี่พรานพูดภาษาได้ซิคะ สาวหมีถาม.
ครับได้นิดหน่อย ผมสั่งทางอีเมล ส่งเงินผ่านธนาคาร เช่นส่งเงินไป
สามแสนกว่าบาท เสียค่าธรรมเนียม 1250 บาท.

แหม ถ้าหนูไม่ถาม พี่คงไม่บอกว่ามาจากไหน หนูคิดว่าพี่เป็นชาว
บ้านแถวนครนายกที่ไหนได้...หลอกพวกเราเต็มประตู. สาวหมีพูด
พลางค้อน งาม ๆ

พรานก๋องหัวเราะ....ก็ผมบอกใบ้เมื่อคืนตอนร้องเพลง จงรัก คงจำ
เนื้อเพลงได้นะครับ. เอาทานข้าวเสร็จพักกันที่นี่สามชั่วโมง ใคร
จะอาบน้ำก็เชิญ.

ตกลงไม่มีใครยอมอาบ แต่นั่งร้องเพลงกันต่อ เจ้าช้างดูจะอิ่มมาก
นั่งตาปรือ บอยเลยเล่นกีต้าร์แทน พอหมอกจาง แสงอาทิตย์ส่อง
สว่างทั่วไป อากาศเริ่มอุ่น พวกเราก็เก็บของ เดินลงดอย ไปขึ้นเรือ
หรือ เรียกว่า ลงเรือกันแน่.... นี่แหละภาษาไทย อิ อิ

พอขึ้นฝั่งด้านเขื่อน พรานก๋องก็ขับรถพาไปส่ง ที่ภูไอยรา รีสอร์ท
ที่ ๆ เราพักและสัมนากัน.

ผมก็จัดการจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้พรานก๋อง
ขอบคุณพี่กานต์กับทุกคนครับ พี่พรานก๋องร่างสูงใหญ่พูด
เอ้อ...คุณหมีถ้าอยากเที่ยวป่าที่ไหนโทรหาผมนะ ผมจะพาไป

สาวหมีหน้าแดง... ยิ้มเขิน ๆ
พี่พรานก๋อง ไม่ชวน ช้างบ้างเหรอ แหม เป็นผู้ชายก็ไม่ยอมชวน
ก็ชวนทุกคนแหละครับ พอดียืนใกล้คุณหมี.พรานก๋องพูดตอบ

ตัดฉับ กลับถึงกรุงเทพ บ้านใครบ้านมัน พักผ่อนพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน
ที่ทำงาน ถ้าเบี้ยวไม่ไป นายเขาคงเอาเราออก... เราไม่มีงานทำ
รัฐ ก็ไม่ได้รับภาษีจากพวกเรา จริงแมะ ต้องขยันหน่อย.

ผมเอาเรื่องเพือนซี้มาเล่าให้ฟัง เพราะอยากจะเชิญชวน ไปเที่ยว
แบบดิบ ๆ สุก ๆ นอนกินบนดิน อาบน้ำลำห้วยด้วยกัน.

ลองหาเพื่อนที่ขาเดียวกัน ไปเที่ยวแบบนี้ จะทำให้รักกันมากขึ้น
(รักแบบเพื่อนนะ แต่ถ้าเพื่อนต่างเพศรักเรา ๆ ก็รักตอบ อิ อิ)

ค่าใช้จ่ายปานกลาง พอสมน้ำสมเนื้อ ติดต่อพรานที่เดินป่าบ่อย
จะไม่หลงป่า.

การไปเที่ยวแบบนี้ อย่างน้อยรัฐก็ได้ภาษีน้ำมันซับซ้อนสามอย่าง
จากการเติมน้ำมันของเรา พรานกับลูกหาบมีงานทำ ลูกเมียของ
พราน ลูกหาบได้เงินมาก็เอาไปซื้อที่ร้าน บางทีก็เทสโก้ รัฐได้
ภาษีอีก 7 % กทม.ได้อีก 10 % ของ vat.

แต่เชื่อเถอะครับ ร้านอาหาร รีสอร์ท ที่ทำให้เหมือนธรรมชาติย่อม
จะมีคนไปใช้บริการ เหมือนเดิม และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ

รัฐก็คงชอบ เพราะคนจับจ่าย จากการท่องเที่ยว ทำให้การเงิน
ของประเทศ โฟลว (ขอพูดปะกิดนิด) ดีทุกคนแหละครับ.

ไปละ จะมาเล่าเรื่องที่เที่ยว สวย สนุกกับเรื่องของเพื่อนให้ฟัง
อีก.....ถ้าให้โอกาสผม

ขออ้อนหน่อย.......

167/48/20/9/2553





 

Create Date : 20 กันยายน 2553
49 comments
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 19:51:06 น.
Counter : 2297 Pageviews.

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ.....

มีความสุขกับวันไหว้พระจันทร์นะค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปทักทายค่ะ

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 22 กันยายน 2553 5:06:57 น.  

 

สวัสดีครับ

บ้านผมแท้ๆแต่ไม่เคยขึ้นทางหลังเขื่อนซักที เคยเดินไปทางวังตะไคร้หลายปีมาแล้ว

 

โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน 22 กันยายน 2553 11:18:59 น.  

 

ตั้งใจไว้ว่าชีวิตนี้ ควรมีซักครั้งที่ได้ผจญภัย
ไว้ถ้าได้ไป คงได้มาเล่าบ้างค่ะ

 

โดย: t ! k z i l l a (jornoi ) 23 กันยายน 2553 9:35:19 น.  

 

น่าสนุกนะคะ เคยไปแบบนี้ แต่นานมาแล้ว
ตอนนี้บรรดาเพื่อนสนิทมีสามีกันไปเกือบหมด
เหลือไม่กี่คนเอง ถ้าไปอยากไปกับเพื่อนคนเดิม ๆ สนุกดีค่ะ

 

โดย: magic-women 23 กันยายน 2553 20:48:14 น.  

 

สวัสดีวันศุกร์วันสุขครับ

 

โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน 24 กันยายน 2553 10:43:16 น.  

 

เข้าป่าหน้าหนาวปลอดภัยที่สุดครับ เพราะแมลงจะน้อย สัตว์ร้ายต่างๆจะเชื่องช้าลง

นึกถึงบรรยากาสนั่งรอบกองไฟนะ มองหน้าสาวไหนๆก็พาลดูสวยไปหมดจริงๆ

ไครๆเค้าบอกว่าไปสเม้ดเสร็จทุกราย แต่ผมว่าเดินป่านี่แหละแน่กว่า

ได้ขึ้นเขา ลงน้ำ จับมือถือแขนกัน เห็นน้ำใจยามเหนื่อย แถมมีบรรยากาสที่สาวๆส่วนใหญ่จะต้องหาที่พึ่งซะด้วยสิ


 

โดย: Tangible 24 กันยายน 2553 20:25:58 น.  

 

คิดเรื่องภาษีเสร็จสรรพเลย..

 

โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ 25 กันยายน 2553 5:57:44 น.  

 

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 25 กันยายน 2553 17:19:26 น.  

 

 

โดย: Q-hikaru 25 กันยายน 2553 23:38:38 น.  

 

วันอาทิตย์ก็พักผ่อนให้เต็มที่น่ะครับ
อย่าได้มีเรื่องกลุ้มใจมารบกวน

 

โดย: Don't try this at home. 26 กันยายน 2553 0:33:24 น.  

 

สวัสดีครับ
สวัสดียามดึกๆ

 

โดย: panwat 26 กันยายน 2553 1:10:09 น.  

 

คนแดนไกลแวะมาเยี่ยมค่ะ

ขอบคุณทีแนะนำเพลงรักในซีเมเจอร์นะคะ ตอนนั้นยังอยู่ไทยเคยได้ฟังค่ะ เพราะเชียว

 

โดย: วิสกี้โซดา 26 กันยายน 2553 2:13:02 น.  

 

อ้าว....มานครนายกเหรอคะ
ไม่เห็นรู้เรื่องเลย อิอิ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมกันค่ะ แล้วรออ่านตอนต่อไปนะคะ ใกล้ล่ะ

 

โดย: kapeak 26 กันยายน 2553 8:17:52 น.  

 

ว๊าว...อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างจัง....

...ยังไม่โอกาสเลย...

..น่าสนุกนะคะ...


 

โดย: Calla Lily 26 กันยายน 2553 8:30:08 น.  

 

สวัสดีค่ะ

อิจฉาจัง คนที่ได้ไปท่องเที่ยวเนี่ย

คนไม่มีโอกาส ขอมาเกาะ ขอบประตู ดูละกันนะคะ


 

โดย: สุนันยา 26 กันยายน 2553 11:41:10 น.  

 




เมื่อวานไปไหว้พระที่วัดเกตุไชโย วันนี้เลยแวะเอาบุญมาฝากจ๊ะ อิอิ

 

โดย: แอ๊ปเปิ้ลโบราณ 26 กันยายน 2553 13:15:55 น.  

 

กระดื้บๆ....เข้ามาอ่าน....อยากไปเที่ยวบ้างจัง



 

โดย: กาปอมซ่า 26 กันยายน 2553 14:04:54 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณไวน์...

ไปเที่ยวแบบนี้น่าสนุกจังเลยค่ะ ภูผาไม่ได้เที่ยวแบบนี้นานแล้ว สงสัยต้องลองชวนเพื่อนๆมั่งแล้ว

ภูผาก็ชอบมีเพื่อนเยอะๆเหมือนกัน
ว่างๆแวะมาทักทายกันอีกเน้อ

 

โดย: ภูผา กะ วาริน 26 กันยายน 2553 17:23:42 น.  

 

สวัสดีคะ ขอบพระคุณที่แวะไปเที่ยวที่บ้าน กับกระทู้น้ำยาปลาทูน่าไงคะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ บ่งบ๊งไม่ค่อยได้ไปห้องอื่น ๆ เลย
ไว้จะมาเที่ยวอีกนะคะ

 

โดย: บ่งบ๊ง 26 กันยายน 2553 18:16:14 น.  

 

สวัสดีตอนพลบค่ำค่ะคุณไวน์กับสายน้ำ ไม่ได้เข้ามานานหลายวันด้วยภาระหลายอย่าง พักบล๊อกไป
ตั้งใจจะเปิดบล๊อกใหม่ด้วยความสดใส พอดีเกิดเรื่องให้เศร้าใจอีกจนได้ เลยเปิดบล๊อกแบบไม่ได้ตั้งใจค่ะ
ถ้าผ่านพ้นไปแล้วรับรองว่าความสดใสจะมาทักทายเพื่อนๆแน่นอนค่ะ บทกลอนที่เขียน เขียนขึ้นจากใจ
เขียนขึ้นเพราะเป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ ไม่ได้เขียนให้ใคร เขียนให้ตัวเอง เขียนจากความรู้สึกของตัวเองเลยค่ะ
เขียนเองอ่านเองยังรู้สึกกระแทกใจตัวเองได้ดีจังเลย 555+
ขอบคุณนะค่ะ ที่พยายามปลอบใจ พยายามลืมๆอยู่ค่ะ


 

โดย: ดาวริมทะเล 26 กันยายน 2553 19:00:33 น.  

 

ตกใจอ่ะ คอมเม้นท์แล้ว ไหงขึ้น ว่าเจ้าของบล๊อกต้องพิจารณาก่อน่อะ ยังไม่แสดง สงสัยเขียนยาวไปมั่งเรา 5555+

 

โดย: ดาวริมทะเล 26 กันยายน 2553 19:48:39 น.  

 

หวัดดีค่ะ ไม่ได้แอ่วแบบนี้มานานแล้ว
ไว้หาโอกาสไปซักทีท่าจะดี

... ..

อ่านไปก็เพลินไป .. สะดุดตรงระหวังหญ้าแทง .. ฮิ ..555
ทะลึ่ง ติดเชื้อพี่ตฤณ ปลายแป้นพิมพ์แล้วเรา .. เอาน่าวันละนิดจิตแจ่มใส

ฝันดีวันอาทิตย์นะค่ะ

 

โดย: SongPee 26 กันยายน 2553 20:37:48 น.  

 

เข้ามาดูอีกทีก่อนนอน เอ...ที่พิมพ์ยาวๆทำมัยยังไม่ขึ้นอีกหว่า
สงสัยโดนเจ้าของบล๊อกแบนไปเรียบร้อยแล้วอ่ะ อื้อๆๆๆๆ...
นอนไม่หลับแน่เลยเราคืนนี้ ทำงัยดีหล่ะ ส่งคุณไวน์กับสายน้ำ
เข้านอนดีก่านะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ดาวริมทะเล 26 กันยายน 2553 22:45:03 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา (ลงสะพาน...เลี้ยวขวา ) 27 กันยายน 2553 0:03:06 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณไวน์กับสายน้ำ ไม่ได้แวะมาเยี่ยมหลายวัน ขอบคุณที่ไปแวะอ่านการทำสมาธินะคะ การทำสมาธิไม่ยากหรอกนะคะแต่สำคัญอยู่ที่ใจของเราที่เราต้องพยายามทำให้นิ่งให้ได้ พอใจเรานิ่งได้เมื่อไหร่สมาธิก็จะเกิดกับเราค่ะ ถ้าคุณไม่กล้าทำด้วยตัวเองก่อนอยากมีอาจารย์แนะนำก่อน ก็อยากแนะนำคุณให้ลองไปที่วัดใกล้ๆบ้านของคุณดูนะคะ อาจจะมีพระท่านสอนเรื่องการปฏิบัติธรรมและทำสมาธิอยู่ และที่แน่นอนที่สุด ที่กทม. ที่วัดธรรมมงคล 101 สุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. จะมีสถาบันพลังจิตานุภาพ ของพระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์ สรินธโร ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และท่านจะเป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคลค่ะ ท่านจะเปิดสอนหลักสูตรครูสมาธิขึ้นที่วัด ที่นี่คุณสมัครเข้าไปเรียนฟรีทุกอย่างค่ะ จะมีเป็นครอส ถ้าวันธรรมดาก็เรียนทุกวันตอนเย็นประมาณ 18.00 น- 20.00 น ยกเว้น เสาร์-อาทิตย์ ส่วนถ้าลงเรียนเสาร์-อาทิตย์จะเรียนตั้งแค่ 09.00 น.- 15.30 น เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ หรือไม่คุณลอง เสิร์ชหาได้ที่ Gogle พิมพ์คำว่า สถาบันพลังจิตตานุภาพ จะมีรายละเอียดให้คุณทราบว่าที่ กทม. มีเปิดสาขาไหนบ้างที่ใกล้บ้านคุณค่ะ
สำหรับ การทำสมาธิด้วยตนเองนั้น เราก็ทำได้อย่างง่ายๆก่อนนะคะ เริ่มจากคุณลองดูว่า คุณพอมีเวลาว่างสัก 5 นาที - 10 นาทัไหม แล้วคุณก็ลองปฏิบัติดู ที่บ้านหรือที่ทำงานก็ได้ โดยการนั่งขัดสมาธิกับพื้น ขาขวาทับขาซ้าย ตั้งกายตรง หริอถ้านั่งกับพื้นไม่สะดวก คุณสามารถนั่งบนเก้าอี้ได้ โดยนั่งห้อยเท้าตามสบาย ตั้งกายให้ตรงเช่นกัน จากนั้นยกมือพนมระหว่างอกกล่าวคำอธิษฐานสมาธิว่า
" ข้าพเจ้าระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาล ให้ใจของข้าพเจ้า จงรวมลงเป็นสมาธิ พุทโธ ธรรมโม สังโฆ
พุทโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทโธ
พุทโธ พุทโธ"
จากนั้นเอามือลงวางบนตัก มือขวาทับมือซ้าย หลับตาเบาๆ บริกรรม"พุทโธๆๆๆ"(บริกรรม คือการท่องอยู่ในใจ) ในใจจนกว่าจะเลิกตามเวลาที่กำหนด ( 5นาทีหรือ10นาที-30 นาทีก็ได้แล้วแต่เรากำหนดไว้) หลังจากนั้นให้พนมมือสวดบทแผ่เมตตาจิต
"สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชิวิโน
ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกันและกัน จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง ผะลัง มัยหัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุเต
ขอให้สัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญ อันที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนั้นเทอญ
แล้วสวดมนต์ อะระหังสัมมา..จนจบแล้วก็เสร็จสิ้นแล้ว ใน 1 ครั้ง คุณจะใช้เวลาตอนไหนก็ได้นะคะที่คุณสะดวก เวลาทำถ้าเราไม่มีเวลา ก็แค่ 5 นาที 10 นาที หรือครึ้งชั่วโมงก็ได้
และตรงนี้สำคัญ เวลาที่คุณบริกรรมนั้น คือการท่องพุทโธ ๆๆอยู่ในใจนั้น ขอให้คุณเอาสติของคุณไปจดจ่ออยู่ที่ใดที่หนึ่งในร่างกายซึ่งมีจุดกำหนดอยู่ 5 จุดดังนี้
1 บรเวณหน้าผาก ให้ท่องพุทโธแล้วให้เอาสติเราจับหรือคิดถึงที่จุดบริเวณหน้าผากแห่งเดียวตลอด
2.บริเวณปลายจมูก ให้ท่องพุทโธแล้วให้เอาสติเราจับหรือคิดถึงที่จุดบริเวณหน้าปลายจมูกแห่งเดียวตลอด
3. บริเวณใบหน้า อาจจะเป็นแก้ม หรือส่วนใดบนใบหน้า
ก็ทำเช่นเดียวกัน
4. บริเวณทรวงอกเบื้องซ้าย ก็ทำเช่นเดียวกัน
5. บริเวณท้องน้อยหรือรอบสะดือ ก็ทำเช่นเดียวกัน

การกำหนดนี้ ถ้าเราเอาฐานของจิตไว้ที่ใดเวลาทำสมาธิทุกครั้งเราก็เพ่งไปที่ฐานของจิตจุดนั้นทุกครั้ง
บางคนจะรู้สึกว่า เพ่งไปแล้วรู้สึกปวดหนึบๆไม่สบาย ก็สามารถเปลี่ยนได้ไปจุดอื่นได้ภายใน 5 จุดนี้ เช่นคุณตั้งไว้ที่อกเบื้องซ้ายและเวลาที่คุณทำสมาธิคุณเพ่งไปที่อกเบื้องซ้ายและบริกรรมพุทโธๆๆคุณจะรู้สึกปวดหนึบๆหรือรู้สึกอึดอัดคุณสามารถเปลี่ยนไปไว้ที่หน้าผากได้เป็นต้น แต่ไม่ควรเปลี่ยนไปมาบ่อยจะทำให้สมาธิไม่นิ่งควรเปลี่ยนเพียง 3 ครั้งเท่านั้น

เมื่อคุณกำหนดจิตได้แล้ว เวลาคุณนั่งขอให้คุณพยายามทำใจของคุณนึกแต่เพียงคำบริกรรมพุทโธเพียงอย่างเดียว ตั้งสติให้มั่น เมื่อใดที่เรานึกพุทธไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่าใจของเราเริ่มคิดไปโน่นนี่แล้วให้ดึงใจกลับมาเพ่ง
พุทโธใหม่ ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลาที่เรากำหนดไว้ เช่น 5 นาที 10 นาที หรือ ครึ่งชั่วโมง ไม่ควรนั่งนานกว่านี้
เมื่อคุณสามารถทำใจของคุณให้นิ่งแล้วสมาธิก็จะเกิดแก่คุณ คุณจะรู้สึกและสัมผัสได้เองถึงความรู้สึกที่ได้รับ
การทำสมาธิทำง่ายแต่การทำให้ใจสงบนั้นทำยากมากเพราะใจของเราจะไม่อยู่นิ่งพอคุณเผลอใจก็จะคิดไปถึงเรื่องต่างๆคุณต้องพยายามวางใจให้เพ่งบริกรรมพุทโธให้ได้เพียงอย่างเดียว ค่อยๆทำไปวันละ 5 นาที 10นาที หรือครึ่งชั่วโมงก็ได้แต่ขอให้ตั้งใจทำทุกวัน คุณก็จะเกิดความชำนาญ และสมาธิจะเกิดแก่คุณ นี่เป็นเพียงเบื้องต้นของการทำสมาธิเท่านั้น หลังจากที่คุณทำสมาธิได้แล้วก็อยากให้คุณลองศึกษาต่อไปนะคะ ส่วนเรื่องที่ว่ากลัวว่าจิตหลุดแล้วกู่ไม่กลับนั้นเรายังไม่ถึงขั้นฌานและญาณ ยังไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดสิ่งนี้นั้นกับเรานะคะ แต่ง่ายๆทำคนเดียวก่อนได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ครบก็ต้องเดินจงกลมด้วย เอาไว้คราวหน้าจะมาแนะวิธีเดินจงกลมให้นะคะ ถ้าคุณลองทำดูเมื่อไหร่ที่จิตคุณนิ่งแล้วคุณจะรูสึกหายเครียดเหมือนได้พักผ่อนนานๆที่เดียว และอานิสงฆ์ของการทำสมาธิมีเยอะมากนะคะ แล้วจะค่อยๆแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะมึนเสียก่อนและที่ฉันแนะนำคุณได้เพราะฉันเป็นศิษย์มีครูนะคะ ครูคนแรกของฉัน คือ หลวงพ่อจรัลธิติธัมโมวัดสิงห์บุรีค่ะ ครูท่านที่ 2 พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์วัดธรรมมงคลนี่แหละค่ะ ฉันได้ไปเรียนหลักสูตรครูสมาธิของท่านจบในรุ่นที่ 26 นี้แต่ยังไม่บริบูรณ์ค่ะต้องรอเดินธุดงค์ที่ดอยอินทนนท์จ.เชียงใหม่ในต้นเดือนธันวาคมนี้ก่อนถึงจะจบหลักสูตรค่ะ อยากให้คุณไปเรียนนะคะจะเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรามากค่ะ บางคนไปเรียนทั้งครอบครัวเลยค่ะ ไม่ใช่จะมีแต่คนแก่นะคะ รุ่นเราหนุ่มๆสาวๆไปเรียนเยอะค่ะ ส่วนหลวงพ่อท่านไปสอนที่ประเทศแคนาดาค่ะท่านจะเปิดสอนไปทั่วประเทศมีหลายสาขาค่ะที่ในกรุงเทพฯน่าจะมีหลายสาขานะคะ ส่วนฉันเรียนสาขาที่ 22 วัดเชตวันจังหวัดลำปางค่ะ พอแค่นี้ก่อนนะคะดึกแล้ว ขออนุโมทนาสาธุกับคุณด้วยนะคะ ขอให้ทำได้ดั่งที่ตั้งใจไว้ค่ะ

 

โดย: กิ่งฟ้า 27 กันยายน 2553 1:01:24 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ..

เที่ยวแบบนี้น่าสนุกและตื่นเ้ต้น.. นะคะ..

 

โดย: poongie 27 กันยายน 2553 7:18:35 น.  

 

สวัสดีครับ.............ทุกคนที่เข้ามาอ่าน
มาเม้นท์กันบ้าง จะได้แลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นครับ....

คุณนุ่ม ณ อ่อนนุช......แหมชื่อสกุล เป็นซอยเดียวกับที่
ผมอยู่ แต่ซอยนี้ยาวมากเนาะ.

คุณดอกหญ้า อยู่นครนายก มีที่เที่ยวเยอะถ้าเที่ยวซอก
แซกแบบพวกผมสนุกครับ. แต่อย่างว่า ผมอยู่ ชม.
เพื่อนไปให้พาเที่ยว โอ้ย ไม่รู้จะพาไปไหน ก็ ซ้ำที่เดิม
อิ อิ.

คุณ jornoi แหมชื่อน่ารักจัง ลองไปเที่ยวป่าแบบดิบ ๆ
ต่างกับ ไปน้ำตกที่คนรู้จัก. ดูแล้วคล้ายโฮมสเตย์คือ
เข้ามีส่วนทำอาหาร ทำนา ฯ

คุณ magic เพื่อน ๆ เข้ามาอ่านบอกว่า เที่ยวอย่างที่
เอ็งจัด อยากร้องเพลงให้สาว ๆ ทนฟังใช่เป่า...แหม
รู้ดีเนาะ. แต่เพื่อนคุณ magic มีฝาละมีไปบ้างแล้ว
ยินดีด้วยครับ อิ อิ

คุณ tanggible จริง ๆ นา. ร้องเพลงรอบกองไฟเล็ก
ๆ โรแมนติก ดูแล้วใบหน้าเปื้อนยิ้ม น่ารัก...ไปหมด
ผู้ชายทั้งหลายที่นั่งด้วย แหมทำตาเยิ้ม ผมว่าไม่น่าดู
เนาะ.

คุณไกลเกิน....ครับ. ความจริงเรื่องนี้เขียนเพือเข้า
ประกวด ททท. เลยให้มีสาระเรื่องภาษีนิด แต่ความ
ที่ไม่ชำนาญ เวลาคลิกส่งไป ไม่รู้โผล่ที่ไหนครับ
ยังมึนอยู่ ทำใจแล้วครับ ให้เพื่อนมาอ่านก็พอใจแล้ว

น้องอ้อมแอ้ม ทำบุญโดยถัก รัดประคด ดีแล้วครับ
เวลาถวายภิกษุ อธิฐานว่า ขอให้ เอวน้องอ้อม ลดลง
อีก จะได้สวยเพิ่มขึ้น 5555

คุณ Q hiraku แหมเข้ามา ก็ราตรีสวัสดิ์ ยังครับพวก
เราชาว bloggang นอนดึก ตื่นเช้า เข้า เน็ท. อิ อิ

คุณ Don,t ขออภัยนาน ๆ พิมพ์ปะกิด หาตัวอโพสโตฟี่
ไม่เจอ สะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้ พักผ่อนวันอาทิตย์
แล้ว เข้าทำงานวันจันทร์ที่ แสนสนุกกับงานนะครับ.

คุณพันวัตต์ สวัสดียามเช้าเช่นกันครับ แต่ช้าไปเกือบ
7 วัน 5555

คุณวิสกี้.... มาไกล ดีใจจัง ผมว่า จะชวนมาดื่มไวน์
ปนกับวิสกี้.....แต่กลัวฟังเพลงไม่รู้เรื่อง อย่าดีกว่า
ทานน้ำเปล่าเย็นสอาดก็พอนะครับ.

คุณ kapeak เคยอยู่นครนายกเหรอครับ วันนี้มีคน
นายก สองคนแล้วที่โชว์ตัว ผมเป๋นคนเหนือ กท.ครับ
5555

คุณ Cala lily ชื่อแปลไทยว่าอะไรครับ รบกวนถาม
นิด ใช่ว่าน มหาหงส์สีขาว. อีกอย่างลองไปเที่ยว
แบบป่า เหมือนที่เคยไปภูกระดึง เดิน ๆ ลูกเดียว
ไปลองก่อไฟ ทำอาหารกินง่าย ๆ อร่อยครับ.

คุณสุนันยา...ครับอย่าเกาะขอบประตูเลย เข้ามาร่วม
วงร้องเพลงในป่า นอนในเต๊นท์ ดื่มกาแฟเข้มข้นสนุก
ดีครับ.

คุณแอ๊ปเปิ้ล..... อนุโมทนาด้วยที่ เอาบุญมาฝาก
แหม ไม่กล้าแซว......

คุณกาปอมซ่า......นึกถึงไปอยู่ อุบล ไปหากะปอม
กับชาวบ้านที่บ้าน โนนโหนน ตำบลศรีษะกระบือ
(ชื่อราชการ) ของจริง เขียนไม่ได้ครับ อิ อิ ขอ
อภัยที่แซวครับ....

คุณภูผา...ไม่เที่ยวแบบนี้มานาน ลองไปกับเพื่อน
ที่ซี้กัน สนุกครับ.

คุณบงบ๊ง ดีใจครับที่เข้ามาเยี่ยม ยังอยากกินฝีมือ
ทำอาหาร โอโห้เยอะแยะไปหมด เวลาเข้าไปดู ถ้า
ผมอ้วน ต้องโทษคุณบงบ๊งนะ...

คุณดาวริมทะเล แหมเขียนกระแทกจิตใจตนเอง
อย่าเขียนบ่อยนะครับ ผมพลอยเศร้าไปด้วย.

คุณ songpee ผมเปล่าเขียนคำว่า ฮิ ในช่องว่าง
ตรงที่สดุดนา คุณเขียนเองต่างหาก. พี่ตฤณครับ
ผมเลียนแบบนิดเดียวครับ เพราะ 555 มันก็อยู่ใน
ส่วนลึกของ ผช.ขี้เล่นอยู่แล้วครับ.

คุณลงสพานเลี้ยวขวา เขียนสั้นจัง เมื่อไม่นานมานี้
เลี้ยวขวา เจอ จราจร สวัสดีครับ ขอใบอนุญาต
โอ้ ไม่น่าเลี้ยวเลยตู แต่เลี้ยวมาลงสพานไม่เป็น
ไรเนาะ.

คุณ poongie ขอน้อมรับคำแนะนำ คิดว่าจะลองทำ
สมาธิดู. ผมเคยไปวัดธรรมมงคล ทีแรกเห็นรอง
เท้าวางเรียงอย่างมีระเบียบตรงทางเข้า เห็นชาย
หญิงใส่ชุดขาวเดินเรียบร้อย บอกตรง ๆ ครับผมคน
ไกลวัด ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าใด. ไม่ค่อยกล้าถาม
อะไรเท่าใด.

แต่หนังสือของนักเขียนอะไรน้า วันนี้ลืมจริง ๆ ที่เป็น
ผศ. เขียน ผมฝากเพื่อนซื้อมาจากวัดอัมพวัน เชื่อ
หรือเปล่าครับ ทั้ง ห้าเล่ม ผมอ่าน สามรอบแล้วไม่
เบื่อเลย. เดี่ยวนี้ ไม่กล้าซื้อหอยแคลง มากินแม้
กระทั่งปู เขาซื้อมาฝากมัดขาไว้ ก็ไม่กล้าทำ แต่
ปล่อยให้ซี้เอง เพื่อนใน pantip บอกว่าบาปกว่า
ยังสะกิดใจอยู่เลยครับ.








 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 27 กันยายน 2553 10:24:52 น.  

 

ว้นนี้ตาลาย เห็นชื่อคุณกิ่งฟ้า เป็นคุณ poongie
ทั้งที่ติดตามงานคุณกิ่งฟ้ามาตลอด ขออภัยอย่างแรง
ต่อคุณกิ่งฟ้าครับ.

สำหรับคุณ poongie ขอบคุณจั๊ดนัก เน่อ(ขอบคุณ
มาก ๆ) ที่เข้ามาเยี่ยมแต่เช้า. พอดีเห็นคุณกิ่งฟ้าเรียน
ปฏิบัติที่จังหวัดลำปาง เลยนึกถึงภาษาเหนือขึ้นมาใน
ฐานะ คนภาคเหนือ กท.ครับ.

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 27 กันยายน 2553 10:38:09 น.  

 

สวัสดีตอนสายๆครับ

 

โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน 27 กันยายน 2553 10:49:44 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณไวน์กับสายน้ำ
ส่งข้อความไปหลังไมค์ค่ะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 27 กันยายน 2553 12:14:16 น.  

 

ผมยังไม่เคยเที่ยวลุยๆแบบนี้เลยครับ
อายุ40 ยังพอไหวเปล่าครับ555

 

โดย: ouanoy 27 กันยายน 2553 15:48:55 น.  

 

คุณดอกหญ้าครับ....พอดีโดดงานได้ เลยรีบมาอ่าน
และตอบ.

คุณดาวริมทะเล ผมตอบหลังไมค์แล้วครับ(เข้ามาเล่น
ใหม่ ๆ ผมหาไมโครโฟนไม่เจอ งงตั้งนาน ตอนนี้ยัง
งงอยู่ 5555)

คุณ ouanoy แหมอายุ 40 ไปเที่ยวป่าไหวแน่นอน
พี่กานต์ตัวละครในเรื่อง อายุเกิน 40 ยังไปไหว แก
เป็นคนพูดไม่ค่อยเป็น นั่งน้ำลายบูดบ่อย ชอบเขียน
บันทึก ผมแอบเอามาอ่าน แล้วปรับถ้อยคำนิด ปน
ทะเล้นหน่อย ตัวพี่กานต์ก็ไม่ว่าอะไร ยิ้มลูกเดียว.

ไปเที่ยวป่าหน้าหนาว ดีที่สุด ทนหนาวเอาหน่อยมี
หมอกปกคลุม ไอน้ำจากลำห้วยลอยขึ้นมาผสมงาม
อย่าบอกใคร. บอกเพื่อนดีกว่าเนาะ.

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 27 กันยายน 2553 17:06:06 น.  

 

เที่ยวเป็นขบวนเยอะ อย่างนี้น่าจะสนุกดีนะ

แล้วมาเล่าให้ฟังอีกนะชอบ

 

โดย: ฝนโปรย 27 กันยายน 2553 17:06:52 น.  

 

มาบอกว่าตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ว 555+
จะลาไปนอนก่อนนะค่ะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 27 กันยายน 2553 22:56:05 น.  

 

สวัสดีคะ

แวะมาทักทาย และขอบคุณที่ไปทักทายกันคะ

 

โดย: Violeta Lady 28 กันยายน 2553 12:51:16 น.  

 

สวัสดีครับคุณน้องเหล้าหอม

ผมเก็บเกี่ยวทุกตัวอักษรที่คุณน้องถักร้อยเป็นเรื่องราว แบบว่าได้ยินเสียงนกร้อง ได้ยินเสียงน้ำไหล ได้ยินเสียงสาวๆในกลุ่มคนใดคนหนึ่งตด เนื่องจากกินหัวมันหมกเข้าไปทั้งหัวใหญ่ๆโดยไม่แบ่งใครเลย จินตนาการเห็นที่มุมปากติดขี้เถ้าดำๆด้วย ได้เห็นลึกไปกระทั่งสาวๆถือกระดาษไปหาขอนไม้แล้วนั่งครี่ อิ อิ (บนผืนหญ้านุ่มๆมีก็ไม่ยอมนั่ง) คงกลัวหญ้าแทง ฮิ ฮิ ฮิ นาเซ้ ใช่มั้ย?

เห็นไหมละครับ แค่น้ำจิ้มไม่กี่บรรทัดเนี่ย พอจะเรียกว่าทะลึ่งตัวพ่อได้ยัง

แต่ผมชอบมากเลยนะกับบรรยากาศท่องเที่ยวแบบนี้ ถ้าผมได้สัมผัสด้วยตัวเอง คงแต่งเรื่องได้หนุกหนานมาก ทว่าน่าจะมีรูปประกอบบ้างนะ

ผมเองใช่จะเก่งอะไร ทำบล็อกแรกๆ ก็ไม่ค่อยได้ความ เพิ่งมา "ใช้ได้" ก็ไม่กี่บล็อกมานี่แหละ

เนื้อความตอนหนึ่งเอ่ยถึงต้นบุกด้วย ผมเองก็เพิ่งกินต้มส้มบุกไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง และเขียนถึงบุกไว้นิดหน่อยในเรื่อง "เที่ยวไปในสวนยาง มีหลายอย่างที่ผมพึงใจ" ว่างก็เปิดดูได้นะครับ

เอ๊ะ! ใครกันหนอแนะนำให้อ่านบล็อกผม ทำไมถึงได้ตาแหลมอย่างนี้นะ ใช่คุณสองทีหรือเปล่า บอกผมหน่อยดิ

เขียนบล็อกใหม่ อย่าลืมไปเคาะประตูบ้านผมด้วยนาครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 28 กันยายน 2553 13:14:33 น.  

 

แวะมาทักทาย พร้อมกะอ่านเรื่องราว การท่องเที่ยว อ่านแล้วสนุกตามไปเลยค่ะ

 

โดย: NucH (sa-bye-sa-bye TEAM ) 28 กันยายน 2553 16:00:44 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปชมภาพที่บลอกค่ะ
ถ่ายภาพตอนแสงใกล้หมดค่ะ

เขียนบันทึกได้ละเอียดดีจังค่ะ

 

โดย: อิ่ม_Aim 28 กันยายน 2553 16:34:54 น.  

 

ชื่อตูนหรือครับ

ผมชอบนะ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติได้ดี ผมคลิ๊กเข้าไปอ่านเรื่องเก่าเท่าที่พอมีเวลา ผมเคยปลูกถั่วลิสง เคยถอน ทำสารพัดก่อนจะเอามาต้ม หรือเอามาตากแดดเป็นถั่วลิสงแห้ง เคยเลี้ยงหมู เคยฝานหยวกสับหยวกให้หมูกิน เพราะผมเป็นเด็กบ้านนอกร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมอยากไปเที่ยวเชียงใหม่เพราะไม่เคยไปเลย แต่อ่านพบว่าคุณน้องที่เป็นคนทางโน้นก็งงๆอยู่เหมือนกันว่าเชียงใหม่นะเขาเที่ยวตรงไหนกัน เหมือนผมที่อยู่ภูเก็ต เวลาเพื่อนต่างจังหวัดมา ก็งงๆ เหมือนกันละว่าจะพาไปเที่ยวที่ไหนดี ไม่เห็นมีที่ไหนน่าเที่ยวเลย ยกเว้นนั่งเรือไปตามเกาะแก่งต่างๆ นั่นละ..ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกับเขา จึงไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ถ้าในเมือง รอบเมือง ก็งั้นๆนะ

มีเวลาผมจะไปเก็บตกบล็อกที่เหลือครับ ชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติ ยิ่งบรรยากาศบ้านนอกนะของโปรดเลยละ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 28 กันยายน 2553 20:45:09 น.  

 


สวัสดีค่ะ..

ขอขอบคุณที่แวะเวียนไปหาอ้อมแอ้มนะค่ะ

ใกล้ถึงวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราชแล้วค่ะ

วันที่ 3 ตุลาคม ช่วงนี้เลยได้ถวายงานรับใช้พระองค์ท่าน

จะมีงานอะไรนั้น อ้อมแอ้มจะมาบอกเล่าให้ฟังวันหลังนะค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 28 กันยายน 2553 22:45:47 น.  

 

เข้ามาอ่านอีก ชอบ ชอบ... ทีหลังเอารูปมาประกอบให้น้ำลายไหล เหมือนอาหารที่นุชเอามาลงบ้างนะค่
ขอ Add เป็นเพื่อนกันเลยละกันนน

 

โดย: NucH (sa-bye-sa-bye TEAM ) 29 กันยายน 2553 10:51:27 น.  

 

 

โดย: kapeak 29 กันยายน 2553 14:24:11 น.  

 

สวัสดีครับ.........................................

คุณฝนโปรย.....ผมชอบชื่อนี้จัง บางครั้งวิ่งจ๊อกกิ้งให้เหงือ
ออกเยอะ....พอฝนตก จะชอบมาก วิ่งต่อเย็นสบาย พอ
เข้ามาเยี่ยมผม บอกตรง ๆ ครับ ทำให้สบายใจ/กายมาก

คุณดาว ฯ.... ตอนนี้คิดออกยัง... หลับให้สบาย พรุ่งนี้
ค่อยว่ากันใหม่ เนาะ.

คุณ Violeta.....ขอบคุณที่มาแวะเยี่ยมครับ.

คุณตฤณ.....ไม่กล้าว่าทะเล้นหรือทะลึ่ง(อ้าว) พิมพ์ไป
แล้ว เป็นผู้มี ทาเล็นช์ "ตัวพ่อ" เลย เพราะสมองลื่น
ไหล อีคิวสูงปริ๊ด มีจินตนาการไกล ทำให้มีคนติดตาม
ผลงานเยอะจริง ๆ ถึงว่า คุณสองทีเอ้ย สองพีแนะนำ
ให้ผมมาอ่าน ต้องขอบคุณเพื่อจะได้ซึมซับบ้าง อิ อิ

คุณนุช....555 ขอบคุณที่อ่านแล้ว สนุก....นาน ๆ จะ
มีคนชม ส่วนเพื่อนผมชอบว่า 5555 ตัวจริงแก เอา
แต่นั่งฟังคนอื่นพูด พูดเสียมั่งเด๊ะ.

คณอิ่ม....ภาพที่ถ่ายไป ผมว่าสวย นัวดี(ไม่ใช่ตำส้ม
ตำนัวนะครับนั่นมันเผ็ด). ดูแล้วเหมือนบรรยากาศที่
อังกฤษ เวลาถ่ายออกมา นางเอกจะสวย แสงสวย
แตกต่างกับหนังไทย ทีหน้านางเอกชัดเปรี๊ยะเห็นขน
ตาเป็นแผง ยังกะถ่ายกลางแจ้ง ทั้งที่เป็นหนังแนว
โรแมนติก. ผมชอบภาพที่คุณนิ่มถ่ายมาครับ.

คุณปลายแป้นพิมพ์ตฤณ... อีกครั้ง ชื่อตูนเป็นชื่อ
เล่น ของหนุ่มบ้านนอกมาก เอาแหพาดบ่าไปหาปลา
หาหอย (หอยจริง ๆนา) เก็บชะอม ไปขายตลาด
วางกองขาย อาย อ๊าย อาย. คนเก็บเงินของตลาด
มาเก็บค่าที่.... กลัวเสียตังค์ พี่เขาไปห้องน้ำยังไม่
มาครับ.... แต่ยังดีนะครับ ตลาดสมัยเด็ก ขายตอน
เช้ามึด จุดตะเกียงขาย.

น้องอ้อมแอ้ม....ไฝ่บุญดีจังครับ ถามจริง 3 คนใน
ภาพ คนไหน อ้อม คนไหน แอ้ม หรือคนผอมน้อย
สงสัยจะทำงานเป็นทีม 5555

คุณนุช เขียนเป็นทีม หรือ ทำอาหารเป็นทีมครับ
วันสองวันมานี้ คงมีคนอึดอัด ว่าผมทำไมไม่ลงรูป
ภาพไปเที่ยว ทำอาหาร หรืออาย.... 5555 อายจริง
ครับ ถ้าเห็นตัวจริงแล้วจะว่า ทำไมหน้าเหี่ยว พุงยืน
ขากาง ที่จริงเรื่องที่เขียน เป็นเรื่องเก่า มีภาพเป็น
วีดีโอ ไม่อาจจะถ่ายทอดได้ เพื่อนสงวนลิขสิทธิไว้
กลัวคนอื่นเห็น ก็..ๆ ๆ. ผมชอบถ่ายเพื่อนยามนั่ง
หลับ น้ำ ยาย ไหล ยืด. กำลังอ้าปากเอาของหย่อน
ใส่ปากงี้ อีกทั้งส่วนใหญ่เป็นภาพวิว. ส่วนผมคน
ถ่ายย่อมจะไม่เห็นหน้าอยู่แล้วครับ อิ อิ กลัวคนที่
เคยอ่าน จะไม่อ่านอีก 5555 ถ้าเห็นหน้าอันสุดหล่อ

คุณกาเปี๊ยก ส่งภาพมาให้กำลังใจ ขอบคุณจ๊าดนัก
ครับ ผมคน เหนีย+ กท. ครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 29 กันยายน 2553 19:16:09 น.  

 

entry นี้เข้ามาดูหลายหนแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาพอเห็นยาวๆ แล้วถอดใจ ปกติผมจะไม่ comment ถ้ายังอ่านไม่จบครับ
แวะตอบเรื่องบาตรที่ถามไว้ก่อน รอให้ผมว่างอีกนิดจะเล่าเรื่องบาตรให้ฟังโดยเฉพาะเลยครับ

 

โดย: oddy.freebird 29 กันยายน 2553 20:45:31 น.  

 

ติดใจคนขากาง พุงยื่น หน้าแห่ว (พอกะผม) ทอดแหก็ได้ งมหอย (ขม) ก็ชำนาญ คลำหอยบ้าน ก็ถนัด เอ่อ..ผมหมายถึงหอยกาบนะครับ เก็บชะอมไปขายก็ยังได้ ส่วนผมถีบจักรยาน ที่แฮนด์ทั้ง 2 ข้าง แขวนสะตอ ถีบไปขายตามบ้าน ยังจำได้ไม่เคยลืม แม้วันเวลาผ่านมากว่า 30 ปีแล้วก็ตาม

ติดใจบล็อกพรรณนี้ เลยต้องเข้ามาอีกเรื่อยๆ สังเกตให้ดีๆนะ บล็อกที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องบ้านๆ ชีวิตบ้านนอก อาหารการกินแบบพื้นบ้าน เพื่อนๆชอบเข้ามาดู ต่อไปบล็อกนี้ปี 54 ดังเปรี้ยงยิ่งกว่าแอนนี่อีกนะคร๊าบ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 29 กันยายน 2553 21:02:09 น.  

 

แวะมาทักทายก่อนนอน...

 

โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ 29 กันยายน 2553 21:41:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณไวน์กับสายน้ำ
แวะมาตอบรับไมตรี ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ยังไง ว่าง ๆ ก็แวะไปทักทายกันได้นะคะ

 

โดย: JinnyTent 30 กันยายน 2553 16:02:23 น.  

 


แวะมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

นานๆ ได้เที่ยวแบบนี้สักหนก็สุขใจแล้วนะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับการมาเยี่ยมเยียนค่ะ

มีความสุขในวันหลังเลิกงานค่ะ

 

โดย: reception hall 30 กันยายน 2553 16:56:31 น.  

 

กำลังเขียนเรื่องบุก แอบมาอ่านอีกที สมัยที่ยังเรียกคุณพี่เป็นคุณน้อง อุ๊ย..เขินจริงๆๆๆๆๆๆ เลยเรา

 

โดย: ปลายพาดพุง IP: 223.207.218.17 19 ตุลาคม 2554 23:54:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.