No. 191 สายน้ำไหลริน @ ป่าแม่วาง
บล๊อกอันดับ 191 ประจำวัน จันทร์ เปลวไฟเผาต้นไม้ ใบหญ้าแห้ง ไอร้อนลอยสู่ท้องฟ้า บางส่วนแผ่สร้านไปทั่วสันเขา ที่เราทั้งปีน เหนี่ยวกิ่งไม้หนีไฟ บรรดานก ใหญ่น้อยบินวนเวียน เรียกหาลูกนกในรัง เราต่างปีนไปบนก้อนหินใหญ่น้อย กระโดดลงสู่ร่องหิน นัยตาคอยมองไปทั้งซ้ายขวา ดูแนวลมที่พัดเปลวไฟจากด้านหลัง เสียงหายใจ หอบเพราะความเหนื่อย นพกระโดดลงจาก ก้อนหินสู่ลำห้วยที่แห้ง แต่พลาดตกใส่พงหญ้าแล้วกลิ้ง ตกสู่ก้นลำห้วย หม้อแกงที่ถือกระเด็นไปอีกทาง เป็นไงบ้างนพ ไม่เป็นไร.อืม เจ็บไหล่..ไปทางไหนดีครู สันดอยซีกซ้ายไฟยังลุกโชน ไอร้อนลอยขึ้นสู่ฟ้า กระแสลมเย็นจากข้างล่างไหลแทนที่ เกิด กระแส ส่งให้ไฟแรงขึ้น เรายืนมองลงไปข้างล่างดอย แอ่งดอยที่ลึกลง มีเปลวไฟลุกขึ้นไม่มากนัก แต่สันดอยด้านขวา ยังคงลุก โชนตามกระแสลมที่ดันอย่างต่อเนื่องครูผมว่าเราปีนสันดอยซีกขวาไปดูทิศทาง เลยสันดอยน่า จะลาดลง เราหนีไปทางนั้นดีกว่านะ ตอนนี้เราอยู่แอ่งดอย ไฟไม่ลามลงน้อย แต่ถ้าลมพัดหวนมา ยุ่งแน่ เราปีนดอยไปสันเขานั่นก่อน แล้วค่อยดูทางลมอีกทีนะ กว่า ช.ม.ที่เราปีนตัดสู่สันเขาซีกขวา เสียงหายใจดังหนักหน่วง เป็นระยะครูเอาน้ำของผมกินดีกว่า ของครูหมดแล้วนี่ ดี...กำลังคอแห้งเป็นผง อ้าวนพ ไม่ได้เก็บหม้อแกงมาเหรอ ตาย..ลืมไปครู คงตกอยู่ในแอ่งดอย ทำไงดี ชั่งมัน ป่านนี้ไหม้ไม่เหลือแล้ว ตอนนี้บ่าย 3 เรามาไกล แต่กัดฟันปีนดอยไปอีกลูก แล้วค่อยปักหลัก ได้เลยครู พวกเราพอไหว ดูต้นไม้เขียวเยอะดีคงมีน้ำ มีน้ำจริงด้วยครู นั่นไง ลำห้วยอยู่ลึกลงไป เหมือนร่องหิน แถวอะไรนะ พี่ไวน์ เออ ใช่เหมือน ออบขาน น้ำแรง อืม..ผมว่าเราพักที่นี่ก่อน นอนเอาแรงสัก ชม.แล้วค่อยว่ากันว่าจะ เดินต่อหรือพักที่นี เอ้าใครอยากจะล้างหน้าข้างแขนก็จัดการ ต่างถอดเสื้อสลัดเขม่าทิ้ง ใช้มือวักล้างหน้า คอ แขน แต่ครูฉัตร มีใบเคร่ง ขรึมกลับเดินขึ้นข้างบน ไม่นานก็เดินกลับมา พร้อมกับน้ำเต็มกระติกผมว่า ที่นี่มีน้ำ เราพักค้างคืนนี่สักคืน นอนเอาแรงกันก่อน แล้วค่อยหาทางกลับลงข้างล่าง เราหลงทางเหรอครู ไม่หลงแต่จำทางไม่ได้ 55 เราหนีไฟปีนเขามาหลายลูก แต่ไม่ต้องห่วงหรอกยังไง เราก็กลับบ้านได้ เอาสำรวจดูว่าเราเหลืออะไรกินบ้าง ของครูเนื้อย่างหาย นพ ทำหม้อใหญ่ตกหาย ชั่งมัน ผมทำถุงนอนหาย ไฟแช็คลืมทิ้งไว้ใกล้กองไฟ โฮ้ย เซ็ง ไม่เป็นไรหรอก โต เรายังมีข้าวเหลือ ปลาทูน่าอยู่ กระป๋อง เรากินข้าวกันก่อนนะครู ดูนี่ เนื้อท้องแขนผมเต้นดุ๊บ ๆ หิวข้าว ใจจะขาดแล้ว เอาซิ หมดแรง เหมือนกัน โตเปิดหม้อสนามใช้ช้อนตักด้ามยาว ตักข้าว ใส่ใบตองให้ทุกคนขอปลาทูน่าได้เปล่าครู เอาไว้วันพรุ่งนี้ดีกว่า เราเหลืออยู่กระป๋องเดียว ยังไม่รู้จะหาของกิน ได้เปล่า กินข้าวเปล่าไปก่อน เราต่างคนใช้นิ้วมือเปิบข้าว กินกันเงียบ ๆ พวกเราต่าง เอนตัวนอนหลับ ไปด้วยความอ่อนเพลีย ตื่นขึ้นมา เหงื่อที่ไหลเปียกเสื้อกางเกงแห้ง ทำให้ตัวเย็นสบายขึ้น คุณไวน์ แผนที่ดาวเทียมที่ให้ผมดูยังอยู่เปล่า อยู่ครับ แต่เปียกเหงือ ยุ่ยไป นี่ครับครู อืม...ผมดูแล้ว ถ้าเราเดินกลับทางเดิม ไม่แน่ใจว่าจะกลับถูกหรือ เปล่า ถ้าเราเดินมุ่งไปทางตะวันตก จะมีถนนสาย 1269 ตัด ผ่านจากเทือกดอยสุเทพ ไป แม่แจ่ม ผมไม่แน่ใจว่าอันไหนจะ ใกล้กว่ากัน ไว้พรุ่งนี้ค่อยปีนยอดดอยดู ทิศก่อน ตอนนี้ งง..ทิศนะ เอาละเคลียพื้นที่ให้เรียบ จะได้พักแรมที่นี่.... ช่วยกันเก็บก้อนหินเล็ก ๆ ทิ้ง โกยใบไม้แห้งเกลี่ยให้ทั่วนอนจะนุ่ม เอาถุงนอนวางเรียง ชิดกันหน่อย ที่มันแคบ นพกับ โต หาฟืนมา กองไว้เยอะ ๆ หน่อย คืนนี้คงต้องใช้ฟืนเยอะ อยู่สองคนนะ ครูกับคุณไวน์ไป หาของกินมาเสริม เมื่อกี้ตอนที่เดิน มาจะต้นอะไรไม่รู้มีลูกสีส้ม อยู่หลายต้นเผื่อจะกินได้ ข้างหน้าเป็นที่ราบเชิงเขา หินเล็กใหญ่ผุดขึ้นบนดินดำปนแดง ต้นไม้ขนาดกลางขึ้น ประปราย กิ่งไม้ใหญ่โน้มต่ำลงมา ต้นไม้เลื้อย ขนาดย่อม ทอดกิ่งพันเกี่ยวพุ่มไม้เล็ก เกาะเกี่ยว ไม้ใหญ่ ใบเขียวเข้มปกคลุม แซมด้วย ลูกไม้สีส้มเป็นพวงคุณไวน์รู้เปล่า ลูกอะไร ไม่รู้ซิครู ลูกเล็กกว่า นมควาย ผิวนิ่มกว่า สีแดงปนส้ม น่าจะเปรี้ยว ทำไมคุณไวน์รู้ละว่ามันเปรี้ยว ลูกสีส้มออกแดง มีรอยนกจิก มดก็ไม่ตอมนะครู ไปหา ผักกิน จะกินหยวกกล้วย ปลีกล้วย หรือผักกูดดี แหะ ๆ กินผักกูดดีกว่า เคี้ยวง่าย กลับถึงแค้มป์ โต กำลัง ราไฟ ดึงฟืนออกจากหม้อสนามที่หุงข้าวไว้ 2 ใบ นพ รับห่อผักกูด ไปจัดการเด็ดเอาเฉพาะอ่อน หน้าผาสูงที่เราตั้งแค้มป์ บังแสงอาทิตย์ทำให้ร่มครึ้ม อากาศเริ่มเย็นลงอย่างช้า ๆ มาพร้อมกับความมืดสลัว นพใช้มือขยุ้มยอดผักกูด แบ่งเป็นสองกอง ใส่หม้อสนามที่แบน น้ำร้อนในหม้อ ลวกผักกูดที่เขียว ร้อนเริ่มนิ่ม ใช้ไม้ไผ่สดผ่าซีกคนไปมา แล้วช้อนวางบนกระทงสี่เหลี่ยม ใบตองกล้วยดิบสีเขียว ไอน้ำร้อนลอยขึ้นผสมกับ ควันไฟจากฟืน ไม่นานผักกูดอีกส่วนที่ลวกเพิ่มถูกช้อนรวมเข้าไป ครูฉัตร เท ปลาทูน่าในน้ำมันพืชกระป๋องสุดท้ายลง โปรยพริกขี้หนูสดที่เหลือตกอยู่กระเป๋าเป้ ผมซอยหอมแดง 4 หัว โยนใส่ ใช้มีดเฉือนน้ำปลาซองที่เหลืออีก 2 ซอง ใช้มือลงไปคลุก ไปมาจนเข้ากัน หยิบใส่ปากนิด ครูรสใช้ได้แต่ขาดเปรี้ยว 555 โต..ฝาน มะหลอดสุกใส่ไปด้วย นั่นละ 3 ลูกก็พอ รสชาดเปรี้ยวพอยัง เอ้านพ หยิบชิมซิ.. มัน ๆ ไงไม่รู้ครู ทำไมนพ แหะ ๆ พี่ไวน์ไม่ได้ล้างมือแล้วยำ สงสัยจะเค็มจัด ทะลึ่ง ล้างตอนอาบน้ำไง เอ้าชิมดู โห พี่ไวน์เคี้ยวผักกูดเขียว หอมปลาทูน่า เปรี้ยวของมะหลอด เผ็ดน่าดู สรุปแล้ว ฝีมือพี่ไวน์ เค็ม อร่อยดี 555 ต่างคนใช้ช้อนยาวสนาม ตักข้าว วางบนใบตองกล้วย ของตนเอง ทีนี้ต่างคนต่างจ้วง ยำผักกูดสีเขียว วางบนข้าวของตัวเอง แล้วหยิบใส่ปาก เคี้ยวกันหนุบหนับ ต่างยกแม่โป้งให้ผม แต่ดูมือ ของนพ กับ เจ้าโต มีเม็ดข้าวเศษผักกูด เลอะเทอะ ชวนแหวะ ไงไม่รู้ซิ แต่ดูมือของครูฉัตร กลับเกลี้ยงสอาด ครูกินไง มือไม่เลอะ คุณสองคนคงจะไม่เคยกินข้าวเจ้าด้วยมือซินะ แหะ ๆ ใช่ครูเคย กินข้าวเหนียว ไม่เลอะมือ ครูทำได้ไง เอานิ้วชี้ นิ้วนางเขี่ยข้าวที่ร้อนเข้าหาตัว ใช้หัวแม่มือดันสวน เป็นก้อนพอคำ แล้วใช้นิ้วนางดันเข้าอีก แล้วยกเข้าปากแค่นี้แหละ ครูไปอยู่กับ แม่คุณไวน์ตอน เข้าเรียนในตัวเชียงใหม่ แม่เขาสอนให้ 555 ครูเป็นเด็กบ้านนอกมาก่อนเหรอ เออ..ใช่ เป็นคนเชียงดาวเว้ย เรานั่งคุยล้อมรอบกองไฟ แสงไฟวับแวม อากาศเย็นสบาย นพ รับเฝ้ายามดูแล กองไฟผลัดแรกคนละ 2 ชม. ต่างคนต่างนอนกันเงียบ ๆ น้ำในลำห้วยไหลกระทบก้อน หิน กิ่งไม้ริมน้ำเกิดเสียงเบา ๆ เสียงแตกของไม้ยามถูกไฟลาม เลียดังเป็นระยะ ลองคลิ๊กข้างล่าง เสียงน้ำจะเป็นแบบที่ผมนอนฟัง VIDEO ใจของผม นึกถึงคำพูดของครูฉัตร เราไม่หลงทาง แต่ยังหา ทางกลับไม่ได้ ปลากระป๋องหมด เนื้อย่างหล่นหาย เหลือข้าว อยู่บ้าง ปลาเนื้ออ่อนรมควันอีกแผง อากาศเย็นลงอีก จนต้องรูดซิบถุงนอน ชิดคอ น้ำให้ลำห้วย ไหลเบา ลง ๆ และทุกสิ่งก็เงียบสงบ ไปกับความมืด..... ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ/เสียง st.65678/ 87836งานเขียนประเภท Literature Blog
Create Date : 03 มิถุนายน 2556
47 comments
Last Update : 5 มกราคม 2562 6:34:11 น.
Counter : 5358 Pageviews.