❤++++++❤ DonDon, Dasa, Asia Book, Kinokuniya, Suki Buffet ❤++++++❤
วันนี้เจ้าของบล็อกมาเป็นภาษาต่างประเทศ กร๊ากกกกก
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตะกละแก๊งค์ก็รวมตัวกันไปหม่ำอีกครั้ง โดยจุดหมายแรกคือ ร้าน DonDon จากกระทู้ห้องจตุจักร
หลังจากนัดหมายที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ เราสี่คน ก็เดินทางไปที่ร้าน DonDon เพื่อหม่ำกัน
สำหรับการหม่ำที่ DonDon อ่านรายละเอียดได้ที่ บ้าน rebel
(กระซิบ อาหารที่อร่อยสำหรับเราในร้านนี้มีสองอย่างคือ เต้าหู้ทอดราดน้ำซุป อร่อยมาก กับ โอโคโนะมายากิ ซึ่งมาค้นพบทีหลังว่า ถ้าราดมายองเนสเพิ่มไปก่อน (อันได้จากการสังเกตจากโต๊ะชาวญี่ปุ่นที่เค้ามานั่งกินง่ะ เหอๆ ) ถึงจะอร่อยเพิ่มขึ้นมากกกกค่ะ)
จากนั้นก็ไปดูร้านหนังสือมือสอง (ซึ่งก่อกิเลสทำให้อยากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเป็นมาก) ที่ร้าน Dasa อ่านได้ที่ บ้านแพนด้ามหาภัย
(กระซิบ เป็นร้านหนังสือที่ทำให้เกิดกิเลสอย่างอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเป็นมากๆ หลังจากที่เกิดกิเลสจากเพื่อนบล็อกหลายๆ คนที่ชอบมารีวิวหนังสือที่ไม่มีแปลเป็นไทยกันหลายเล่ม ก็เลยลอง sample ด้วยการซื้อ Simple Plan มาด้วยราคา 120 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ฤกษ์อ่านเมื่อไหร่ แต่ซื้อมาก่อน )
นอกจากนั้นก็มีสมาชิกอีกสองชีวิตที่ไปกินกันได้แก่ hunjang (ซึ่งเจ้าตัวอยากดูบอลคู่แมนยูต่อมาก แต่ไม่มีเพื่อนเนื่องจากบอดี้การ์ดข้าพเจ้าไม่ได้ไป) และ เซียวเปียกลี้
จากนั้นเราก็นั่งรถไฟฟ้ามายังพารากอน เพื่อไปดูหนังสือที่เอเชียบุ๊ค โดยตอนแรกเล็งๆ ไว้ก่อน แล้วก็ไปดูที่คิโนคุนิยะอีก ปรากฏว่าเล่มที่เพื่อนๆ อยากได้ดันไม่มี เลยต้องกลับมาซื้อที่เอเชียบุ๊คเหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากตอนนี้มีโปรโมชั่น ซื้อครบ 1,500 บาทได้เป็นสมาชิกฟรี หลังจากเดินเลือกหนังสืออยู่พักหนึ่ง แพนด้าฯ ก็ได้หนังสือมา ๔ เล่มและของ rebel อีก ๑ เล่ม ก็ได้ครบวงเงินตามต้องการ เป็นอันว่าขณะนี้แก๊งค์เราก็มีคนเป็นสมาชิกแล้ว ๑ คน เย้ๆๆๆ (ดีใจไปงั้นแหละ จะมีปัญญาได้อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศกับเค้าได้สนุกเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย กร๊ากกกก)
และแล้ว โปรแกรมท้ายสุดสำหรับวันนั้นก็เป็นหน้าที่ข้าพเจ้าในวันนี้ก็ได้แก่การมารีวิวอาหารมื้อสุดท้าย(ของวันนั้น) ได้แก่ บุฟเฟท์สุกี้ ซึ่งไม่ประทับใจมากมาย ได้แก่
1. บริการที่ช้ามากมาย น้ำดื่มสั่งไปตั้งแต่แรก (และไม่ใช่น้ำพิเศษอะไรเลย แค่น้ำเปล่าง่ะ หรือเค้าต้องไปกลั่นกันมาน้อ?) แต่กว่าจะได้เรามานั่งที่โต๊ะแล้ว 20 นาที และต้องเตือนไปรอบที่สองน่ะ เหอๆ ด้วยเพราะไม่มีพนักงานที่ดูแลทางบุฟเฟท์โดยเฉพาะ พนักงานใช้ร่วมกับคนที่สั่งกินปกติ ซึ่งแน่นอนหละที่จะได้รับการดูแลที่ดีกว่า แต่ถ้าไม่มีพนักงานดูแลโดยตรงมันก็ไม่ทั่วถึง แล้วก็ช้าไง เพราะงั้น ถ้าไม่จัดพนักงานดูส่วนนี้เพิ่ม ก็ช่วยอย่าทำเป็นบุฟเฟท์เลยค่ะ เสียชื่อเปล่าๆ
2. อาหารไม่หลากหลายมากพอ รายการอาหารมีแค่ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ผักประมาณ ๕ ชนิด วุ้นเส้น หมี่หยก เห็ดเข็มทอง (ซึ่งนานๆ จะมาที จนต้องขอกับคนเติมโดยตรง ) เห็ดอะไรหว่าอันใหญ่ กับเห็ดหูหนู ไข่ไก่จานละฟอง ลิ้นหมู ตับหมู ปอเปี๊ยะทอด เกี๊ยวปลา เกี๊ยวหมู (มั้งนะ) สาคูราดกะทิ ซึ่งวนประมาณหลายสิบรอบก็ไม่มีคนกิน แล้วก็ผลไม้ได้แก่ แตงโม สับปะรด มะละกอ ลำไย และเงาะ
ที่สำคัญพอเราเช็คบิลแล้ว เค้าเพิ่งค่อยเอาเต้าหู้มาลงง่ะ งือ
3. ที่สำคัญที่สุดให้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น จะบ้าเรอะ บุฟเฟท์ที่ไหนมันจะโหดขนาดนี้ ถ้าเกินเวลา ทุกสิบนาทีคิด 25 บาท ก็เลยเกิดอาการแบบจ้วงกินไม่คิดชีวิตกันทั่วหน้า ซึ่งทำให้ไม่ได้อารมณ์ในการกินเลยพับผ่าเหอะ
แต่ละราคาก็แค่หัวละ 175 บาทเองน่ะ แต่ไปสั่งกินก็จ่ายคนละไม่ต่างจากนี้หรอกมั้ง แต่จะกินได้เต็มปากกว่านี้นะพวกเรา
ก็เลยเป็นอันว่า วันนี้ตะกละแก๊งค์ดวงการกินไม่ดีเท่าคราวที่แล้ว กลางวันก็อร่อยเป็นบางอย่าง แต่เย็นนี่ก็ดันไม่ประทับใจอีก ซึ่งต่างจากคุโรดะคราวที่แล้วมากมาย (เพราะคุโรดะถึงอาหารจะมาช้า แต่ก็อร่อยทุกอย่างเลยจริงๆ)
แต่ไม่เป็นไร อย่างไรสโลแกน จน เครียด บุฟเฟท์ ก็ยังอยู่คู่เราต่อไป เดือนหน้าหน้าที่ใครหาร้านอย่าลืมเน้อ อิอิ
Create Date : 21 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 14:13:25 น. |
|
33 comments
|
Counter : 1798 Pageviews. |
|
|
|
เอ๊ย อาหารญี่ปุ่นแต้ ที่ไม่ใช่ฟูจิ (กินเป็นร้านเดียว ร้านอื่นไปครั้งเดียวแล้วไม่ไปอีกเลย เลี่ยนนนน)
แต่เจงๆ แล้วเราเหมาะกะร้านส้มตำอะ ไปเมื่อชวนด้วยนะคะ ชอบหลาย