อยาดูหนังเรื่องนี้ ขอรอ ดีวีดี แล้วกัน ขอบคุณสำหรับเรื่องย่อและข้อคิด

ยังไม่ได้ไปดูเลยอ่ะครับ

The Bridge of Madison County เป็นหนังในดวงใจเราอีกเรื่องนึงเลยค่ะ

ส่วน Brokeback Mountain ยังไม่ได้ดูค่ะ

ว่าจะ ว่าจะ ..ก็ยังไม่ได้ไปดูซะที

ไม่รู้หนังจะออกรึยัง ..

แหะๆ...

ผมไม่ได้เข้าโรงหนังมาสี่ปีแล้วครับ

เป็นเสื้อของเอนนิสจ้า
ตอนที่ดู ก็คิดว่า คนเขียนบทละเอียดอ่อนดี

อย่างที่เขียนไว้ที่บล็อก
ก็ตัดสินใจไม่ถูกหรอกว่าคนที่กล้าหาญ กับ คนที่เก็บอะไรๆ ไว้กับตัว คนไหนจะดีกว่ากัน
รู้แต่ว่า ร้องไห้ให้กับคนที่กลืนกล้ำบางสิ่งบางอย่างไว้กับตัวเองเยอะเลย

ชอบอีกฉากที่ปีต่อมาแจ็ค
ก็อยากไปทำงานที่ภูเขาโบรคแบ็คอีก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้รับการจ้าง
หรือฉากที่ พวกเขาสองคนลาจาก กันตอนลงมาจากภูเขา มันดูอิหลักอิเหลื่อทำอะไรไม่ถูกดี

ส่วนที่ถามเรื่องการเมืองตอนนี้ พี่คิดไว้แล้วแหล่ะจ้าว่าพี่เหลี่ยม ต้องแก้ปัญหาแบบนี้ แก "เล่น" การเมืองจริง ๆ

แวะมาตอบคุณสาวไกด์..เรื่องหนังสือ

วางขายแล้วค่ะ

ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ...

เมื่อวานไปกินข้าว แถวที่ทำงาน...ชนแก้วเผื่อแล้วนะคะ

=)

แวะมาเยี่ยมครับ

เป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่องค่ะ...

ปล. ลองไปแนะนำหนังสือที่คุยไว้คราวก่อนแล้วนะคะ...

อยากดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ...แต่ยังหาเวลาหนีลูกไปดูหนังไม่ได้เลย

พี่ไกด์ อ้วนไม่ได้ดู Crash เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง เสียดายค่ะ อยากดูจัง

แต่ได้ดู Walk the line กับ Munich ค่ะ

อืม ส่วนตัวแปลกใจที่ Walk the line ไม่ได้เข้าชิงในส่วนของ Best picture อ่ะ คือชอบมากกว่า Munich อีกค่ะ

ส่วน BBMT นี่ที่ลุ้น นอกจากความละเมียดของเนื้องานแล้ว ส่วนนึงเหตุผลเพราะหนังมันเศร้าซะจนรู้สึกว่า ถ้านอกจอได้ยิ้มกันบ้างก็คงดีอ่ะค่ะ แหะ แหะ ใช้อารมณ์ตัดสินซะงั้น
ถูกแล้วค่ะพี่ไกด์ เสื้อตัวนั้น เป็นตัวที่ Ennis คิดว่าเค้าลืมไว้บนเขาค่ะ

Have a nice weekend ค่ะ

มันเป็นเสื้อของทั้งคู่แหละครับ

ตอนที่เอนนิสไปห้องแจ็ค เค้าเจอเสื้อแจ็คคลุมทับเสื้อของเขาเอง (ซึ่งก็คือตัวที่คุณสาวไกด์ว่านั่นแหละครับ)

แต่ไปๆ มาๆ ตอนจบ ถ้าสังเกต จะเห็นว่า ตำแหน่งของเสื้อสลับที่กัน ...เพราะเอนนิส เปลี่ยนเอาเสื้อของเขา มาคลุมทับเสื้อของแจ็ค

เหมือนเป็นนัยว่า ถึงเวลานี้ เขา "กล้า" ที่จะโอบอุ้มแจ็คแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ...กว่าจะ "กล้า" ก็สายไปเสียแล้ว เศร้าจริงๆ

อิอิ BBM นี่ฮอตจริงจิ๊ง
สงสัยต้องไปดูมั่งละกั๊บ

ปล.ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แค่คิดถึงกันก็พอ

แวะมาทักทายยามเที่ยงนะคะ

น่าดูจังเลยค่ะ ชอบๆๆ

เป็นคนชอบดูหนังอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ
ต่อไปคงจะเขียนที่บล๊อคตัวเองมากขึ้น .. ก็เพิ่งเริ่มทำมะวานเองอ่ะค่ะ

เรื่องนี้ดูแล้วเศร้านะคะ .. แต่กะว่าจะขอดูอีกรอบ ขอเก็บรายละเอียดอีกซักที เพราะวันที่ไปดูอากาศในโรงมันหนาวเกิน สมาธิมะค่อยมี

แต่ชอบค่ะ ประโยคที่ใช้ในหัวเรื่องวันนี้
แล้วจะมาใหม่นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

อ่อ ขอแอดไว้ด้วยนะคะ ^^

คุณสาวไกด์ก็ชอบเรื่องนี้นะคะ เห็นเค้าพูดถึงกันมากเลยค่ะ ตอนนี้ปลายังไม่ได้ดูอะค่ะ ไม่เคยไปโรงหนังเลยเคยไปแต่ดูละครที่บอร์ดเวย์อะค่ะ

บางที..ดูหนัง..ดูชีวิตจริงๆที่มีปัญหาเรื่องของการไม่ยอมรับของสังคมแล้ว..รู้สึกอยากกลับไปสมัยสโตนเอดอ่ะ

จุดูจาก ซีดี ที่เพือนใจดีส่งมาให้ แถมแปลซับมาให้ด้วย


ความรู้สึกหลังจากดูจบ นึกไปถึง สิ่งที่ตัวเองเขียนให้กับเพื่อนคนหนึ่ง

ความรักอธิบายไม่ได้ด้วยเหตุผล และความถูกต้อง บางที มันไม่อาจนำมาซึ่งความสุขได้เลย


สำหรับจุ

เอนนิส ไม่ใช่เกย์ เขาเป็นผู้ชาย ที่รักกับคนๆ หนึ่งโดยที่ไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เขายังเป็นผู้ชายปกติ ที่ คบกับผู้หญิงหลายคน แต่ มีผู้ชายคนเดียวคือแจ็ค นั่นบอกเราได้ว่า ความรักของเอนนิส คือความรักของคนๆ หนึ่ง แต่ที่มีสัมพันธ์กับแจ็คนั้น อาจจะด้วยธรรมชาติที่บีบบังคับ แล้วก็เลยเถิดกันไป เหมือนขี่จักรยานเป็นแล้ว ก็ขี่ได้เรื่อยๆ

ส่วนแจ็ค นั่นล่ะเกย์

แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้จุ ชอบหนังเรื่องนี้...

สื่งที่จุชอบ คือ มุมมองของอั้งลี่ ที่ทำให้ ความรัก มีหลากหลาย และความสุญเสียนั้น..คุณต้องคิดใคร่ครวญที่จะเสี่ยง หรือไม่

หมายเหตุ!
เสื้อ 2 ตัวนั้น .....เหมือนเราสองคนโอบกอดกันไว้

อ่า...ขอบคุณในคำอวยพรนะคะ

ตั้งกะคลอดลูกเนี่ย มีโอกาสหนีลูกไปดูหนังตั้งเรื่องนึงแหน่ะค่ะ ไปเยี่ยมญาติในโรงค่ะ เค๊าคือ "คิงคอง"

ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลยน่ะครับ

แต่แอบเดา ๆ เท่าที่พี่สาวไกด์สปอย (ล้อเล่นน่ะ ไม่ได้สปอยหรอก จริง ๆ แล้ว)
เอ้ย! เล่าผ่านความรู้สึกส่วนตัวให้ฟัง
(จริง ๆ ผมชอบการเล่าแบบนี้นะ)

เหมือนกับเป็นการต่อสู้กับความขัดแย้งของความรู้สึกกับกรอบสังคม

ซึ่งถ้าเป็นผมในตอนนี้ ผมคงเลือกข้างความรู้สึกอยู่แล้ว

แต่เผอิญว่าคนเรามีความรู้สึก "กลัว" อยู่ด้วยนี้สิ ไม่ว่ากับคนบ้าท้าทายกรอบสังคมขนาดไหน ก็คงต้องเคยสัมผัสกับความกลัวอยู่บ้าง (แต่จะปฏิเสธ หรือ จัดการกับมันยังไงก็อีกเรื่อง)

พูดยากจริง ๆ ครับ ผมเรียนจิตวิทยามาสามปี ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกเลยว่า หัวจิตหัวใจ คนนี้ยุ่งยากเกินกว่าจะรับรู้มันได้ทั้งหมดจริง ๆ

แวะมาบอกคุณสาวไกด์ว่า กวางตุ้งเขียนลงในนี้ค่ะ..

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pakwan&date=12-11-2005&group=8&blog=1

ไม่อ่านนะค้าา (เผื่อได้ไปดู กลัวไม่อิน อิอิ)

เมื่อวันก่อนอ่านนวนิยายเรื่อง THe Reader จบ รู้สึกชอบจัง ไม่รู้สาวไกด์เคยอ่านป่าวคะ

หนังเรื่องนี้ดูแล้วไม่ค่อยสนุกค่ะ

อาจจะเป็นเพราะไปดูหลังจากรู้ข่าวยุบสภา จิตใจไม่ค่อยอยู่กับหนังเท่าไหร่

อ่านเเล้วซึ้งจังเลยค่ะ เเต่คงต้องรอดูDVD

ยังม่ะได้ดูเลย...จาไปหลายทีแระ...ติดนู่นติดนี่

สำหรับเรานะ อย่างที่เขียนไว้ในบล็อก

crash ชนะที่เนื้อหา
ในขณะที่
brokeback ชนะที่อารมณ์ค่ะ

ถ้าให้เชียร์ เชียร์เรื่องนี้มากกว่า crash อ่ะ ^^''

ดูทั้งCrashและBrokeback Mountainนะคะ

ช่วงแรกๆที่ดูCrashก็มีเรื่องให้คิดและรู้สึกมากเหมือนกัน

แต่น้อยกว่าBBM
เพราะเห็นเอนนิสในตัวเองและนึกถึงแจ๊คในบางฉาก

เมื่อคืนนั่งโหลดเพลงประกอบ

อินกับBBMค่ะ

ยังไม่ได้ดู Crash เหมือนกันครับ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับ Munich ผมเข้าถึงเรื่องหลังมากกว่าครับ กับเรื่องนี้ผมไม่ค่อยชอบอารมณ์ที่มันหดหู่แบบทั้งเรื่องเลยอย่างนี้ครับ


อีกทั้ง ดูจบแล้ว อารมณ์นั้นมันยังตามมาหลอกหลอนอยู่อีกเป็นชั่วโมงๆ

สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมค่ะ
ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน
แต่ชอบประโยคที่ตั้งชื่อ BLOG วันนี้นะคะ

พี่ไกด์เขียนได้ดีมากๆๆเลยค่ะ

แวะมาหาพี่ไกด์ก่อนออกไปช่วยงานแม่ค่ะ วันพรุ่งนี้มั้งคะ แบมถึงจะได้อัพบล๊อกค่ะ

วันนี้รีบอีกวันค่ะพี่ไกด์ มีเรื่องบ่นเยอะเลยพี่ไกด์ แต่ไม่มีเวลาค๊า

คิดถึงพี่ไกด์น๊า

คนชมกันเยอะนะครับเรื่องนี้
แต่ผมยังยีนยันว่าไม่ดูครับ
(เล่นเองดีกว่า)

^
^
^
ขำข้างบนอ่ะ อะไรจริงเหรอจะไปแสดงเองเลย


เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูค่ะแต่คิดว่าจะดูแน่นอนเพราะอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างกับความรู้สึกของหนัง

พี่สาวที่เค้าไปดูหนังเรื่องนี้เค้าก็บอกเหมือนกันว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึงเรื่อง The Bridge of Madison County อย่างช่วยไม่ได้ อาจจะทำให้เราอยากดูเรื่องนี้เพราะเหตุนี้ด้วยมั้งค่ะ

คุณสาวไกด์ น่าจะเขียนว่า Spoiled ซะหน่อยก็จะดีนะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหนังแล้วแวะเข้ามาอ่าน ....เรื่องนี้ผมก็ดูแล้วเช่นกันครับ น่าเห็นใจทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนะ

ไม่ได้ดูเรื่องนี้อะ
แต่ดูเด็กหอแล้ว-หนุก

แนวนี้ผมชอบครับ

สงสัยต้องหามาดูซักหน่อย

คลานมาแสดงตัว ก่อนจะคลานกลับไป
วันนี้เหนื่อยมาก (หลังจากสบายมากๆ มาเป้นอาทิตย์ๆ)

ตากแดด ตัวดำไม่ว่า แต่มันแสบไปทั้งตัวเลยง่ะ

อยากจะไปดู แต่ก็ไม่ได้ไปสักที

แต่ช่วงนี้ก็ดูหนังเยอะเหมือนกัน ทั้งในโรงและดีวีดี เพิ่งไปดู Capote มา ดีค่ะ แนะนำๆ

จริงๆ ถ้ามันมีอารมณ์แบบ The Bridge of Madison County เราต้องชอบแน่ๆ เลยค่ะ เพราะเรื่องนั้นแม่และป้าเราชอบมากๆ ส่วนเราทั้งอ่านหนังสือและดูหนัง (แต่อ่านก่อน) แค่ตอนอ่านก็ร้องไห้เป็นชั่วโมงแล้วค่ะ ฮ่าๆ

จ๊ะเอ๋ๆๆ
หนี่ฯมาแล้วววว คะ
have a nice day ka!

หนี่ฯขอแอบบ กระซิบ
สางไกด์ฯน่ารักจังเลยยยคะ คะ

โอ๊ะโย!!
หนี่ฯขอโทดคะ
คำผิดค่ะ

ขอแก้ -->สาวไกด์คะ

พี่ไกด์จ๋า ที่บ้านตอนนี้ นอกบ้านอากาศอยู่ประมาณ3-6 องศาค่ะ กลางวัน 6 กลางคืน อาจต่ำสุด ถึง 1-2 องศาค่ะ

หนาวๆๆ

ช่วงนี้หนูยุ่งมากค่ะ แต่ก็คิดถึงพี่ไกด์นะคะ

ง่ะ อัพเรื่องนี้อีกคนแล้วเหรอเนี่ย ไม่อาว ม่ายอยากดู

ทำให้อยากดูเลยครับ ได้ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้บ่อยๆจากช่องVH1ครับ ยิ่งอยากดูครับ

เจ้า Heath Ledger นี่ ป้ามดชอบมากจะเล่นบทไหนก็ดูเหมาะสมไปหมด

=)

ยังไม่ได้ดูเลยน้า....

มีแต่คนบอกว่าดี


คงได้ดูวีซีดีแทนล่ะค่ะ

เล็งคนสวยค่ะ

การงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราโดย ชัยอนันต์ สมุทวณิช#น่าสนใจมาก#คลิก

มาคุยหลายประเด็นเลยครับ

- คนที่แจ็คพาขึ้นไปที่บ้านพ่อแม่ เข้าใจว่าเป็นสามีของเพื่อนของภรรยาคนที่พูดมากๆ เหมือนกันครับ (งงกับลำดับความสัมพันธ์ไหมเนี่ย)

- เสื้อตัวที่แจ็คเก็บไว้ก็คือเสื้อตัวเดียวกับที่เอนนิสบอกว่าสงสัยลืมไว้บนเขานั่นล่ะครับ เขามีเสื้อไม่กี่ตัวเอง ไม่มีทางลืมอยู่แล้ว ส่วนเสื้อยีนส์ที่แขวนทับกันอยู่ก็คงเป็นของแจ็คแบบที่คุณจุบอกไว้ว่าเหมือนกันเขากอดกันอยู่น่ะครับ

- หลายคนประทับใจฉากกอดเสื้อนะ แต่ตอนที่เอนนิสบอกว่าลืมเสื้อไว้บนเขา ผมก็เดาอยู่แล้วแจ็คเอาไปแน่นอน ก็เลยเฉยๆ กับฉากนี้ แต่ฉากที่ผมประทับใจก็คือ ฉากที่สองคนเจอกันครั้งสุดท้ายก่อนที่จะแยกกันไปแล้วแจ็คก็ตายน่ะครับ ที่เขาท้าให้เลิกกัน แล้วก็ที่เอนนิสบอกว่าอย่าให้จับได้ว่าไปเที่ยวผู้ชายที่เม็กซิโก ไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่ ฯลฯ ผมว่าฉากนี้เป็นฉากที่สรุปประเด็นทุกอย่างของหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว

ทั้งสองคนซึ่งผมไม่เคยคิดว่าจะเล่นหนังเก่งขนาดนี้ ทำให้เห็นว่า เมื่อบทมันส่ง ฝีมือของนักแสดงที่ดีก็จะถูกขับออกมาให้เห็น

- ได้ดูสามเรื่องที่เข้าชิงออสการ์ ถ้าให้เชียร์ ผมเชียร์ Crash ครับ

เสียดายนิดเดียวที่ DVD ฉบับที่วางขาย เขาเซ็นเซอร์ฉากบนเตียงของตำรวจผิวดำกับตำรวจฮิสแปนิคออกไป (ทีเรื่อง Swimming Pool ไม่เห็นเซ็นเซอร์) ไม่ใช่ว่าตัดฉากสวยงามออกไปแล้วจะทำให้ผมหงุดหงิด แต่บทสนทนาระหว่างตำรวจผิวดำกับแม่ของเขาที่โทรเข้ามาระหว่างเข้าด้ายเข้าเข็มต่างหาก ที่ทำให้เนื้อหาของเรื่องมันขาดไปมากทีเดียว เพราะมันทำให้คนดูเข้าใจตัวตำรวจคนนี้ได้น้อยลง (เหมือนจันดาราน่ะครับ ถ้าตัดฉากการมีเซ็กส์ออกไป อารมณ์ของหนังมันก็สะดุด ความสะอิดสะเอียนที่หนังต้องการสร้างให้เกิดขึ้นมันก็จะขาดหายไป)

วันนี้คุยยาวเลยครับ

เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่านบทวิจารณ์ของใครเลย อ่านของคุณสาวไกด์เป็นฉบับแรกคับ

ขอถาม จะได้มั๊ย?

ตอนจบลูกสาวเอนนิสจะแต่งงานกับลูกชายของแจ๊คเหรอ?

และแจ๊คตายเพราะถูกชาวเมืองทำร้ายเหรอ?

ผมดูแล้ว ทำไมผมไม่ค่อยรู้สึกร่วมก้อไม่รู้ ถ้าจะใจด้าน อ่อนสมรรถนะ ก้อไม่รู้

คิดจะไปโพสต์ที่ห้องแมวเหมือนกันล่ะค่ะ แต่เราไม่มีรูป และแมวแต่ละตัวก็หน้าตาไม่งามเลย

ตอนนี้พยายามหาบ้านเช่าอยู่ค่ะ

เศร้าฉากกอดเสื้ออ่ะ

ไปค่ะ แต่4 ทุ่มกว่าๆ ก็กลับแล้วค่ะ ที่นั่งอยู่แถวๆ รถปั่นไฟที่ระเบิดด้วยค่ะ แต่พอดีลุกออกไป กลับมาอีกทีเห็นแต่ควันโขมงเลยค่ะ

ไว้ไปดูแล้วจะกลับมาอ่านค่า

ตอนนี้ DVD มีขายยังครับ

^
^
^
ยังไม่มีขายนะคะ

คงอีกพักหนะค่ะ ต้องรอให้หนังออกจากโรงก่อน

เรื่อง The Bridge of Madison County ตอนแรกต้องบอกว่าไม่ได้ตั้งความหวังก่อนดู เพราะยังคิดว่าจะน่าดูไม๊ หนังไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนหนังที่เราเคยดูๆ มา แต่ว่าก็ลองเปิดดูวันหนึ่งโดยไม่คาดหวัง แล้วเชื่อไม๊ค่ะว่าเราติดเรื่องนี้อย่างจังด้วยความไม่คาดหวังนี้ล่ะค่ะ

ด้วยความสวยงาม ด้วยบรรยากาศ ด้วยความรัก ( ในวัยของทั้งคู่ของตัวเอก ) ด้วยหลายๆ อย่างประกอบให้หนังลงตัวเรื่องความรักที่สามารถสัมผัสและสื่อออกมาได้อย่างงดงาม เลยทำให้เรื่องนี้ถือเป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ

ยังไม่กล้าไปดูเลยครับ รอดูดีวีดีดีกว่า

สวัสดีค่ะพี่สาวไกด์

เรื่อง Brokeback ยังไม่ได้ดูเลย เพราะอยากดูเด็กหอมากกว่า ถึงมันจะเป็นหนังดี แต่ไม่ใช่แนวที่หนูชอบอ่ะค่ะ เลยแลกเปลี่ยนความเห็นไม่ได้

วันนี้บล็อกงามจังค่ะ


ว่าแต่มาผิดบล็อกมั้ยเนี่ยเรา "ชายคาสุดหล่อ" เหรอ? เอ่อ..อ่า


ไม่ผิด ต้องขออภัยที่ทำให้คุณไกด์นอนไม่หลับเพราะความสยองทั้งคืน

ไปดู walk a line มาแระ..

ไม่ค่อยว่าง เลยต้องค่อยๆตามเก็บ

เลือกดูตามเรื่องที่จะออก
ก่อนอ่ะจ๊ะ

สวัสดีค่ะ พี่สาวไกด์ พูดถึงดาวินซี่ หนูไม่มีอ่าค่ะ หนูมีอยู่เรื่องเดียว คือ แองเจิล แอนด์ เดมอส ซึ่งยังไม่มีเวลาอ่านเลยค่ะ

ไม่มีใครเป็นอะไรค่ะพี่
แขไปถึงตอน 6 โมงกว่าๆ ไม่ทันดูงิ้วค่ะ

ตุ๊กยังไม่ได้ดูอีกแล้วแต่เห็นตามโฆษณาแล้วก็อ่าน...เห็นชื่อหนังภาษาไทยแล้วนึกถึงTITANIC

สวัสดีเย็นวันจันทร์ค่ะ
ไปดูมาแล้ว แอบน้ำตาซึมเหมือนกัน
เป็นหนังที่เล่นกับอารมณ์มากๆ
รู้สึกเหมือนดื่มกาแฟขมๆ รสเข้ม แต่ก็หอมหวาน

เอามาให้ค่ะ

ที่ตุ๊กบอกเห็นชื่อหนังภาษาไทย "หุบเขาเร้นรัก" แล้วนึกถึงTITANIC ภาคฉบับของทางเมืองลาว...ชู้รักเรือล่ม มั้งคะถ้าตุ๊กจำไม่ผิดนะ

ขอบคุณที่เข้าไปบอกเรื่องรักน้อยนิดมหาศาลค่ะ
มังคุดยังงงอยู่เลย ว่านางเอกเป็นผู้หญิงหากินหรอกเหรอ
สงสัยต้องดูอีกรอบน่ะค่ะ
เพราะยังจับใจความไม่ค่อยได้เลย

เรื่อง Brokeback Mountain นี่
มังคุดเพิ่งดูรายการ Opra ที่เค้าสัมภาษณ์นักแสดงนำน่ะค่ะ
ตลกดี

ส่วนเนื้อเรื่องที่เข้าใจก็เป็นแบบชายรักชายใช่มั้ยคะ

เรื่องย่อคงรู้แล้วเน้อ

เอาเป็นว่าเป็นหนังที่เราชอบล่ะกันจ๊ะ...

ชอบตรงความมุ่งมั่นและอ่อนแอในบางครั้งของพระเอก...

ไม่รู้ว่าตัวตนที่จริงของนักร้องคนนี้เป็นเหมือนหนังหรือเปล่า...

ถ้าแต่งเติมไม่มากนัก..ก้อยังถือว่า...เค้าเป็นคนที่น่าสนใจคนนึง...

เสียดายแต่นางเอก...
ไม่ได้ดูเค้าแสดงไม่นาน
มัยแก่เร็วจัง

ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ แต่มีคนพูดถึงเยอะจัง
ชักอยากดูขึ้นมาซะแล้วซิ

ข้างบนนั้น อิชั้นเองค่ะ ลืม ล็อกอิน

ที่ไม่กล้าดูไม่ใช่อะไรหรอกครับ คือที่จังหวัดที่ผมอยู่ มันไม่เข้าครับ

เรื่อง The Reader เนี่ยไม่ถึงขั้นร้องไห้ค่ะ แต่ประทับใจมากเลย อ่านแล้วรู้สึกอยากอ่านต่อเรื่อย ๆ เป็น 1 ในหนังสือไม่กี่เล่มที่อ่านจบภายใน 2 วัน

เกือบจะหายแสบแล้วค่า...อย่างน้อยก็ดีขึ้นกว่าวันแรก

ขอบคุณนะค๊ะ

เป็นสะใภ้ผีก็ต้องเชียร์ผีดิคะ

=)

สวัสดีตอนเช้าค่ะ
อยากดูเหมือนกัน
แต่สงสัยโบว์จะได้ดูจากแผ่น ^^



...

หวัดดีค่ะ
ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ ช่วงนี้ค่อนข้างจะโฟกัสเกี่ยวกับดีไซน์ มันจะเป็นช่วงๆน่ะค่ะ ช่วงที่ฮิตอ่านหนังสือก็จะอ่านดึกดื่นทุกคืน ฮิตการ์ตูนก็จะเหมาซื้อมาอ่านข้ามวัน เชื่อว่าอีกไม่นาน วงจรมันก็คงย้อนกลับมาดูุหนังอีกแหละ และคิดว่าจะดูเรื่องนี้ด้วยนะ เห็นหลายคนพูดถึงเยอะเลย

ชอบเรื่องนี้ที่ทำออกมาให้รู้สึกว่าเป็นหนังรักของคนธรรมดา... ไม่ใช่หนังรักของเกย์

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ... เกย์ก็คือคนธรรมดานี่เอง

เราชอบฉาก "เสื้อ" เหมือนกันค่ะ
ไม่นึกว่าอังลีจะเล่นมุกนี้
เราลืมเสื้อตัวนี้ไปแล้วนะคะ... พอมาเจอตอนจบ... อึ้งเลย

แล้วน้องที่ไปดูด้วยกันมันดันสังเกตอีกว่า
ตอนจบ... เสื้อเชิ้ต (ของเอนนิส) มันกลับมาอยู่ด้านนอกเสื้อแจ็คเก็ต (ของแจ๊ค)
จากแต่เดิมที่อยู่ด้านใน

โห... ยิ่งซึ้งเลยค่ะ

จากที่แต่เดิมแจ๊คคือฝ่ายแสดงออก... ที่กอดเอนนิส
จากนี้ไปเอนนิสจะโอบกอดแจ๊คไว้นะ

ชอบฉากที่เมียของเอนนิสบอกเขาเรื่องบันทึกที่เธอเอาใส่ไว้ในถังเก็บปลา...แสดงด้วยสายตาเยี่ยมอย่างที่สาวไกด์ว่า

ถ้าเทียบกับหนังที่ว่าด้วยประเด็นเกย์เรื่องก่อนหน้านี้ของอั้งลี่อย่าง Wedding Banquet (ที่ได้ชิงออสการ์หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมปีเดียวกับ Farewel My Concubine แต่ท้ายที่สุดแล้วก็แห้วทั้งสองเรื่อง) เราว่าประเด็นต่างๆ ของเรื่องนี้ลึกซึ้งกว่าเยอะ

Happy Tuesday จ้า

ตอนแรกเฉยๆนะคะ เรื่องนี้ดูกะว่ายังไงก็ได้ ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ แต่เห็นคนพูดกันเยอะมากๆ พูดว่าน่าดูๆ

ตอนนี้ก็เลยสนใจมากๆเลยค่ะ

ชอบสโลแกนของหนังจังค่ะ Love is a Force of Nature..

อ่านที่รีวิวแล้ว ต้องหามาดูมั่งล่ะค่ะ

ดูเรื่องนี้แล้วครับ จากดีวีดี ที่แจกในงานมอบรางวัล
ส่วนอีกสองเรื่องยังไม่ได้ดู
แปลกใจตัวเองที่ดูเรื่องนี้แล้ว กลับไม่อิ่มอารมณ์เหมือนเรื่องอื่นๆ
มีหลายจุดฉุดหใคดตามก็จริง แต่ผมว่าหนังมันนิ่งไปเรียบไป เหมือนกับว่าคนดูต้องปรุงแต่งอารมณืเองด้วยจึงจะได้อรรถรส
ขอบคุรคุณไกด์สาวที่เอามาคุยกันครับ