หักเหลี่ยมร้ายซ่อนลายรัก บทที่ 1 / 2
โรงเตี๊ยมนักรอนแรมเพียงแห่งเดียวในหมู่บ้านสภาพเก่าทรุดโทรมเพียงย่างเท้าเข้าไปผู้เป็นนายถึงกับยกหลังมือปิดจมูก กลิ่นสาบรุนแรงราวกับขาดการดูแลมานานปีแม้สภาพที่มองจากภายนอกนับว่าแย่แล้วแต่ภายในกลับย่ำแย่ยิ่งกว่า พรมสีแดงกระดำกระด่างบนพื้นแค่เหยียบลงไปฝุ่นก็ตลบขึ้นมาทุกย่างก้าวจนรองเท้าสานขึ้นฝุ่นหนักกว่าย่ำเดินบนทางดินด้านนอกเสียอย่างนั้น บ่าวร่างอวบหน้าซีดเผือดแหงนมองบนเพดานถึงกับผงะเพราะโคมกระดาษสีแดงลายอักษรทองที่แขวนขาดวิ่นเอียงคล้ายจะตกแต่ไม่ตก โรงเตี๊ยมนี้เปิดหรือร้างก็ไม่รู้นะขอรับ... นายท่าน เจ้าดูนั่นสิแล้วจะได้คำตอบเองผู้เป็นนายตอบเสียงเรียบแต่มองไปอีกทาง ดวงตาบ่าวร่างอวบถึงกับเบิกกว้างเมื่อพบสายตากระหายใคร่รู้หลายคู่บ้างยืนบ้างนั่งต่างจับจ้องมองมาเป็นตาเดียว สองนายบ่าวทำใจดีสู้เสือเดินตรงเข้ามาถามหาห้องพัก ข้าต้องการห้องพักสำหรับค้างแรมในคืนนี้ มิทราบว่า... หนึ่งบุรุษผิวเข้มมีรอยบากบนหน้าที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดกลับเดินหนีทำให้ผู้เป็นนายอ้าปากค้างแต่เพียงครู่เดียวก็มีคนผู้หนึ่งก้าวออกมาจากม่านกั้นดวงตาเรียวหรี่ของอีกฝ่ายจ้องทั้งสองอย่างระแวงระวัง หมวกเก่าคร่ำคร่าฟ้องการใช้งานสมบุกสมบันไรผมสีขาวข้างหูทั้งสองข้างบ่งบอกความชรา คนผู้นั้นค้อมศีรษะให้อย่างเอาใจก่อนเอ่ยนายท่านต้องการห้องพักสำหรับงานประมูลในคืนนี้ใช่หรือไม่ งานประมูลหรือ? ร่างอวบอ้วนออกหน้าถาม ประมูลสิ่งใดหารู้ไม่ เราสองคนเพียงต้องการที่พักและเสบียงอาหารสำหรับเดินทางต่อ ถ้าหากพวกท่านมิได้มาเพื่อการประมูลเจ้าของโรงเตี๊ยมหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนเอ่ย เช่นนั้นพวกท่านจะไปที่ใดกัน พวกข้าจะขึ้นไปบนเขา บนเขา? เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันแต่ละคนหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เป็นเช่นนั้น คราวนี้ผู้เป็นนายเป็นคนกล่าว ทว่าเสียงแตกฮือดังกว่าครั้งแรกมากนักสองนายบ่าวมองหน้ากันด้วยความงุนงงแต่ผู้เป็นนายก้าวมาดักเจ้าของโรงเตี๊ยมหนึ่งก้าวกล่าวเสียงหนักแน่น พวกข้าจะไปหุบผาอมตะท่านทราบหรือไม่ว่าต้องไปอีกกี่ชั่วยาม โอว!พวกเจ้าคิดผิดแท้ ๆ ที่จะไปหุบผาอมตะ ชายหน้าเสี้ยมเจ้าของโรงเตี๊ยมทวนคำสีหน้าหวาดหวั่นต้องไปกี่ชั่วยามข้ามิอาจรู้ได้แต่หากเหยียบย่างไปแล้วมิอาจมีผู้ใดไม่มีอันเป็นไปแต่หากพวกเจ้าดึงดันจะไปก็ต้องผ่านโรงเก็บศพไร้ญาติทางผ่านป่าไผ่ไปก่อน โรงเก็บศพไร้ญาติหรือบ่าวร่างอวบถามพลางหดคอด้วยความหวาดกลัว ชายหน้าเสี้ยมพยักหน้าโดยเร็วก่อนเอ่ยทว่าจะผ่านที่แห่งนั้นไปได้ก็ต้องใช้ความเก่งกล้าเป็นอันมาก มันน่ากลัวมากหรือ สองนายบ่าวถามพร้อมกันก่อนจะหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมายเมื่อได้รับคำตอบคืออากัปกิริยาหวาดกลัวจากคนถูกถาม ไม่เว้นแม้แต่บุรุษพเนจรที่นั่งดื่มสุราราวกับไม่สนใจสิ่งใดแต่ที่จริงลอบฟังอยู่นานแล้ว ไม่ต้องกลัวหรอกสวี่ลี่ ผู้เป็นนายเอ่ยปลอบ ได้ห้องแล้วพวกเจ้าต้องการอาหารด้วยหรือไม่ เจ้าของโรงเตี๊ยมเอ่ยถามหน้านิ่งเช่นเดิม ย่อมต้องการ แต่ข้าขอถามอีกข้อ... เช่นนั้นข้าจะนำพวกเจ้าไปที่ห้อง ส่วนอาหารจึงจะตามไป เจ้าของโรงเตี๊ยมกล่าวตัดบทท่าทางลุกลี้ลุกลนถือกุญแจพวงใหญ่เดินนำหน้าขึ้นบันไดไป สวี่ลี่หันหาผู้เป็นนายพลันเอ่ย ดูสิขอรับคุณชายข้ายังไม่ทันถามเรื่องนั้นเลยเหตุใดจึงเดินหนีไปเช่นนี้เล่า เอาเถอะ... ตามไปก่อน คุณชายน้อยตัดบทเดินตามเจ้าของโรงเตี๊ยมไปเงียบๆ
ล่วงเข้ายามไฮ่สองนายบ่าวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังต่อเนื่องมาจากราวป่าด้านทิศตะวันตกเสียงนั้นเหมือนสตรีร้องขอความช่วยเหลือ บ่าวร่างอวบกระเด้งตัวขึ้นนั่งหยิบมีดพกปลายคมกริบจากผ้าคาดเอวมากระชับมั่นกระโจนหลบซุ่มดูอยู่ตรงหน้าต่างบานกระดาษริมทางเดินผู้เป็นนายรีบแต่งเนื้อตัวกระชับกระบี่ด้ามยาวซุ่มยืนอีกฝั่งของหน้าต่างเช่นกัน ข้าว่าชอบกลอยู่ ด้านนั้นที่ว่ากันว่าเป็นที่ตั้งโรงเก็บศพไร้ญาติเหตุใดจึงมีเสียงร้อง... หรือว่า... อย่าคิดหากไม่เห็นด้วยตา ข้าว่าเราน่าจะไปดูว่าเกิดเหตุใดผู้เป็นนายแนบหน้ากับหน้าต่างที่เปิดแง้มไม่ละสายตา อย่าเลยคุณชาย หาใช่เรื่องของเราไม่ สวี่ลี่ดึงนายน้อยห้ามปรามแต่ยังไม่ทันได้คำตอบแสงไฟวิบวับจำนวนมากด้านนอกบ่งบอกว่ามีการเคลื่อนไหวของผู้คนกลุ่มใหญ่คล้ายอันตรายคล้ายไม่ใช่ทำให้สองนายบ่าวต่างมองตากันด้วยความกังวลอีกครั้ง นอกจากจะต่างถิ่นแล้ว คำพูดของบุรุษร่างเล็กเจ้าของโรงเตี๊ยมนั่นยังทำให้คุณชายผู้อ่อนเยาว์อยากรู้อยากเห็นมากขึ้นจนคิดจะลอบออกไปดูมิใยที่บ่าวร่างอวบจะทัดทาน พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้านะคุณชาย แต่เสียงร้องนั่น เจ้าไม่ได้ยินรึว่าโหยหวนเพียงใด แต่นี่มิใช่เรื่องของเรา สวี่ลี่แย้งอีกครั้งถึงรู้ว่าพูดไปก็ไม่สามารถห้ามผู้เป็นนาย หรือเจ้ากลัวเป็นกลัวตาย นึกแล้วว่าคุณชายต้องว่าข้าขี้ขลาดตาขาวแต่เราสองคนใช่ว่าวิทยายุทธ์จะเก่งกาจ...ก็แค่พอเป็น บ่าวร่างอวบบ่นกระปอดกระแปด แต่คนขอความช่วยเหลือไม่คิดยื่นมือจะมีหน้าออกท่องยุทธภพให้อายผู้ใดเล่าผู้เป็นนายเอ่ยฉุนเฉียวพลันถอดกลอนประตูสวี่ลี่กลับยั้งไว้จนผู้เป็นนายเอ่ยเสียงกร้าว เจ้าอย่าขัดใจข้า เช่นนั้นข้ารึจะห้ามคุณชายได้ สุดที่บ่าวร่างอวบจะคิดหาคำใดมาดึงรั้งไว้ได้อีกนายน้อยผู้ปราดเปรียวเปิดประตูออกไปอย่างเงียบกริบไม่สนคำห้ามปราม เพียงคล้อยหลังลับตา บุรุษพเนจรก็ออกมาจากห้องตรงข้ามแล้วย่างด้วยฝีเท้าเบาที่สุดเข้าไปภายในห้องก่อนจะปิดประตูย่องไปยังเตียงนอนเพื่อค้นหาสิ่งต้องสงสัย ข้าวของในห่อเป็นระเบียบเรียบร้อยมีชุดฮั่นฝูของบุรุษเป็นผ้าแพรไหมสีครีมอ่อนประเมินค่ามิได้หยางซุนหยางสะดุดใจแต่ไม่ทันคิดอะไรสายตาพลันสะดุดเข้ากับป้ายหยกสีเขียวอ่อนสลักนาม คุณชายหลิวเสียะแห่งสำนักการค้าหลิวซือซือ หยางซุนหยางทวนคำบนแผ่นป้ายในห่อผ้าก่อนจะวางลงข้างๆ ค้นลึกไปจนเจอม้วนแผนที่นอนก้นอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู ภาพที่ปรากฏบนนั้นต่อกันกับแผนที่ของเขาได้พอดีราวกับเป็นภาพที่วาดมาจากแหล่งเดียวกันทั้งลายเส้น ตัวอักษร น้ำหนักอ่อนเบาของปลายพู่กันช่างคล้ายคลึงกันจึงง่วนหาพู่กันเพื่อคัดลอกแผนที่ฉบับนั้นแต่ทั้งห้องกลับไม่มี ครั้นจะหนีก็ไม่ทันเมื่อมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาจึงรีบดับตะเกียงแล้วหลบวูบเข้าหลังฉากกั้น สองนายบ่าวเปิดประตูเข้ามาภายในด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนร่างอวบรั้งท้ายปิดกลอนประตู ส่วนคุณชายร่างเพรียวก็ผละมาตรงฉากกั้น หยางซุนหยางเห็นท่าไม่ดีรีบหลบหลังม่านอีกชั้นด้านในสุดด้วยใจระทึก อาลี่...ข้าจะแช่น้ำสักหน่อย สุดแต่คุณชายเถอะ อยากไม่เชื่อข้ามิเช่นนั้นคงได้พักผ่อนเอาแรงไม่ต้องเหงื่อไหลไคลย้อยเช่นนี้ เชื่อเจ้าแล้วหดหัวอยู่ในห้องหรือ เจ้าก็รู้มิใช่นิสัยข้าคุณชายผู้ปราดเปรียวเอ่ยน้ำเสียงขบขันไม่ทุกข์ร้อนพลางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก เช่นนั้นข้านอนก่อนนะขอรับ บ่าวร่างอวบส่งเสียงมาหลังสำรวจตรวจตราสัมภาระสองห่อบนที่นอนพบว่ายังอยู่ดีก็เบาใจจึงล้มตัวลงนอนที่พื้นหน้าเตียงอีกครั้ง เจ้าอย่าบ่นนักเลยง่วงก็นอนเสียข้าอึดอัดเต็มทีขอนอนสะอาดๆ ตามใจคุณชายเถอะขอรับ ข้าหรือจะขัดได้ เสียงบ่าวกระเง้ากระงอดครู่เดียวก็เงียบไป บุรุษพเนจรพรูลมหายใจโล่งอกค่อยๆก้าวออกจากหลังม่านเมื่อเหลือบมองเห็นคุณชายหันหลังให้และง่วนอยู่กับการถอดชุดด้านในอีกชั้น ยังไม่ทันก้าวพ้นฉากกั้นบุรุษพเนจรก็หันกลับมามองอีกครั้งพลัน ต้องขยี้ตาด้วยความตื่นตะลึงเมื่อร่างนั้นเล็กกว่าที่คิดไม่พอหนำซ้ำผิวยังขาวราวหิมะเอวนั้นคอดกิ่วไร้ริ้วรอย ช่างเป็นเอกลักษณ์ของอิสตรีโดยแท้... ร่างนั้นคลายปมผ้าสีขาวรอบอกม้วนออกทีละชั้นจนทรวงอกอวบนูนคู่งามปรากฏแก่สายตาเพียงแค่เห็นด้านข้างไม่เต็มตายังพาให้เขาตะลึงถึงเพียงนี้ และยิ่งชวนให้ตื่นตาหนักยิ่งกว่าเมื่อร่างขาวราวหิมะนั้นค่อยๆ หย่อนกายลงแช่ในอ่างอย่างเชื่องช้า เรียวขาเล็กไร้ริ้วรอยชวนมองจนไม่อยากละสายตาเสียงขับลำเนาเบา ๆ หวานแว่วนั่นอีกที่ทำให้หนุ่มพเนจรเผลอมองอย่างเคลิบเคลิ้มใหลหลง ที่แท้สกุณางามในลำธารก็มาปรากฏกายอยู่ที่แห่งนี้... ไม่น่าเชื่อว่าอิสตรีงดงามถึงเพียงนี้จะทำให้เขาหลงคิดว่านางเป็นบุรุษไปได้นางสกุณาตัวน้อยดูกลมกลืนกับชุดฮั่นฝูราวกับมิต้องเสริมเติมแต่งใด ๆ เหตุใดกันที่ทำให้นางต้องซ่อนกายหรือเพราะเป้าหมายของนางคือผ้าโบราณพันปีบนหุบผาป่าสนอมตะเป็นเหตุ... ต้องใช่แน่! นางต้องมีเจตนารมณ์เดียวกับเขา ยิ่งป้ายสลักในห่อผ้านั้นบ่งบอกว่าเป็นของสำนักการค้าที่ใหญ่ที่สุดในฉางอันด้วยแล้วยิ่งแทบคลายความสงสัยนอกจากขายออกไปแล้วยังรับประมูลของมีราคาจากทั่วทุกสารทิศนับว่าเป็นตระกูลเก่าแก่ที่ได้รับความไว้วางใจจากราชสำนักให้ถวายสิ่งของในหลายครั้งคราวด้วยแล้ว แต่น่าแปลกที่นั่นมีเพียงบุตรชายสืบทอดกิจการเพียงคนเดียวและกิจการที่ต้องติดต่อกับวังหลวงเนือง ๆ ต้องอาศัยบุตรชายสืบทอดจึงจะได้รับอนุญาตให้ค้าขายได้ แล้วเหตุใดนางงดงามผู้นี้จึงกลายเป็นคุณชายหลิวเสียะแห่งหลิวซือซือไปได้! เขาต้องค้นหาความจริง... หยางซุนหยางรู้สึกแปลก ๆ เหมือนร้อนรุ่มภายในมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว หลังมือยกอังจมูกด้วยความเคยชินพลันถึงกับงุนงงเมื่อเลือดกำเดาไหลหลั่งโดยไม่รู้ตัวไวเท่าความคิดมือแข็งแกร่งกระตุกผ้าพันอกผืนบางที่พาดอยู่หลังฉากขึ้นมาซับโดยไม่ละสายตาจากดวงหน้างามที่เห็นเพียงด้านข้าง กลิ่นหอมจากกายสาวที่ติดอยู่บนผ้ายิ่งทำให้เขารู้สึกถึงเลือดลมในกายพลุ่งพล่าน อา... หรือว่าเพราะห่างหายจากกลิ่นกายของอิสตรีมานานร่างกายจึงทรยศด้วยการหลั่งเลือดกำเดาเช่นนี้ กว่าจะรู้ตัวว่าควรออกไปจากห้องก็ต่อเมื่อเสียงน้ำในอ่างไม้ไหวกระฉอกหยางซุนหยางสะดุ้งสุดตัวปล่อยผ้าผืนเดิมร่วงหล่นแล้วกระโดดผลุงออกไปทางหน้าต่างโดยที่ร่างอรชรไม่ทันได้รู้ตัว หลิวเสียะชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงสวบสาบรีบเอื้อมหยิบเสื้อขึ้นมาคลุมอย่างเร่งรีบก่อนจะหยิบกระบี่คู่ใจกระชับมั่น แต่เสียงประหลาดเมื่อครู่เงียบไปนางมองหาไม่มีแม้เงาผู้ใด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่วางใจจึงเอ่ยถามบ่าวคู่ใจอีกครา เจ้ายังไม่นอนหรือ สวี่ลี่ เงียบ... มีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอจากร่างที่นอนอยู่เท่านั้น เช่นนั้นข้าคงหูแว่ว นางเอ่ยพลันเก็บกระบี่เข้าฝักก่อนจะก้าวออกจากอ่างอาบน้ำมาหยิบผ้าพันรอบอกทว่ากลับมีบางสิ่งผิดปกติ มีหยดเลือดปรากฏบนผ้าที่นางใช้พันอกเมื่อครู่มันยังสะอาดไม่มีรอยเลือด หลิวเสียะเหลียวมองรอบกายด้วยความหวาดหวั่น หรือจะมีคนลักลอบเข้ามาในห้อง! แต่ใครกันที่กล้า... ดวงตากวางมองปราดไปที่ประตูไม่รับรู้ถึงความผิดปกติกลอนยังคงถูกลงไว้จากด้านใน มีทางเดียวที่แขกมิได้รับเชิญยามวิกาลจะออกไปได้คงเป็นทางหน้าต่างเท่านั้น ร่างอรชรจัดแจงแต่งกายชุดฮั่นฝูด้วยความเร่งรีบดับแสงตะเกียงล้มตัวลงนอนแต่กลับไม่สามารถข่มตาหลับลงเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ประหลาดเมื่อครู่ อาจมีใครบางคนสอดรู้สอดเห็นถึงกับลอบเข้ามาที่แน่ ๆ ต่อไปนี้ทั้งนางและบ่าวต้องระวังตัวให้มากกว่านี้อีกหลายเท่าเพราะกว่าจะถึงหุบผาคงอีกหลายชั่วยาม ร่างอรชรในคราบคุณชายนอนกอดกระบี่หลับๆ ตื่น ๆ ระวังภัยกลับต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนราวกับเจ็บปวดทรมานดังขึ้นอีกครั้งมันสะดุดหูและรบกวนจิตใต้สำนึกด้านดีของนางอย่างร้ายกาจ นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน! หลิวเสียะผุดลุกนั่งมองสวี่ลี่หลับสนิทก็ตัดสินใจย่องไปแอบฟังเสียงประหลาดที่หน้าประตูอย่างเงียบเชียบ ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย! ใครก็ได้... ช่วยด้วย!... เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาตามทางเดินผ่านหน้าห้องนางไปไม่พอยังมีเสียงเหมือนโลหะหนักกระทบพื้นดังเป็นระยะตลอดแนวทางเดินก่อนจะจางหายไปคุณชายน้อยแห่งหลิวซือซือตั้งท่าจะกระโจนออกไปแต่บ่าวร่างอวบที่นอนหลับเมื่อครู่ผุดลุกขึ้นโผมารั้งไว้ได้ทัน คุณชาย! อย่าไป! เจ้าได้ยินเหมือนที่ข้าได้ยินหรือไม่ นางเอ่ยเสียงเบาแต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจก่อนเอ่ย ช่างเถอะ... พูดกับพวกนอนกินบ้านกินเมืองอย่างเจ้าจะรู้อะไรรอที่นี่ก็แล้วกันข้าจะออกไปดูลาดเลา มิใช่กงการของเราอย่าไปเลยขอรับบ่าวแย้งทั้งงัวเงีย นอนเอาแรงดีกว่า ข้าหรือจะหลับลงหากไม่เห็นกับตาตัวเอง คุณชายน้อยตอบกลับสีหน้าเป็นกังวล น้ำเสียงนางเจ็บปวดเช่นนั้นข้าอยากไปดูว่าพอจะช่วยได้หรือไม่ แต่เราต้องออกเดินทางต่อพรุ่งนี้ มิเช่นนั้นท่านเจ้าสำนักจะดุเอา แล้วเจ้าจะให้ข้านิ่งดูดายงั้นหรือ ข้ามิได้หมายความเช่นนั้นขอรับ สวี่ลี่เสียงหลงทันที เห็นแก่มนุษยธรรมท่านพ่อต้องเข้าใจ คุณชายน้อยกล่าวอย่างมั่นใจแต่สีหน้าปรากฏความลังเลหนึ่งส่วน เอาเถอะ เจ้าไม่ต้องกังวลไป ยังพอมีเวลาจะกลับสำนักช้าลงสักวันสองวันคงไม่เป็นไร แต่ข้าว่า... อย่าขัดข้าหลิวเสียะทำเสียงดุใส่ ดวงหน้านวลงอง้ำ บ่าวร่างอวบหน้าเหยเกถอยออกห่างประตูพลางเอ่ยอย่างไม่เต็มใจนักขอรับ... ข้ามิเคยขัดคุณชายได้อยู่แล้ว รู้เช่นนั้นก็ดีแล้ว ถอย! บ่าวร่างอวบส่ายหน้าระอารู้ทั้งรู้ว่ามิใยที่นายน้อยจะฟังกว่าจะรู้ตัวประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างอรชรในคราบบุรุษผลุบหายไปลับตา โธ่! คุณหนู สวี่ลี่ได้แต่รำพึงแล้วนึกได้ตบปากตัวเองเบา ๆ เอ๊ย! ต้องเรียกคุณชายสิ ชอบลืมอยู่เรื่อย คุณชาย! รอข้าด้วยขอรับ
Create Date : 15 ตุลาคม 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2561 8:40:54 น. |
Counter : 634 Pageviews. |
|
|
|