Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
เครื่องหมายนักโดดร่มของไทย

โดย Insignia Museum


โดดร่มเฉลิมพระเกียรติรูปดอกบัวที่ จ.ประจวบฯ

กว่าจะได้เครื่องหมายนักโดดร่มมาประดับอกเสื้อ จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรการโดดร่ม โดดหอ หรืออย่างน้อยก็เคยโดดจากบอลลูนกับครูฝึกโดดร่มมาแล้ว

เครื่องหมายนักโดดร่มของกองทัพบก เรือ อากาศ และตำรวจนั้น จะมีร่มชูชีพอยู่ด้านบนกึ่งกลางระหว่างปีก ใต้ร่มลงมา ทหารบกจะเป็นรูปช้างสามเศียร (เอราวัณ), ทหารเรือเป็นรูปสมอเรือ, ทหารอากาศและตำรวจจะเป็นโล่สีธงชาติ

การจัดลำดับชั้นของเครื่องหมาย มีความแตกต่างกันดังนี้ครับ

ชั้น 3 เหนือปีกไม่มี ช่อชัยพฤกษ์ ไม่มีดาว
ชั้น 2 เหนือปีกไม่มี ช่อชัยพฤกษ์ มีดาว
ชั้น 1 เหนือปีกมี ช่อชัยพฤกษ์ มีดาว

และนักโดดร่มชั้น "กิติมศักดิ์"

สำหรับนักโดดร่มสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีชั้นพิเศษด้วย ภายในปีกซ้าย ขวา จะมีดาวสีดำติดอยู่อย่างละข้าง เหนือปีกจะมีช่อชัยพฤกษ์ และดาว

เครื่องหมายกิติมศักดิ์ จะมอบให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ให้ทางการ ผู้ได้รับอาจไม่เคยโดดร่มเลย รูปแบบของเครื่องหมายจะมีข้อสักเกตง่ายๆ คือ ถ้าเป็นเครื่องหมายกิติมศักดิ์ของทหารจะไม่มีสัญญาลักษณ์ "อุณาโลม" ตรงกลางปีก


เครื่องหมายนักโดดร่ม ทอ. ชั้น 3 มีอุณาโลมเหนือสีธงชาติ


ถ้าเป็นเครื่องหมายโดดร่มกิตติมศักดิ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะแตกต่างกับเครื่องหมายทั่วไป ตรงที่บริเวณธงชาติ (กลางปีก) จะไม่มีรูปคนโดดร่ม (คนตัวเล็กๆ มีร่มกางอยู่เหนือศีรษะ)

เครื่องหมายนักโดดร่มอีกชนิดหนึ่ง พิเศษกว่าเครื่องหมายโดดร่มทั่วไปคือ เครื่องหมายนักโดดร่มดิ่งพสุธาหรือเหินเวหา เพราะการจะเป็นนักโดดร่มดิ่งพสุธาต้องทดสอบร่างกายเพื่อแข่งขันไปอบรม เนื่องจากเป็นหลักสูตรพิเศษ ผู้โดดร่มในลักษณะนี้ถือเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล

แต่ละชั้นของเครื่องหมาย จะหมายถึงการผ่านการโดดร่มมามากน้อยเท่าไร เช่น เครื่องหมายของตำรวจพลร่ม
ชั้น 3 โดดร่มมาแล้ว 6-29 ครั้ง
ชั้น 2 โดดร่มมาแล้ว 30-64 ครั้ง
ชั้น 1 โดดร่มมาแล้ว 65 ครั้งขึ้นไป
ขั้นพิเศษ โดดแบบกระตุกเอง ถ่วงเวลาได้ไม่ต่ำกว่า 15 วินาที หรือดิ่งพสุธา
เมื่อโดดจากเครื่องบินแล้ว ผู้โดดจะลอยละลิ่งลงมาโดยร่มยังไม่กาง พร้อมทั้งกางแขนกางขาต้านลม เมื่อผ่านไปแล้ว 15 วินาทีก็ได้เวลาเปิดร่ม

การฝึกโดดร่มที่ใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน ก็โดดร่มได้เลยคือการฝึกแบบน็อคดาวน์ ร่มจะกางทันทีภายใน 4 วินาทีหลังจากที่ผู้ฝึกกระโดดออกจากเครื่องบิน เพราะที่ปลายสายกระตุกร่มจะมีขอเกี่ยวกับเครื่องบินเรียกว่า "สายดึงประจำที่" สายดึงประจำที่จะกระตุกร่มแทนผู้โดด กระตุกร่มกลมๆเล็กๆก่อน ร่มเล็กจะดึงร่มใหญ่กางตามอีกที

ส่วนการฝึกโดดร่มแบบกระตุกเองหรือเหินเวหา กองทัพอากาศ ปัจจุบันมีการฝึกหลักสูตรเร่งรัด ใช้เวลาการฝึกภาคพื้นดิน เพียง 24 ชม. ที่ความสูง 10,000-13,000 ฟุตแล้วไปโดดร่มกับครูฝึกจริงๆ จังๆ ครั้งแรกครูฝึกโดดตามมาด้วย ครูจะช่วยประคองด้านซ้ายคนหนึ่ง ขวาคนหนึ่ง ช่วยแก้ไขการลอยตัวให้ถูกต้อง การลำดับขั้นตอนต่างๆอย่างครบถ้วนด้วยสัญญาณมือ นับรวมเวลาที่มีครูฝึกอยู่ด้วยกลางอากาศก็ประมาณ 40-60 วินาที

เมื่อผู้ฝึกและครูฝึกทั้งสองลอยตัวมาอยู่ที่ความสูง 4,500 ฟุต(ดูจากเครื่องวัด) ผู้ฝึกได้เวลากระตุกร่ม นั่นแหละจึงเหลือผู้ฝึกตัวคนเดียว เดียวดายในท้องนภา หลังจากนั้นก็คอยบังคับร่มให้ลงในสนามฝึก มีครูฝึกภาคพื้นดินพูดผ่านเครื่องรับวิทยุกับผู้ฝึก ว่าจะต้องบังคับร่มไปทางไหน ถึงไม่ผิดทิศผิดทาง ถ้ามีไหวพริบดี ฝึกตามลำดับขั้นผ่านตลอด (7 ระดับ) ใช้เวลาโดดร่มเพียง 7-9 ครั้ง ก็มั่นใจว่าจะโดดร่มได้โดยไม่มีครูพี่เลี้ยง





นอกจากการโดดร่มทางการทหารแล้ว ปัจจุบันการโดดร่มถือเป็นกีฬาทางอากาศที่กำลังได้รับความนิยม เป็นงานอดิเรกในยามว่าง โดยมีประเภทของการแข่งขันหลากหลายชนิด

ภาพต่อไปนี้เป็นเครื่องหมายนักโดดร่มในรูปทรงต่างๆ เน้นที่ความแตกต่างกันของรูปแบบ บางอันมี 3 ชั้น แต่นำมาเพียงชั้นเดียว คือ ชั้น 1, 2 หรือ 3 ทำด้วยผ้าปัก, ดิ้นเงิน ดิ้นทอง และโลหะ เพื่อศึกษาการออกแบบอันสวยงามและความละเอียดอ่อนของงานฝีมือคนไทยครับ












Create Date : 04 กรกฎาคม 2552
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2560 20:32:25 น. 17 comments
Counter : 160658 Pageviews.

 
ดีจังเลยที่วันนี้เข้ามาทันโดดร่ม
ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องทางการทหารนัก หลังจากเข้ามาบล๊อคคุณIM. ก็ได้อะไรกลับไปหลายอย่างเลย
ขอไปเซฟรูปชุดทหารเก่าๆสักหน่อยนะคะ

การโดดร่มยิ่งไม่สันทัด แต่สมัยเรียนก็โดดเป็นประจำเหมือนกัน.....555
แต่คนละแบบอย่างนี้แน่นอน อาศัยว่าหน้าตาเหมือนเด็กเรียน ครูจะไม่เชื่อว่าโดดเรียนเวลาเพื่อนฟ้อง...อิ...อิ

ไม่ได้เข้ามาดูไอ้ขวัญกับเรียมซ้ำเพราะ 2-3 วันก่อนเน็ตค่อนข้างช้ากว่าจะโหลดอะไรได้นั่งจนเหนื่อย
หมดความอดทนที่จะรอ เพราะยังมีงานอย่างอื่นให้ทำ

เดี๋ยวตามกลับไปดูก็แล้วกัน
จะไม่โดดร่มแล้วค่ะ


โดย: ปลายแปรง IP: 61.19.67.60 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:30:21 น.  

 
แหะๆ ชอบดูเวลามีโชว์โดดร่มค่ะ
แต่ดูแบบมีลุ้น เอาใจช่วยตลอดว่าขออย่าให้มีอาการ "ร่มไม่ยอมกาง" ทุกครั้ง
คนอื่นเค้าดูด้วยอาการตื่นเต้น ตาเบิกกว้าง ปรบมือให้กำลังใจ
แต่เราแอบดูอยู่แบบทำตัวลีบๆ หัวใจเต้นตึกตัก กำมือตัวเองไว้จนแน่น
พอพลร่มลงสู่จุดหมายได้อย่างปลอดภัยโน้นแหล่ะ ถึงจะระบายลมหายใจพรวดๆ แบบโล่งอก

เป็นโรคกลัวความสูงค่ะ... แค่เล่นสไลเดอร์ในสวนน้ำ เล่นเรือไวกิ้งกับลูกๆ ลงมายังขาสั่นพรั่บๆ
เลยอดที่จะทึ่ง อึ้ง เสียว...กับการลอยละลิ่วลงมาจากท้องฟ้าของบรรดานักกระโดดร่มปอดเหล็กทั้งหลาย
ว่า..ทำได้ยังไงกันคะเนี่ย..^__^

ปล.ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องหมายแต่อย่างใด เลยขอชมอย่างเดียวนะคะ



โดย: กุ้งค่ะ IP: 79.46.46.30 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:06:00 น.  

 
อยากบอกว่า สมัยเด็ก ๆ ชอบไปดูทหารโดดร่มเก็บเงินสร้างโรงเรียนมากครับ

โรงเรียนที่สร้างตามโครงการโดดร่มของทหารไทย - อเมริกัน ในยุคนั้น มักจะตั้งชื่อให้โรงเรียนว่า ...มิตรภาพที่.... เป็นลำดับ ๆ ไป

ไปดูจริง ๆ สนุกสนานตื่นเต้นกับการโดดร่มมาก โดยเฉพาะการดิ่งพสุธา คือ กระโดดออกมาจากเครื่องบินก่อน แล้วกระตุกร่มทีหลัง

พลร่มที่กระโดดแบบนี้ จะมีกระป๋องควันสีผูกไว้ที่ขา เพื่อให้คนบนพื้นมองเห็นตัวเขาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเขากระโดดที่ความสูงมาก ๆ มองแทบไม่เห็นตัวคน

จนร่างตกลงมาใกล้จะถึงพื้น เขาจึงกระตุกร่มให้กางออก ท่ามกลางการลุ้นแบบใจหายใจคว่ำของคนดูเบื้องล่าง กลัวว่าเขาจะกางร่มไม่ทัน

ไม่เฉพาะเด็กนะครับที่ชอบดูการกระโดดร่ม พวกผู้ใหญ่ก็ชอบมาก โดยเฉพาะพวกที่ชมชอบการเล่นพนันได้เสีย

ร่มสีไหนจะลงถึงพื้นก่อนกัน จะถูกนักพนันเอามาเป็นเกมส์พนันขันต่อกันอย่างสนุนสนาน ได้เสียครั้งละหลายสิบบาท จนถึงหลายร้อยบาท การพนันขันต่อกันแบบนี้ นิยมทำกันเฉพาะในหมู่นักพนันที่สนิทสนมกันจริง ๆ เท่านั้น เพราะผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ ทั่วสนามที่เป็นจุดลงของร่ม

หากพนันกับคนแปลกหน้า หากชนะพนันโดดร่ม อาจเจอรายการชักดาบ จากคู่พนันของตนที่มักจะหายสาบสูญไปในหมู่ชนจำนวนมาก ทำให้เสียอารมณ์ไม่ใช่น้อย

ครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ทหาร นำเอาเชือกร่มมาจำหน่ายด้วย เชือกร่มในสมัยนั้น นับเป็นของดีมีราคา หายาก ผู้คนพากันอุดหนุนซื้อหาไว้ใช้คล้องหลวงพ่อกับคอบ้าง ใช้ถักทำพวงกุญแจเก๋ไก๋บ้าง

แต่ก็มีบางคนมักง่าย ที่มีขายไม่ยอมซื้อ หรือไม่มีเงินจะซื้อ ก็เลยคอยลักตัดเชือกร่ม ของพลร่มบางคนที่ถูกลมพัดไปตกในป่าข้างสนาม การกระทำอย่างนี้ นับว่าอาจเสี่ยงต่ออันตรายที่พลร่มคนต่อ ๆ ไปที่ใช้ร่มชูชีพอันนั้นได้ แต่ตำรวจก็จับมือใครดมไม่ได้ เพราะผู้คนพลุกพล่านเต็มสนามไปหมด และจุดที่ร่มถูกพัดไปตกก็ไกลจากจุดที่เจ้าหน้าที่รักษาการณ์อยู่มาก

วันนั้นจำได้ดีว่า มีคนแก่โชคร้าย ถูกกระป๋องควันสีที่ติดมากับพลร่มดิ่งพสุธา ตกใส่หัวแตกเลือดอาบ แต่คงไม่เป็นไรมากนัก เพราะสามารถเดินไปให้หมดที่สุขศาลาเย็บแผลได้เอง

เป็นมหกรรมที่ชาวบ้านร้านตลาดยุคนั้น ตื่นเต้น และเอาไปพูดคุยกันได้เป็นเดือน ๆ

สำหรับเราเด็ก ๆ ก็ต้องทำร่มชูชีพจากถุงพลาสติก เอาตุ๊กตารูปทหารที่แถมมาพร้อมกับขนม มัดด้วยเชือกสี่มุม แล้วขึ้นไปโยนลงมาจากชั้นสองของบ้าน หรือขึ้นไปโยนจากต้นไม้บ้าง

เป็นการเล่นสนุกที่สร้างจินตนาการได้ดีมาก

ไม่ว่ากี่ยุคผ่านไป การกระโดดร่มยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจพวกเราอยู่ไม่เสื่อมคลาย...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:43:46 น.  

 
ผู้กล้าเท่านั้นที่จะโดดร่มได้..........จำได้ว่าเมื่อโดยประมาณ 30 ปีก่อนโน้น เคยไปโดดหอที่ค่ายทหารแถวๆหัวหิน โอ้...ใจหายใจคว่ำ เขาบังคับให้โดด 3 ครั้งแล้วได้ปีกติดที่เสื้อ ใช้ติดตอนแต่งเครื่องแบบลูกเสือ โห...โก้น่าดู

ขอบคุณสำหรับสัญลักษณ์การโดดร่มที่ค้นคว้าและค้นหาให้ศึกษาเป็นความรู้ ไม่ใช่ของหาง่ายๆเลย ขอชมเชยผู้ที่ได้เครื่งหมายเหล่านี้...เขาเป็นผู้กล้าโดยแท้.....


โดย: nathanon วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:39:21 น.  

 
ชอบภาพวืดืโอมากครับ อินไซน์

ว่าแต่ทำไมนักโดดร่มหายใจดังขนาดนั้นละครับ แต่พอร่มกางแล้วเงียบกริบ

อย่างไรก็ตามขอยกย่องนักโดดร่ม(ยกเว้นโดดเรียน)ทุกผู้ว่ากล้าหาญที่สุด

ตอนลุงยังเด็ก ๆ ประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๗ ไปดูการโดดร่มของทหารนักกระโดดร่มที่สนามบินทหาร นครศรีธรรมราช มีคนหนึ่งกระโดดลงมาร่มไม่กาง และดินทรายตรงนั้นไม่แน่น ไม่แข็ง จึงเป็นหลุมลึกเท่าตัวคนให้เห็นอยู่เป็นปีสองปี(ลุงชอบพาเพื่อนไปดูหลุม)

ต่อ ๆ มาประมาณปี พ.ศ ๒๕๑๕ ลุงเป็นครูแล้ว ที่ปะทิว มีการกระโดร่มที่ตำบลทะเลทรัพย์ ร่มไม่กางอีกคน แต่คนโดดได้เลื่อนยศเป็นเรืออากาศเอก และมีชื่อติดที่ป้ายหน้าโรงเรียนว่า "อนุสรณ์แด่...

ต่อมา พ.ศ.๒๕๓๒ พายุไต้ฝุ่นเกย์คร่าอาคารเรียนเก่าไปเสีย อาคารสร้างใหม่เป็นตึก ๒ ชั้น ไม่มีคำว่าอนุสรณ์แก่ใครอีก

แต่ถ้าจะให้เป็นอนุสรณ์ก็ "อนุสรณ์แด่นักโกงกินเงินงบประมาณทั้งหลาย ขอให้อกุศลที่ท่านทำจงนำพาท่านไปสู่นรกภูมิด้วยเถิด" (น่าจะสลักข้อความนี้ไว้ทุก ๆ ที่ในอำเภอปะทิวที่มีการก่อสร้างหรือจ่ายเงินงบประมาณ)

หลังจากนั้นลุงก็ยังชอบดูการกระโดดร่มมาเรื่อย ๆ หลัง ๆ นี่มีดิ่งพสุธา ที่น่าขำที่สุดก็เมื่ออำเภอปะทิวจัดงานวันเด็กปี ๒๕๔๖-๔๗ ถ้าจำไม่ผิด หลังจากสนามบินร้างเครื่องโดยสารไม่มาลง

รอบสาย ๆ นักโดดร่มกระโดดร่มให้เด็ก ๆ ดู ที่สนามบินชุมพรก่อน ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไร

แต่รอบบ่าย เครื่องขนเอานักกระโดดไปกระโดดที่ชายหาดตำบลสะพลี ให้ผู้ใหญ่ดูเพราะมีคนไปเที่ยวนั้นกันมาก

นักโดดคนหนึ่งตกลงไปในทะเลแต่เขาเอาเรือไปรอรับเลยไม่เป็นไร ส่วนที่เป็นไรคือพวกที่ลงมาค้างแขวนอยู่กับต้นไม้ กว่าคนจะตามไปช่วยได้ก็กลายเป็นแบตแมนอยู่นานพอดู และแสนทุลักเลกว่าจะลงมาได้ อิ ๆ ๆ

ทีหลังแน่จริงกระโดดลงมาบนหลังคารถบรรทุกพ่วงยาว ๆ ที่แล่นบนถนนหลวงดูซีครับ น่าจะเวิร์กกว่านะผมว่า


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:15:40 น.  

 
หวัดดีค่าคุณ IM ป้าเดซี่มาช้าอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ พักนี้ยุ่งทั้งงานราษฎร์งานหลวงเลย

ชอบภาพแรกจัง สวยอ่ะ

เวลาเห็นเค้าแสดงโชว์แบบนี้สงสัยจริง ๆ ว่าตอนซ้อมน่ะเค้าทำกันยังไง แล้วต้องซ้อมกันกี่ครั้งถึงจะออกมาสวยสมบูรณ์แบบอย่างนี้

เครื่องหมายแบบนี้เห็นบ้อยบ่อย เพิ่งจะรู้ว่าเป็นเครื่องหมายนักโดดร่ม

พูดถึงเรื่องโดด ๆ เนี่ย ตอนเด็ก ๆ นอกจากป้าเดซี่เคยโดดรั้ว โดดโรงเรียนแล้ว ยังเคยโดดหอมาก่อนด้วยค่ะ

โรงเรียนเก่าสมัยอยู่มัธยมต้น เป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อทางด้านทำกิจกรรม เด่นสุดก็กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีนี่แหละค่ะ

โรงเรียนจะพาไปโดดหอตามค่ายทหารบ่อย ๆ ที่น่ากลัวสุดรู้สึกจะอยู่ที่ชะอำรึไงเนี่ย สูงค่อด ก้าวขึ้นบันไดหอไปแต่ละก้าวเนี่ย ขาสั่นพั่บ ๆ แล้วก็ครูที่นี่จะไม่สปอยล์เด็ก

ทุกคนต้องโดด!!

พวกเราก็ต้องยอมค่ะ เกรงใจครู (ไม่ใช่กลัวนะ-ครูที่นั่นน่ารักทุกคน)

เป็นประสบการณ์ที่นึกถึงเมื่อไหร่ก็อดยิ้มไม่ได้ซักที
ให้มาโดดตอนนี้น่ะเหรอ บันจี้จั้มพ์ที่เค้าเคยฮิต ๆ กันก็เหอะ ไม่มีทาง !!


โดย: Oops! a daisy วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:43:06 น.  

 
อ้าว!! ลืมถามไป..
แล้ว เจ้าของบ้านนี่อยู่ตรงไหนของภาพ(โดดร่ม)คะ
สีแดง/สีขาว หรือสีน้ำเงิน..

มุมมองของนักโดดร่ม..
ตอนแรกหายใจหอบเชียวนะคะ..
พอโดดลงไป..โห..!!! สวยงามปานอยู่บนสรวงสววค์ฉันใดก็ฉันนั้นเลย..
ขนาดแค่เกาะขอบกางเกงไปด้วยนะเนี่ยะ..
สนุกน่าดู......ค่ะ
ชอบ!! ชอบ!! ชอบ!!


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:03:45 น.  

 
ชอบโดดร่มเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะตอนเรียนหนังสือ...อิอิ..

.............

ตอนเด็กๆ ชอบดูมากค่ะ

แต่โตขึ้น..หวาดเสียว และคิดว่า เวลาเรามีงานพิธี

หรืองานวันเฉลิมพระชนมฯอะไรเหล่านี้ ไม่ควรมีการกระโดดร่มโชว์ค่ะ

เพราะถ้าผิดพลาดพลั้งไป...งานมงคลจะเสียหายกลายเป็นไม่ดีไปซะ


นักโดดร่ม มีภาพเป็นฮีโร่ในใจเลยค่ะ...

พอมาเห็นเหรียญแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าสวยสมกับวีรกรรม

เครื่องหมายนักโดดร่ม ทอ. ชั้น 3 สวยคลาสสิคมากๆค่ะ



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:38:21 น.  

 
รูปแรกเจ๋งมากเลย...โดดร่มแบบนี้ไม่ถนัดค่ะ แต่ถ้าที่ทำงานจะถนัดเพราะทำบ่อยมาก....อิอิ.....
ยังไม่ได้เอารูปเก่าในอดีตมาลงให้เลย....แต่ถ้าจะลงจะมาแจ้งข่าวนะคะ


โดย: popang (popang ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:28:17 น.  

 
ข้อมูลเพียบเช่นเคย อ่านแล้วได้ความรู้แบบเต็ม ๆ ขอบคุณนะคะ

เคยดูข่าวการกระโดดร่มอยู่หนนึงเมื่อนานมาแล้ว ในเมืองไทยนี่แหละค่ะ มีต่างชาติมาร่วมวงหลายชาติ นักโดดร่มไทยเก่งนะคะ โดดลงมาทำออกมาหลายรูปหลายแบบ ดูแล้วตื่นตาตื่นใจมากเลยค่ะ


โดย: haiku วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:37:14 น.  

 
ว่ากันว่าการได้มองโลกจากมุมสูงจะได้เห็นโลกแปลกเปลี่ยนไป แต่ปกติเราหาโอกาสที่จะขึ้นไปมอง หรือปฏิบัติการอย่างว่ายากยิ่งครับ ได้แต่อิจฉาพวกนกและมอบสัญลักษณ์ให้เป็นสัตว์แห่งเสรีภาพ...ผมก็อยากกระโดดร่ม แต่ไม่รู้ว่าต้องฝึกนานเท่าไหร่ หรือเอาเข้าจริงจะกล้ากับเขาไหม


โดย: sarntee วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:37:21 น.  

 
สวัสดีครับ
ท่านเจ้าของกระทู้แรก จะเอาภาพมาลงเพื่อให้ความรู้แก่บุคคลทั่วๆไป กระผมในฐานะของสมาชิกค่ายฝึกนักกระโดดร่มของ ตร. ขอติงสักนิดเพื่อจะได้ไม่มีผู้เข้าใจผิดอีกต่อไป ดังนี้
เครื่องหมายนักกระโดดร่มของตำรวจ มีอยู่เพียง 5 ชนิดเท่านั้น รายละเอียดคือ (1) ชั้นพิเศษ รูปร่มชูชีพกางเต็มทางดิ่งอยู่เหนือรูปอาร์ม พื้นของรูปอาร์มทำด้วยไหมสีธงชาติ มีดิ้นเงินปักเป็นวงรอบ 1 เส้น ตรงกลางมีรูปนักโดดร่ม ปักด้วยดิ้นเงินประกอบด้วยปีกนกทั้งสองข้าง ขนาดของปีก 4 ซ.ม.ส่วนสูง 2 ซ.ม. ปักด้วยดิ้นเงิน มีดาวโลหะสีเงินรูปห้าแฉก1 ดวง อยู่เหนือร่มและมีช่อชัยพฤกษ์โอบใต้ดาวกับมีดาวโลหะสีเงินขนาดเล็กรูปห้าแฉกติดบนพื้นปีกตรงกลางข้างละดวง สาบทำด้วยสักหลาดสีเลือดหมู
(2) ชั้นที่1 เช่นเดียวกับชั้นพิเศษ เว้นแต่ไม่มีดาวบนพื้นปีก (3) ชั้นที่ 2 เช่นเดียวกับชั้นที่ 1 เว้นแต่ไม่มีช่อชัยพฤกษ์ (4) ชั้นที่ 3 เช่นเดียวกับชั้นที่ 1 เว้นแต่ไม่มีดาวและช่อชัยพฤกษ์ (5) ชั้นกิตติมศักดิ์ มีลักษณะเช่นเดียวกับ(2) เว้นแต่สาบทำด้วยสักหลาดสีฟ้าและตรงกลางไม่มีรูปนักโดดร่ม ที่เหลือนอกจากนี้ ปลอมและไม่มีอยู่จริงในระเบียบฯ ล้านเปอร์เซ็นต์ อย่าได้ซื้อมาติดเพราะเสียเงินฟรีแล้วได้ปีกที่ไม่มีความหมายใด ๆ เลย ฝากให้อ่านและคิดตามที่บรรยายเปรียบเทียบกับรูปภาพก็แล้วกันนะครับ ชิ้นไหนจริง ชิ้นไหนทำปลอม คงพอจะดูออก ไหนๆ จะสะสมทั้งทีก็ให้ได้ของดีและมีความหมาย มิใช่เจ๊กทำขายแล้วคนอยากได้อยากมีแล้วก็ซื้อ เสียดายเกียรติศักดิ์ของคนประดับ และเกียรติของเครืองแบบที่ทรงเกียรติครับผม


โดย: สมาชิกค่ายฝึกนักกระโดดร่ม ตร.PARU52 IP: 222.123.155.101 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:18:26:55 น.  

 

ขอบคุณคุณสมาชิกค่ายฝึกนักกระโดดร่ม ตร.PARU52 ที่ได้ให้ข้อมูลสำหรับปีกนักโดดร่มของตำรวจที่ใช้ในปัจจุบันครับ

ปีกที่แสดงทั้งหมดนี้เป็นปีกนักโดดร่มที่เคยผลิตในประเทศไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ที่ผมรวบรวมมาแสดงนี้เพื่อการศึกษาและค้นคว้าต่อยอดขึ้นไป เพราะข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยที่สร้างปีกเหล่านี้มีน้อยมาก ซึ่งหลายแบบหลายชนิดที่แสดงนี้ไม่มีการผลิตมานานแล้ว และหาซื้อไม่ได้

ส่วนปีกที่ทำปลอมขึ้นมานั้น คิดว่าน่าจะมี แต่เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ?


โดย: Insignia_Museum วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:20:04:41 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วจินตนาการต่อว่าคุณอิมฯ คงเคยเป็นพลร่มมาก่อน และคง "ดิ่งพสุธา" ด้วย ที่บ้านมีนักดิ่งฯ อยู่คนหนึ่ง ดิ่งมาแล้วหลายสิบครั้ง (สมัยยังหนุ่มค่ะ) ไปกระโดดทีไรไม่เคยตามไปดู เพราะกลัวร่มไม่กาง แล้วหล่นลงกระแทกดินจนร่างแหลกเหลว (เหมือนแช่งเลยเนอะ) แต่โชคดีที่ยังรอดมาทะเลาะกันต่อได้ ฮิฮิ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:33:17 น.  

 
การดิ่งพสุธา หรือ หล่นลงมาจากฟ้า

ความสูงตั้งแต่ 15,000 ฟิต

ต้องติดเครื่องช่วยหายใจครับ

ด้วยความเร็ว 52 เมตร / วินาที

ในท่ามาตรฐาน Stable

มีโอกาส ลองดูครับ มันส์ ส์ ส์ ส์


โดย: F. 27 ทร. IP: 1.2.136.233 วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:14:39:44 น.  

 
ของ นศท. (รด.)จะมีการกระโดดร่มอยู่ 1 หลักสูตร เรียกว่าการกระโดดร่มแบบพาราเซล (มีเครื่องหมายแสดงอยู่ด้านบนครับที่เขียนบนปีกว่า พาราเซล ) ซึ่งจะมีการรับสมัคร นศท.ชั้นปีที่ 4 ชาย หญิง รุ่นล่ะ ประมาณ 100 คน (ปัจจุบันมี 2 รุ่น ส่วนกลาง และ ส่วนภูมิภาค ) จะมีการทดสอบร่างกายทดสอบจิตใจ ผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้ทำการขึ้นโดด โดยการโดดคือการใช้รถฮัมวี่ ลากตัวเราพร้อมร่มขึ้นไปบนฟ้า และครูจะให้สัญญาณเพื่อปลดสลักเชือกที่ลากเราขึ้นไปก้อจะหลุดจากตัวเรา เราจะต้องบังคับร่มลงสู่พื้นดินเองครับ


โดย: PARASAIL 5 IP: 203.146.197.34 วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:2:01:15 น.  

 
ขอสอบถามปีกโดดร่มของเบลเยี่ยมทำไมต้องติดที่เเขนครับ


โดย: Plug IP: 182.232.29.164 วันที่: 11 มกราคม 2563 เวลา:21:13:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.