happy memories
Group Blog
 
 
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 มกราคม 2549
 
All Blogs
 

AUTUMN IN MY HEART(1)






"AUTUMN IN MY HEART" ละครเกาหลีแนว romantic drama ที่ดีและรักมากอีกเรื่องหนึ่ง พอ ๆ กับหนังทีวีอเมริกันเรื่อง "BEAUTY AND THE BEAST" และละครไทยเรื่อง "คำมั่น-สัญญา" ที่กำกับโดยคุณฉัตรชัย เปล่งพานิช แสดงนำโดยคุณจอห์นนี แอนโฟเนและคุณสลักจิต ดลมินทร์ ทั้งสองเรื่องฉายทางช่อง ๓ เมื่อหลายปีมาแล้ว หนังและละครทั้ง ๓ เรื่องเป็นเรื่องของความรักก็จริงแต่จะไม่เน้นฉากเซ็กซ์ ความรุนแรงหรือบทอิจฉาริษยาที่ผู้สร้างคิดว่าคนดูชอบ แต่จะเน้นบทพูดที่กินใจ การแสดงที่เข้าถึงบทบาท องค์ประกอบศิลป์ที่ช่วยขับเน้นให้ละครมีความงดงามลึกซึ้ง ดูจบแล้วความรู้สึกที่ได้จากละครจะติดอยู่ในใจเป็นเวลานาน หลังจากได้ดูเรื่อง "คำมั่น-สัญญา" และ "BEAUTY AND THE BEAST" แล้วก็คิดอยู่เสมอว่าจะมีหนังหรือละครแบบนี้มาให้ดูอีกเมื่อไหร่ ระหว่างที่รอก็มีละครที่ชอบผ่านมาเรื่อย ๆ อย่างละครญี่ปุ่นเรื่อง "สวรรค์ลำเอียง", "ความรักสีขาว" ของทางช่อง ๓ และอีกหลายเรื่องที่เคยดูในช่อง JET TV ของ UTV จนได้มาดูเรื่อง "AUTUMN IN MY HEART" ก็เหมือนกับได้ดูสองเรื่องแรกไปพร้อม ๆ กันด้วย เรื่องนี้กับเรื่อง "คำมั่น-สัญญา" มีความคล้ายกันหลายอย่าง เช่น พระเอกรูปกายและหัวใจงดงาม รักมั่นคงแต่นางเอกเพียงผู้เดียว พระเอก นางเอกผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก คู่พระนางแสดงบทเศร้าได้ดีทำให้คนดูรู้สึกคล้อยตามได้ไม่ยาก ทั้งสามเรื่องเหมือนกันตรงที่นางเอกตายในตอนจบ บทดี เลือกผู้แสดงที่เหมาะสม การกำกับที่ประณีต และเพลงประกอบที่เพราะเหลือเชื่อ



ละครเรื่อง "คำมั่น-สัญญา" หลายคนอาจรู้จักดีแต่หนังชุดฝรั่งหลายคนคงส่ายหน้า ถ้าเคยได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้คงนึกภาพตามได้ไม่ยาก ขอบอกเรื่องย่อสักนิด เรื่องนี้เขาสมมุติให้ใต้เมือง New York เป็นอีกโลกหนึ่ง ที่มีทางติดต่อกับโลกภายนอกได้ทางท่อระบายน้ำของเมือง ที่นี่ยังเก็บสิ่งดี ๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการหรือลืมไปแล้ว เช่น หนังสือหายาก เครื่องจักรเก่า เด็กหลายคนเติบโตที่นี่รวมไปถึง Vincent ที่มีรูปร่างเป็นคนแต่ใบหน้าเป็นสิงห์โตถูกทิ้งไว้ตั้งแต่แรกเกิด อาศัยอยู่กับพ่อบุญธรรมที่เก็บเขามาเลี้ยง ให้ความรักและความเข้าใจเป็นอย่างดี แม้ Vincent จะมีสัญชาติญาณของความเป็นสัตว์ดุร้ายอยู่ในตัวแต่ก็มีความอ่อนโยน รักการอ่านและแต่งบทกวีได้ไพเราะ



ส่วนนางเอก Catherine สาวสวย ร่ำรวยเป็นอัยการของรัฐ เธอถูกทำร้ายแล้วนำมาทิ้งไว้ที่ใกล้ปากอุโมงค์ทางเข้า Vincent หลงรัก Catherine ตั้งแต่แรกเห็น นำเธอมารักษาในบ้านของเขาโดยไม่ยอมฟังคำเตือนของพ่อบุญธรรมที่ห้ามไว้ เพราะกลัวเรื่องยุ่งยากด้วยเหตุที่เรื่องของเมืองใต้ดินเป็นความลับ อาชีพของเธอทำให้ต้องพบกับเหตุการณ์ร้าย ๆ อยู่เสมอ แต่เขาก็มีพลังจิต รับรู้ความรู้สึกของเธอได้และคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ถึงแม้โทนหนังของเรื่อง "BEAUTY AND THE BEAST" และ "AUTUMN IN MY HEART" จะต่างกัน แต่แก่นของเรื่องก็เกี่ยวเนื่องด้วยของความรักอันลึกซึ้งในแบบเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังมีความประณีตในการถ่ายทำ ถ่ายภาพสวยและที่สำคัญบทพูดที่เพราะไม่แพ้ออทั่มเลย เช่น

ใน title ที่บรรยายถึง Catherine ไว้ว่า

"This is where the wealthy and the powerful rule. It is her world, a world apart from mine. Her name is Catherine. From the moment I saw her, she captured my heart with her beauty, her warmth, and her courage. I know then as I know now...she would change my life forever..."

(ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับเศรษฐีและผู้มีอิทธิพล เป็นโลกของเธอที่ต่างไปจากโลกของผม ชื่อของเธอคือแคทเธอรีน ตั้งแต่แรกเห็นความงาม ความอบอุ่น และความกล้าของเธอจับหัวใจผม นับแต่นั้นจนบัดนี้ผมก็รู้แล้วว่าเธอได้เปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาล...)



และบรรยายถึง Vincent ว่า

"He comes from the secret place, far below the city street, hiding his face from strangers, save from hate and harm. He brought me there to save my life. And now, wherever I go he's with me in spirit...for we have a bond stronger than friendship or love. And although we can not be together, we will never ever be apart..."
(เขามาจากที่ ๆ เป็นความลับ ลึกลงไปใต้มหานคร หลบลี้หนีหน้าไม่ให้ใครพบเห็น พ้นจากความเกลียดและภยันตราย เขาพาฉันไปที่นั่นเพื่อช่วยฉันให้รอดชีวิต และบัดนี้ไม่ว่าฉันจะไปแห่งหนใดจิตวิญญาณของเขาจะตามติดไปทุกที่ ด้วยเพราะเรามีความผูกพันที่มั่นคงยิ่งกว่ามิตรภาพหรือความรัก แม้ว่าเราจะร่วมชีวิตกันไม่ได้เราสองก็จะไม่มีวันแยกจากกัน...)

บทพูดที่ชอบมากอยู่ในตอนที่ Catherine รำลึกถึงความตายของแม่แล้วหวนนึกถึงตัวเอง และการมีชีวิตครอบครัวซึ่ง Vincent ให้เธอไม่ได้ ความรู้สึกเจ็บปวดและสับสนของเธอ ทำให้เขาจำต้องบอกให้เธอรักใครอื่นสักคน

"Seeing you in such pain because you dare to love. Knowing that I'm the reason to cause of that pain. It's more than I can bear to live with. It masks our dreams, so it must end... Catherine, you have a life waiting to be lived. That is the memory of what you are or what we share reminds you that love in this deepest and purest form it exists. Here's the memory that give you the courage...to love someone else..."

(เห็นคุณต้องเจ็บปวดแบบนี้เป็นเพราะคุณกล้าที่จะรัก และได้รู้ว่าผมเป็นต้นเหตุของความเจ็บปวดนั้น มันเกินทนที่ผมจะรับได้ มันขวางทางฝันของเรา เพราะอย่างนั้นมันต้องจบแล้วล่ะ...แคทเธอรีนคุณมีชีวิตข้างหน้าที่รอคุณอยู่ ความทรงจำในสิ่งที่คุณเป็นหรือในสิ่งที่เรามีร่วมกัน จะเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความรักอันลึกซึ้งและบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ความทรงจำนั้นแหละจะทำให้คุณกล้าที่จะ...รักคนอื่นได้...)

คำพูดแบบนี้จะมีอยู่ทุกตอนแล้วเขามักจะให้พระเอกเป็นคนพูด เสียงพูดของ Ron Pearlman ที่แสดงเป็น Vincent ก็เพราะมาก นอกจากนี้แล้วคนเขียนบทยังนำทั้งบทร้อยแก้วและร้อยกรองเพราะ ๆ มาประกอบเนื้อเรื่องในแต่ละตอนได้อย่างลงตัวอีกด้วย ฟัง CD ที่ Ron อ่านบทกวีประกอบหนังทีไรก็ทำให้นึกถึงและอยากดูอีกทุกที เสียดายที่หนังเลิกสร้างไปแล้ว

ปกซีดี Of Love And Hope
มีเพลงบรรเลงและบทกวีประกอบเนื้อเรื่องที่ Ron อ่าน



บางคนคงคิดว่า "AUTUMN IN MY HEART" เป็นละครน้ำเน่า อาจเพราะไม่ชอบละครแนวนี้เลยไม่ยอมดู แต่ว่าคนที่รักเรื่องนี้คงไม่คิดแบบนั้น ละครจบไปนานหลายปีแล้ว แต่ก็คงไม่เป็นละครทีวีธรรมดาที่ดูแล้วก็ผ่านไป คนที่รักออทั่มก็ยังพูดถึงกันอยู่ถึงจะไม่มากเท่าเมื่อก่อนก็ตาม อย่างในพันทิพเวลามีคนตั้งกระทู้ถึงออทั่มก็จะมีหลาย ๆ คนเข้าไปแจมกันทุกครั้ง และจนทุกวันนี้ ในเวบออทั่มและเอเชียนซีรีส์ของคนไทยก็ยังพูดคุยถึงละครและดาราที่แสดงกันอยู่ ไม่ว่าจะดูเรื่องนี้ซ้ำกี่หนความประทับใจก็ยังคงเดิม ยิ่งดูก็ยิ่งได้เห็นความละเอียดประณีตในงานที่ทำออกมา

ถึงจะเป็นละครรักแต่ฉากหวือหวาเรียกได้ว่าไม่มีเลย มีฉากจูบกันฉากเดียวซึ่งผู้กำกับก็กำหนดให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ทำออกมาได้อย่างซาบซึ้งปนเศร้า การสร้างหนังหรือละครรักสักเรื่อง ผู้กำกับคงต้องคิดอยู่ในใจแล้วว่าจะมีฉากแบบนี้มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้คนดูไม่รู้สึกว่ามีน้อยเกินไป ในทางกลับกันถ้ามีมากกว่านี้ ออทั่มคงเป็นเหมือนละครรักธรรมดาที่เคยได้ดูกันมา แต่นั่นไม่สำคัญหรอก คุณค่าและองค์ประกอบอื่นของละครต่างหากที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีเสน่ห์จับใจคนดู ระหว่างจุนโซและอึนโซ เราก็แทบจะไม่ได้เห็นสองคนแสดงความรักต่อกันที่เกินเลย แต่คนดูก็รู้สึกได้ว่า ความผูกพันของเขาและเธอเป็นเนื้อแท้ของความรักที่อยากจะทนุถนอม ให้ความอบอุ่น นุ่มนวลและประทับใจ หนังแน่วแน่ในแนวทางที่ตั้งไว้โดยไม่ต้องอาศัยฉากอิจฉาริษยา ด่าทอตบตี หรือบู๊ล้างผลาญมาประกอบ ก็ทำให้เราจดจ่ออยู่กับหนังตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องได้





plot ของเรื่องนี้ไม่ซับซ้อนออกจะซ้ำซากด้วยซ้ำ ของไทยก็มีอยู่เหมือนกัน เริ่มต้นเรื่องด้วยลูกของสองครอบครัวถูกสลับตัวกัน แต่หลังจากนั้นแล้ว เรื่องนี้มีวิธีดำเนินเรื่องและผูกเชื่อมเหตุการณ์และการกระทำของตัวละคร พร้อมกับให้เหตุผลของการกระทำที่คนดู ไม่รู้สึกว่ามีส่วนใดเกินเลยความเป็นจริง โดยมีความรักอันลึกซึ้งเป็นแกนหลัก การกำกับละครในแนวนี้ดูเหมือนไม่ยากเพราะเนื้อเรื่องเรียบง่าย ตัวละครไม่มาก อารมณ์ของตัวละครไม่ฉูดฉาด แต่ถ้าได้ผู้กำกับที่ไม่เข้าใจจุดสำคัญของเรื่องและลักษณะตัวละครให้ดี คุมโทนของละครไม่ตลอดรอดฝั่ง งานที่ออกมาคงไม่ดีและประทับใจขนาดนี้ โอซูเยียนร้อยเรียงเรื่องราวได้อย่างซาบซึ้ง ดูละครแล้วกลับไปอ่านหนังสือ ทำให้ได้รู้ความคิดและเบื้องหลังของตัวละครดีขึ้น ต้องชมผู้กำกับและคนเขียนบทที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง

มีบางตอนที่เพิ่มจากในหนังสือ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของนำหนังสือมาทำเป็นหนังหรือละคร แต่บทที่เพิ่มขึ้นมาก็เชื่อมกับอารมณ์ของบทประพันธ์เดิมได้เนียนสนิท ไม่ได้ทำให้แนวเรื่องผิดไปหรือเนื้อเรื่องเดิมเสียรสแต่อย่างใด รายละเอียดที่เพิ่มขึ้น กลับยิ่งทำให้คนดูเข้าใจเรื่องได้ดียิ่งขึ้น บางตอนจะดีกว่าเสียอีก ที่เปลี่ยนไปเลยก็มีเหมือนกันแล้วเป็นจุดที่ค่อนข้างเด่นคือ เปลี่ยนจากที่อึนโซอยากเกิดใหม่เป็นต้นไม้แทนทะเล และตุ๊กตาเปลี่ยนเป็นถ้วยที่เพนท์รูปหน้าของแต่ละคนในครอบครัว แต่คนเขียนบทเก่งตรงที่ เปลี่ยนแล้วบทที่เขียนเสริมจุดที่เปลี่ยนในแต่ละช่วงของละครก็ได้ทำได้ไม่ด้อยไปกว่าในหนังสือเลย อย่างเช่น ต้นไม้ของอึนโซสลักชื่อของเธอคู่กับจุนโซ ในหนังสือเขียนว่าสลักไว้บนหิน แม้ตัวหนังสือบนหินจะให้ความรู้สึกที่หนักแน่น แต่ต้นไม้ก็ให้ความรู้สึกชุ่มเย็นและอบอุ่นกว่า บทที่เขียนให้จุนโซเดินเข้าไปที่ต้นไม้ของอึนโซ ค่อย ๆ มองหาจนเห็นสองชื่ออยู่เคียงกัน แล้วนึกถึงคำพูดของเธอที่ว่าสลักชื่อคนรักคนแรกไว้ด้วยกัน หัวใจและรอยยิ้มของจุนโซก็แย้มออกพร้อม ๆ กับรอยยิ้มของคนดู








:คำพูดของอึนโซที่บอกว่าอยากเกิดใหม่เป็นต้นไม้ จะอยู่ในบทพูดช่วงที่สำคัญ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง
:สองคนหนีไปที่ไร่ อึนโซทวนคำพูดที่เคยบอกพี่ชายว่าอยากเกิดใหม่เป็นต้นไม้ จุนโซย้ำว่าจำได้เสมอและขอเธอแต่งงาน





:เมื่อรู้ว่าอึนโซกำลังจะตาย จุนโซมองต้นไม้ใหญ่ปวดร้าวใจที่เธอไม่มีวันเป็นอย่างที่เธอหวังไว้ได้




ถ้วย ๔ ใบที่วาดรูปหน้าพ่อ แม่ พี่ชายและตัวเธอ ก่อนจะกลับไปอยู่กับแม่ที่แท้จริง สิ่งเดียวที่อึนโซนำติดตัวไปก็คือถ้วยรูปหน้าตัวเอง และในวันเกิดก่อนจากกัน จุนโซมอบถ้วยรูปหน้าเขาเองให้น้องเป็นของขวัญ ตัวแทนความผูกพันเดียวระหว่างเขาและเธอ




เราจะได้เห็นถ้วยในฉากที่สองคนต้องจากกันไม่ว่าจะเป็น
:ครั้งแรกที่ได้พบกัน ชีเน่ต้องการให้อึนโซจากไป เธอวางถ้วยตรงหน้าพี่ชายพูดเป็นนัยว่าต้องจากกันแล้ว




:อึนโซทิ้งถ้วยไว้ให้อยู่แทนตัวเธอกับครอบครัวที่เธอรักก่อนจากไปรักษาตัว คนเขียนบทเข้าใจเขียนให้จุนโซได้เห็นถ้วย ๔ ใบวางเรียงกัน เป็นเหมือนคำบอกลาของอึนโซ จุนโซหายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่มองถ้วยอย่างเจ็บช้ำเข้าใจว่าอึนโซจากเขาไปแล้วจริง ๆ




:ผู้กำกับใช้ถ้วยแทนความรู้สึกของจุนโซซึ่งบางคนอาจไม่ทันสังเกต อยู่ในฉากที่จุนโซขอเวลายูมีไปตั้งสติแล้วจะไปเมืองนอกด้วยกัน ตอนแรกที่จุนโซฝากถ้วยไว้กับยูมี พอวางถ้วยลงใบหน้าบนถ้วยหันหน้าไปคนละทาง ถัดมาอีกฉากที่จุนโซนั่งมองถ้วยแล้วหมุนถ้วยอย่างเบามือภาพ สุดท้ายในฉากนี้จะเห็นภาพใบหน้าบนถ้วยหันเข้าหากัน ความรักของจุนโซที่มีต่ออึนโซคือสิ่งพิเศษเสมอ ไม่มีวันเป็นเหมือนถ้วยที่เขาฝากยูมีไว้ และบอกเธอว่าจะเป็นเพียงถ้วยธรรมดาเมื่อเขากลับมาหาเธอ





เรื่องนี้จบแบบเศร้าก็จริง แต่คนดูจะรู้สึกเต็มอิ่มกับความรักระหว่างอึนโซและจุนโซที่มีทั้งความสุข เศร้า ตอนที่จุนโซและอึนโซใจตรงกัน กลับไปที่ไร่เพื่อบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย ชอบตอนนี้มากทั้งหวานทั้งเศร้าเลย เวลาสุขคนดูก็จะยิ้มให้กับฉากน่ารัก ๆ ที่แทรกไว้ผ่อนอารมณ์คนดู อย่างในตอนที่สองคนหนีไปที่ไร่ด้วยกัน เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดของหนัง หรือจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ ก็ตามเช่น ตอนที่สองคนชวนกันไปเที่ยวบนเขาหลังจากถูกเร่งรัดให้แต่งงาน พี่น้องใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข
























ฉากที่สองคนเล่นเป่ายิ้งฉุบตรงกระได,ฉากที่จุนโซโกหกอึนโซเรื่องทำอาหาร พอถูกจับได้ก็สารภาพว่าไม่กล้าบอกตรง ๆ ว่าคิดถึงเธอ, และอีกฉากที่อึนโซชวนพี่ชายถ่ายสติกเกอร์ด้วยกัน สามฉากสั้น ๆ นี้ดูแล้วก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้












ฉากบอกรักของพระเอกเรื่องนี้ทำออกมาได้หวานจริง ๆ ภาพที่ออกมาสื่อให้เห็นว่า ทั้งจุนโซและอึนโซตกหลุมรักกันแล้วโดยไม่ต้องใช้คำพูดเลย












และในตอนที่มีทั้งสองอารมณ์อยู่ใกล้กันมาก เรียกว่าคนดูยิ้มได้ทั้งที่น้ำตายังเปียกแก้มอยู่เลย คือหลังจากที่จุนโซยอมไปเยี่ยมน้อง ในฉากนี้ให้อารมณ์เศร้าสะเทือนใจ คนดูยังเช็ดน้ำตาไม่ทันจะแห้ง ก็เห็นจุนโซยิ้มได้เมื่ออึนโซฟื้นขึ้นมาแล้วพาเธอไปที่ชายหาด เราก็พลอยอิ่มเอมไปกับคนทั้งสองที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ซึงฮอนกับเฮเคียวเล่นฉากนี้ได้น่ารักมาก
























พูดถึงบทเศร้า ไม่บ่อยนักที่ดูละครแล้วจะรู้สึกเศร้ากว่าตอนอ่านหนังสือ เรื่องนี้ก็จะให้ความรู้สึกแบบนั้นแหละ ละครมีฉากเศร้าอยู่หลายฉากมากแต่ไม่ถือว่าฟุ่มเฟือย เพราะเดินตามรอยหนังสือที่เขียนไว้ เป็นส่วนที่ดีและชอบที่สุดของละครเรื่องนี้ ชอบที่บทเศร้าเรื่องนี้ไม่ฟูมฟาย ผู้กำกับวางจังหวะอารมณ์ของละครได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน คนเล่นก็แสดงได้อย่างพอเหมาะ แม่นยำในอารมณ์ที่ใช้แสดง ดาราเรื่องนี้เล่นบทเศร้าได้ดีทุกคน แม้แต่ดาราที่เล่นตอนเด็ก คงพูดไม่ได้ว่าฉากไหนเศร้าที่สุด แต่ละฉากมีความลงตัว เข้าถึงอารมณ์เศร้าสะเทือนได้ถึงจุดที่ควรจะเป็น ไม่มากไปหรือน้อยไป ผู้กำกับใช้ทั้งมุมกล้อง การให้แสง และดนตรีทำให้ได้ภาพที่บีบอารมณ์คนดูได้ไม่ยาก เรื่องนี้ปูพื้นอารมณ์เศร้าตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วค่อย ๆ ไล่ความรู้สึกให้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามเหตุการณ์ในเรื่อง และเริ่มเศร้ามากขึ้นจากตอนที่ได้เห็นหน้าซึงฮอนครั้งแรก ที่เขาหยุดยืนหน้าอุโมงค์ แล้วนึกถึงอดีตอันสดใสของเขากับอึนโซด้วยดวงตาที่เศร้าแฝงด้วยร่องรอยรำลึกจดจำ




ฉากจุนโซคุยโทรศัพท์กับอึนโซพูดถึงคนที่เขาตามหา และฉากที่จุนโซบอกเทซกว่า ที่กลับมาก่อนวันหมั้นวันเดียว เพียงเพื่ออยากจะมาบอกคนที่ยังตามหาไม่พบว่า "พรุ่งนี้พี่ชายจะหมั้นแล้ว" รวมไปถึงในตอนอวสานหลังจากอึนโซตายไปจนจบเรื่อง ผู้กำกับให้ภาพและบรรยากาศของฉากเหล่านี้ที่เรียกว่า nostalgic feeling (ความรู้สึกหวนหาอดีตที่ไม่มีวันกลับคืนมา) ที่ชัดเจนมาก และอารมณ์แบบนี้จะอยู่คู่กับจุนโซแทบทั้งเรื่อง





และต้องชมมากเป็นพิเศษก็ตรงที่ ผู้กำกับทำให้เรารู้สึกเศร้าได้โดยที่ใช้คำพูดแต่น้อย หรือบางทีไม่ต้องมีคำพูดสักคำ เช่น
:ฉากที่จุนโซยืนนิ่งอยู่ที่หน้าอุโมงค์ แล้วขี่จักรยานไปยังที่ต่าง ๆ รำลึกถึงความสุขที่เขาและอึนโซเคยมีด้วยกันเมื่อวันเก่าก่อน เป็นภาพความหลังที่ประทับอยู่ในใจจุนโซอย่างไม่ลืมเลือน





:ฉากที่สี่คนช่วยกันตากผ้าที่ย้อมตรงหน้าลานที่พักของจุนโซ คนดูจะได้เห็นสีหน้าที่แสดงความรู้สึกเดียวกันของแต่ละคน ขณะที่เฝ้ามองคนที่ตนรักยิ้มแย้มกับคนอื่น





:จุนโซใช้นิ้วก้อยเขาแตะนิ้วก้อยเธอแทนคำบอกรัก และอึนโซใช้วิธีเดียวกันบอกลาพี่ชายในร้านกาแฟ










wallpaper งาม ๆ ของฉากหวานค่ะ
















บีจีจากคุณญามี่

Free TextEditor





 

Create Date : 01 มกราคม 2549
12 comments
Last Update : 18 กรกฎาคม 2565 9:01:22 น.
Counter : 6220 Pageviews.

 

ลองดูเรื่องI'm sorry,I love you ดูนะคะ
รับรองต้องชอบแน่ๆคะ

 

โดย: มองดูท้องฟ้า....ไม่เป็นเช่นเคย 2 มกราคม 2549 14:02:18 น.  

 

ได้ยินกิติศัพท์เรื่องนี้มานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูสักทีค่ะ
คิดว่าต้องชอบแน่ๆเพราะเป็นแนวเดียวกับออทั่ม
เขาว่าพระเอกเล่นดีเหลือหลาย ชอบเขาตั้งแต่เรื่องฺBaliแล้วค่ะ

 

โดย: haiku 2 มกราคม 2549 15:39:10 น.  

 

ไม่เคยดูครับ แต่คุณไฮกุนำเสนอจนอยากจะดูเลย

 

โดย: Johann sebastian Bach 2 กุมภาพันธ์ 2549 21:34:45 น.  

 

อย่างงี้แสดงว่าคุณBachคงไม่ใช่สาวกละครเกาหลีแน่ๆ
แนะนำค่ะ แนะนำ ออทั่มนี่เป็นสุดยอดละครเกาหลีค่ะ
แต่บอกไว้ก่อนว่าเศร้ามากกกกกกกกกกก ดูกี่หนก็ร้องไห้จนตาบวม ถึงยังงั้นก็ดูแล้วดูอีกได้ไม่เบื่อเลยค่ะ

 

โดย: haiku 3 กุมภาพันธ์ 2549 18:55:02 น.  

 

จำหน่ายซีรี่ส์เกาหลี รักนี้ชั่วนิรันดร์ autumn in my heart DVD 3 แผ่นจบ 150 บาท พากษ์ไทย


ซี่รี่ส์เกาหลีรัก4ฤดูกาลจะมาฉายช่อง7 ช่วงปิดเทอมคะ
- WINTER LOVE SONG เพลงรักในสายลมหนาว DVD 3 แผ่นจบ 150 บาท พากษ์ไทย
-- รักนี้ชั่วนิรันดร์ autumn in my heart DVD 3 แผ่นจบ 150 บาท พากษ์ไทย
---Spring Waltz ดนตรีรักหัวใจปรารถนา DVD 4 แผ่นจบ 180 บาท DVD 4 แผ่นจบ 180 บาท พากษ์ไทย
- -Summer Scent อุ่นไอรักหัวใจดวงเดิม DVD 4 แผ่นจบ 180 บาท ซับไทย

โปรโมชั่น
ถ้าชื้อสินค้า 2 เรื่องขึ้นไปพี่มีOST เพลงประกอบซี่รี่ส์เป็นของแถมให้จ้า สินค้าทุกอย่างจัดส่งให้ฟรีคะ แบบลงทะเบียน ป้องกันของสูญหาย ได้รับของแน่นอน เพียงที่อยู่มีคนคอยเซ็นรับเป็นพอจ้า
สนใจติดต่อ 0839193199 ข้าว
เมล yungshiki_vcd@hotmail.com

 

โดย: 235 IP: 58.64.116.210 5 มีนาคม 2552 1:18:44 น.  

 

thanks for this web / i like very much / i'm happy

 

โดย: tuk IP: 58.8.80.210 2 ธันวาคม 2552 15:23:41 น.  

 

ขอบคุณคุณtukที่แวะมานะคะ ดีใจที่เจอคนชอบซีรีส์เรื่องเหมือนกันค่ะ

 

โดย: haiku 3 ธันวาคม 2552 10:39:40 น.  

 

ได้อ่านที่คุณhaikuเขียนบรรยายเล่าเรื่องโดยย่อของละครแต่ละเรื่องต้องขอชมว่าเขียนออกมาได้อย่างลึกซึ้งจนทำให้ละครเรื่องนั้นเกิดคุณค่ามากขึ้นอีก ขอชมจากใจ
ถ้าหากว่าคุณhaiku ได้เขียนบทละครสักเรื่องออกมา ผมจะคอยติดตามแน่ๆ

 

โดย: p-rin IP: 114.128.135.237 27 กุมภาพันธ์ 2553 18:25:43 น.  

 

ขอบคุณคุณp-rinที่แวะมาอ่านบล๊อคซีีรีส์เรื่องโปรดนะคะ ทีีจริงก็นึกอยากเขียนบทเหมือนกัน แต่ความสามารถยังไม่ถึง เลยได้แต่เม้าท์ถึงหนังกะละครที่ชอบอย่างเดียว

 

โดย: haiku 28 กุมภาพันธ์ 2553 10:54:22 น.  

 

หัวใจกำเริบอย่างแรง เมื่อเห็นข่าว Remake Autumn ของพวกเรา..
บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเปล่า ที่จะเห็นเงาจุนโซในร่างของคนอื่นที่แม้จะคุ้นเคย..
12 ปีที่ผ่านมา.. ซีรีย์เรื่องนี้ไม่ใช่ละครเรียกน้ำตาเท่านั้น... หลายๆคนพบ "someting" ที่ซ่อนอยู่อย่างไม่น่าเชื่ิอ...

แวะมาทักทายค่ะ... ไม่แน่ใจว่าจะตามดู version Remake หรือเปล่า... แต่ที่แน่ๆ
เราไม่เรียกใครว่า "พี่ชาย".. นอกจาก เค้าคนนั้นคนเดียว (จะเป็นไรมั้ยเนี่ย... ^___^)

 

โดย: natalee IP: 115.67.196.70 28 กันยายน 2555 0:37:03 น.  

 

ดีใจจังที่นาตาลีแวะมาหา ได้อ่านข่าวในนสพ.มาหลายวันแล้ว เห็นข่าวนี้แล้วนึกถึงแฟนคลับออทั่มรุ่นดั้งเดิมอย่างนาตาลี คุณนกยูง คุณkmm คุณcalla แล้วอีกหลาย ๆ คน เหมือนได้กลับไปสู่บรรยากาศตอนที่ออทั่มกำลังฉายอยู่เลย

ยิ่งได้เห็นว่าใครจะมาเล่นเป็นพี่ชายก็ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นแฟนขวับพี่ติ๊ก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน เพราะเห็นผลงานเรื่องเจ้าชายกาแฟที่ทำออกมาแล้วไม่ค่อยเชื่อมือเท่าไหร่ เลือกพระนางได้ไม่เข้าตากรรมการเลย แล้วการแสดงก็ไม่ดีด้วย ก็ยังรอดูอยู่ว่าเขาจะเลือกใครมาเล่นเป็นอุนโซกับเทซก ถ้าเลือกไม่ดีก็คงแย่เลยอ่ะ

เราอ่านข่าวแล้วคิดว่าจะอัพบล็อกออทั่มเวอร์ชั่นไทยอยู่เหมือนกันค่ะ กะว่าจะอัพวันที่ห้าเดือนหน้า ตรงกับวันแรกที่พวกเราได้รู้จักพี่ชาย แต่ไม่รู้ว่าจะเขียนได้เสร็จทันหรือเปล่า ไว้อัพแล้วจะเมล์ไปบอก ถ้านาตาลีว่างก็แวะมาคุยกันนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่า

 

โดย: haiku 29 กันยายน 2555 23:00:10 น.  

 

Wow! This can be one particular of the most useful blogs We have ever arrive across on this subject. Basically Wonderful. I'm also a specialist in this topic therefore I can understand your effort.
Nike Air Max 1 //www.permira.com/services.aspx

 

โดย: Nike Air Max 1 IP: 94.23.252.21 12 สิงหาคม 2557 15:31:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.