นับตั้งแต่ Ron Koslow ผู้สร้าง "Beauty and The Beast ประเดิมเริ่มเรื่องนี้ คำถามที่ผู้เขียนบทหนังเรื่องนี้ทุกคน รวมทั้งผมและนักเขียนคู่หูกับผม Alex Ganza ต้องหาคำตอบให้ได้คือ จะดำเนินเรื่องต่อไปอย่างไร หนังขึ้นปี ๒ แล้วเราสองคนก็ยังต้องถามตัวเองอยู่และผมคิดว่าได้คำตอบแล้ว
การตัดสินใจสร้างหนังแนว fantasy อย่าง "Beauty and The Beast เพื่อฉายในช่วงเวลาดี ๆ ของแต่ละอาทิตย์เป็นงานที่ท้าทายสำหรับพวกเรา คิดกันไว้ว่า เราจะทำหนังสักเรื่องให้ต่างไปจากที่เคยดูกันมาแล้วอย่างสิ้นเชิง ผมว่าแค่พูดก็ง่ายหรอก ปกติแล้วหนังชุดใหม่ ผู้สร้างพยายามสรรหาสิ่งที่แปลกใหม่มาให้ดูกันอยู่แล้ว ตัวกำหนดอื่นที่ผมว่าสำคัญกว่าอย่างฝ่ายบริหารหรือ Network ที่ทำท่าว่าจะเข้ามายุ่งในตอนแรก เกือบจะทำให้เรื่องเสียไปเหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้เรียบร้อย
จากการที่ได้ร่วมงานกันมา ผมพูดได้ว่า ผู้เขียนบทของหนังเรื่องนี้เป็นทีมงานที่พิเศษสำหรับหนังชุดที่ฉายทางทีวี เห็นจะเป็นเพราะพวกเราเคยผ่านงานที่มีความหลากหลายกัน เช่น Ron Koslow ประสบความสำเร็จในอาชีพเขียนบท มีผลงานในหนังใหญ่ เช่น First Born และ Into The Night David Peckinpah มีผลงานมาแล้วมากมาย George R.R. Martin เคยได้รับรางวัล Hugo และ Nebular Award ขึ้นชื่อในด้านการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์มานาน ก่อนจะได้ร่วมงานกับหนังทีวีชุด Twilight Zone Alex Ganza และผมหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยในปี ๑๙๘๔ ก็เป็นนักเขียนอิสระอยู่ ๒ ปี เขียนบทให้หนังตำรวจและนักสืบ
ดังนั้นบทของ "Beauty and The Beast จึงสะท้อนให้เห็นความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มีลักษณะเฉพาะตัว ผสมผสานกันเป็นงานที่โดดเด่น มีอยุ่ ๒ - ๓ ตอนที่เราและ C.B.S. คิดว่าคนดูชอบมาก
Seige เขียนโดย David Peckinpah เป็นตอนที่ Catherine พบรักกับชายหนุ่มรูปงาม ร่ำรวยที่ชื่อ Elliot Burch (แสดงโดย Edward Albert)
Song Of Orpheus Alex และผมเขียนเรื่องเปิดปูมหลังของคุณพ่อ (แสดงโดย Roy Detrice) รวมทั้งงานอาชีพที่ล้มเหลว และความรักที่เศร้าไม่แพ้ชีวิตที่อาภัพของ Vincent เลย เราไม่ได้สรุปเรื่องราวของคุณพ่อหรือบอกอะไรให้ชัดแจ้ง เผื่อว่าเราจะหยิบเรื่องราวของคุณพ่อมาเขียนถึงได้อีก
๑. ตัวเอกของเรื่องตกอยู่ในอันตรายต้องการความช่วยเหลือ สถานการณ์แบบนี้จะเน้นตัวละครให้เด่นขึ้น และเปิดโอกาสให้เราพัฒนาตัวละครด้วย เช่น "Shades of Gray Vincent และคุณพ่อติดอยู่ในถ้ำที่ถูกถล่มปิดปากทางเข้า "No Way Down Vincent ไปหา Catherine แล้วถูกจับตัวได้ "To Reign in Hell Paracellcus ลักพาตัว Cathy ไปเพื่อล่อให้ Vincent มาติดกับ
๒. เป็นเหตุการณ์ที่ Vincent และ Cathrine ต้องเข้าไปช่วยเหลือบุคคลที่สาม "China Moon เขาและเธอช่วยคุ่รักที่ถูกขัดขวางความรัก "Everything Is Everything ทั้งคู่ช่วยเด็กชายชาวยิปซีที่ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพ่อ และความเป็นทายาทหัวหน้ายิปซีที่แท้จริงของตนเอง
Ozymandias (เขียนโดย George R.R. Martin) Elliot ฝันที่จะสร้างตึกใหญ่ที่สุดในเมือง New York ซึ่งทำให้โลกของ Vincent ต้องถูกเปิดเผย Cathy พยายามทุกวิถึทางที่จะช่วยเหลือ ท้ายสุดเธอเลือกที่จะแต่งงานกับเขาเพื่อยับยั้งการสร้างตึก เป็นอีกตอนที่พัฒนาเนื้อเรื่องได้อย่างมีพลัง
Elliot กับ Catherine
คำถามที่อยู่ในใจของใครหลายคนคือ โลกของ Vincent เกิดอะไรขึ้นบ้าง มีคนอาศัยอยู่กี่คน กินอยู่อย่างไร ทำไมต้องแต่งตัวกันแบบนั้นด้วย เป็นคำถามที่ดี ถ้าจะตอบ คงต้องท้าวความถึงความคิดดั้งเดิมของ Ron Koslow
แต่เดิม Ron คิดอยากจะถ่ายทำกันใน New York (แล้วก็ได้ไปถ่ายทำที่นั้นจริง ๆ) เขาอยากจะอยู่ที่นั่นสักพัก เผื่อจะช่วยคิดโครงเรื่องใหม่ ๆ โดยไม่ปัดเป๋จากแนวเดิมที่วางไว้ได้บ้าง อย่างฉากเมือง New York ที่สับสนวุ่นวาย เต็มไปด้วยผู้คน Ron อยากจะเน้นแบบเจาะลึกว่ามันมีผลกระทบกับตัวละครอย่าง Catherine อย่างไรบ้าง มีเสียงอึกทึก ความเคลื่อนไหวที่ดูอึดอัด ตึกสูงระฟ้ามากมาย ซึ่งดูตัดกับโทนนุ่มนวลเต็มไปด้วยความรักของโลกเบื้องล่าง มีเสียงที่เคาะท่อสื่อสารกัน บรรยากาศทึม ๆ แสงนวลตาอบอุ่น ในบางครั้งคนดูจะทราบถึงโลกของ Vincent ผ่านตัวละครบางตัว เช่น ในตอนที่เขียนโดย Richard Franklin ให้ Vincent อธิบายโลกของเขาให้ Catherine ฟังว่า เป็นสถานที่ลึกลับอยู่ใต้เมืองลงไป เหตุที่เป็นความลับ เพราะมีคนดี ๆ หลายคนต้องหลบหนีไปอยู่ที่นั่น และอยู่ได้อย่างมีความสุข และเสริมอีกว่า ไม่มีแผนที่บ่งชี้ว่าเราอยู่ตรงไหน เป็นที่ ๆ ไม่มีใครจดจำได้ แต่ก็อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับทุกคน พวกเราอยู่ที่นั่น ช่วยกันสร้างความดี พยายามเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
จากบทในตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่าใต้ถนน Manhattan ลงไปมีคนกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ เป็นสังคมแบบอุดมคติ ทีนี้ก็จะมีคำถามตามมาอีกว่า ทำไมถึงมีคนลงไปอยู่ด้วยในตอน An Impossisble Silence คุณพ่อบอก Laura (แสดงโดย Terrylene) ว่า ที่นี่เป็นโลกของเรา มีความหมายต่างกันไปสำหรับผู้คนที่ต่างกัน บ้างก็ถือเป็นบ้าน บ้างก็ถือเป็นที่พักรักษากายและใจ ทุกคนทราบดีว่าที่นี่มีความหมายต่อพวกเขาอย่างไร ดังนั้นในเมืองอุโมงค์จึงเป็นทั้งที่พักอาศัย เป็นที่หลีกลี้จากความยากลำบาก ความอยุติธรรม และชีวิตที่เต็มไปด้วยการแข่งขันของโลกเบื้องบน Vincent เองก็ถือว่าที่นี่เป็นบ้านเพียงแห่งเดียวของเขา ไม่มีข้อเลือกที่จะกลับไปข้างบนเหมือนคุณพ่อหรือ Laura กฏระเบียบเป็นอีกสิ่งที่สำคัญ แต่ไม่มีสักตอนที่จะเอ่ยถึงเนื้อหาของกฏอย่างชัดเจน ตอน China Moon Vincent บอก Lin ว่า กฏของเราเข้มงวดกับผู้ที่มาอยู่ด้วย Lin ย้อนถามเขาว่า แล้วกฏของคุณกับความรักล่ะ แค่นี้คนดูก็เข้าใจได้ว่า สำหรับเขาความรักก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้ว
หนังคงจะไม่ออกมาดีอย่างที่เห็นถ้าขาดหลายฝ่ายเช่น Production Design โดย John Mansbridge ดนตรีโดย Don Davis (Lee Holdridge เป็นผู้แต่งเพลง theme ของเรื่องและดนตรีใน ๖ ตอนแรก) และดารานำทั้งสามคือ Linda Hamilton, Ron Pearlman, Roy Detrice ที่แสดงกันได้อย่างวิเศษทำให้บทพูดมีชีวิตชีวา
Beauty And The Beast ได้กลายเป็นสิ่งพิเศษสำหรับพวกเราไปแล้ว ยิ่งทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังและคำนึงถึงความเป็นจริงด้วย เราจะไม่หยุดยั้งที่จะคิดค้นเนื้อเรื่องเพื่อทำให้ผู้ชมพึงพอใจ
แปลจาก In The Belly of The Beast เขียนโดย Howard Gordon
มีข่าวในหนังสือ Star ฉบับวันที่ ๒๔ ตค. ๑๙๘๙ ลงข่าวหนังเรื่องนี้ว่า Linda Hamilton ปฏิเสธบทของ Catherine เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับลูกชาย Dalton Abbot ให้เต็มที่ และเธอกับสามี Bruce Abbot ก็คืนดีกันแล้ว บทของเธอจบลงที่ Catherine ถูกฆ่าตายหลังจากให้กำเนิดลูกชายที่เกิดกับ Vincent สาวสวยที่เข้ามาแทนที่ในหนังปีสุดท้าย (ปี๓) คือ Jo Anderson เล่นเป็น Diana Bennett เข้ามาสืบสวนการตายของ Cathy และช่วย Vincent ค้นหาลูกชายที่ถูกตัวร้าย Gabriel ลักพาตัวไป