20080331 วิพากษ์ Man UTD VS Aston Villa
สวัสดีครับ ทุกๆท่าน พบกันในเช้าวันจันทร์เช่นเคย กับวิเคราะห์เจาะลึก ศึกพรีเมียร์ลีก ของแมนฯยูไนเต็ด ผมอยากถือโอกาสนี้ ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาส และสนับสนุนผมเป็นอย่างดีเรื่อยมา หลายๆท่านอาจจะยังงงๆ ว่าผมจะมาขอบคุณทำไม ก็เพราะนัดนี้เองครับ ที่เป็นนัดฉลองครบรอบหนึ่งปีการเขียนวิเคราะห์วิจารณ์ของผมนั่นเอง หากจำกันได้ ครั้งแรกที่ผมเขียนถึงนั้น ก็คือนัดที่บุกไปแพ้โรม่า ที่กรุงโรม เมื่อเมษายนปีที่แล้วครับ และช่างเหมาะเจาะเป็นอย่างยิ่ง เมื่อการวิเคราะห์นี้ ก้าวขึ้นปีที่สอง ก็ยังจะเป็นเกมแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก กับโรม่า อยู่เช่นเดิม นั่นเองครับ

เอาล่ะ นอกเรื่อง นอกประเด็นมาซะยืดยาว เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ การจัดทัพของท่านเซอร์ นับว่าเซอร์ไพรส์ผมมากทีเดียวเพราะเป็นการจัดทัพแบบเต็มสูบชนิดไม่มีกั๊กแต่อย่างใด ยิ่งหากเราถือว่าสองผู้อาวุโสของทีมเป็นตัวหลักด้วยนั่นยิ่งถือว่าเต็มสูบสุดๆ จะมีก็เพียง น้าซาร์เท่านั้น ที่มีอาการบาดเจ็บต้องพัก และส่งโทมัส คุสแซ็ค ลงมายืนเฝ้าเสาแทน รูปแบบการเล่นถูกวางไว้เป็น 4-4-2 ดังนี้

รูนี่ย์ เตเวซ
กิ๊กส์ คาร์ริค สโคลส์ โรนัลโด้
เอวร่า วิดิช ริโอ บราวน์
คุสแซ็ค

ที่ผมมองว่าเซอร์ไพรส์นั่นก็เพราะ พลพรรคปิศาจแดง จะได้หยุดหลังเกมนี้เพียงแค่สองวันกว่าๆ ก่อนจะต้องเดินทางไปเซิ้งกับโรม่าอีกครั้ง เป็นครั้งที่ห้าในรอบปีนิดๆเชียวล่ะครับ แต่นั่นถือเป็นเซอร์ไพรส์ที่ผมรอคอยมานานมาก จากการคุมทีมของท่านเซอร์ เพราะว่า ที่ผ่านมา ในเกมแบบนี้ท่านเซอร์มักจะส่งสำรองลงสนามก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนตัวจริงลงทีหลังเมื่อทำประตูไม่ได้เสียที และเกมจะกลายเป็นลนลานซะทุกครั้งไป แต่กับนัดนี้ ท่านเซอร์เลือกที่จะส่งตัวจริงแบบฟูลทีมลงมาก่อนเพื่อเน้นเกม ก่อนจะเปลี่ยนเอาสำรองลงมาในช่วงท้ายๆ ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีในสายตาผม แต่ดันมาจบไม่สวยน่ะสิครับ ซึ่งจบไม่สวยอย่างไร เดี๋ยวผมจะเล่าถึงทีหลังก็แล้วกันนะครับ

สำหรับทางฝั่งผู้มาเยือนอย่างวิลล่า ที่ช่วงปีหลังๆมานี่ แทบจะผูกปีแพ้ยูไนเต็ด ก็สามารถส่งตัวรุกหลักๆลงสนามได้อย่างค่อนข้างฟูลทีมเช่นกัน ไม่ว่า อักบอนลาฮอร์, คาริว, แฮร์วู้ด, แอชลี่ย์ ยัง โดยมีกองกลางคุมเกมตัวเดิมคือ แกเร็ธ แบร์รี่ คุมเกมตรงกลาง โดยนัดนี้ วิลล่าต้องถอย ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ ลงมายืนเป็นแบ๊คขวาจำเป็น

เริ่มเกมขึ้น โดยที่ยูไนเต็ดเจ้าบ้านก็เหมือนทุกๆนัดที่ผ่านมา คือเครื่องร้อนช้า ต่อบอลยังไม่เข้าฝัก และขาดๆเกินๆ กลับเป็นฟากวิลล่า ที่ตัดบอลได้ตลอด และทำเกมสวนสวยๆมาป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษได้บ่อยครั้ง โดยที่ยูไนเต็ดก็มีโอกาสเข้าทำงามๆบ้างเช่นกัน ทั้งสองทีมต่างได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะและลูกเตะมุมอยู่เรื่อยๆ แต่ยังได้แค่ลุ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่อย่างค่อนข้างระมัดระวังพอสมควร

เมื่อเกมผ่านสิบกว่านาทีไปแล้ว ยูไนเต็ดก็เริ่มครองเกมได้ และเดินเกมรุกกดดันวิลล่าได้มากขึ้น การต่อบอลของยูไนเต็ด ใช้การต่อบอลเร็ว และชิ่งเร็ว ไม่เน้นการลากเลื้อยตะลุยมากนัก อาจจะเนื่องมาจากการที่กองหลังของวิลล่า ค่อนข้างช้า และไม่สามารถประกบติดผู้เล่นยูไนเต็ดได้ดีเท่าไหร่ กลับถูกสลัดหลุดบ่อยครั้งทั้งเมลเบิร์ก และเลาร์เซ่น ไม่สามารถปิดป้องการทำชิ่งต่อบอลเร็วเข้าช่องของยูไนเต็ดได้ถนัด อีกทั้งมีปัญหารในการจัดการลูกตั้งเตะทุกๆครั้ง และก็มาเสียประตูในที่สุด เมื่อเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ขาดเช่นเดิม บอลหล่นมาเข้าทางโรนัลโด้ ที่ปล่อยให้ลูกลอดขาตัวเองก่อนจะไขว้หลังด้วยขาขวา ส่งบอลเข้าตาข่ายนิ่มๆโดยที่สก๊อตต์ คาร์สันล้มตัวปัดไม่ทัน

จากนั้น เกมก็เป็นแบบวันเวย์ สายฝนที่โปรยปราย ทำให้เกมค่อนข้างน่าหวาดเสียวจากจังหวะ สไลด์ และเข้าแย่งบอล แต่ก็ยังไม่ถึงกับอันตรายมากนัก เกมของยูไนเต็ดยังคงเน้นการให้บอลเร็วแบบวันทัช ผสมกับการวางยาวจากสโคลส์, คาร์ริค และริโอ ที่วันนี้ ดูจะใช้ได้ผลค่อนข้างมาก บรรดาแนวรุกของยูไนเต็ด มีพื้นที่ในการรับส่งบอลค่อนข้างมาก ประกอบกับการที่วิลล่าก็ไม่ได้เน้นแพ็คเกมด้วย ยิ่งทำให้เกิดโอกาสในการเข้าทำบ่อยครั้ง และเจ้าบ้านมาได้ประตูที่สองจากการทำชิ่งถ่ายบอลหน้ากรอบจากซ้ายมาขวา สโคลส์สบโอกาสไหลออกทางกราบให้โรนัลโด้เปิดครอสเข้ามาเสาสอง ที่จุดนัดพบของเตเวซที่มาคนเดียว พุ่งโหม่งตุงตาข่ายเต็มๆเป็นประตูขึ้นนำสอง-ศูนย์ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกสิบกว่านาที

หลังจากนั้น เกมก็เป็นแบบเดิม ทั้งคู่เปิดเกมรุกแลกหมัดกันแบบเอาใจคนดู แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเกมของเจ้าบ้าน ก่อนจะหมดครึ่งแรกไม่กี่นาที จอห์น คาริวก็มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น ทำให้มาร์ติน โอนีลต้องส่งชอว์น มาโลนีย์ลงสนามมาแทน ในช่วงสามสี่นาทีก่อนหมดครึ่งแรก

เมื่อเปิดเกมครึ่งหลังมา วิลล่าตั้งอกตั้งใจเดินเกมรุกมากขึ้น มีแบร์รี่ เป็นตัวคุมเกมและเปิดป้อนทำเกมรุก การที่วิลล่าได้มาโลนี่ย์ลงมาในปลายครึ่งแรกนั้น สามารถสร้างสรรรค์โอกาสให้ทีมได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาโลนี่ย์ตัวเล็ก แต่คล่องแคล่ว ปั่นป่วนกองหลังยูไนเต็ดได้มากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ อักบอนลาฮอร์ก็ดูจะมีพื้นที่มากขึ้น เมื่อมาโลนี่ย์ไม่ได้เป็นหน้าเป้าเหมือนคาริวและแฮร์วู้ด แต่มาเน้นป่วนเกมหน้ากรอบทำชิ่งกับเพื่อนๆมากกว่า ทำให้กองหลังต้องแบ่งตัวมาประกบมาคุมมาโลนี่ย์มากขึ้น และอักบอนลาฮอร์และยัง ก็มีพื้นที่มากขึ้น ทำให้ในครึ่งหลัง การเดินเกมรุกของวิลล่าในจังหวะโต้กลับ ดูจะน่ากลัวและอันตรายมากขึ้น

ในขณะที่ยูไนเต็ดเอง ยังไม่เน้นการเข้าบอลหนัก และวิ่งไล่บอลมากนัก ที่ผมคาดการณ์ก็น่าจะเพราะเกรงๆอยู่กับอาการล้าที่อาจจะเกิดขึ้น และส่งผลต่อเกมกลางสัปดาห์ที่ต้องออกไปเยือนโรม่านั่นเอง ทำให้เกมของยูไนเต็ด ยังคงเน้นการถ่ายบอลเร็วและชิ่งเร็ว การวางยาวขึ้นหน้าและออกปีก ซึ่งยังคงได้ผลอย่างต่อเนื่อง เกมผลัดกันรุกรับอย่างสนุกมากขึ้น มาโลนี่ย์ได้โอกาสและจังหวะบอลขาดก่อนจะหลุดกับดักล้ำหน้าไปดวลเดี่ยวกับคุสแซ็ค แต่ยิงถากเสาไปนิดเดียว และหลังจากนั้น ก็กลายเป็นยูไนเต็ดที่ได้ประตูที่สาม เมื่อโรนัลโด้ กลับตัวดีดบอลจากการวางยาว ส่งให้ลูกเปลี่ยนทางไปเข้าไลน์วิ่งของรูนี่ย์ ซึ่งเกี่ยวบอลติดและหลอกคาร์สันหนึ่งจังหวะ ก่อนจะแปบอลเข้าประตูง่ายๆ เป็นลูกที่สามของยูไนเต็ดในเกม และเป็นประตูที่ปลดล็อกรูนี่ย์ออกอีกครั้ง หลังจากฝืดมานาน

หลังจากนั้น วิลล่าก็เริ่มบดหนักขึ้น เข้าบีบ เข้าไล่เร็วขึ้น และเดินเกมรุกได้ต่อเนื่อง คุสแซ็คต้องพยายามเซฟประตูอุตลุต วิดิชเองก็โดนไข้เหลืองจากการสอยเปตรอฟจากจังหวะที่เกือบสลัดหลุดเขาไปได้ ในขณะที่เกมของยูไนเต็ดเริ่มแผ่วลง หันมาเน้นจังหวะโต้กลับเร็วแทน และจากฝนที่หนาเม็ดและตกหนักขึ้นเรื่อยๆในครึ่งหลัง ทำให้เริ่มเห็นว่า นักเตะทั้งสองฝ่ายมักออกอาการยั้งไม่ค่อยอยู่จากการที่สนามลื่นมาก และแฉะจากน้ำฝนที่เริ่มขังเป็นแอ่ง การเข้าบอลการสไลด์บอลแต่ละครั้ง ทำให้ไถลไปไกล และเบรคไม่อยู่ เอวร่าเองก็มีอาการเจ็บหัวเข่าจากการเติมไปเปิดเข้ากลางที่ต้องเบรคกะทันหันก่อนเปิด จากนั้นเมื่อเกมเดินมาได้หนึ่งชั่วโมง ท่านเซอร์ก็ส่งสามสำรองลงมาเปลี่ยนพร้อมๆกัน โดยให้อันแดร์สัน ลงมาแทนคาร์ริค โอเชลงมาแทนเอวร่า และฮาร์กรีฟส์ ลงมาแทนริโอ

การเปลี่ยนตัวคราวนี้ ทำให้ต้องปรับแผงหลังกันใหม่ ให้โอเช ลงมายืนแบ๊คซ้ายแทนเอวร่า ฮาร์กรีฟส์ถอยมาเล่นแบ๊คขวา ให้บราวน์ขยับเข้ากลางเป็นเซ็นเตอร์คู่กับริโอ ถัดจากนั้นไม่นาน โอนีลก็เปลี่ยนตัวตามมา โดยส่งซ่าลิฟู ลงมาแทนแฮร์วู้ด ที่ไม่ค่อยได้สร้างโอกาสจบสกอร์สักเท่าไหร่ การเปลี่ยนตัวของท่านเซอร์ดูจะยังคงสร้างปัญหาให้วิลล่าอยู่ไม่น้อย เมื่อการเติมเกมของฮาร์กรีฟส์ ทำได้ดีมากๆในนัดนี้ เขาได้โอกาสหลุดไปเติมและเปิดสวยๆเข้าหัวเตเวซครั้งหนึ่ง แต่เตเวซโหม่งหลุดเสาสองไปนิดเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น ฮาร์กรีฟส์ก็ยังเติมได้ดีอยู่เรื่อยๆ

วิลล่าเองยังคงสร้างปัญหาให้แผงหลังยูไนเต็ดได้ดี ทำให้แผงกลางและหลังรวมทั้งคุสแซ็คต้องทำงานหนักอยู่เรื่อยๆ นัดนี้ คาร์ริคถอยตัวเองลงมาต่ำกว่าสโคลส์ และทำหน้าที่ได้ดีมาก ทั้งตัดทางลำเลียงบอล เข้าแย่งบอลจากเท้า และเปิดบอลสวนขึ้นมาให้สโคลส์ หรือวางยาวทันทีได้ดีมากๆ สโคลส์เองก็สอดรับกับคาร์ริคได้ดี และคุมเกมได้ค่อนข้างทั่วถึง การที่สโคลส์จับคู่กับคาร์ริค และเล่นได้เหมือนปีที่แล้ว ยิ่งทำให้เห็นว่า คู่นี้ยังไงก็เป็นคู่ที่ดีที่สุดในเวลานี้ของเรา ส่วนกิ๊กส์ ก็ยังคงใช้ความเก๋าเข้าสู้กับเรี่ยวแรงที่เริ่มถดถอย หลังๆมาจะเห็นว่ากิ๊กส์ฝืนตัวเองน้อยลง จ่ายมากขึ้น และช่วยเกมรับมากขึ้น ทั้งสโคลส์และกิ๊กส์ ถึงแม้จะยังคงมีปัญหากับการเข้าบีบเร็วของคู่ต่อสู้เช่นเดิม แต่กับนัดนี้ ทั้งสองคนยังคงเอาตัวรอดมาได้ดีจากแต่ละสถานการณ์

สุดท้าย เจ้าบ้านก็มาได้ประตูฝังผู้มาเยือน จากการทำชิ่งของผู้เล่นยูไนเต็ด โรนัลโด้ชิ่งกลับคืนให้รูนี่ย์หลุดไปซัดประตูที่สองของตัวเอง และลูกที่สี่ของทีมได้สำเร็จในนาทีที่ 70 ก่อนเจ้าตัวจะสบโอกาสซัดแฮ็ตทริกจากลูกครอสของฮาร์กรีฟส์ แต่ดันล้ำหน้าไปซะก่อน ยูไนเต็ดเริ่มปิดเกมด้วยการครองบอลและทำเกมฉาบฉวย ส่วนวิลล่า ก็ยังคงหาโอกาสสวนงามๆหวังจะตีไข่แตกให้ได้ เกมเดินมาถึงช่วงท้ายๆ โอนีลขยับอีกครั้ง ส่งออสบอร์นลงมาแทนเบาม่า และกิ๊กส์ก็มีอาการบาดเจ็บ ต้องเดินออกจากสนามไปก่อนจบเกม ทำให้ยูไนเต็ดเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนในช่วงห้านาทีสุดท้าย ก่อนยูไนเต็ดจะปิดเกมเต็มตัวและจบเกมไปด้วยสกอร์ 4:0

สำหรับเกมนี้ ก็คงไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เมื่อทั้งสองทีมเล่นเกมกันไปตามธรรมชาติจริงๆ และเป็นเกมตามแท็คติคของทั้งคู่ คือเปิดเกมรุกเข้าแลกกันตลอด และเป็นยูไนเต็ดที่คมกว่า ทะลุทะลวงกว่า และเหนียวแน่นกว่า ซึ่งสกอร์และรูปเกมก็สะท้อนความจริงข้อนั้นได้หมดอยู่แล้ว ทำให้เราไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึงมากนัก เกี่ยวกับแท็คติคเชิงลึก การวางหมาก หรือแม้แต่รูปแบบการเล่น ดังนั้น ผมจะขอพูดรวมๆเกี่ยวกับเกมนี้ก็แล้วกันนะครับ

การเล่นของนักเตะเจ้าบ้าน หากเทียบกับเชลซี และอาร์เซนอลในสัปดาห์เดียวกัน ก็ถือว่ายูไนเต็ดค่อนข้างสบายกว่า เพราะเจอกับเกมที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ และนักเตะวิลล่า เข้าไล่บีบไม่ค่อยทัน อีกทั้งนักเตะแนวรับค่อนข้างช้า การจ่ายบอล การทำชิ่งของเจ้าบ้าน ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้ว หากเทียบกับโอกาสที่มี เพราะทะลุเข้าไปหาประตูได้ตลอด และได้จบสวยๆหลายครั้ง ซึ่งผมถือว่า ค่อนข้างน่าพอใจทีเดียวกับการเล่นของสามประสานในเกมนี้ ส่วนกองกลางของเรา ทั้งคาร์ริคและสโคลส์ ต่างช่วยกันเล่นได้ดี โดผมเองมองว่าคาร์ริคค่อนข้างเด่นกว่าสโคลส์ในนัดนี้ด้วยซ้ำนะ เพราะเขาทำหน้าที่ทั้งรุกและรับอย่างเต็มตัวเลยทีเดียว ในขณะที่สโคลส์จะเน้นไปทางรุกมากกว่า

ในขณะที่แผงหน้า ถือได้ว่าใช้โอกาสที่มีได้ดีครับ พลาดคนละครั้งสองครั้ง แต่ได้สกอร์ทุกคน แมนออฟเดอะแมทช์ต้องให้โรนัลโด้ ที่ยิงหนึ่งจ่ายสาม รองลงมาก็เป็นรูนี่ย์ ที่กลับมายิงทีเดียวสองเม็ด เตเวซเองก็น่าจะได้สองเม็ด หากไม่พลาดลูกปิดพานทองของฮาร์กรีฟส์ไป เวส บราวน์เองก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีครับ แต่การขึ้นโหม่งนี่ ก็ยังคอนเฟิร์มครับ ว่าโหม่งไม่เป็นจริงๆ นี่เป็นอีกนัดแล้ว ที่น้องน้ำตาลขึ้นสูงไปโหม่งในจังหวะเตะมุม แต่ดันใช้ท้ายทอยโหม่ง ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆต่างทำหน้าที่ได้ดีถ้วนทั่วกัน คุสแซ็คยังคงโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบได้อีกครั้ง จากการเซฟจะจะสองสามจังหวะในเกม

จริงๆแล้ว ผมว่าวิลล่ามีดีกว่าที่เห็นในเกมนี้นะครับ ทั้ง กองกลางที่มีแบร์รี่, เปตรอฟ, โคเกอร์ (ที่นัดนี้ถูกถอยมาเป็นแบ๊ค) ในขณะที่แนวรุกมีทั้งอักบอนลาฮอร์, แอชลี่ย์ ยัง กองหน้าก็มีคาริวและแฮร์วู้ด ที่หากมองกันดีๆแล้ว ทั้งคาริวและแฮร์วู้ดนั้น เป็นกองหน้าสไตล์ที่แผงหลังยูไนเต็ดแพ้ทางนะครับ เพียงแต่ว่า วิลล่ายังไม่สามารถใช้สองคนนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ในเกมนี้เท่านั้นเอง และคาริวเอง ก็มีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่แล้วด้วย ทำให้เล่นได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ ผมมองว่า วิลล่าน่าจะสนับสนุนคู่กองหน้าให้มากกว่านี้ครับ เพราะทั้งคู่ถึกจริง ใหญ่จริง แข็งแกร่งจริง แต่ช้าครับ ซึ่งการที่ทั้งคู่ช้าและตัวสนุบสนุนแถวสองไม่ช่วยเติมเท่าไหร่นั้น ทำให้ถูกคู่ต่อสู้ดักและแซะได้ง่าย

วิลล่านั้น ใช้คู่กองหน้าที่แข็งแกร่งเข้าทำก็จริง แต่กลับให้ยืนค่อนข้างโดดเดี่ยวไปหน่อย ทั้งสองคนไม่เคยยืนใกล้ๆกัน ไม่ได้ต่อบอลกันสวยๆเลย หากโอนีลจะเล่นรุกใส่แมนฯยูฯแบบเกมนี้ที่เราเห็นกัน ก็น่าจะให้ตัวสนับสนุนอย่างแอชลี่ย์ยัง และอักบอนลาฮอร์ เข้ามาช่วยต่อบอลจากแฮร์วู้ด จากคาริวอีกทอดหนึ่ง เพราะทั้งคู่ช้าเกินกว่าจะบังบอล และพลิกหาจังหวะทำด้วยตัวเองได้ถนัด ซึ่งหากมีตัวเติมมาช่วยดีกว่านี้ ทั้งคู่อาจจะเลือกพักบอล ป้ายออกให้ตัวเติม แล้วพลิกเข้าไปในกรอบได้ถนัดกว่านี้ครับ แต่กลายเป็นว่า ทั้งคู่เล่นเหมือนต้องช่วยตัวเองทุกช็อต ทำให้หลังเจ้าบ้าน สามารถรับมือได้ไม่ยากนัก ทั้งๆที่เป็นกองหน้าสไตล์ที่เป็นของแสลงของเจ้าบ้านจริงๆ

หลังจากสุดสัปดาห์ผ่านพ้นไป สี่ทีมนำต่างเก็บสามแต้มเต็มๆได้ทั้งหมด มีหนักหน่อยก็อาร์เซนอล ที่ต้องพลิกสถานการณ์แบบที่เรียกว่าพลิกฟ้าเลยก็ว่าได้ ส่วนเชลซี ก็สามารถประคองตัวจากพายุช่วงท้ายเกมของโบโร่ เอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด ลิเวอร์พูลเองก็ปิดเกมที่นำแค่ลูกเดียวได้ดี ผิดกับยูไนเต็ด ที่ได้สามแต้มมาได้ดูเหมือนง่ายๆแต่ด้วยฟ้าฝนที่เทลงมาหนักหน่วง สนามที่เฉอะแฉะ และลื่น อาการบาดเจ็บก็ได้เกิดขึ้นแล้วกับนักเตะตัวหลัก ที่ต้องเช็คความฟิตกันวุ่นวายก่อนเจอโรม่า น้าซาร์, ซาฮา ยังคงเจ็บอยู่ก่อนเกม ในขณะที่ผู้ถูกหวยเจ็บในเกมวิลล่า ก็ได้แก่ คาร์ริค, เอวร่า และริโอ อีกทั้งตัวสำรองชั้นดีที่พัฒนาขึ้นมาเยอะอย่างเฟล็ทเชอร์ ก็ค่อนข้างแน่นอนว่า ปิดเทอมยาวไปแล้วในปีนี้ จากการเจ็บในเกมทีมชาติ ผมไม่อยากคิดเลยครับ ว่า ถึงแม้โรม่าจะไม่มีต๊อตติ ที่เจ็บไปเช่นกัน แต่ถ้าหากแนวรับของเราไม่ได้ฟูลทีมลงสนามนั้น แต่ละความผิดพลาดของเราที่เกิดขึ้นในเกมที่โรม จะถูกลงโทษอย่างไรบ้าง

อืมมมมมมมมม...เก็บไว้รอลุ้นคืนพรุ่งนี้กันนะครับผม


สงบใจ



Create Date : 31 มีนาคม 2551
Last Update : 31 มีนาคม 2551 10:16:30 น.
Counter : 496 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด