20090115 วิพากษ์ MAN UNITED vs WIGAN
นาทีเดียว ประตูเดียว เสียวจริงๆเลยเฟ้ย



อรุณสวัสดิ์ มาพบกันเช้าวันพฤหัสบดีที่มีนัดมายึดอันดับสองของตารางกันนะครับ หลายๆท่าน คงคาดการณ์กันไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เราน่าจะข้ามเชลซีมาอยู่ที่สองได้ไม่ยากนัก หากดูจากสถิติเก่าๆที่ผ่านมาในการรับมือ สตีฟ บรูซ (ไม่ว่าทีมไหน) แต่ผมเองค่อนข้างหวั่นใจพอสมควร ไหนจะเรื่องสถิติ ที่มักจะหลอนอยู่ทุกครั้ง เวลาถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นให้พูดถึง ไหนจะฟอร์มของวีแกน ที่ฮ็อตเหลือเกิน ในช่วงหลัง ชนะห้าจากหกนัดล่าสุด ทำให้ผมเองไม่อาจทำใจนอนหลับไม่ดูเกมนี้ได้หรอก ต้องลุกขึ้นมาดูอยู่ดี ก็เป็นอย่างที่คิดครับ บ่าววี และน้าซาร์ งานเข้ากระจาย เสื้อผ้าเลอะหมด ในขณะที่เกมรุกของเราแทบจะเป็นง่อย เมื่อเทียบกับเกมเชลซีก่อนหน้านี้



มาดูการจัดทัพกันก่อน เนื่องจากจะมีศึกอีกมากมายรออยู่ข้างหน้าด้วยเวลาพักเพียงเล็กน้อยในแต่ละนัด ทำให้ท่านเซอร์เลี่ยงการโรเตชั่นทีมไม่ได้ และมันก็เริ่มเห็นได้ชัดมาตั้งแต่นัดที่แล้ว ที่พักตัวหลักหลายคน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ที่ทำให้มีนักเตะเจ็บมากขึ้นอีก เกมนัดนี้ เราจึงเห็นหน้าตาทีมเป็นลูกผสมอีกครั้งครับ เอวร่าและริโอ ที่เจ็บอยู่ กับแกรี่ที่ลงทุกนัดไม่ได้ ทำให้ต้องปรับแผงหลังมาใช้ราฟาเอลและโอเชยืนฟูลแบ๊ค เซ็นเตอร์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากวิดิชและเอแวนส์ มิดฟิลด์ตัวกลางนัดนี้เลือกสโคลส์และคาร์ริค ริมเส้นใช้โรนัลโด้และนานี่ หน้าคู่เลือกคู่ร้อนแรงไว้ก่อน คือรูนี่ย์และดิมี่ มีน้าซาร์เฝ้าเสา เกมแพลนในวันนี้มาในรูปแบบ 4-4-2 แบบเต็มตัว

เมื่อเหลียวมามองที่ฝั่งวีแกน แอธเลติกส์ ซึ่งยังคงใช้ผู้เล่นชุดเก่งได้อย่างต่อเนื่องต่อไป เป็นชุดที่ทำผลงานได้สะเด่าไปเลยในช่วงหลังๆนั่นแหละครับ โดยที่ดาวยิงสูงสุดก็ยังเป็นซากี้ ตัวลากเลื้อยริมเส้นยังคงเป็น อันโตนิโอ วาเลนเซีย ตัวคุมเกมตรงกลางก็ยังมีวิลสัน ปาลาซิออส ซึ่งสองคนหลังนี้ก็เคยเป็นข่าวโยงกับยูไนเต็ดมาตลอดสามสี่ครั้งของตลาดซื้อตัวที่ผ่านมานั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีตัวเก๋าประสบการณ์ฝีเท้าดีอีกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น คริส เคิร์กแลนด์ นายทวาร, มาริโอ เมลชอตต์ อดีตแบ๊คเชลซี, เอมิล เฮสกี้ อดีตดาวยิงหงส์แดง ทำให้ส่วนผสมของทีมของสตีฟ บรูซ นั้น ค่อนข้างลงตัวและเหมาะเจาะอย่างยิ่ง บวกกับการมีนักเตะยักษ์ปักหลั่นหลายตัวในสนาม ขยำรวมกับเกมไดเร็คต์ผสมกับพาสซิ่งอย่างลงตัว ทำให้ทีมชุดนี้เล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ



เกมเริ่มต้นขึ้นด้วยความงงๆทั้งของผมและทีมเยือน เมื่อจังหวะตัดบอลได้หลังจากวีแกนเพิ่งเขี่ยเปิดเกมใหม่ๆ เบอร์บาตอฟได้บอลกลางสนาม ก่อนจะวางยาวออกมาทางซ้ายให้โรนัลโด้ หนุ่มเจ้าของรางวัลฟีฟ่าคนล่าสุดหมาดๆพาบอลควบขึ้นมาจนถึงเส้นหลัง ดริ๊ฟท์หลอกสองสามจังหวะ ก่อนเปิดเรียดเข้ามาหน้าปากประตูแฉลบขากองหลังนิดนึง และเป็นรูนี่ย์ ที่ชาร์จเข้ามาแปด้วยอีซ้ายจ่อๆเข้ากลางประตูไปตั้งแต่วินาทีที่ 52 น่าจะเป็นการยิงประตูที่เร็วที่สุดของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้น ผมก็นั่งฝันถึงประตูได้-เสียที่น่าจะบวกอีกกระจายจากผลการแข่งขันเกมนี้ ก่อนที่ฝันจะสลายในที่สุด...T_T

เกมของยูไนเต็ดเจ้าบ้านค่อนข้างลงตัวในแดนหน้า ถึงแม้จะไม่สามารถเล่นเกมริมเส้นได้ถนัดนัก แต่การต่อบอลตรงกลางหน้ากรอบกลับเริ่มต้นได้ดี แต่นั่นเป็นเพียงแค่หกเจ็ดนาทีเท่านั้น รูนี่ย์ก็เกิดเจ็บโคนขาซ้ายขึ้นมา และต้องเขยกออกจากสนามไป ท่านเซอร์จำต้องขยับเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว จัดแจงส่งคาร์ลอส เตเวซลงมาแทนรูนี่ย์ตั้งแต่นาทีที่ 7 และนั่นเอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกมรุกข้างหน้าของเราตะกุกตะกักมากขึ้นเรื่อยๆครับ ในขณะที่เกมของวีแกน กลับทำได้ตามที่ตัวเองถนัดตรงกลางสนามและการตั้งเกมรุกจากแดนกลาง



การจัดทัพโรเตชั่นของท่านเซอร์ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่กล่าวไว้นั้น มันก่อให้เกิดความลำเค็ญในเกมรุกอย่างมาก เมื่อฟูลแบ็คสองข้างมีปัญหาในการเติมเกมรุกและประสานกับปีก ราฟาเอลถึงแม้จะเติมเกมรุกได้แจ่มๆ แต่ก็มิใช่ในรูปแบบการขึ้นด้วยการประสานงานร่วมกับปีก กลับเป็นการเติมในลักษณะเป็นตัวรุกเต็มขั้นซะมากกว่าครับ หลายจังหวะเราจึงเห็นความไม่ลงตัวในการขึ้นเกมฝั่งราฟาเอล และโดนสวนหลุดตำแหน่งบ่อยๆ ในขณะที่โอเชทางฝั่งซ้ายนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ การเติมเกมรุกของเขาเป็นเพียงการช่วยรับส่งบอลเท่านั้นเอง มันเริ่มเป็นมาตั้งแต่โอเชสถาปนาตัวเป็นเทพนั่นแหละ ทั้งๆที่ตอนรุ่งๆ ผมว่าเขาเด่นกว่านี้เยอะ แถมตอนนี้หนูนานี่ยังจะมาสถาปนาตัวเองเป็นเทพตามไปอีกคนซะงั้น โอเชนี่ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ คือเล่นตามสูตรตามตำแหน่งเพียวๆ แต่นานี่เกมนี้เล่นถึงขั้นห่วยแตกเลยครับ ฝืนทุกครั้ง เพื่อนงงทุกช็อต จ่ายเสียมากกว่าจ่ายดี

จากเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้เกมรุกทางริมเส้นเรากดดันวีแกนไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ลูกแรกก็คงเสียหายล่ะครับ เกมรุกทางริมเส้น โรนัลโด้ไม่มีเพื่อนรู้ใจอย่างเอวร่าทางซ้าย และยังประสานงานกับราฟาเอลทางขวาได้ไม่คลิ๊ก ทำให้โรนัลโด้เองก็ไปคนเดียวได้ลำบาก นานี่ไม่ต้องพูดถึง ประสานงานกับใครไม่ได้เลยในเกมนี้ ทำให้เกมรุกทางริมเส้นแทบเป็นอัมพาต ยิ่งเสียรูนี่ย์ที่เป็นเหมือนตัวชิ่งทะลุทะลวงไปอีก กลายเป็นเตเวซที่เน้นลากเลื้อยอีกคน ก็ยิ่งทำให้รูปแบบการรุกถูกจำกัดลงไปอีกด้วยความหลากหลายที่ลดลง วีแกนสามารถสกัดกั้นการรุกด้วยการตามปิดทางวิ่งของเตเวซ, นานี่ และโรนัลโด้ได้แทบตลอด เพราะเกมพาสซิ่งมันแทบไม่มี ทำให้เบอร์บาตอฟเองต้องกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ข้างหน้ามิดฟิลด์ แต่กลับต่อบอลไม่สะดวก เพราะเพื่อนรับบอลแล้วจะลากกันอย่างเดียว



เกมของยูไนเต็ดจึงยิ่งเล่นยิ่งตัน ในขณะที่วีแกนยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ สกัดกั้นเกมรุกเจ้าบ้านได้ ก็เริ่มตั้งหลักเกมรุกตัวเองได้ ปาลาซิออสก็เริ่มแผลงฤทธิ์ ครองบอลดี เหนียวแน่น และแจกจ่ายบอลขึ้นหน้าได้แม่นยำ รวดเร็ว เกมตรงกลางของยูไนเต็ดบีบพื้นที่ไม่ค่อยทัน อาศัยมิดฟิลด์คอยกรองจังหวะหลังจากปาลาซิออสออกบอลซะมากกว่า นั่นก็ทำให้แผงหลังของเรายังคงสามารถปักหลักป้องกันได้ดีอยู่ เมื่อมีมิดฟิลด์ที่มีวินัยในเกมมาช่วยแบ่งเบาก็พออุ่นใจได้บ้าง อีกทั้งวิดิชและเอแวนส์ก็อยู่ในช่วงที่ความมั่นใจพุ่งสูงปรี๊ดดดด จึงทำให้เกมนี้ ถึงแม้วีแกนจะสร้างสรรค์เกมรุกได้ดี แต่สองกองหน้าก็ยังไม่สามารถสลัดแผงหลังยูไนเต็ดไปส่องจะจะได้เลย

เกมยิ่งเล่นยิ่งเข้าทางวีแกนไปทุกที จนท่านเซอร์อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาว้ากเพ่ยข้างสนามหลายต่อหลายครั้ง และช่วงปลายครึ่งแรก ก็มีการปรับรายละเอียดหมากเกมรุกของทีมให้เห็น ด้วยการเน้นเจาะตรงกลางมากขึ้น หลังจากเห็นเกมริมเส้นมีปัญหามากมายในการขึ้นเกม ลดการลากเลื้อยของนักเตะลงไป (ว้ากได้น่ากลัวจริงๆ) และหันมาเล่นเกมไดเร็คต์สู้บ้าง โดยการวางบอลของคาร์ริค เมื่อหันมาเจาะตรงกลางมากขึ้น เล่นสั้นสลับยาวมากขึ้น ก็พอกดดันวีแกนได้บ้าง และทำให้วีแกนถอยร่นลงไปได้พอสมควร สโคลส์จึงสามารถทะลุขึ้นมาส่องไกลได้สามสี่ลูกติดๆกันช่วงปลายครึ่งแรก แต่ก็ติดบล๊อควีแกนออกไปหมด



เกมครึ่งหลังยังคงเป็นเหมือนครึ่งแรก แต่วีแกนลงมาแบบมั่นใจมากขึ้น เพรสซิ่งเกมหนักหน่วง รวดเร็วขึ้น เล่นเอาแดนกลางยูไนเต็ดเล่นยากขึ้นไปอีกเท่าตัว ยิ่งทำให้วีแกนฮึกเหิมมากขึ้น ปาลาซิออส, วาเลนเซีย และเฮสกี้ที่ลงมาเล่นต่ำในครึ่งหลัง สามารถกดดันยูไนเต็ดได้มากทีเดียว ตัวปัญหาสุดๆคือวาเลนเซียเลยครับ เล่นเอาโอเชและเอแวนส์เหนื่อยหนักเลยในการหยุดหมอนี่ เล่นไปเล่นมาท่านเซอร์ก็ร้อนใจขึ้นเรื่อยๆ จนต้องปรับทีมอีกครั้งเมื่อครบชั่วโมง คราวนี้ถอดจุดอ่อนออกทันที เอานานี่ออกจากสนาม ส่งแอนนี่ลงมาช่วยคุมพื้นที่และเซ็ตบอลตรงกลางแทน ผมเห็นแอนนี่ชูสามนิ้วให้เพื่อนสองสามครั้งตอนวิ่งลงมา ก็น่าจะหมายถึงให้ยืนกลางสามตัวนั่นแหละครับ และให้โด้, เตเวซ กับเบอร์บา สลับกันขึ้นลงช่วยทีมตามจังหวะเกม

การปรับครั้งนี้ช่วยให้เกมของวีแกนช้าลง เรามีตัวชลอเกมตรงกลางมากขึ้น และลดตัวที่จ้องแต่จะลากออกไปได้หนึ่ง ได้ตัวครองบอลเหนียวแย่งบอลดีและจ่ายบอลแม่นกว่าเพิ่มมาหนึ่ง จึงทำให้รูปเกมดูดีขึ้นมาบ้าง เบอร์บาตอฟก็กลับมาสู่เกมได้เต็มตัวอีกครั้ง ไม่มาๆหายๆเหมือนช่วงแรก แต่เกมรุกโดยรวมก็ยังคงตื้ออยู่ การประสานงานเกมนี้ขาดจังหวะสุดท้ายอีกแล้ว เตเวซนี่พลาดโอกาสหลายครั้งมากเลยในเกมนี้ ไม่เว้นโรนัลโด้เองก็พลาดเช่นกัน น่าจะเกิดจากหลายๆปัจจัยที่มันไม่ลงตัวในเกมนี้ครับ ไม่ว่าผู้เล่นที่ยังขาดความเข้าใจกันในเกม การประสานงานที่ยังไม่ลงตัว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในจังหวะให้บอลมากขึ้น และความผิดพลาดก็เกิดมากขึ้น

ช่วงท้ายเกม วีแกนปรับหมากเติมตัวสดอย่างอองรี กามาร่าลงมาแทน อาเมอร์ ซากี้ ที่เล่นไม่ค่อยถนัด แต่ก็เหมือนเดิม กามาร่าแทบไม่ได้บอลเช่นกัน จากนั้นก็ส่ง เดอ ริดเดอร์ลงมาแทน ไรอัน เทย์เลอร์ ทำเอาท่านเซอร์ขยับอีกครั้ง เมื่อเห็นสโคลส์เริ่มหอบถี่ขึ้น ด้วยการส่งเฟล็ทเชอร์ลงมาแทน และบรูซเองก็ส่งโอลิวิเยร์ กาโปลงมาแทนลี แค็ตเทอร์โมล เป็นอันครบโควต้าทั้งสองทีมก่อนจะหมดเวลาครับ ซึ่งกว่าเกมนี้จะจบลง ก็เล่นเอาผมลุ้นเหงื่อแตก ทั้งๆที่อากาศเย็นค่อดด อ้อ...นัดนี้ ถ้าให้เต็มสิบได้ ผมให้พี่วีเต็มสิบคะแนนเลยนะครับ สุดยอดกองหลังของพรีเมียร์ในนาทีนี้แล้ว สำหรับพี่วี



เกมนัดนี้ ผมคงบอกอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากข้อจำกัดของทีมหลายประการ ทำให้ฟอร์มมันดูแกว่งๆพิกล แต่ที่พูดได้เต็มปากก็คือ นานี่ครับ คือคนที่น่าผิดหวังที่สุดในเกมนี้ พยายามเล่นยากๆตลอด และเสียบอลบ่ายมาก จ่ายผิดบ่อยมาก และไม่แปลกใจเลยที่ถูกถอดออกไป เพราะช่วยเกมรับก็ไม่ได้ ในขณะที่โอเชที่มักถูกเพ่งเล็งมากกว่า เกมนี้ถึงจะไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่ก็ไม่ถึงกับผิดพลาดเสียหายร้ายแรง นอกจากลูกที่โดนวาเลนเซียจิ้มหนีไปยิงแบบง่ายๆในช่วงท้าย คนที่เหลือผมว่าก็ทำเต็มที่เท่าที่องค์ประกอบโดยรวมมันเอื้อแล้วครับ แผงหลังนี่ต้องชมโดยเฉพาะบ่าววี สุดยอดครับ พูดกันถึงฟูลแบ๊ค ผมว่าปกติราฟาเอลเองไม่น่ามีปัญหาทำให้เกมรุกริมเส้นมันหายไปหรอก ถ้าหากอีกฟากยังเป็นเอวร่า ที่กดดันคู่ต่อสู้ได้บ้าง แต่พอเป็นแบ๊คที่ประสานงานปีกไม่ได้ทั้งสองฝั่ง แถมฝั่งหนึ่งปีกก็ไม่ได้เรื่องอีก เลยทำให้เกมริมเส้นโดยรวมเราห่วยแตก และทุกอย่างก็เลยยากไปหมดครับ

ผลจากเกมนี้ อย่างน้อยการคว้าสามแต้มก็น่าจะทำให้ท่านเซอร์โล่งอกได้บ้าง เมื่อไล่จี้หงส์แดงเหลือแค่สองแต้ม กับหนึ่งเกมในมือ และแข้งผีแดงคงมั่นใจขึ้นอีก หลังจากโชว์ฟอร์มไม่ดีแต่กลับคว้าสามแต้มมาได้แบบนี้ การจัดทัพในเกมหน้ายังมีตัวเจ็บที่เพิ่มมาอีก แดนหลังยังเป็นไฟต์บังคับ มีตัวเลือกเพียงแค่ แกรี่ กับราฟาเอล ที่เหลือก็คงต้องเล่นชุดเดิม แดนหน้า นี่ลำบาก ต้องใช้เตเวซและดิมี่ไปก่อน หากรูนไม่หายเจ็บ (ซึ่งเว็บสโมสรยืนยันว่าเจ็บแฮมสตริง โดนสามวีคครับ นั่นคือ ห้าแมทช์) มีอะไหล่แค่เว็ลเบ็คกับมานูโช่เท่านั้น ซึ่งก็ยังไว้วางใจไม่ได้ทั้งคู่ ส่วนตรงกลาง เรายังมี พาร์ค, คาร์ริค, กิ๊กส์, เฟล็ทเชอร์, แอนนี่ และโรนัลโด้ ให้เลือก สโคลส์คงเต็มที่แค่สำรอง หลังเหนื่อยหนักเมื่อคืน นานี่อาจถูกดร็อปยาวจากฟอร์มเกมนี้ โดยยังมีตัวเซอร์ไพรส์คือโทซิชอีกคนที่สามารถเสียบลงมาได้



เกมหน้าจะเตะวันเสาร์ ซึ่งถือว่าเราได้พักน้อยนะครับ แต่นี่คือโอกาสที่ดี ที่เตเวซจะพิสูจน์ตัวเองในห้าแมตช์ต่อไปนี้ ว่าจะชนะใจท่านเซอร์ได้หรือไม่ เกมที่จะถึงนี้ ยังไงๆเสีย ท่านเซอร์ไม่คิดถึงเรื่องอื่นแน่ นอกจากสามแต้มเท่านั้น และเกมลีกจะถูกพักไปอีกสิบวันเพื่อคาร์ลิ่งและเอฟเอ คัพ ดังนั้นเราคาดหวังถึงชุดใหญ่ที่เหลืออยู่เต็มสูบได้เลยในเกมหน้าที่ต้องไปเยือนโบลตัน และสิ่งที่เราคาดหวังกันไว้ก็คือ สามแต้มเท่านั้นเช่นกัน เพื่อกลับไปยืนที่ๆเราคุ้นเคยบนยอดตารางอีกครั้ง และส่งสัญญาณให้ลิเวอร์พูลรู้ตัวว่า อันความกดดันในการล่าแชมป์นั้น ที่ผ่านมาของจริงมันยังมาไม่ถึง ที่รู้สึกตอนนี้ มันเป็นแค่ออเดิร์ฟเท่านั้น ของจริงจะมาถึงก็คือ วันที่ลิเวอร์พูลจะลงสนามพบกับเอฟเวอร์ตัน โดยพบว่าตัวเองเป็นรองจ่าฝูง และจำต้องแย่งตำแหน่งคืนมาให้ได้ นั่นต่างหาก คือความกดดันของจริงที่ลิเวอร์พูลจะต้องเจอทุกสัปดาห์นับจากนั้นไปครับ


เรามาเริ่มไล่ล่าจริงๆจังๆกันได้แล้วนะครับเพื่อนๆ
พร้อมกันรึยังเอ่ย....

สงบใจ



Create Date : 15 มกราคม 2552
Last Update : 15 มกราคม 2552 10:06:57 น.
Counter : 365 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด