20071213 วิพากษ์ ROMA vs MAN UNITED
THE RETURN OF GERARD PIQUE


สวัสดีครับ ทุกๆท่าน เป็นอย่างไรกันบ้างครับผม กับการชมเด็กๆในคอนโทรลป๋าลงวาดลวดลายในแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อคืนที่ผ่านมาครับ สำหรับผม บอลสนุกใช้ได้เลย เล่นกันยังกับสามารถส่งผลให้เข้ารอบหรือตกรอบ เพียงแต่ ไม่มีการเตะติดดาบ หรืออัดหนักๆเท่านั้น นอกจากจังหวะที่อีแวนส์โดนย่ำข้อเท้าเพียงครั้งเดียวในครึ่งหลัง การจัดตัวก็ถือว่าเซอร์ไพรส์นิดหน่อย ตรงที่มีตัวจริงเพียงแค่รูนี่ย์กับคาร์ริคแค่สองคนเท่านั้นเอง นอกนั้นเป็นสำรองกับเด็กๆ ในขณะที่สกอร์บอร์ดก็เซอร์ไพรส์ได้มากเลยครับ ยันเสมอได้แบบยิงขึ้นนำก่อนด้วย และยังถือเป็นการรีเทิร์นแบบสวยๆของปิเก้ในนัดนี้ เมื่อโชว์ฟอร์มได้ดี และยิงประตูได้อีกแล้วครับ


มาดูการจัดทัพเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนดีกว่านะครับ ฝั่งโรม่า ส่งตัวหลักลงมาเยอะพอดู ทั้ง โดนี่, เม็กแซส, ตั๊ดเด, ปิซาร์โร่, มันชินี่, ต๊อตติ ถือได้ว่ายกมาครึ่งทีมเลย ส่วนที่เหลือก็เป็นตัวทดแทนชั้นดีของทีม เช่น ซิซินโญ่, เอสโปซิโต้, แฟร์รารี่ ที่ผมพอจะคุ้นๆชื่ออยู่บ้างน่ะครับ ที่เหลืออีกสองคนนี่ ไม่คุ้นแฮะ ได้แก่ อองตวน (รึเปล่านะ) กับ บารุสโซ่ รบกวนผู้เชี่ยวชาญกัลโช่ เข้ามสาให้ข้อมูลเพิ่มเติมดีกว่าครับ

ในขณะที่ฝั่งแชมป์กลุ่ม ซึ่งมาเยือนแบบน่ารักน่าลุ้น มีการจัดทัพเช่นนี้

โกล์ โทมัส คุสแซ็ค
กองหลัง แดนนี่ ซิมป์สัน เคราร์ด ปิเก้ โจนาธาน อีแวนส์ จอห์น โอเช
กองกลาง คริส อีเกิ้ลส์ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ไมเคิล คาร์ริค นานี่
กองหน้า หลุยส์ ซาฮา เวยน์ รูนี่ย์(กัปตัน)


ซึ่งดูจากรายชื่อแล้ว ก่อนเกม ผมค่อนข้างกังวลพอสมควร ว่าจะหาทางกลับแมนเชสเตอร์กันถูกหรือเปล่านะครับ แต่สุดท้าย กลายเป็นทำผลงานได้ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว อาจบอกได้ด้วยซ้ำว่าเล่นดี สูสีกับเจ้าบ้านครับ ก่อนจะมีการเปลี่ยนตัวสวนทางกันในช่วงท้ายเกม โดยโรม่าเอาตัวจริงลงมาเพิ่ม ได้แก่ เด รอสซี่ แทน ตั๊ดเด ตอนคิกออฟครึ่งหลัง วูซินิช แทน เอสโปซิโต้ และ ชูลี่ แทน บารุสโซ่ ในนาทีที่ 62 เพื่อหวังยิงประตูตีเสมอ ในขณะที่ แมน ยูไนเต็ด เอาบราวน์ลงมาแทนโอเช ในนาทีที่ 54 และเอารูนี่ย์ออกให้ตง ฟาง โจวลงมา ในนาทีที่ 72

ซึ่งจากความเห็นผม การเปลี่ยนรูนี่ย์นั้น ไม่มีอะไรน่าคิด เพราะเอาออกมาพัก แต่สำหรับโอเช การเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 54 ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มาก สำหรับแฟนๆแมนยู เพราะป๋าไม่เคยทำแบบนี้ นอกจากโอเชน่าจะมีอาการผิดปรกติอะไรสักอย่าง ทำให้ป๋าไม่กล้าเสี่ยงให้โอเชฝืนเล่นต่อไป เพราะอะไหล่ในแดนหลังตอนนี้มีน้อยมาก แกรี่ กว่าจะได้กลับมาซ้อมก็ปลายเดือน ริโอก็ไม่ทราบหายจากไข้หวัดดีหรือยัง ทำให้ตัวเลือกในแดนหลังที่สมบูรณ์สุดขีดคงมีเพียง บราวน์, วิดิช, เอวร่า, ซิมป์สัน, ปิเก้, อีแวนส์, คีแรน ลี และก็ โอเชนี่แหละ ซึ่งอีแวนส์, ลี, ซิมป์สัน รวมถึงปิเก้ หากลงเป็นตัวจริงนัดแดงเดือดล่ะก็ อาจมีเสียวให้เห็น ให้ลุ้นกันเยอะครับ เพราะประสบการณ์น้อยมาก

ป๋าถึงน่าจะเห็นว่าโอเชมีสัญญาณไม่ดีอะไรสักอย่าง เลยเก็บโอเชออกมาไม่ให้เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บมากกว่าครับ เพราะหากเป็นการเปลี่ยนตัวตามแท็คติค เงื่อนเวลา หรือต้องการพักแล้วล่ะก็... การเปลี่ยนตัวมักจะเป็นในนาทีที่ 60 หรือ 70, 75 หรือท้ายๆเกม มากกว่าจะเป็นตอนหลังจากเริ่มเล่นครึ่งหลังได้ไม่ถึงสิบนาทีเช่นนี้ครับ และตรงนี้เอง ที่ทำให้ผมค่อนข้างผิดสังเกตถึงการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ ว่าน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับโอเช มากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนตัวธรรมดาๆตามแท็คติคครับ


มาพูดถึงรูปเกมกันบ้าง เกมเมื่อคืนนี้ ออกจะเป็นการวิธีการเล่นที่แตกต่างกันสุดขั้วของทั้งสองทีม นั่นก็คือ โรม่าเจ้าบ้าน มาในแนวซ้อมใหญ่ คล้ายๆลงซ้อมทีมหรืออุ่นเครื่องนะครับ เพื่อเพิ่มความเข้าใจกันระหว่างนักเตะสำรองและตัวจริง โดยไม่เน้นจังหวะห้าสิบห้าสิบ และไม่เล่นหนัก เพื่อรักษาสภาพร่างกายไม่ให้กรอบ ไม่ให้ล้าจากเกมนี้มากเกินไป ซึ่งดูได้จาก เกมในช่วงยี่สิบนาทีแรกที่โรม่าเจ้าถิ่น ดูจะขาดๆเกินๆไปซะทุกช็อตจริงๆ ในขณะที่แมน ยูไนเต็ดนั้น ออกไปในทางให้โอกาสตัวสำรองและเด็กๆได้โชว์ผลงาน ได้ลงสนาม เล่นเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ และความมั่นใจ รวมทั้งตามความคิดผม การวางกองหลังเช่นนี้ ก็ถือเป็นการเรียกความมั่นใจให้ปิเก้ เพราะไหนจะต้องระวังรักษาหน้าที่ตัวเอง แล้วก็ยังต้องดูแลอีแวนส์อีกคน ที่ยืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กับเขาในนัดนี้ ในขณะที่แบ๊คขวาก็ยังเป็นซิมป์สัน เด็กใหม่อีกคนเช่นกัน จะมีเพียง โอเช ทางแบ๊คซ้ายเท่านั้น ที่ดูจะสามารถประคองเพื่อนๆได้บ้าง แต่เมื่ออยู่ทางกราบ ก็คงทำอะไรมากนักไม่ได้ครับ

เริ่มเปิดเกม เจ้าบ้านโรม่า ที่ดูเหมือนกับว่าจะยังไม่ค่อยได้เล่นร่วมกันมากนัก ทำเกมกันขาดๆเกินๆ ต่อบอลกันได้แค่เข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษแมน ยูไนเต็ดเท่านั้น แต่ไม่มีโอกาสยิงอย่างถนัดๆเลย กลับเป็นผู้มาเยือนเสียอีก ที่คาร์ริค และเฟล็ทเชอร์ เข้าพัวพันจังหวะได้บอลของโรม่าตลอด และแย่งมาได้เรื่อยๆ เพื่อทำเกมสวนกลับใส่โรม่า ซึ่งยี่สิบนาทีแรกนั้น แทบจะเป็นเกมของ แมน ยูไนเต็ด เลยด้วยซ้ำ มีคาร์ริคคอยจ่ายบอลเปิดป้อนให้ ซาฮา และรูนี่ย์เข้าทำ ปั่นป่วนแนวรับโรม่า อีกทั้ง อีเกิ้ลส์ ที่เติมเกมทางกราบร่วมกับซิมป์สันได้ดีเลยทีเดียว นานี่ ก็ได้บอลคอยลากเลื้อยปั่นป่วนตามถนัด ประกอบกับในช่วงนี้ โรม่าเองยังทำอะไรไม่ถนัดเลย ทำให้ เกมช่วงยี่สิบนาทีแรก แมนยูไนเต็ดดูจะได้น้ำได้เนื้อดีกว่าเจ้าบ้านอยู่เยอะ

แต่หลังจากพ้นยี่สิบนาทีแรกไปแล้ว โรม่าถึงเพิ่งตั้งเกมได้ถนัด และเริ่มทำเกมตอบโต้ได้น้ำได้เนื้อมากขึ้น ครองเกมได้มากขึ้น ถ่ายบอล ให้บอลกันแม่นยำ และได้จบด้วยการยิงบ่อยครั้งขึ้น การขึ้นเกมนั้น มักจะมาจาก ปิซาร์โร่, มันชินี่, ตั๊ดเด และต๊อตติ ที่เริ่มหาจังหวะได้ดีมากขึ้น อีกทั้งซิซินโญ่ ที่เติมเกมขึ้นมาสวยๆหลายต่อหลายครั้ง และเริ่มมีลูกยิงไกล จากปิซาร์โร่ และมันชินี่ บ่อยครั้งขึ้น แต่โรม่าเอง กลับขาดความคมในการเข้าทำ และความเข้าใจในจังหวะสุดท้าย ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสที่มีมากให้กลายเป็นลูกยิงที่ได้ลุ้นได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ ในขณะที่แผงหลังโรม่านั้น ดูจะอ่อนด้อยเรื่องการป้องกันลูกเซ็ตพีซเสียเหลือเกิน ฟรีคิก หรือเตะมุมเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยูไนเต็ดมีลุ้นตลอด และก็มาได้ผลเอาเมื่อนานี่เปิดลูกเตะมุมเข้ามากลางประตูในนาทีที่ 34 และก็เป็นปิเก้ ที่เทคตัวได้สูงสุดๆ โหม่งตุงตาข่ายชนิดที่โดนี่ไม่ต้องพุ่งเลย ส่งให้แมนยูออกนำเจ้าบ้านไปได้สำเร็จ

หลังจากนั้น เกมของเจ้าบ้านดูเหมือนช็อคไปเล็กๆ และแฟนๆก็เหมือนจะช็อคตามไปด้วย เมื่อไม่คิดว่าจะโดนเด็กๆผู้มาเยือนยิงประตูขึ้นนำไปได้ และโรม่าเองก็ไม่ได้บุกได้น้ำได้เนื้ออีกเลยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ นอกจากจังหวะที่คุสแซ็คต้องพุ่งสุดเหยียดปัดลูกยิงของโรม่าในนาทีที่ 40 แต่ก็มีแค่นั้นครับที่ได้ลุ้นจริงๆจังๆ เพราะโรม่านั้นดูเหมือนจะครองบอลได้เหนือกว่าก็จริง แต่เจาะไม่เข้านั่นเองครับ และจังหวะยิงแต่ละช็อตก็ไม่ค่อยได้ลุ้นเท่าไหร่ กลายเป็นผู้มาเยือนเสียอีก ที่มีจังหวะสวนกลับสวยๆหลายครั้ง ที่หวุดหวิดจะเป็นประตูเพิ่ม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อีก


เริ่มครึ่งหลัง โรม่าที่แก้เกมมาดีขึ้น เมื่อส่งเด รอสซี่ ลงมาทำเกมเพิ่มอีกคน หลังจากครึ่งแรกคงเห็นว่า คาร์ริค และเฟล็ทเชอร์ช่วยกันสกรีนบอลกลางสนามได้ดีมาก ทำให้โรม่ามีโอกาสหลุดเข้าไปทำน้อยลงเยอะ แต่ในตอนนี้ เด รอสซี่ เข้ามาแพ็คตรงกลาง ช่วยอุดรอยรั่วได้ดีมาก ทำให้เกมของโรม่าในแดนกลางไหลลื่นขึ้น การประสานงานจากหลังมาหน้าของโรม่า ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โรม่ามีโอกาสดีขึ้นในการหาจังหวะจบสกอร์ ทำให้คุสแซ็คเริ่มเหนื่อยขึ้นในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ยูไนเต็ดเองนั้น ก็ยังคงอันตรายในจังหวะสวนกลับ โดยรูนี่ย์ และซาฮา คอยปั่นป่วนแนวรับ มีนานี่ และ บราวน์ ที่เปิดป้อนเข้ากลางให้ลุ้นบ่อยๆ

จนโรม่ามาขยับอีกครั้ง ด้วยการเติม วูซินิช และ ชูลี่ ที่ดูเหมือนจะทำให้โรม่ากลายเป็นโรม่าเต็มตัวขึ้นมาทันที พอวูซินิชลงมา เกมแดนหน้าเปลี่ยนไปเลย ทำให้จังหวะจบหน้าปากประตูยูไนเต็ดเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก วูซินิชมาช่วยพักบอล เปิดบอล และทำทาง ดึงตัวประกบได้สุดยอดจริงๆ ครึ่งชั่วโมงที่วูซินิชลงมานั้น โรม่ากลับทำอะไรได้มากกว่าหนึ่งชั่วโมงแรกที่มีเขาเสียอีก และมันชินี่ ก็มีโอกาสลากเลื้อยมากขึ้น เพราะแผงหลังยูไนเต็ด มีตัวที่ต้องพะวงเพิ่มมากขึ้น และในที่สุด วูซินิชเองนี่แหละที่ถวายพานทองให้มันชินี่ ด้วยการดึงตัวประกบมาหมดที่หน้ากรอบโทษ แล้วจ่ายออกทางซ้ายให้มันชินี่เติมขึ้นมาโดยเบียดบราวน์ได้และยิงเข้าไปทางเสาสองชนิดคุสแซ็คหมดสิทธิ์เซฟ

เกมหลังจากที่วูซินิชและ ชูลี่ลงมานั้น กลายเป็นของโรม่าโดยสิ้นเชิง คุสแซ็คต้องงัดซูเปอร์เซฟออกมาอุตลุตเลยทีเดียว ส่วนยูไนเต็ด คงมีจังหวะสวนน่ากลัวๆอยู่ประปราย แต่ก็เป็นซาฮาอีกเช่นเคย ที่พลาดโอกาสจะๆในการยิงประตูจากจังหวะหลุดเดี่ยวอีกแล้ว บราวน์ที่ลงมายืนแบ๊คขวาช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายนั้น ก็เติมบ่อยจนหลุดไปหลายครั้ง ตง ฟาง โจว ที่ลงมาแทนรูนี่ย์ ก็ทำให้เกมตกเป็นของโรม่าอย่างสิ้นเชิง เพราะการโต้กลับของยูไนเต็ด ไม่หลงเหลืออันตรายอะไรอีกแล้ว ยิ่งช่วงท้ายเกม โรม่ายิ่งโหมมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถฝ่าด่านแผงหลังและคุสแซ็คได้อีก ทำให้จบเกมลงด้วยการเสมอกันแบบสุดมัน ที่ 1-1

เกมวันนี้ คงบอกอะไรเป็นรูปธรรมไม่ได้มากนัก เพราะโรม่าเอง ถึงจะดูออกว่าโหมเกมขึ้นมาด้วยการส่งตัวจริงลงมาเพิ่ม แต่ก็เป็นการโหมเกมตามจังหวะ ไม่ได้เล่นลูกหนัก หรือเสี่ยงเข้าปะทะแต่อย่างใด กลับดูจะปล่อยๆด้วยซ้ำ ในจังหวะห้าสิบห้าสิบ เพราะรู้แล้วว่า เด็กๆแมนยูไนเต็ด ไม่มีอะไรต้องกังวล เล่นได้เต็มที่ ในขณะที่ตัวเองนั้นเป็นตัวหลักที่ต้องลงเล่นในลีกวันอาทิตย์นี้กับโตริโน่ต่ออีกนัด จึงไม่ค่อยเห็นโรม่าเล่นเสี่ยง เล่นปะทะเลยนะครับ และนี่ก็เป็นจุดแรก ที่ทำให้แมน ยูไนเต็ดมีโอกาสครองบอล และทำเกมได้อย่างที่เห็นกันไปแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เมื่อโรม่าเอง ยังเล่นได้ไม่ค่อยดี และไม่ได้เน้นกดดันมากนักในช่วงครึ่งแรก ทำให้บรรดาเด็กๆยูไนเต็ดนั้น ไม่ต้องถูกทดสอบอย่างรุนแรง และหนักหนาอะไรมาก ยิ่งการได้ประตูขึ้นนำไปก่อน ยิ่งทำให้มีความมั่นใจ และเล่นได้ง่ายขึ้น จากจังหวะรับแล้วสวนกลับ จนเป็นที่มาที่ทำให้เราเห็นบรรดาเด็กๆอสูรแดง ต่างพากันโชว์ฟอร์มได้ดีกันทุกๆคน แต่พอโรม่าเริ่มเอาจริงในช่วงครึ่งหลัง และยิ่งการเติมทัพในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย เราจะเห็นเลยว่า เราครองเกมไม่ได้อีกเลย ได้แต่รับแล้วโต้ คาร์ริคกับเฟล็ทช์ จะขลุกอยู่แต่ในแดนตัวเอง เพราะมีงานหนักในการสกรีนบอลหน้าแผงหลังจนแทบจะนับครั้งได้ ที่เราเห็นคนใดคนหนึ่ง ขึ้นไปเติมเกมในแดนโรม่า

ทีนี้ ผมขออนุญาตคุยต่อถึงเรื่องเด็กๆของเรากันนะครับ

ขอเริ่มจากคุสแซ็คก่อน คนนี้จริงๆไม่เด็กแล้ว เพราะเป็นถึงนายด่านทีมชาติโปแลนด์ที่ยื้อแย่งตำแหน่งกับดูเด็ค เราได้เห็นฝีมือเขามาหลายต่อหลายครั้งแล้วทั้งจากฤดูกาลที่แล้วกับฤดูกาลปัจจุบัน ซึ่งผมมองว่าฝีมือของเขาสามารถขึ้นเป็นมือหนึ่งได้เลยนะครับ ให้กับทีมเรานี่แหละ ไม่ใช่ทีมอื่นที่ไหนหรอก เพราะหลายต่อหลายครั้ง ที่เขาแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจ การอ่านจังหวะบอล และปฏิกิริยาของเขา อยู่ในขั้นระดับนานาชาติไปแล้ว ยิ่งการเซฟลูกโทษ ก็เป็นอีกจุดขายหนึ่งของเขาด้วย ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า คุสแซ็คมีดีพอที่จะเป็นมือหนึ่ง สืบต่อจากน้าซาร์ แต่ถ้าป๋าจะหาคนอื่นมาเป็นมือหนึ่งแทนน้าซาร์ ที่ไม่ใช่คุสแซ็คล่ะก็... ผมว่า เตรียมโบกมือลาคุสแซ็คได้เลยครับ เขาไม่อยู่กับเรายาวแน่ๆ

ซิมป์สัน คนนี้สิครับ ของจริงในตำแหน่งฟูลแบ๊ค เกมเมื่อคืนเขาเล่นทั้งฝั่งขวาและซ้าย เซนส์ในการอ่านบอล จับจังหวะเข้าสกัด และทักษะการจับบอล การเติมเกมรุก โดยรวมนั้น สามารถแทนที่บราวน์ได้สบายๆ จะขาดก็แค่ประสบการณ์สักสองสามปีเท่านั้น ที่จะต้องสร้างเสริมให้เขา นัดนี้เป็นอีกนัดที่เขาไม่แสดงอาการตื่น อาการลนลาน ยามเจอกองหน้าหรือปีกในระดับนานาชาติอย่างมันชินี่, ปิซาร์โร่ หรือแม้แต่ต๊อตติ เด็กคนนี้อนาคตไกลครับ

ปิเก้ กลับมาเรียกความมั่นใจได้อีกครั้ง บวกดอกเบี้ยทบต้น ด้วยการบัญชาการเกมรับด้วยตนเอง และประคองอีแวนส์ได้ดี ลูกที่เสียไป มองได้ว่าขาดประสบการณ์ล้วนๆเลย แต่ก็โทษเขาไม่ได้มาก เพราะคนที่ประกบมันชินี่อยู่ก็คือบราวน์ ในขณะที่เขากับอีแวนส์ ก็ปิดทางวูซินิชเรียบร้อยแล้ว แถมการยิงอีกประตูในเกมยุโรปกับโรม่า หลังจากเพิ่งยิงเคียฟไป น่าจะยิ่งทำให้เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้น และน่าจะเป็นตัวแทนที่ดีมากของริโอครับ อีกทั้งจุดเด่นเรื่องรูปร่างและการเทคตัวขึ้นโหม่ง ทำให้ได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก ทั้งจังหวะสกัดบอล และทำประตูจากลูกเซ็ตพีซ

อีแวนส์ ถือว่า โชว์ฟอร์มได้ดีในการจับคู่กับปิเก้ เคร่งครัดในหน้าที่ และไม่เล่นเสี่ยง ช็อตที่ได้ใจคือจังหวะเข้าชิงจิ้มบอลจากบารุสโซ่จนโดนย่ำเข้าที่ข้อเท้า ลูกนี้บารุสโซ่โดนเหลือง และเป็นลูกหนักเพียงจังหวะเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้ครับ และอีแวนส์ ก็ไม่แสดงอาการอะไร แม้แต่แหยง หรือประหวั่นในการเข้าสกัดหลังจากถูกอัดมาดอกนั้น และส่วนตัวผมเอง เมื่อเห็นเขาเล่นเกมนี้แล้ว ก็ไม่แปลกใจ ที่ว่าทำไมรอย คีน ถึงอยากได้ตัวเขาเป็นนักหนา

อีเกิ้ลส์ ยังคงเล่นได้ตามระดับที่เคยทำ และประสานงานกับกองหน้าและแบ๊คขวาได้ดี เพียงแต่อีเกิ้ลส์เป็นนักเตะที่โชคร้าย เพราะตำแหน่งของเขาต้องถูกเทียบกับโรนัลโด้ หรือกิ๊กส์ ทำให้มักจะถูกมองว่ายังไม่ดีพอ แต่ผมว่าฝีเท้าระดับนี้ สามารถเป็นตัวจริงในทีมพรีเมียร์ได้สบายๆครับ ก็เหมือนที่เราเคยมีจิลเลสพี เคยมีกรีนนิ่ง ที่เล่นได้โดดเด่น แต่ตัวจริงคือแคน แคน และถัดมาคือเบ๊คแฮม ทำให้ทั้งคู่ก็ต้องจำใจถูกขายออกไป เมื่อขึ้นมาสอดแทรกไม่ได้ ผมยังหวังว่า อีเกิ้ลส์ จะทำได้ดีกว่านั้นครับ

นานี่ โดยรวม ถือว่าทำผลงานได้ดี ทั้งการประสานงานกับกองหน้า การเปิดป้อน รวมถึงการพยายามหาจังหวะยิงไกล เพียงแต่ความถนัดของเขา ทำให้เขาต้องปรับตัวนานกว่าคนอื่น เพราะลูกถนัดคือการลากเลื้อย เล่นบอลชายเดี่ยว เหมือนโรนัลโด้ตอนมาใหม่ๆไม่มีผิด ซึ่งตรงนี้ ต้องอาศัยการค่อยๆปรับเปลี่ยนทัศนคติ และมุมมองต่อเกมฟุตบอล กรณีของโรนัลโด้ก็ร่วมๆสองสามปี กว่าจะมาถึงตรงนี้ นานี่เองผมว่าก็คงไม่ต่างกัน และจุดนี้เอง ที่น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่อีเกิ้ลส์จะสอดเข้ามาเป็นตัวแทนกิ๊กส์ ในช่วงที่นานี่ยังต้องปรับตัวเพื่อทีมอีกระยะหนึ่ง และผมว่าอย่างน้อยก็คงปีสองปีครับ กว่านานี่จะทำได้เหมือนโด้

ตง ฟาง โจว ยังไม่เห็นเขาได้บอลอ่ะครับ ลงมาวิ่งเฉยๆรึเปล่านี่ แต่รูปร่างของอาตงนี่น่าจะจับมาปั้นเป็นหน้าเป้าจังเลยนะครับ สูง ใหญ่ หนา และดูแข็งแกร่ง ออกแนวร็อบบี้ คีนเลย เพียงแต่ว่า ผมยังไม่มีโอกาสเห็นเขาเล่นเกมจริงๆจังๆเต็มที่เลยสักครั้ง คงต้องรอดูโอกาสต่อไปล่ะครับ

สำหรับคนอื่นๆ เกมนี้ ผมยกนิ้วให้ทุกๆคนเลยที่เล่นได้กลมเกลียวกัน และค่อนข้างเคร่งครัดในหน้าที่ ทำให้สามารถต่อกรกับโรม่าได้สูสีมากขึ้น ไม่ถึงกับเป็นการถูกไล่ต้อนข้างเดียวอย่างที่คิดเมื่อตอนเห็นรายชื่อนักเตะ โอเช ทำหน้าที่ได้ดี ในตำแหน่งของเขา และการช่วยสกรีนเกมบุกทางกราบของโรม่า คาร์ริคกับเฟล็ทช์ ก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก แม้จะไม่โดดเด่นมากนัก แต่ทำให้บอลมาถึงแผงหลังน้อยลงมาก ยิ่งครึ่งแรกยิ่งเห็นได้ชัดเลย จนโรม่าต้องเอา เด รอสซี่ ลงมาสู้นั่นแหละครับ ส่วนรูนี่ย์ กับซาฮา ถือว่าทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี รูนี่ย์มีจังหวะยิงอยู่หลายครั้ง แต่ไม่เป็นประตู ในขณะที่ซาฮา พักบอล และดึงตัวประกบ รวมทั้งครองบอลกับตัวได้ดี แต่จุดอ่อนคือซาฮาไม่สามารถสร้างความแตกต่างจากจังหวะที่ไม่มีอะไรได้เหมือนที่โด้หรือรูนทำได้ ยิ่งลูกหลุดเดี่ยวลูกนั้นก็ทิ่มแทงตาเหลือเกิ๊นนนนนน ทำให้ผลงานนัดนี้ของเขาดูดร็อปลงไปอย่างช่วยไม่ได้ครับ

แต่ที่น่าชมเชยจริงๆก็คือ ทุกคนนั้น ช่วยกันเล่น ช่วยกันไล่ ช่วยกันสกรีนเกมรับอย่างมีวินัย บอลแถวสองที่ขึ้นชื่อลือชาจาก เด รอสซี่ จากมันชินี่ จากต๊อตติ หรือวูซินิช จึงไม่เกิดขึ้นเป็นสกอร์ ไม่ใช่ไม่ได้ยิงนะครับ ยิงจนนับไม่ถ้วน แต่กลางและหลังเราเข้าช่วยสกัด เข้าบล๊อคได้ทันตลอดทุกช็อตต่างหาก ทำให้ไม่มีลูกยิงไกลที่เป็นจังหวะถนัดถนี่เลยสักครั้ง น่าชมเชยมากครับ ทำให้ถึงแม้จะเป็นบรรดากองหลังหน้าใหม่ (ยกเว้นโอเช) แต่ก็เสียให้ยอดทีมอย่างโรม่า ที่เป็นถึงรองจ่าฝูงกัลโช่ แค่เม็ดเดียวเท่านั้น ถึงแม้เราจะรู้ว่าโรม่าก็เล่นแค่เจ็ดแปดสิบเปอร์เซนต์ก็เถอะครับ

อย่างน้อย เหนือสิ่งอื่นใด ผลในนัดนี้ ก็ถือเป็นแรงบวกชั้นเยี่ยม ที่น่าจะผลักดันให้บรรดาเด็กๆอสูรแดง มีกำลังใจ มีความมั่นใจ และมีความกระตือรือร้นมากขึ้น ในการขับเคี่ยว พัฒนาตนเอง เพื่อสอดแทรกเข้ามาในทีมชุดใหญ่ให้ได้ และผมก็หวังว่า วันนั้น น่าจะมาถึงในเร็ววันนี้ครับ


พบกันใหม่ หลังวัน แดงเดือด ครับ

สวัสดีครับ



Create Date : 13 ธันวาคม 2550
Last Update : 13 ธันวาคม 2550 10:52:01 น.
Counter : 487 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด