---ของเก่า 15 สิงหาคม 2550--- Rooney In Pain
###############################################################
สำหรับท่านที่เข้ามาเพราะคิดว่าเป็นการวิพากษ์ก่อนแข่ง ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ เพราะผมได้พูดถึงไปแล้วในบทวิพากษ์หลังเกมเรดดิ้งครับ คงไม่ขอหยิบยกมาพูดอีกครั้ง แต่ให้ลิงค์ไว้ก็แล้วกันนะครับ
//www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5711275/S5711275.html#7
ขออภัยอีกครั้งครับ
##############################################################


สวัสดีครับ วันนี้ ขออนุญาต เข้ามาเจาะลึก ถึงประเด็นร้อนๆ เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บกระดูกกีบ เอ๊ย... กระดูกเท้าแตก อีกครั้งของเจ้าเวยน์ รูนี่ย์ และผลกระทบต่อทีมกันนะครับ



เริ่มต้นกันด้วย การที่รูนี่ย์บาดเจ็บกระดูกเท้าแตกเป็นครั้งที่สาม กับนักเตะในวัยไม่ถึงยี่สิบห้า มันมากไปหรือเปล่า คำตอบจากผมก็คือ ขอให้ดูวิธีและแนวทางการเล่นของรูนี่ย์ในนัดดังกล่าวเป็นอย่างน้อย หรือหากใครที่มีโอกาสได้ชมแมนยูทีวีเมื่อคืน ที่นำเอา เดนนิส เออร์วิน มาให้สัมภาษณ์เจาะลึกหลังเกม แมนยู-เรดดิ้ง ซึ่งมีการรวมช็อตการเล่นของรูนี่ย์แทบทุกจังหวะ จะเห็นได้ว่า รูนี่ย์เพียงคนเดียว วิ่งพล่านปั่นป่วนกองหลังเรดดิ้งยกแผง เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา แถมยังเบียด ชน กระแทกกับกองหลังตลอด ถูกแซะ ถูกเสียบแทบจะทุกจังหวะในการตะลุยเข้ากรอบโทษ

ซึ่งลักษณะการเล่นดังกล่าว สามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ทำไมรูนี่ย์ถึงกระดูกแตกสามครั้งแล้ว ก็เพราะการเล่นแบบตะลุยเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างนี้นี่เอง แต่มันก็เป็นสไตล์การเล่นของรูนี่ย์ ที่คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เนื่องจากใช้ความได้เปรียบที่ตัวเองมีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด นั่นก็คือ ความแข็งแกร่ง ความคล่องและความเร็ว เพื่อเบียด ชน กระแทก และตะลุยหนีคู่แข่งครับ เราคงต้องทำใจ ถ้าหากจะมีโอกาสเห็นอาการบาดเจ็บในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับรูนี่ย์อีก นอกจากจะให้คุณหมอ ทำกระดูกเสริมเหล็กให้เท้ารูนี่ย์ แต่อาจมีปัญหา เวลาเดินทางไปสนามบินได้ เนื่องจากสแกนอาวุธไม่ผ่าน ฮ่า ฮ่า




ทีนี้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของรูนี่ย์ อาจกินเวลาสองเดือน ผมได้รวมเอาช่วงเวลาที่ต้องใช้ในการพักฟื้น และเรียกความฟิต ซึ่งรวมๆ อาจจะถึงสองเดือนครึ่งหรือสามเดือนนะครับ ทีนี้ มันส่งผลอะไรบ้าง นั่นคือ
อย่างน้อย แปดถึงสิบ อาจจะถึงสิบสองนัดในลีก
สอง หรือสามนัด กับ แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกๆ
หายนะดีๆนี่เองนะครับ โอเคครับ ชปล. แบ่งกลุ่ม หากเจอกลุ่มที่ไม่แข็งมาก ก็คงพอไปวัดไปวาได้ แต่หากอยู่ในกลุ่มพวก กรุ๊ปออฟเดธ ผมว่าหนักแน่ๆครับ

ส่วนสิบหรือสิบสองนัดในลีก นี่มันหนึ่งในสามของเส้นทางการแข่งขันเชียวนะครับ ใครที่มองว่าเป็นแค่ผลกระทบเล็กๆ ผมอยากให้คิดใหม่มองใหม่ได้แล้ว การที่มีเชลซีเข้ามาช่วยยกระดับฟุตบอลอังกฤษในยุคโมเดิร์นนี้ มันทำให้แชมเปี้ยน ต้องการเก้าสิบแต้มเป็นอย่างน้อย เพื่อการันตีการได้แชมป์ (นอกจากจะได้แชมป์ไปก่อนแล้ว แล้วทิ้งสองสามนัดสุดท้าย)



นั่นก็คือ ตรรกะง่ายๆในการคิด ผมสมมติให้แชมป์ได้เก้าสิบแต้ม ก็ต้องชนะ 28 เสมอ 6 แพ้ได้ 4 และการที่แมนยูเสมอเรดดิ้งไปแล้ว ก็คือใช้โควต้าในการเสมอไปแล้วหนึ่งครั้ง เหลือโควต้าให้เสมออีก ห้า กับแพ้ได้สี่ครั้ง รวมเก้าครั้งกับการไม่ชนะ และหากคุณคิดว่ามีโอกาสสูงที่จะทำได้ ขอให้ลองนั่งนับการออกไปเยือน อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และการเล่นในบ้านกับ อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล ปาเข้าไปหกนัดแล้ว และนี่ยังไม่ได้นับการกลับมาแข่งบอลลีกสุดสัปดาห์หลังจากไปแข่ง ชปล.กลางสัปดาห์ที่มีโอกาสสูงที่เราจะไม่ฟิตพอ หรือต้องส่งสำรองลงสนามอีกนะครับ ไหนจะการที่เราอาจจะมีโปรแกรมซูเปอร์บิ๊กแมทช์ ที่อาจต้องพักผู้เล่นตัวจริงรอไว้ แล้วส่งสำรองลงมาเล่นในลีกนัดก่อนหน้า หรือตามหลังขัดตาทัพไป กับโอกาสที่จะพลาด เอาชนะไม่ได้ อีกแค่เก้าครั้งเท่านั้น ผมว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกครับ กับการที่ต้องลงเล่นสองนัดต่อสัปดาห์ตลอดเวลา และการมีผู้เล่นติดทีมชาติแทบจะยกทีมแบบนี้ ทำให้ไม่ได้พัก ยิ่งหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ หรือไม่ฟิต ไม่ได้เลย




เรื่องที่น่ากลัวก็คือ ตัวหลักของเราอย่าง แกรี่, สโคลส์, กิ๊กส์ ต่างก็เกินสามสิบไปนานแล้ว และแต่ละคน ก็ดูจะมีเรี่ยวแรงลดน้อยถอยลงตามวัย ถ้าทุกท่านจำได้ นักเตะอาร์เซนอลเคยให้สัมภาษณ์ถึงยุทธวิธีที่เวนเกอร์ใช้ปราบเราทั้งเหย้าและเยือนเมื่อปีที่แล้ว นั่นก็คือ การอดทนรอ เล่นตามเกมไปเจ็ดสิบนาที และพากันดาหน้าเข้าถล่มกลับในช่วงยี่สิบนาทีสุดท้าย เพราะเวนเกอร์มั่นใจว่าความฟิตเราจะแพ้เด็กๆปืนใหญ่ เพราะว่านักเตะในทีมเรามีอายูเฉลี่ยสูงกว่าอาร์เซนอลเยอะ แล้วผลมันก็แสดงออกมาให้เราเห็นไปแล้วว่า เวนเกอร์คิดไม่ผิดใช่ไหมครับ

นอกจากเรื่องอายุอานามของตัวหลักแล้ว ก็เป็นเรื่องขาดแคลนกองหน้า อาการบาดเจ็บของรูนี่ย์กับการที่เข้าต้องร้างสนามร่วมสองสามเดือน การที่โซลชาเองก็อายุมากอีกเช่นกัน ความฟิตไม่เต็มถังแน่นอน และมักจะบาดเจ็บเมื่อได้รับโอกาสลงสนามหลายๆนัดติดต่อกัน ทำให้เราไม่สามารถฝากฝังได้เต็มที่ ส่วนซาฮานั้นเล่า รักเตียงพยาบาลมากกว่าม้านั่งสำรองเสียอีก ไม่น่าฝากความหวังอย่างจริงจังในระยะยาวกับเขา




ที่เหลือก็คือ อาตง ที่ยังไม่เคยได้รับโอกาสในการก้าวขึ้นชุดใหญ่อย่างจริงจัง ซึ่งผมคิดว่า โอกาสของเขา น่าจะเริ่มจากการเป็นสำรอง ถูกส่งลงมาในเกมที่ขาดไปแล้ว หรือส่งลงมาในเกมลีกคัพเพื่อสร้างความมั่นใจก่อน นั่นก็คือ ตามความคิดผมแล้ว ไม่มีทางที่เซอร์อเล็กซ์ จะส่งอาตงลงน้ำเป็นสิบเอ็ดตัวจริงในบอลลีกแน่นอนครับ

คนที่น่าจะมีโอกาสได้ลงสนามเป็นกองหน้าอย่างต่อเนื่องที่สุดก็คือ เตเวซ ส่วนจะคู่กับใคร ซาฮาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากไม่เจ็บ หรืออันแดร์สัน ที่อาจถูกปล่อยลงน้ำเร็วกว่ากำหนดหากโชว์ฟอร์มในการซ้อมได้ดีและเป็นที่ไว้วางใจของท่านเซอร์มากขึ้น ส่วนน้าโอเล่ กับอาตง ก็คงเป็นได้เต็มที่แค่กองหนุนครับ




ทีนี้ ลองมาดูกันครับ ว่าทำไม ผมจึงอยากได้กองหน้าชั่วคราวเข้ามาในทีมเพิ่มอีกคน นั่นก็คือ ผมอ่านความคิดของท่านเซอร์จากการซื้อตัวปีนี้ และวางสมมติฐานไว้ว่า ท่านเซอร์เน้นไปที่การใช้รูนี่ย์กับเตเวซเป็นตัวหลัก น้าโอเล่ น่าจะเป็นกองหนุน ลงมาพลิกเกมในยามต้องการประตูช่วงท้ายเกม อาตงคงลงมาขัดตาทัพในยามที่ต้องการถอดกองหน้าออกมาพักสำหรับเกมที่ไม่ซีเรียสนัก หรือเกมที่ขาดไปแล้ว ส่วนอันแดร์สัน มีโอกาสเป็นได้ทั้งกองหน้าดาวรุ่งทักษะดีที่จะปั้นขึ้นมา หรือ กองกลางตัวรุกที่มีเทคนิคดี หากทีมต้องการการเดินหมากในลักษณะยุโรปมากขึ้น ส่วนซาฮา ป๋าเคยเปรยๆมาแล้ว ว่า หากมีใครขอซื้อ ได้ราคาน่าพอใจ ป๋าขาย แสดงว่า ป๋าเองก็คงไม่มีซาฮาในแผนการทำทีมแล้ว แต่ตอนนี้ อาจต้องกลับใจ หันมาใช้ซาฮาแก้ขัด ในวงเล็บว่า ถ้าไม่เจ็บ

นั่นคือ การเสียรูนีย์ไปตอนต้นปี น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้การวางแผนของท่านเซอร์ เสียขบวนไปเยอะพอดูครับ และหากยังหวังจะโกยคะแนนในลีก ช่วงต้นๆ ที่บอลยุโรปยังไม่เข้ามา อีกทั้งเป็นช่วงที่หลายๆทีม ยังไม่เข้าขากันกับผู้เล่นที่ซื้อมาใหม่ เรายิ่งต้องทำคะแนนในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุดครับ และนั่นหมายถึงเราควรหรือไม่ ที่จะหากองหน้าแบบยืมตัวเข้ามาเสริมในช่วงนี้ อย่างที่บอกไป ว่านอกจากเตเวซแล้ว คนอื่นคงยังไม่พร้อมที่จะแบกทีมร่วมกับเตเวซในระยะยาวถึงสองสามเดือนครับ




ทีนี้ ทำไมต้องยืมตัว ก็เพราะเราต้องการแค่ทดแทนช่วงที่ขาดรูนี่ย์ไป ก็เพราะอันแดร์สันคงยังไม่พร้อมในช่วงนี้ ก็เพราะโอเล่กับซาฮาเพิ่งหายเจ็บ ไม่น่าพร้อมลงสนามช่วงนี้ ก็เพราะ อาตงเองก็ยังไม่พร้อมรับภาระอันนี้ นี่แหละคือเหตุผลของทำไมต้องเป็นยืมตัว หากรูนี่ย์กลับมาฟิต ซาฮา กับโอเล่กลับมาฟิต อันแดร์สันพร้อมลงน้ำ นั่นก็คือการยืมตัวกองหน้ามาใช้ จะหมดความจำเป็นทันที



แล้วใครล่ะ ที่น่าจะถูกยืมมาตามความคิดผม

ผมมองไปที่คนที่มิได้เป็นตัวหลักของต้นสังกัด เพราะต้นสังกัดคงไม่ปล่อยตัวหลักออกมาให้ใครในช่วงนี้แล้ว

อีกทั้ง ควรเป็นคนที่พิสูจน์ตัวเองในลีกอังกฤษมาแล้ว ว่าใช้งานได้ มีพิษสงพอตัว

เพราะเราต้องการเอามาลงน้ำทันที ไม่ต้องมาปรับตัวกับระบบบอลอังกฤษกันอีก

แล้วมันจะเป็นใครได้บ้างล่ะครับ ก็ขอฝากไว้ให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาครับ






Create Date : 10 กันยายน 2550
Last Update : 10 กันยายน 2550 11:08:29 น.
Counter : 384 Pageviews.

2 comments
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 379 : เรื่องที่มักเข้าใจผิด The Kop Civil
(25 มิ.ย. 2568 15:27:14 น.)
WRB10 Fighting Stroke สนามเจริญสุขมงคลจิต แมวเซาผู้น่าสงสาร
(14 มิ.ย. 2568 14:50:56 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 378 : ฝันที่ไม่เคยเป็นจริง The Kop Civil
(10 มิ.ย. 2568 11:07:24 น.)
คาดิโอเยอะแต่น้ำหนักไม่ลด ยกเวทกี่ครั้งต่อสัปดาห์ดี ออกกำลังกายยังไงให้ได้ผล?I Doctor’s Talk EP.27 peaceplay
(9 มิ.ย. 2568 00:14:07 น.)
  
หวัดดีครับคุณสงบใจ

แวะเข้ามาเยี่ยมบล็อกครับผม

ขยันอัพบล็อกจริงๆผมขอนับถือ
โดย: DEVILKAMO วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:11:53:11 น.
  
วันนี้อัพจบแล้วครับ

มีในสต๊อคแค่นี้แหละครับ แหะๆ
โดย: สงบใจ วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:16:00:18 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด