---ของเก่า 3 พฤษภาคม 2550--- มิลาน แมนยู หลังเกมครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แฟนๆแมนยูไนเต็ดทั้งผอง
วันนี้คงต้องนั่งทำงานอย่างหงอยๆกันทั้งวันแล้วนะครับ และเนื่องจากความหม่นหมองในหัวใจที่ยังคงสลัดออกไปได้ไม่หมด ทำให้ผมขออนุญาตเขียนวิพากษ์แค่สั้นๆนะครับ แต่จะพยายามคงใจความสำคัญให้ได้มากที่สุด
ผลการแข่งเมื่อคืนนี้ ถือเป็นชัยชนะในแท็คติกของอันเชล็อตติอย่างแท้จริงเลยนะครับ เราคงต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้ว่าอันเชล็อตตินั้น ทำการบ้านและเตรียมตัวมาดีกว่าเราอยู่พอสมควร
การที่พวกเขาสามารถพักผู้เล่นหลักๆหลายรายเมื่อเกมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับการที่กัตตูโซ่ผ่านการทดสอบความฟิต และการเลือกเอาอินซากี้ที่มีประสบการณ์ยุโรปเพียบ ลงมาเป็นสิบเอ็ดตัวจริง ถือเป็นจุดที่มิลานถือความได้เปรียบอยู่พอสมควร ในด้านความพร้อมของแท็กติคที่จะเลือกให้ผุ้เล่นได้ใช้
อีกประการหนึ่งที่เราต้องยอมรับก็คือ การเลือกแท็กติคการเล่นในครึ่งเวลาแรกของอันเชล็อตติ เขาวางหมากมาละเอียดมากครับ โดยอาจจะสังเกตรูปเกมการแข่งขันของแมนยูไนเต็ดช่วงที่ผ่านมาหลายๆนัด รวมกับที่เขาพลาดท่าโดนยิงแซงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มาคราวนี้ มิลานดูเป็นคนละทีมกับคราวที่แล้วเลยครับ
อันเชล็อตติคงทราบดีว่า แมนยูไนเต็ดนั้นใช้ผู้เล่นกรำศึกหนักติดๆกันมาหลายนัด จนช่วงที่ผ่านมา เหมือนกับให้ลูกทีมเน้นเพียงครึ่งเวลาหลัง โดยประคองเกมในครึ่งแรกไว้ก่อน ให้เสียน้อยที่สุด แล้วค่อยโหมกระหน่ำเอาคืนในช่วงหลัง เมื่อเกมหลังๆของแมนยูไนเต็ดเป็นในรูปแบบดังกล่าว อันเชล็อตติ ซึ่งมีผู้เล่นที่ค่อนข้างสดกว่า (แต่สังขารอาจสู้แมนยูไนเต็ดไม่ได้) จึงสั่งให้ลูกทีมเดินหน้าบุกใส่แมนยูไนเต็ดทันที ตั้งแต่เริ่มเกม โดยใช้ กาก้า อินซากี้ และ ซีดอร์ฟ จู่โจมทั้งจากกลางสนาม และปีกสองข้าง โดยมีปิร์โล่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง
ในขณะเดียวกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากจังหวะสวนกลับ ก็ให้ผู้เล่นมิลานทุกคน ไล่เพรสซิ่งเร็ว บดบี้แมนยูไนเต็ดทันทีที่ได้บอล และให้กัตตูโซ่ กับอัมโบรซินี่ คอยไล่ตัดเกมกลางสนาม และปีกสองข้างของแมนยูไนเต็ด ไม่ให้ขึ้นเกมได้ ส่วนแผงหลังของพวกเขาก็ยืนแพ็คเกมแน่น และคุมโซนอย่างรัดกุม ทำให้ช่วงครึ่งแรก นักเตะแมนยูไนเต็ด ไม่สามารถทำเกมได้เลย เกมตกเป็นของเจ้าบ้านอย่างสิ้นเชิง
และกาก้า อินซากี้ กับซีดอร์ฟ ก็จู่โจมแผงหลังแมนยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่องและน่ากลัว จนได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังคงบุกจู่โจมอย่างต่อเนื่องต่อไป และได้ประตูที่สองในที่สุด เมื่อผ่านไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น โดยที่นัดนี้แผงหลังของเราถูกบุกกระหน่ำจนหลุดตำแหน่งบ่อยๆ และออกลูกโฉ่งฉ่าง อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุพลิกผันเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว บรรดาตัวตัดเกมของมิลาน ได้เพรสซิ่งแมนยูไนเต็ดโดยตลอดทั่วทั้งสนาม ทำให้ผู้เล่นแมนยูไนเต็ดต้องออกบอลเร็ว และต้องวิ่งอย่างเสียเรี่ยวแรงไปเปล่าๆบ่อยครั้ง การประคองเกมไม่ให้เหนื่อยจึงแทบจะทำไม่ได้ ในขณะที่นักเตะมิลานนั้นก็ไม่ยอมผ่อนคันเร่งจนกระทั่งจบครึ่งแรกที่สกอร์สองศูนย์
เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง แมนยูไนเต็ดไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากขยันวิ่งมากขึ้น เดินเครื่องบุกเพื่อยิงประตูคืนให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่อันเชล็อตติเองก็ทราบอยู่แล้วว่าแมนยูไนเต็ดต้องกลับมาในลักษณะนี้ จึงเปลี่ยนหมากให้ลูกทีมเน้นการคุมโซนในแดนตัวเองอย่างเหนียวแน่น และให้ผู้เล่นอย่างซีดอร์ฟ อัมโบรซินี่ และ กัตตูโซ่ คอยตัดเกมอยู่ตลอด ไม่ให้แมนยูไนเต็ดมีเวลาในการออกบอลได้เสีย หรือแม้แต่มีเวลาในการพลิกบอล
ผู้เล่นอย่างรูนี่ย์ กิ๊กส์ และโรนัลโด้ ถูกบังคับให้ถ่างออกไปเล่นตามกราบซะมาก จนแทบจะคายพิษสงไม่ได้ ส่วนในกรอบโทษของมิลานนั้น ไม่ได้แม้แต่จะเจาะเข้าไปหาโอกาสยิงสวยๆเลย แม้แต่ครั้งเดียว จึงไม่น่าแปลกใจครับ ที่สถิติหลังเกมบอกว่าแมนยูไนเต็ดยิงสิบครั้ง เข้ากรอบเพียงสอง และทั้งสองครั้งก็ไม่ได้ทำให้ดีด้าหนักใจเลย ซึ่งผิดกับบุคลิกของแมนยูไนเต็ดอย่างที่สุด
ในขณะที่มิลานเดินเกมคุมโซนอย่างเหนียวแน่น ผู้เล่นของมิลานหลายรายที่วิ่งมาสุดๆ เริ่มออกอาการล้า แต่ก็ไม่ได้ต่างจากแมนยูไนเต็ด ที่เร่งเครื่องมาหลายนัดติดๆกัน จนเมื่อคืนนี้ถึงกับเร่งไม่ออก สังเกตจากกิ๊กส์ ที่ดูไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงสักเท่าไหร่ และโรนัลโด้ ที่เมื่อคืนจับบอลยาวๆได้ไม่เนียนตาสักลูก แม้กระทั่งเฟล็ทเชอร์ ที่ถึงแม้จะได้พักมา แต่ก็หายจากเกมไปเฉยๆ
อันเชล็อตติ ยังคงไว้ลายด้วยการส่งจิลาร์ดิโน่ลงมาแทนอินซากี้ เพื่อเติมความสดในแดนหน้าแทนปิ๊บโป้ที่เริ่มไม่ไหว และการที่แมนยูไนเต็ดส่งซาฮาลงมาแทนโอเชนั้น กลายเป็นจุดที่ทำให้จิลาร์ได้ยิงลูกที่สามโล่งๆ อันเป็นการจบเกมอย่างถาวรครับ
เป็นอันว่ามิลาน ยังคงเป็นทีมที่มีความเขี้ยว และเป็นจอมแท็กติคอยู่เหมือนเดิม สิ่งหนึ่งที่ต้องชมคือ แท็กติคของอันเชล็อตติ ที่เน้นลูกทีมให้กระหน่ำตั้งแต่ครึ่งแรก เพราะรู้ดีว่าลูกทีมตนไม่สามารถยืนระยะได้หากเทียบกับผู้เล่นแมนยูไนเต็ด นาที ต่อนาที ซึ่งลูกทีมของอันเชล็อตติก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ จนดูเหมือนว่า เกมจบลงตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยซ้ำ
ผมเองขอแสดงความยินดีกับแฟนๆมิลานด้วยครับ ที่สามารถลบคำสบประมาทว่าเป็นทีมผู้สูงอายุ ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง ได้อย่างราบคาบ
สำหรับแมนยูไนเต็ด ผมเองก็ต้องยอมรับว่าเกมเมื่อคืน เราสู้ไม่ได้จริงๆ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น แต่ผู้เล่นแมนยูไนเต็ดเอง ก็ยังแสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ แม้สกอร์จะเป็นสามศูนย์ และเหลือเวลาแค่ช่วงทดเจ็บก็ตาม เป็นสิ่งที่ผมนับถือน้ำใจนักสู้ของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง และจะตามเชียร์ต่อไป กับอีกสองถ้วยที่เหลือนะครับ
สุดท้ายนี้ ได้แต่หวังว่า บาดแผล และจุดอ่อนของแมนยูไนเต็ด ที่บรรดานักเตะมิลานได้ชำแหละให้เห็นอย่างหมดไส้หมดพุงเมื่อคืนนี้ รวมถึงวิธีในการสยบปิศาจแดงนั้น คงไม่ทำให้ลูกศิษย์ป๋า เกิดอาการเป๋ต่อเนื่อง และถูกทีมอื่นนำไปใช้ได้สำเร็จด้วยนะครับ
แล้วผมจะเอาใจช่วยเชียร์ทุกๆนัดไปครับ
ในคืนที่ฟ้าหม่นหมอง ยังคงเหลือแสงสว่างอีกสองดวง ให้พวกเรามีความหวังกันต่อไป โชคดีครับ
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [