20080922 วิพากษ์ CHELSEA vs UNITED สวัสดีครับ ปวดหัวใจก่อนนอนอีกแล้วนะครับ สำหรับแฟนๆปิศาจแดงแห่งเกาะอังกฤษ เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน กับฟุตบอลหัวค่ำเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ทีมเราพากันยกพลไปเยือนถิ่นเดอะ บริดจ์ แดนไร้พ่ายร่วมๆสามปีของเชลซี แหม...เกือบไปแล้วนะครับ เกือบได้เฮกันแล้วเชียว แต่ก็พลาดจนได้ เอาล่ะครับ มาเริ่มคุยกันเลยนะครับ ก่อนเกม เราต้องลุ้นกันหนักเลย ว่าป๋าจะส่งใครลงเป็นตัวจริงทดแทนคาร์ริค และวิดิชที่ไม่สามารถลงเล่นได้ และสุดท้าย เราก็ได้เห็นในสิ่งที่น่าประหลาดใจ นั่นคือการจัดทัพแบบเกมยุโรปของป๋าครับ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบิ๊กฟิลนั้น เป็นกุนซือสไตล์ยุโรป และเชลซีเองก็อาจจะเล่นแบบมีกลิ่นอายสไตล์ยุโรปปนอยู่บ้างพอสมควร ทำให้ป๋าจัดหมากแบบที่เห็นกันไป นอกจากน้าซาร์ที่เป็นผู้รักษาประตูแล้ว คู่เซ็นเตอร์เลือกใช้ ริโอ กับ จอนนี่ อีแวนส์ ในขณะที่แบ๊คขวาเป็นแกรี่ เนวิลล์ ส่วนแบ๊คซ้ายเป็นเอวร่า มิดฟิลด์คู่กลางเลือกพอล สโคลส์ และ เฟล็ทเชอร์ ริมเส้นฝั่งขวาเป็นฮาร์กรีฟส์ ฝั่งซ้ายเป็นตี๋ปาร์ค คู่กองหน้าเป็น เวย์น รูนี่ย์ และ เบอร์บาตอฟ ส่วนเชลซี นอกจากจะได้ จอห์น เทอร์รี่ หลุดคดีแบนจากใบแดงกลับมาแล้ว แต่ก็เสียเดโก้ที่น่าจะเจ็บตอนวอร์มอัพ ทำให้ต้องปรับเล็กน้อย โดยส่งบัลลัคลงมาแทน ยืนกลางสามตัวกับ มิเกล และ แลมพาร์ด หน้าสามตัวมีอาเนลก้าค้ำตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นมาลูด้า ฝั่งขวาเป็นโจ โคล แผงแบ๊คโฟร์มี จอห์น เทอร์รี่ กับคาร์วัลโญ่ ยืนเป็นเซ็นเตอร์ แบ๊คขวาเป็นโบซิงวา แบ๊คซ้ายใช้แอชลี่ย์ โคล ผู้รักษาประตูเป็น ปีเตอร์ เช็ค สำหรับการจัดตัวของทัพปิศาจในเกมนี้ ออกจะกลับตาลปัตรกับเกมแดงเดือดเต็มๆครับ นั่นคือเลือกที่จะเก็บทีเด็ดไว้ข้างสนามส่วนหนึ่ง ไม่ส่งลงมาทั้งหมด น่าจะเผื่อไว้กรณีที่ต้องการเปลี่ยนเกม เราจะยังมีทางเลือกเหลือเยอะหน่อย คือ เตเวซ, โรนัลโด้, นานี่ ในขณะที่เชลซีเองก็ยังพอมีดีข้างสนามเช่นกัน กับชื่อของ ดร็อกบา และ กาลู เริ่มเกมขึ้นด้วยการที่ทั้งสองฝั่งต่างพร้อมใจกันเล่นเร็วเต็มที่ เพื่อหวังโจมตีในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว โดยผลัดกันแลกหมัดทำเกมรุกเข้าใส่ในช่วงห้านาทีแรก แต่เป็นยูไนเต็ด ที่เริ่มจะครองเกมได้หลังจากนั้น และค่อยๆตั้งลำติดได้ก่อน ก่อนจะเริ่มขึงแดนกลางและรุกเข้าโจมตีด้วยการให้บอลเร็วจากกลางขึ้นหน้าและออกปีก มีตัวสอดแทรกเข้าหน้ากรอบตลอด แต่ดันกลายเป็นเชลซีที่ฉวยโอกาสหวาดสียวได้ก่อน จากลูกสวนกลับและโจ โคลหลุดไลน์ล้ำหน้าไปยิงผ่านมือน้าซาร์ได้ แต่เข้าข้างตาข่าย หลังจากนั้น เชลซีก็เสียคาร์วัลโญ่จากอาการบาดเจ็บ ต้องส่งอเล็กซ์ลงมาแทน แล้วก็เป็นชุดบุกใหญ่ของยูไนเต็ดทั้งจากริโอสอดเติมมาแปเน้นๆติดตัวเช็คออกหลัง จนมาได้ประตูในที่สุด เริ่มจากเอวร่าพาบอลขึ้นมาทางซ้าย ชิ่งกับเบอร์บาตอฟ และรูนี่ย์ก่อนเอวร่าจะควบเบียดแซงโบซิงวาไปรับบอลในกรอบ และไหลย้อนมาให้เบิร์บยิงติดเซฟเช็ค แต่บอลทะลักมาเข้าทางปืนจอมเพชฌฆาตดาบสองอย่างปาร์ค แปหนีมือเช็คเข้าไปให้ยูไนเต็ดนำได้ก่อน หลังจากเสียประตู เชลซียังไม่ร้อนรน แต่กลับแสดงให้เห็นความสุขุม เริ่มตั้งเกมขึ้นมาใหม่ช้าๆจากกลางและหลัง คล้ายๆกับจะเริ่มเซ็ตจังหวะเกมกันใหม่ ในขณะที่ยูไนเต็ดที่กำลังดีๆนั้น พอเชลซีดึงเกมเปลี่ยนจังหวะไปสักพัก กอปรกับได้ประตูขึ้นนำ ทำให้จังหวะของยูไนเต็ดเริ่มเสียไป กลายเป็นเชลซีค่อยๆตั้งลำติด และเริ่มโหมเกมบุกเข้าใส่ เกมของยูไนเต็ดที่เฟล็ทเชอร์โดดเด่นมากในแดนกลางช่วงแรก กลับหายไปเฉยๆ เพราะเกมรุกของเชลซีพยายามเซ็ตบอลเลี่ยงแดนกลางยูไนเต็ดที่ครองพื้นที่ได้ดีกว่า แต่เลือกจ่ายให้ตัวจี๊ดทางปีกอย่าง อ.โคล อย่างมาลูด้า และอาเนลก้าให้โฉบไปเอาบอลแทน ทำให้เกมตรงกลางของเราหาบอลไม่ค่อยเจอ และผู้เล่นแนวรุกเราต้องถอยร่นลงมาช่วยป้องกันเกมทางกราบทำให้เกมรุกเราขาดความต่อเนื่องและสะดุดไป ในที่สุด เมื่อถูกโหมหนักๆ น้าซาร์ก็มีอาการบาดเจ็บ จากการปะทะกับมาลูด้า และฝืนเล่นสักพักก็ต้องเปลี่ยนออกให้คุสแซ็คลงมาแทน หลังจากนั้นเกมก็ยังเป็นเชลซีที่กางตำราบุกแหลก แต่ยูไนเต็ดยังป้องกันได้ดีอยู่ และจังหวะสวนกลับก็ไม่สามารถปิดสกอร์ได้เพิ่ม เริ่มครึ่งหลัง เชลซีขยับก่อน ส่งดร็อกบาลงมาแทนมาลูด้า ที่กดดันยูไนต็ดได้ไม่มากนัก ขยับอาเนลก้ามาซ้ายเพื่อเล่นงานแกรี่มากขึ้น เพียงแค่นั้นแกรี่ก็แย่แล้วครับ เกมริมเส้นฝั่งซ้ายของเชลซีกดยูไนเต็ดอยู่หมัดจริงๆ ทั้งอ.โคล และอาเนลก้า ต่างช่วยกันปั่นป่วนผู้เล่นด้านขวาอย่างแกรี่ และฮาร์กรีฟส์จนหัวปักหัวปำตลอดเวลา เพียงแต่แนวรับคนอื่นยังคงป้องกันได้ดี การที่เชลซีพาบอลเข้ามาบุกได้ตลอดแต่เข้าในกรอบไม่ได้ ทำให้สกอร์ยังคงถูกตรึงอยู่ที่ 0:1 ในขณะที่เกมของเชลซีพอเจาะไม่เข้าก็ต้องครอส ซึ่งแนวรับยูไนเต็ดยังคงป้องกันได้ดี แต่ก็ทำให้ป๋าเริ่มนั่งไม่ติด ต้องส่งโรนัลโด้ลงมาแทนฮาร์กรีฟส์ เพื่อค้ำและขู่ในเกมโต้กลับเร็ว แต่การที่เบอร์บาตอฟมีสปีดไม่ทันโรนัลโด้ ทำให้เกมโต้กลับมักจะคายพิษสงไม่ออกเท่าไหร่ เกมรับของเชลซียังคงป้องกันได้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในขณะที่เกมเป็นของเชลซีเต็มๆ ผู้เล่นมิดฟิลด์ยูไนเต็ดไม่สามารถสร้างสรรค์เกมตรงกลางได้อย่างที่คิด และโจ โคลได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงตรงตัวคุสแซ็คอย่างน่าเสียดาย บิ๊กฟิลขยับอีกครั้ง ด้วยการลดบทบาทตรงกลางสนาม คงเพราะเห็นว่าเกมตรงกลางแทบจะครองไว้ได้เบ็ดเสร็จแล้ว เขาถอดบัลลัคออก และส่งกาลูลงมาเพื่อเพิ่มตัวกดดันแผงหลังในกรอบผู้มาเยือน ในขณะที่ป๋าขยับตามทันที ส่งโอเชลงมาแทนสโคลส์ที่โดนใบเหลืองไปก่อนหน้า เพื่อเพิ่มแนวป้องกัน แต่นั่นส่งผลให้เกมรุกจากตรงกลางของยูไนเต็ดยิ่งสะดุดหายไปแบบสิ้นเชิงทันที โอเชทำให้เกมไม่ต่อเนื่อง เขาช่วยสกัดกั้นได้บ้างจริงแต่เกมจากเท้าเขายังหวังอะไรไม่ได้ และยิ่งทำให้แนวรับของยูไนเต็ดถูกกดดันหนักขึ้นและเริ่มออกอาการขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้ง ดร็อกบา, อาเนลก้า, โจ โคล และกาลู ต่างสลับกันเข้ามาสร้างความหวาดเสียวอยู่เรื่อยๆ ไหนจะมีแลมพาร์ดที่จดๆจ้องๆจะเก็บตกอยู่หน้ากรอบอีกคน ในที่สุดความพยายามของสิงห์บลูก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อมิเกลเปิดฟรีคิกเข้ามาหน้าปากประตูให้กาลูเทคขึ้นโหม่งเต็มๆส่งบอลผ่านมือคุสแซ็คได้สำเร็จ และไม่ว่าจะผลักหรือไม่ผลักผมว่ามันเป็นประเด็นรองนะ แต่การที่ริโอต้องไปขึ้นเทคอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้เล่นเชลซีสามคนที่ขึ้นเทคพร้อมๆกัน อันนั้นน่าจะเป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบมากกว่า ว่าคนอื่นหายไปไหนกัน และสุดท้าย เกมก็จบลงไปด้วยการแบ่งแต้มในที่สุด หลังจบเกม ผมยังเซ็งไม่หายกับการพลาดโอกาสทุบเชลซีคาบ้านเป็นครั้งแรกในรอบสามปี และกว่าจะได้วนมาที่นี่อีก ถ้าไม่พบกันในบอลถ้วย ก็ต้องรอฤดูกาลหน้าโน่นเลย หรือไม่ก็รอให้ทีมอื่นปราบ ซึ่งดูฟอร์มแล้ว ก็ค่อนข้างยากนะครับ ที่เชลซีจะพลาดในรังตนเองได้ ขนาดวันนี้ไม่มีคาร์วัลโญ่ ไม่มีเดโก้ ไม่มีเอสเซียง ยังเล่นเราซะหลังพิงเชือกแทบขาด แล้วถ้าเชลซีกลับมาเต็มสูบอีกที อันนี้น่ากลัวแน่นอน โอเคครับว่าเกมนี้คงยังไม่ตัดสินแชมป์กันแน่ๆ แต่มองในแง่ดี การบุกไปแชร์แต้มเชลซี ก็น่าจะเป็นสิ่งดีๆ ที่เราพอมองเห็นกันได้จากเกมนี้ การเบรคเชลซีไม่ให้ทิ้งไปไกลกว่านี้ การที่สามารถเก็บหนึ่งแต้มกลับมาจากเดอะบริดจ์ได้ ทำให้ยังคงตามหลังผู้นำเดี่ยวอย่างอาร์เซนอลอยู่เจ็ดแต้ม ตามเชลซีกับลิเวอร์พูลที่หกแต้ม กับหนึ่งนัด (ฟูแล่ม) ตกค้าง ถ้ายังมองโลกกันในแง่ดี ก็ต้องถือว่า โอกาสยังเปิดอยู่ค่อนข้างกว้าง กับการจะไล่ให้ทันก่อนเข้าคริสต์มาส และต้องหวังว่า เราจะฟื้นคืนฟอร์มในการจบสกอร์ได้ดีขึ้นในเร็ววัน เพราะเมื่อคืนนี้ เรายังทิ้งโอกาสจบสกอร์ไปเยอะมากจากจังหวะที่ควรจะได้ลูกที่สอง เกมเยือนบิ๊กโฟร์ด้วยกัน ที่ควรคาดหวังให้เก็บได้อย่างน้อยสองแต้มหากต้องการลุ้นแชมป์และกดคู่ต่อสู้ไว้ เราทำได้แค่แต้มเดียว ก็ทำให้ต้องมุ่งมั่น เก็บแต้มเพิ่มให้ได้จากการพบกับบิ๊กโฟร์ในอีกสี่เกมที่เหลือนะครับ และที่สำคัญต้องรีบภาวนาให้ผู้เล่นตัวหลักๆหายเจ็บกลับมาฟิตเต็มที่โดยเร็วที่สุด เพื่อผนึกกำลังกันไล่เก็บแต้มให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อคงสถานะผู้ไล่ล่าที่มีความหวังเต็มเปี่ยมอยู่ต่อไป สิ่งที่ลืมไม่ได้คือ วิญญาณเพชฌฆาตครับ ต้องรีบเรียกมาลงองค์เร็วๆเลย กับเกมนี้ สิ่งที่อยากพูดถึงในเรื่องเกมการเล่นของทีมก็คือ เราปล่อยให้สองแต้มมันหลุดมือไปเอง จริงอยู่ที่เชลซีทำได้ดีมากๆ หลังจากเสียประตูไปก่อน แต่การที่เราเพลี่ยงพล้ำรูปเกมให้เชลซีทั้งๆที่ทำได้ดีกว่าเห็นๆมาก่อนตั้งครึ่งชั่วโมง มันช่างน่าคิดนะครับ ว่าทำไมเราไม่สามารถเปลี่ยนเกมให้กลับมาอยู่ในคอนโทรลของตัวเองได้อีก ซึ่งเป็นเหมือนเกมแดงเดือดไม่มีผิด เพียงแต่เกมนี้ เรายังมีความมุ่งมั่นให้เห็นอยู่มาก ไม่ใช่เล่นไปเงียบหายไปเหมือนเกมแดงเดือด แต่ก็นั่นแหละครับ การที่เราปล่อยให้เชลซีสามารถพลิกเกมกลับมาได้เต็มตัว และไม่สามารถช่วงชิงจังหวะเกมกลับมาได้อีกเลยร่วมๆหกสิบนาที ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เราขาดจุดไหนไป ผู้เล่นตัวหลักรึก็ขาดไปไม่แตกต่างกัน เราขาดคาร์ริค,วิดิช, เตเวซที่ไม่ได้ลงมา เชลซีก็ขาด เดโก้, คาร์วัลโญ่ และเอสเซียงเช่นกัน หรือจะเป็นเพราะแท็คติกการแก้เกมที่ผู้เล่นเราไม่สามารถ สั่ง ได้ดั่งใจเหมือนที่บิ๊กฟิลสั่งลูกทีม หรือเป็นที่คุณภาพนักเตะที่ถูกส่งลงสนาม ผมเองก็ยังขบไม่แตก แต่อย่างหนึ่งที่เห็นได้เด่นชัดก็คือ เกมตรงกลางของเราที่โดดเด่นเหลือเกินช่วงเกือบๆครึ่งชั่วโมงแรกนั้น เฟล็ทเชอร์, สโคลส์, ปาร์ค และฮาร์กรีฟส์ สามารถขึงเกมตรงกลางได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการทำเกมของเฟล็ทเชอร์ที่ดูดีผิดหูผิดตาไปมาก และสามารถตัดเกมรุกตรงกลางของเชลซีได้ชะงัด จนนำมาสู่ประตูขึ้นนำได้ แต่หลังจากนั้น พอเชลซีกลับมาขึ้นเกมทางกราบแทน และอาศัยบอลจ่ายทะลุกลางมากขึ้น เกมตรงกลางของเราก็ไม่สามารถแก้แท็คติกตรงนี้ได้เลย ปล่อยให้เกมมันถูกดำเนินไปเช่นนั้น และย่ำแย่ลงเรื่อยๆจากการเปลี่ยนตัวกองหน้าลงมาของเชลซี นั่นแสดงให้เห็นว่า การวางหมากตั้งต้นในเกมนี้ของท่านเซอร์ทำได้ดีกว่าบิ๊กฟิลอย่างเห็นได้ชัด แต่บิ๊กฟิลสามารถแก้ลำและวางแผนใหม่มาได้ดีกว่าท่านเซอร์ครับ อย่างน้อยก็ในสายตาผม เมื่อมาดูรายละเอียดการเล่นของผู้เล่นในเกมนี้ เราจะเห็นว่า อีแวนส์ที่เพิ่งลงมาใหม่ๆในฐานะคู่ขาริโอ สามารถทำผลงานใช้ได้เลยทีเดียว ถึงแม้จะมีพลาดบ้าง แต่ก็ไม่ถือว่าจะแจ้งนัก สำหรับในสยาตาผม ผมมองว่าอีแวนส์ อาจจะ พลาดในลูกที่เสียประตู เพราะมีริโอที่ขึ้นตรงนั้นคนเดียว แต่หากจะพูดให้เจาะจงลงไป ก็ต้องดูว่า อีแวนส์นั้น ประกบคนอื่นเป็นพิเศษอยู่หรือเปล่า ทำให้พื้นที่ตรงนั้น ว่างไป ซึ่งผมเองไม่ได้สังเกตเห็นในจุดที่อีแวนส์ยืนประกบอยู่ นอกจากนี้ แกรี่เองก็มีปัญหาในการตามประกบอาเนลก้าอย่างมาก ทั้งๆที่อาเนลก้ากับมาลูด้า ความคล่องตัวและความเร็วไม่น่าต่างกันมาก แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าอาเนลก้านั้น ไม่กลัวแกรี่ เนื่องจากเคยเจอกันมาหลายครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ทั้งคู่ยังรุ่งๆอยู่ ส่วนมาลูด้าอาจจะแหยงๆลูกหนักแกรี่อยู่บ้าง ทำให้ผลการดวลนั้น แกรี่พอสู้มาลูด้าได้ แต่แพ้อาเนลก้าขาดครับ แต่ก็นั่นแหละ อาเนลก้าได้รับอนุญาตให้วูบวาบแค่ริมเส้น ทำให้ไม่ได้สร้างความหวาดเสียวอย่างอื่น แถมโอกาสยิงจ่อๆหลาเดียวก็ดันลอดขาตัวเองซะอีก ด้านเอวร่า เขาขึ้นเกมรุกเป็นหลัก ทำให้การหยุดโจ โคล มักจะตกเป็นภาระของกองกลางและหลัง โดยเฉพาะอีแวนส์ ยังดีที่วันนี้ไม่ใช่วันของโจ โคล ไม่งั้นเราคงเศร้ากว่านี้จากโอกาสจะจะสองครั้งสองคราที่โจ โคล พลาด คนที่เล่นได้ดีของเชลซีก็มีอีกเช่นกาลู ที่ลงมาก็ป่วนน่าดูทีเดียว แถมพังประตูสำคัญได้อีก และยังมีแอชลี่ย์ โคล ที่ถูกวางมาให้เป็นตัวลากริมเส้นอีกตัวได้ดี ทั้งรุกและรับทีเดียว ในขณะที่บัลลัคเองก็คุมเกมและพลิกเกมตรงกลางได้ดี เพียงแต่อาจยังไม่เท่ากับที่เดโก้ทำได้ ส่วนด้านยูไนเต็ด นอกจากปาร์คที่เล่นได้ดีและเด่นแล้ว, เอวร่า กับริโอก็สมควรได้รับคำชมเช่นกัน เวย์น รูนี่ย์ก็ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างสรรค์เกมรุกกับเพื่อนได้เด่นไม่แพ้กัน แต่เฟล็ทเชอร์ที่เด่นมากๆในช่วงแรก กลับหายจ้อยไปเลยร่วมชั่วโมงสุดท้าย สุดท้าย นัดนี้ ผมคงยกให้ปาร์คล่ะครับ ที่เป็นตัวจุดประกายทุกอย่างของทีม หลังผ่านพ้นเกมหนักๆไปแล้ว เราก็จะหายใจหายคอคล่องขึ้นหน่อย และคงต้องรีบทำคะแนนไล่ชาวบ้านชาวช่องเขาได้แล้ว ไม่งั้นเนิ่นนานไป จะไล่ไม่ทันเอานะครับ และโปรแกรมถัดไปในช่วงนี้ จะเป็นดังนี้ครับ 23 Sep League Cup (Carling) Middlesbrough H 20:00 27 Sep Premier League Bolton H 15:00 30 Sep Champions League Aalborg BK A 19:45 04 Oct Premier League Blackburn A 17:30 18 Oct Premier League West Brom H 17:30 ต้องรีบทำคะแนนแล้วครับ มาช่วยกันเชียร์นะครับผม สวัสดีครับ ปล. จะเอากันให้ตายเลยรึไง ไรลี่ย์...ปั๊ดธ่อ//ฮ่าฮ่าฮ่า สงบใจ อันนี้ยกมาจากที่ผมเพิ่มเติมไว้ในกระทู้นะครับ เป็นคำตอบที่เห็นด้วยกับคุณจีโน่ครับ ว่าพลาดไป
"ผมว่าเป็นความซวยมากกว่า เมื่อโควต้าหนึ่งต้องถูกแบ่งไปให้น้าซาร์ และเมื่อเหลือแค่สิบห้านาทีกับการต้องรักษาประตูนำให้ได้ ป๋าจึงเลือกแพ็คมากขึ้น นั่นคือคำตอบของคำถามเกี่ยวกับโอเชที่ถูกส่งลงมา ผมยังคิดอยู่ครับ ว่าเฟอร์กี้น่าจะตั้งใจปิดเกมเต็มที่ จึงส่งโอเชลงมาปิดพื้นที่เพ่มอีกคน เอามาเกะกะเกะกะหน้ากรอบอีกตัว" ที่สำคัญ ที่พลาดอีกจุดคือ การตัดแอนนี่ออกจากซุ้มสำรอง แล้วเอาโอเช กับกิ๊กส์มานั่งแทน ซึ่งผมมองว่า โอเช กับก๊กส์ ควรเลือกเพียงหนึ่ง แล้วเหลือแอนนี่ไว้ข้างสนามดีกว่า ยังไงแอนนี่ก็ช่วยไล่ตรงกลางได้่ โดย: สงบใจ IP: 58.10.65.141 วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:15:31:50 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ผมมองว่าการแก้เกมของป๋าเราต่างหากที่เป็นจุดเปลี่ยน
เพราะการเปลี่ยนโอเชลงมานั้นทำให้รูปเกมของเราเสียจังหวะไป แทนที่จะเอาแอนเดอร์สันลงมา แล้วดันเฟลทเชอร์ลงไปรับแทน เพระแอนเดอร์สั้นนั้นได้ทั้งลูกหนักในเกมรับ และการพาบอลขึ้นหน้าในจังหวะสวนกลับได้ดีมากๆ ตรงจุดนี้ผมถือว่าเป็นความผิดพลาดของป๋าจริงๆ ที่จะแพ็คเกมไว้ทั้งที่เวลายังเหลืออยู่มาก
ตั้งแต่เห็นโอเชลงมา ผมก็นึกรูปเกมออกเลยว่าจะต้องโดนตีเสมอแน่ๆ เพราะการโต้กลับเร็วจากตรงกลางไปริมเส้น หรือหน้าเป้า ก็ขาดประสิทธิภาพไปอย่างสิ้นเชิง หลายจังหวะที๋โด้ต้องมาควบบอลจากกลางสนามทั้งๆ ที่ยังไม่ฟิตพอ เมื่อไปถึงกรอบเขตโทษ ก็ทำเสียบอลไปเองหลายจังหวะ
การเปลี่ยนตัวที่ผิดพลาดอีกอย่างก็คือ การไม่เปลี่ยนเบอร์บาตอฟออก เพราะเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวอ่อนแรงลงไปมาก ไม่สามารถกดดันคู่เซนเตอร์เชลซีได้ แม้เทอรี่จะฟอร์มหลุดอยู่หลายทีก็ตาม แทนที่จะดันรูนีย์ขึ้นมาหน้าเป้า และเอานานี่ลงมาริมเส้นอีกคน เพื่อช่วยกดดันฟูลแบ็คที่เติมเกมรุกของทีมสิงโต ป๋าก็ไม่ยอมเสี่ยง
ทั้งที่หลายครั้งเราก็ได้รับบทเรียนกับทีมระดับบิ๊กโฟร์อยู่บ่อยๆ ว่า ขึ้นนำแค่ลูกเดียวโอกาสแพ้หรือเสมอมันมีอยู่ทุกนาที ทำไมๆๆๆๆ
เสียดายแทน 2 แต้มที่หายไปจริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่ความมุ่งมั่นและรูปเกมของเราดีกว่าเห็นๆ