20080402 วิพากษ์ AS ROMA vs MAN UTD
อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกๆท่าน กลับมาพบกันกลางสัปดาห์อีกครั้ง กับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เป็นกระทู้เดจาวูฉลองขึ้นปีที่สองของผมซะด้วย เพราะเป็นการไปเยือนโรม่าเหมือนเดิมเป๊ะๆเลยครับ จะต่างกันหน่อยก็ตรงที่ว่า ปีนี้ เราพร้อมรบกว่าโรม่า และเรามีขนาดทีมที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อรองรับศึกหลายด้าน แต่ขนาดมีทีมที่ใหญ่แล้ว ก็ยังกล้าๆตกรอบไปสองถ้วยก่อนซะงั้นนะครับ เอาล่ะ ไหนๆ พลาดไปแล้วก็แล้วกันไป ตอนนี้เราคงต้องมามองถึงถ้วยที่ยังเหลืออยู่ เพื่อทำผลงานให้ดีที่สุดต่อไปครับ

เมื่อมองดูรายชื่อนักเตะที่ทั้งสองทีมส่งลงมา ก็จะสังเกตได้ง่ายๆว่า ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือโรม่าเจ้าถิ่น พยายามส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดที่มีอยู่ลงสนาม เพราะการขาดต๊อตติ, ฮวน และแปร็อตต้า ทำให้ทีมอ่อนยวบลงไปพอสมควร แต่ก็ยังมีกองกลางที่แข็งแกร่งอยู่ ได้ทั้งเด รอสซี่, อควิลานี่ และ ดาวิด ปิซาร์โร่ ลงสนามบัญชาการเกมตรงกลางครบครัน หน้าเป้า ส่งวูซินิช ลงมาแทนต๊อตติที่เจ็บ และมีตัวรุกทางกราบสองข้างอย่างมานซินี่ และตั๊ดเด เล่นประสานกับวูซินิชในการทำเกมรุก ส่วนแผงหลัง เลือกเม็กแซส ยืนคู่กับปานุชชี่ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนแบ๊คซ้ายขวา เป็น คาสเซ็ตติ กับโตเน็ตโต้ มีโดนี่เฝ้าเสา

ส่วนทางด้านปิศาจแดงผู้มาเยือน มีการปรับทัพที่พลิกโผพอสมควร เมื่อดร็อปฮาร์กรีฟส์ไว้ข้างสนามร่วมกับกิ๊กส์ แต่ส่งอันแดร์สันลงมายืนตรงกลางแทน โดยแนวรุกสามตัวเลือก รูนี่ย์, โรนัลโด้ และปาร์ค ซึ่งก็เป็นจุดที่สร้างเซอร์ไพรส์เช่นกัน เมื่อกิ๊กส์อยู่ข้างสนามแต่ไม่มีเงาของนานี่ในเกม คู่กองกลางยังคงเป็นสโคลส์กับคาร์ริค ในขณะที่ผู้รักษาประตูและแผงหลังยังคงเป็นชุดใหญ่ จัดทีมมาในวันนี้ด้วยระบบ 4-3-3

ปาร์ค รูนี่ย์ โรนัลโด้
อันแดร์สัน คาร์ริค สโคลส์
เอวร่า วิดิช ริโอ บราวน์
ซาร์

เริ่มเกมขึ้นมา โรม่าตั้งเกมได้ก่อนตามถนัด ทำเกมรุกกดดันผู้มาเยือนได้พักใหญ่ๆ และมีโอกาสได้จบบ้างประปราย ในขณะที่ผู้มาเยือนกว่าจะตั้งเกมติดก็ผ่านไปเกือบสิบห้านาทีแล้ว รูปเกมโดยทั่วไป ในช่วงแรกนั้น โรม่าพยายามเน้นการวางบอลข้ามพื้นที่กลางสนามให้แนวรุกโฉบไปเอาบอล แล้วต่อเกมรุกกันหน้ากรอบ ซึ่งได้ผลและปั่นป่วนแนวรับแมนฯยูไนเต็ดได้ดีพอสมควร เนื่องจากวิธีการเล่นของโรม่าในช่วงแรก เป็นการตัดกองกลางยูไนเต็ดออกจากเกม ไม่ให้มีโอกาสสกรีนบอลได้มากนัก และภาระจึงไปตกกับแผงหลังซะเป็นส่วนใหญ่

ในขณะที่ยูไนเต็ด พยายามไล่แย่งบอลเพื่อทำเกมรุกสวนกลับบ้าง แต่ช่วงแรกๆยังติดๆขัดๆอยู่ เพราะกองกลางยังทำเกมไม่ได้ตามถนัด ต้องเล่นตามเกมของโรม่าอยู่พักใหญ่จึงตั้งลำได้ และมีโอกาสเซ็ตเกมรุกกดดันต่อเนื่องบ้าง ซึ่งพอย่างเข้ากลางๆครึ่งแรก ทั้งคู่ผลัดกันครองเกมกดดันอีกฝ่ายได้เป็นระยะๆ แต่ยังไม่มีโอกาสจะแจ้งนัก นอกจากจังหวะที่ปานุชชี่ขึ้นโขกลูกเตะมุมข้ามคานไปนิดเดียว หลังจากนั้น ผ่านไปครึ่งชั่วโมง วิดิชก็ทำให้แฟนๆผีแดงหายใจไม่ทั่วท้องจนได้ เมื่อขึ้นเบียดแย่งลูกกลางอากาศกับวูซินิชแล้วลงมาหลักไม่ดี หัวเข่าเจ็บจนต้องนั่งรถออกไปจากสนาม ร้อนถึงท่านเซอร์ต้องส่งโอเชลงมาแทน และก็เซอร์ไพรส์อีกเช่นกัน ที่เอาโอเชยืนเซ็นเตอร์ทันที แทนที่จะเป็นบราวน์ ซึ่งบราวน์นั้น ถูกสั่งให้ยืนแบ๊คขวาเหมือนเดิม

หลังจากที่เห็นโอเชลงมาแทนวิดิช โรม่าก็ไม่รอช้า โหมเกมรุกเข้าใส่ทันทีครับ และสร้างความปั่นป่วนได้มาก เมื่อแผงหลังผู้มาเยือนยังปรับขบวนได้ไม่เข้าที่ โดนรุกเข้าใส่อยู่พักใหญ่ๆเลยทีเดียว แต่โรม่ายังไม่มีจังหวะจบสวยๆเกิดขึ้นเท่านั้น กลับกัน ยูไนเต็ดได้โอกาสสวนสวยๆขึ้นมาปลายครึ่งแรก ก็กลับเป็นประตูขึ้นนำในทันทีเมื่อรูนี่ย์ได้บอลหน้ากรอบโทษ ดึงจังหวะรอกองหลังโรม่าเข้ามาหาสองสามคน ก่อนจะป้ายออกขวาให้สโคลส์วิ่งมาเปิดบอลย้อยเข้ากลาง ซึ่งมีโรนัลโด้โถมเข้ามาแต่ไกล เบียดคาสเซ็ตติที่ไม่ทันระวังเข้าโขกเต็มหน้าผากเข้าประตูไปอย่างสวยงาม กลายเป็นอเวย์โกล์ที่ต้องการทันที และโรนัลโด้ก็เจ็บจากจังหวะนั้น แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้ หลังจากนั้น วูซินิชมีโอกาสพักบอลหลุดเข้ามาในกรอบโล่งๆ ก่อนจะจิ้มหนีมือฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ลูกเลยเสาสองออกไปไม่มากนัก

เกมในครึ่งแรกนั้น อันแดร์สันถูกวางตัวไว้เป็นกลางรุก แต่มีหน้าที่ไล่บอลในแดนหน้าด้วย ซึ่งทำได้ค่อนข้างดี และมีจังหวะจ่ายสวยๆหลายครั้งในช่วงแรกๆ เพียงแต่ในนัดนี้ ท่านเซอร์คงกำชับให้ลูกทีมเน้นรัดกุมไว้ก่อน ดังจะเห็นได้ว่า กลางไม่ค่อยหนุนสูง ทำให้หลายจังหวะ กองหน้าต้องหาทางไปกันสองสามคน ซึ่งค่อนข้างลำบาก แต่ก็ยังพอมีจังหวะกดดันได้บ้าง ปาร์คเองในนัดนี้ ก็ทำหน้าที่รับมากกว่ารุก มีโอกาสเข้าไปเพ่นพ่านแถวกรอบน้อยมาก ส่วนใหญ่จะต่อบอลอยู่ในระยะสามสิบสี่สิบหลามากกว่า ในพื้นที่อันตรายจะมีเพียงโรนัลโด้และรูนี่ย์เข้าไปทำเท่านั้น ซึ่งผมเดาเอาเองนะครับ ว่าท่านเซอร์คงกำชับมาเป็นอย่างดีให้รัดกุม และระมัดระวังให้มาก เพราะวันนี้ โรม่าเน้นเกมละเอียดมากจริงๆ

การที่โรม่าใช้เกมวางยาวในช่วงแรก เพื่อตัดกองกลางเราออกจากเกมนั้น ได้ผลดีมาก แต่ก็ในช่วงสั้นๆ ประมาณสิบถึงสิบห้านาที หลังจากที่ยูไนเต็ดตั้งลำได้ โรม่าก็หันมาเน้นเกมรัดกุมมากขึ้น อันนี้ ทำให้เราสังเกตได้ทันทีว่า สปัลเล็ตติพัฒนาแท็คติคขึ้นมาจากปีที่แล้วได้เยอะพอสมควร มีการเร่ง การผ่อน และมีการเปลี่ยนจังหวะการรุกสองสามแบบในครึ่งเวลาเดียว ที่สำคัญ กองหลังของโรม่า และเดรอสซี่ในครึ่งแรก ยืนสกรีนเกมสวนกลับของยูไนเต็ดได้ดี ยูไนเต็ดมีโอกาสเจาะทะลุทะลวงจากตรงกลางนับครั้งได้ในครึ่งแรก ตรงนี้ยิ่งทำให้ท่านเซอร์ต้องระวังมากขึ้น แต่การที่ได้ประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก ย่อมปลดปล่อยรูปเกมออกมาจากความรัดกุมได้มากขึ้นในครึ่งหลังค่อนข้างแน่



เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง โรม่าพับสนามบุกเข้าใส่ทันที แต่สังเกตเห็นว่า เป็นการพับสนามแบบรัดกุมด้วย ไม่ใช่เหมือนการบุกในปีที่แล้วที่โดนสวนหงายท้องตลอด คราวนี้โรม่ารุกแบบมีรูปแบบที่แน่นอนกว่าเดิม และเป็นการใช้บอลทะลุทะลวงตามช่อง ซึ่งโรม่าทำตรงนี้ได้ดีกว่าผู้มาเยือนอยู่พอสมควร บอลทะลุตามช่องและการเอาตัวรอดในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่งส่วนใหญ่นักเตะโรม่าทำได้ดีแทบทุกคน การหยุดลูกทะลุทะลวงของโรม่า ต้องใช้สองถึงสามคนเข้าบี้ตลอด และหลายครั้งที่โรม่าคายบอลทัน ทำให้มีผู้เล่นหลุดทะลุเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้ แต่ยังดีที่ไม่สามารถส่งบอลผ่านมือน้าซาร์เข้าสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ

ในขณะที่ยูไนเต็ดเอง ต้องรีบแก้เกมทันที หลังจากถูกโรม่าพับเกมอยู่สิบนาที โดยการส่งฮาร์กรีฟส์ลงมาแทนอันแดร์สันที่ถูกจดชื่อในครึ่งแรก และน่าจะเป็นการส่งมิดฟิลด์ตัวรับลงมายืนหน้าแผงหลังอย่างเป็นทางการของเกม แทนที่อันแดร์สัน ซึ่งก็สามารถปิดพื้นที่ได้ดีขึ้น ช่วยให้เกมรุกของโรม่าลดความอันตรายได้พอสมควร แต่โรม่าก็แก้เกมคืนทันควัน ด้วยการส่งชูลี่ ลงมาเลื้อยแทนตั๊ดเดที่โชว์ฟอร์มไม่ออก โรม่ายังคงเปิดเกมรุกกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยที่ยูไนเต็ดมีโอกาสสวนแค่ประปราย และไม่จะแจ้งนัก แต่กลับเป็นเจ้าถิ่น ที่มีโอกาสจบสกอร์หลายต่อหลายครั้ง ทั้งวูซินิช ที่โขกลูกเตะมุมให้น้าซาร์ต้องพุ่งปัดสุดเหยียด ทั้งการทำเกมทางกราบของชูลี่ ลูกเปิดเรียดเข้ากลางแบบเสียดแทงหัวใจสองสามจังหวะที่น้าซาร์ต้องพุ่งมาตะครุบไว้ตลอด ซึ่งแต่ละลูกนั้น ถ้าไม่ออกมาก็โดนชาร์จตุงตาข่ายแน่ๆ

แต่กลับกลายเป็นยูไนเต็ดที่ได้ประตูที่สองอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่บราวน์เปิดจากกลางสนามทางขวาข้ามหลุดเสาสองมา ปาร์กไม่ยอมปล่อยลูกออก โดดขึ้นโหม่งบอลย้อนกลับเข้ามากลางประตูที่มีรูนี่ย์เติมเข้ามาพอดี โดนี่โดดมาคว้าแต่ไม่ติดมือ กลับเสียหลักไปชนกองหลังพวกเดียวกันจนล้มลงทั้งคู่ บอลหล่นมาเข้าเท้าของรูนี่ย์และจิ้มเข้าไปแบบง่ายๆ ทำให้ยูไนเต็ดขึ้นนำไปสองลูกในนาที่ที่ 66 จากลูกนี้เอง ที่ดูเหมือนว่าทำให้โรม่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สปัลเล็ตติส่งซิซินโญ่ลงมาแทนโตเน็ตโต้ทันที และเริ่มโหมเกมบุกอีกครั้ง

เกมหลังจากนี้ โรม่าเปิดเกมบุกแลกแบบเต็มตัวแล้ว ชนิดไม่ต้องรัดกุมอะไรทั้งสิ้น เหมือนกับว่าจะวัดกันไปเลยว่าใครจะยิงได้ก่อนกัน อย่างน้อย คงหวังให้สกอร์ขาดแค่ลูกเดียว ซึ่งจะทำให้เล่นในเกมหน้าได้ง่ายขึ้นเยอะ ยูไนเต็ดถอยร่นลงไปตั้งรับกันเต็มพื้นที่ แม้แต่รูนี่ย์ยังลงไปยืนเป็นแบ๊คคู่กับเอวร่า ปาร์กก็ลงไปเล่นเกมรับทางด้านขวา ทิ้งโรนัลโด้ไว้หน้าคนเดียว แต่เกือบทำเพิ่มได้อีกลูกเมื่อเจ้าโด้สบโอกาสลากไปตะบันจากระยะถนัด ลูกติดปลายมือโดนี่นิดเดียว ก่อนจะหลุดไปชนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย โรม่าก็ไม่ตกอกตกใจอะไรแล้ว ยังคงเปิดเกมบุกเข้าใส่หวังทำประตูให้ได้ และส่งตัวพลิกเกมตัวสุดท้าย คือเอสโปซิโต้ลงมาแทนอควิลานี่ ในนาทีที่ 77 เพื่อปรับกระบวนบุกอีกครั้ง

เกมยังคงเป็นการรุกของโรม่าอยู่เรื่อยๆ โดยที่ยูไนเต็ดในช่วงสิบห้านาทีสุดท้าย หันมาเน้นเกมรับแล้วโต้อย่างเต็มตัว โอกาสของทั้งสองฝ่ายมีจะแจ้งน่าเป็นประตูพอๆกัน โรม่ายังคงมีปัญหาในการจบสกอร์เหมือนการพบกันเมื่อปีที่แล้ว เมื่อมีโอกาสจะแจ้งหลายครั้งแต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ในขณะที่พอย่างเข้าท้ายเกม ยูไนเต็ดสามารถปิดจังหวะรุกของโรม่าได้อยู่หมัด และสร้างเกมรุกขึ้นไปกดดันได้บ้าง ทั้งรูนี่ย์ โรนัลโด้ คาร์ริค ต่างก็น่าจะเพิ่มสกอร์ให้ทีมได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ

สุดท้ายท่านเซอร์ก็ถอดรูนี่ย์ออกมาพัก เติมตัวสดอย่างเตเวซลงไปแทน เพื่อไล่บี้กองหลังโรม่าในจังหวะสวนกลับ และก็ทำได้ดีมาก เมื่อประสานงานกับฮาร์กรีฟส์, คาร์ริค และโรนัลโด้ได้สวยๆหลายจังหวะ ทั้งที่มีเวลาไม่มากในสนาม แต่กลับมีโอกาสจบสกอร์เอง รวมทั้งมีโอกาสเปิดให้โรนัลโด้ วิ่งเข้ามาวอลเลย์หลุดคานไปนิดเดียว และยูไนเต็ดก็ปิดเกมโดยสมบูรณ์ในที่สุด เป็นคลีนชีตนัดที่ห้าติดต่อกัน และเป็นนัดที่เจ็ดจากแปดนัดล่าสุด

รูปเกมโดยทั่วไปนั้น โรม่าทำได้ดีมากขึ้น ในแง่ของความรัดกุม และแท็คติคในการเล่น มีการยืดหยุ่นเกมมากขึ้น และจากที่ผมเห็นในเกม ประสบการณ์ปีที่แล้ว และปีนี้ที่เพิ่มพูนขึ้น ทำให้เกมของโรม่าละเอียดขึ้น มีการพลิกแพลงเกมมากขึ้น เมื่อรวมกับการที่นักเตะโรม่ามีเบสิคที่ดีอยู่แล้ว ทำให้การต่อบอล การทะลุทะลวงตามช่องทำได้ดีมาก และหาช่องเจอแทบตลอด เพียงแต่ปีนี้ ยูไนเต็ดเองก็มีการปรับทัพด้วยเช่นกัน การเสริมกองกลางที่ดี และการปรับแท็คติคของทีม ให้กองกลางมีส่วนในการเล่นเกมรับมากขึ้น ทำให้แนวรับของทีมเพิ่มความแข็งแกร่งเหนียวแน่นมากขึ้น เสียประตูยากขึ้น จะเห็นว่า โรม่าได้ทะลุทะลวงผ่านยูไนเต็ด ก็เพียงแถวสองหน้ากรอบเท่านั้น แต่คู่เซ็นเตอร์ยังไม่หลุดจากตำแหน่ง และยังคงป้องกันได้ดี

ในขณะที่โรม่าเพิ่มความสมดุลให้กับทีมได้ดีมากขึ้น ยูไนเต็ดก็ขันน๊อตเกมรับได้ดีมากขึ้นเช่นกัน จุดที่แตกต่างของเกมที่ทำให้เกิดสองประตูก็คือ ความผิดพลาดในแนวรับของโรม่า และความคมในการจบสกอร์นั่นเองครับ ทั้งสองลูกที่เสียไป เป็นลูกกลางอากาศทั้งนั้น และเป็นผู้เล่นโรม่าเองที่ไม่สามารถป้องกันลูกกลางอากาศได้ดี ลูกแรก คาสเซ็ตติ มีเวลาที่จะวิ่งเข้ามาบล๊อคการเติมของโรนัลโด้ แต่เนื่องจากไม่ได้ดูตัวสอดจากแถวสอง ทำให้เลือกที่จะโดดขึ้นโหม่งเคลียร์เฉยๆ ต่างกับโรนัลโด้ ที่โถมมาทั้งตัวจากนอกกรอบ และโรนัลโด้นั้น ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเทคตัวได้สูงมาก ทำให้สามารถเบียดตัดหน้าคาสเซ็ตติโหม่งเข้าประตูไปได้ และหากจะย้อนไปอีกนิด ลูกนี้ กองหลังโรม่าก็กรูกันเข้าไปหารูนี่ย์ที่หน้ากรอบกันหมด ปล่อยให้สโคลส์ได้สอดมาทางขวาโล่งๆคนเดียว ก่อนจะเปิดบอลย้อยเข้าหน้าประตูได้สำเร็จ

ส่วนลูกที่สอง ยิ่งชัดเจนมาก บราวน์เปิดบอลยาวแทบจะมาจากกลางสนามด้วยซ้ำ บอลหลุดจะเลยเสาสองไปแล้ว แต่ไม่มีผู้เล่นโรม่าเข้าเบียดปาร์ก ปล่อยให้ปาร์กขึ้นโหม่งบอลย้อนกลับมากลางประตูง่ายๆ และโดนี่กับกองหลังก็กะจังหวะผิดพลาด โดนี่น่ะ คว้าบอลแทบไม่อยู่ แถมยังไปชนกับกองหลังตัวเองล้มลงไปทั้งคู่ รูนี่ย์ที่แทบไม่มีส่วนอะไรกับจังหวะนี้ นอกจากวิ่งเข้ามาหวังจะทำประตู แต่ก็ไม่ได้เทคเต็มตัวด้วยซ้ำ เพราะบอลค่อนข้างสูง กลับได้ส้มหล่นจากจังหวะนี้ เมื่อบอลหล่นมาเข้าเท้าพอดี เลยจัดการจิ้มเข้าไปง่ายๆ ทั้งสองประตูแสดงให้เห็นว่า โรม่ายังไม่นิ่งกับการป้องกันลูกกลางอากาศ และถ้ายังคงเป็นเช่นนี้ นัดหน้าคงได้เห็นการทิ้งบอมบ์ใส่โรม่าค่อนข้างแน่ครับ เพราะในเมื่อผมเองมองเห็น ท่านเซอร์และสต๊าฟฟ์คนอื่นๆ ก็น่าจะเห็นเหมือนๆกัน

นอกจากมีจุดอ่อนในด้านการป้องกันลูกบอมบ์แล้ว โรม่ายังขาดความคมในการจบสกอร์อย่างร้ายแรง หลายๆโอกาสที่ได้จบสกอร์จะจะ ทั้งลูกยิงของโตเน็ตโต้โล่งๆ ทั้งลูกชาร์จเผาขนโล่งๆของปานุชชี่ รวมทั้งลูกหลุดเข้าไปยิงของวูซินิช น่าเป็นประตูทั้งนั้นครับ ถ้าคมๆหน่อย ผมว่าเกมนี้ยิงกันกระจายแน่ โดยเฉพาะทางฝั่งโรม่า น่าใส่ได้ถึงสามประตูด้วยซ้ำ หลายๆท่านอาจบอกว่า ยูไนเต็ดก็มีโอกาสจะจะมากมายช่วงท้าย แต่นั่น มันก็เพราะโรม่าเปิดแลกแบบไม่สนใจเสียประตูแล้วต่างหากครับ เราถึงได้มีพื้นที่เข้าทำมากมายขนาดนั้นในช่วงท้ายเกม อยากให้มองรูปเกมในช่วงชั่วโมงแรกก่อนจะเป็น 0:2 มากกว่า เพราะช่วงนั้น โอกาสก็ยังไม่มากเท่าไหร่ครับ

สิ่งที่ทำให้เกมของยูไนเต็ดต่างไปจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดคือผู้เล่นแดนกลางครับ การมีตัวเลือกในแดนกลางมากขึ้น และแต่ละคนต่างทำผลงานได้ดี มีส่วนร่วมกับเกมหลากหลายแบบ ทั้งรุก และรับ ทำให้สามารถปรับตัวกับเกมได้ดี มีความยืดหยุ่นมากขึ้น สังเกตว่าทั้งๆที่กองกลางของโรม่าก็มาแบบเต็มสูบ แต่ไม่สามารถครองเกมขึงเกมยูไนเต็ดได้เต็มที่เท่าไหร่นัก ในขณะที่ลูกเล่นของกองกลางยูไนเต็ด เพิ่มความหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีอาวุธในการเข้าทำมากขึ้น

ผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีในนัดนี้ ของยูไนเต็ด มีหลายคนมาก อาจจะไม่หวือหวา แต่ถือว่าทำผลงานได้ตามสั่งทุกอย่าง รัดกุม เหนียวแน่น ช่วยเกมรับได้ดี และอดทน ทำได้ดีจริงๆครับ ขอชมเลยว่า นัดนี้ นักเตะทุกคนเล่นได้มีวินัยมากครับ ในขณะที่กองกลางอย่างคาร์ริค และแอนนี่ ก็พร้อมที่จะลงเล่นแบบปิดทองในเกมนี้ วิ่งไล่บอลมากกว่าเดินเกมบุก แอนนี่นั้นแทบจะหายไปจากเกมรุกในช่วงท้ายครึ่งแรกและต้นครึ่งหลังด้วยซ้ำ ยิ่งปาร์กนี่ครึ่งหลังหาตัวเจอนับครั้งได้ เพราะไปเล่นวิ่งเกมรับซะมากกว่า ยิ่งแบ๊คสองข้างในเกมนี้ยิ่งต้องชมครับ เป็นจุดที่ทำให้เกมริมเส้นของโรม่าติดขัดจริงๆ แบ๊คสองข้างเราไม่เติมสูงเลย กลับยืนค้ำปีกสองข้างของโรม่าแทบตลอด ยิ่งช่วงท้ายที่มีรูนี่ย์กับปาร์กลงมาช่วย ยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่

แต่ถ้าจะให้คะแนนใครเด่นที่สุด ผมอยากให้ริโอครับ พลาดแค่สองสามครั้ง แต่นอกนั้น แกเก็บหมดจริงๆ ยิ่งไม่มีวิดิช ริโอยิ่งรับบทหนัก อีกคนที่เด่นมากก็คือ รูนี่ย์ สร้างปัญหาให้แนวรับของโรม่าตลอดทั้งเกม ยิ่งลงต่ำมาเล่นหน้ากรอบ พาบอลไปเอง กองหลังโรม่ายิ่งป่วนหนัก ยังดีที่นัดนี้ ปานุชชี่ยังบงการได้ดีอยู่บ้างนะครับ ส่วนที่ได้คะแนนต่ำหน่อยก็คงเป็นอันแดร์สัน ที่ดูเด่นแค่ในช่วงแรกๆ แต่กลับหายไปจากเกมในช่วงท้ายๆ เมื่อต้องไล่บอลอย่างเดียว ในขณะที่สโคลส์นัดนี้ เสียบอลบ่อยครับ จ่ายพลาดสามสี่จังหวะจะจะในพื้นที่ตัวเอง แต่ในด้านการคุมจังหวะของทีมถือว่าทำได้ดีแล้ว แค่ว่าดูจะยังช้าอยู่ในการออกบอลครับ โรนัลโด้ก็เล่นได้ดี แต่ถูกปิดพื้นที่แทบตลอด ทำให้มีส่วนร่วมกับเกมน้อยลงไป

มาว่ากันทางฝั่งโรม่า นัดนี้ คงต้องให้วูซินิชครับ พยายามถึงที่สุดจริงๆ ทั้งซ้าย ทั้งขวา ทั้งกลาง ทั้งล้วงบอลต่ำพาไปเอง แต่ไม่ใช่วันของเขา ทำให้ไม่สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้ อีกคนก็คงเป็นโตเน็ตโต้ ที่หลุดมาทางบราวน์ได้บ่อยๆ และมีโอกาสยิงสวยๆแต่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย หากจะถามว่าผิดหวังใคร ผมคงบอกได้ว่า มานซินี่ กับตั๊ดเด สองคนนี้เป็นคีย์แมนในการพบกันปีที่แล้ว แต่กับปีนี้ ทั้งคู่เงียบเกินไปครับ มีส่วนร่วมกับเกมน้อยจริงๆ

จบจากเกมนี้ ก็คงต้องบอกว่า ผมมองไปถึงรอบรองชนะเลิศแล้วค่อนตัว อเวย์โกล์สองลูกที่โอลิมปิค สเตเดี้ยม โดยไม่เสียประตู มองมุมไหนมันก็เกินความคาดหวังก่อนเกมทั้งนั้นครับ เมื่อผลเป็นแบบนี้ หากนัดหน้า ต๊อตติยังลงไม่ได้ และโรม่ายังแก้เกมกลางอากาศไม่ได้ ผมว่าโรม่าลำบากมากครับ ตามอยู่สองลูก กับการต้องออกไปเยือนโรงละคร และยูไนเต็ดได้เล่นในวิธีที่ตัวเองถนัดมาก นั่นคือสวนกลับเร็ว หากโรม่าจะพลิกสถานการณ์ได้ คนที่ต้องทำการบ้านหนักที่สุดก็คือ สปัลเล็ตตินั่นแหละครับ ว่าจะแก้การปิดเกมของยูไนเต็ดอย่างไร ที่สปัลเล็ตติอาจจะลุ้นมากหน่อย ก็คือ อาการของต๊อตติ และอาการของวิดิช ถ้าวิดิชลงไม่ได้ ก็มีแนวโน้มที่แนวรับของปิศาจแดงจะอ่อนลงบ้าง และหากได้การวางหมากที่ดี ทำให้ได้ประตูแรกเร็ว งานก็ง่ายขึ้น โรม่าอาจได้มองถึงการต่อเวลาและ อาจหมายรวมถึง การเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับว่า สปัลเล็ตติ จะแก้เกมกลับมาได้ดีแค่ไหนครับ แต่ปัญหาแรกที่ใหญ่ที่สุดของสปัลเล็ตติก็คือ จะไม่เสียประตูให้ยูไนเต็ดได้อย่างไรนั่นล่ะครับ



ไว้ลุ้นต่อ สัปดาห์หน้านะครับ

สงบใจ



Create Date : 02 เมษายน 2551
Last Update : 2 เมษายน 2551 10:35:54 น.
Counter : 447 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด