---ของเก่า 16 สิงหาคม 2550--- Portsmouth VS Man UTD
กลับมาว่ากันถึงเรื่องเกมการแข่งขันเมื่อคืนที่ผ่านมากันนะครับ อย่างที่ทราบผลการแข่งกันดีอยู่แล้วว่า แฟร็ตตัน ปาร์ค ก็ยังคงเป็นสนามที่ยากลำบากสำหรับทัพอสูรแดงเหมือนเช่นที่เคยเป็น พลพรรคนักเตะของเราไม่อาจสร้างสรรค์ผลงานได้ดีในสนามแห่งนี้เลย เมื่อคืนก็เช่นกัน เหล่านักเตะปอมปีย์วิ่งกันลืมตาย ไล่บดไล่บี้ เบียดไหล่ถึงไหล่ตลอดเวลา ทำเอากองทัพของเราที่อุตส่าห์ไปซุ่มซ้อมเร่งสปีดเกมให้เร็วขึ้นมาแล้ว ก็ยังหนีไม่ค่อยจะออก ทำให้ผลงานออกมาอย่างที่เห็นๆกันนะครับ


แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมไว้น่าฟังมาก เขากล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจ กับการต้องมาเจอกับแมนยูไนเต็ดในช่วงนี้ ช่วงที่ยังไม่มีรายการฟุตบอลยุโรปมาให้ผีแดงเสียสมาธิ ซึ่งน่าจะส่งผลให้เหล่าลูกศิษย์ป๋าแพนด้า สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับรายการอื่นๆ ซึ่งนั่น จะทำให้ปอร์ทสมัธของเขาต้องพานพบกับการโหมบุกเข้าใส่อย่างไม่มีถอยค่อนข้างแน่ แต่การเสียเวย์น รูนี่ย์ ไป น่าจะส่งผลอะไรได้บ้างสำหรับรูปเกมของฝั่งปีศาจแดง ซึ่งเร้ดแนปป์เองก็ไม่ได้ลงในรายละเอียดตรงนี้ แต่เท่าที่ผมได้ดูเกมเมื่อคืน ดูเหมือนว่า เร้ดแนปป์ เตรียมการบ้านไว้รอรับน้องเตเวซอย่างดีเชียวครับ


การที่แผงกลางเราประกอบไปด้วย โรนัลโด้ คาร์ริค สโคลส์ นานี่ ดันเอากิ๊กส์ ไปยืนหน้าต่ำ และทิ้งเตเวซเป็นหน้าเป้า ดูแล้วน่าจะเป็นแนวรุกที่สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้คู่ต่อสู้ได้ดี แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ความคาดหวังของเฟอร์กี้ ที่จะให้สี่ประสานแนวรุก อย่างโรนัลโด้ นานี่ กิ๊กส์ และเตเวซ ปั่นป่วนแผงหลังเจ้าถิ่น กลับทำได้ไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ โดยยิงเข้ากรอบเพียงแปดครั้ง (จากสถิติหลังเกม ในรายการถ่ายทอดสดนะครับ) จากโอกาสทั้งหมด ยี่สิบกว่าครั้ง ทั้งหมดนี้ น่าจะมาจากการที่เตเวซ ยังไม่สามารถปรับจังหวะตัวเองให้เข้ากับระบบทีมเวิร์คของยูไนเต็ดได้ อีกทั้ง นานี่ ก็เช่นกัน ที่ดูวูบวาบดีในหลายๆจังหวะ แต่ก็มีอีกหลายๆจังหวะมากกว่า ที่ดูจะจ่ายบอล รับบอล ขาดๆเกินๆ กับเพื่อนร่วมทีม

ยิ่งกิ๊กส์เอง เมื่อคืนนี้ ผมถือเป็นเกมที่เขาโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานมาก และเป็นการยืนยันอีกครั้งว่า กิ๊กส์นัน ไม่เหมาะจะยืนในพื้นที่กลางสนาม หรือเป็นหน้าต่ำครับ โดยคาดหวังให้แกทำเกมเองได้ แกจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ก็ต่อเมื่อมีเพื่อนๆที่พร้อมจะซัพพอร์ตแกอยู่รอบๆครับ แต่เมื่อคืน เตเวซ กับนานี่ ช่วยเหลือแกไม่ได้เต็มที่ ทำให้เมื่อคืนนี้ การจ่ายบอล และทำชิ่งของกิ๊กส์ ผมว่าเข้าเป้าไม่ถึงครึ่งของโอกาสที่แกทำ ทำให้สุดท้าย เมื่อต้องการประตู และเห็นว่ากิ๊กส์ค่อนข้างหลุดฟอร์ม แกจึงต้องถูกแทนที่ด้วย โอเชในท้ายครึ่งหลัง แต่ก็นั่นแหละครับ มันไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด โอเชมิใช่นักเตะที่พลิกเกมได้ จึงมิอาจช่วยทีมพังประตูชัยได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้คาดหวังตรงนี้จากโอเชเท่าไหร่อยู่แล้วครับ


ทำไม ยูไนเต็ดถึงต่อบอลกันได้ไม่เนียนนัก ทำไมขาดๆเกินๆ ทำไมเตเวซหายไปจากเกมบ่อยๆ ผมจะลองวิเคราะห์แต่ละจุดออกมาให้ดูนะครับ

ข้อแรกเลยก็คือ ยูไนเต็ด แต่ไหนแต่ไร เป็นทีมที่เล่นเน้นทีมเวิร์คเป็นหลัก ดังที่เคยเห็นจากแอนดี้ โคล เขาเองจากหน้าเป้า ก็ต้องปรับตัวเองให้เล่นเป็นทีมอยู่นาน กว่าจะเข้าระบบทีมได้ นั่นคือ โดยปรกติแล้วในการบุก หรือขึ้นเกมโดยทั่วไป (ที่ไม่ใช่การสวนกลับเร็ว) เราจะใช้การต่อบอล ทำชิ่ง และ การให้แล้วไป เพื่อเจาะทะลุแผงหลังคู่ต่อสู้เข้าไปทำ ซึ่งตรงนี้ เตเวซ กับนานี่ จะสังเกตได้ว่า ทั้งสองคนยังไม่สามารถสอดประสาน ทำเกมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างพอเหมาะพอเจาะเท่าที่ควร

เมื่อเทียบกับเกมพบเรดดิ้ง จะเห็นว่า การที่เราใช้ เอวร่ายืนปีกซ้าย และ มีรูนี่ย์ เป็นหน้าเป้า ทั้งสองสามารถสอดประสาน ทำเกมกับเพื่อนร่วมทีมโดยเฉพาะกิ๊กส์ ได้ดีกว่ามาก และช่วยให้งานของกิ๊กส์ ซึ่งเป็นหน้าต่ำ ทำได้ง่ายขึ้น แต่กับเกมเมื่อคืน เมื่อนานี่ และเตเวซ ทำไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น งานของกิ๊กส์จึงยากขึ้นมาก และยิ่งเขามิใช่นักเตะในตำแหน่งนี้ด้วย ยิ่งทำให้เขาโชว์ฟอร์มไม่ออกไปกันใหญ่ แต่จะไปโทษ นานี่ กับเตเวซ ก็ไม่ถูกนัก เพราะทั้งสองคน ยังใช้เวลาปรับจูนตัวเอง ให้เข้ากับเพื่อนๆ ยังไม่นานเท่าไหร่นัก

ข้อที่สอง ซึ่งต่อเนื่องจากข้อแรก ดูเหมือนว่าเร้ดแนปป์มองเห็นจุดอ่อนนี้ ตั้งแต่รู้ว่าจะเข็นเตเวซลงสนามแล้วครับ จึงวางหมากในลักษณะที่เราเห็น นั่นคือ ให้นักเตะทุกคนคุมโซน คุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และเพรสซิ่งนักเตะในพื้นที่ของตน คอยรอง คอยซ้อนกันตลอด และ ให้เร่งตัดเกมตั้งแต่แดนกลางสนามเลย ซึ่งหมากแบบนี้ยิ่งทำให้ เตเวซ กับนานี่ ซึ่งยังเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่ดีนัก ยิ่งหายจากเกมไปกันใหญ่ นานี่ ยังดีหน่อยที่อยู่กราบ ทำให้พอมีพื้นที่ได้ลากเลื้อยโชว์ความสามารถบ้าง แต่ก็ไม่สามารถหลุดได้จริงๆจังๆมากนัก ได้แค่ถึงเส้นหลังแล้วก็ถูกบีบให้ออกหลังซะมาก ส่วนเตเวซ มีเงาคอยวิ่งตามสองสามคนตลอด นี่เป็นจุดอ่อนของการเล่นหน้าเป้าตัวเดียวแน่นอนครับ ซึ่งยูไนเต็ดหากจะเล่นหมากนี้ต่อไป ก็ต้องแก้จุดนี้ให้ได้ นั่นคือ ให้เตเวซสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมให้ได้เร็วที่สุด รู้ว่าจังหวะไหนควรขึ้น ควรลง ควรฉีกออกซ้าย หรือควรมารอทำชิ่งหนึ่งสอง อย่างที่รูนี่ย์ทำให้เราเห็นในเกมกับเรดดิ้งครึ่งแรกมาแล้ว ไม่งั้นเตเวซก็จะหายไปอย่างนี้เรื่อยๆ


ทั้งสองข้อเป็นเหตุผลหลักเลยที่เราได้ครองเกม แต่ไม่สามารถต่อเกมเข้าไปสวยๆที่หน้าปากประตูคู่ต่อสู้แบบเหมาะเหม็ง จังหวะสวยๆที่เกิดขึ้นก็มักจะเป็นการส่องจากแถวสองของสโคลส์ และโรนัลโด้ ให้เจมส์ปัดออกมาแล้วเข้าซ้ำ หรือเป็นการเปิดจากกราบซะมากกว่า หากดูเกมนี้เทียบกับเกมเรดดิ้ง จะพบว่า รูปเกมคล้ายๆครึ่งหลังของเกมเจอเรดดิ้งเลยครับ นั่นคือ ครองเกมได้ ขึ้นเกมรุกได้ แต่จบสกอร์ไม่ได้ ก็ได้แต่หวังว่า เตเวซจะรีบปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้เร็วๆนะครับ อีกทั้งผมมองว่า เกมนี้ เราไม่ใส่สำรองกองหน้าข้างสนามอีกแล้ว มีใกล้เคียงที่สุดก็อีเกิ้ลส์ ไม่ทราบว่าอันแดร์สันไม่ฟิตหรืออย่างไร ทำไมไม่มีชื่อข้างสนามครับ

หากว่าอันแดร์สันฟิต ผมว่าเกมหน้า เราน่าจะให้แผงมิดฟิลด์และกองหน้าเปลี่ยนมาเป็น

อันแดร์สัน เตเวซ

กิ๊กส์ สโคลส์ คาร์ริค ฮาร์กรีฟส์

ยังจะมีโอกาสดีกว่า นี่ถ้าโรนัลโด้ไม่โดนแดง ได้ยืนทางขวา จะยิ่งลงตัวกว่านี้ ผมว่าชั่วโมงนี้ ยังไงๆ กิ๊กส์ยืนซ้าย น่าจะสร้างสรรค์โอกาสได้ดีกว่านานี่ และอันแดร์สัน ยืนหน้า ผมว่าก็ดีกว่าให้กิ๊กส์ไปยืนค่อนข้างแน่ครับ ทั้งนี้ การที่มีอันแดร์สัน กับเตเวซยืนคู่กัน น่าจะทำให้แผงหลังคู่ต่อสู้ต้องปั่นป่วนมากขึ้นกว่าการที่มีเตเวซยืนเดี่ยวๆแน่นอน

สำหรับประตูที่เกิดขึ้น เป็นความผิดพลาดเดียวกันของทั้งสองทีม นั่นคือ มิดฟิลด์ประกบผู้เล่นแถวสองพลาดครับ ลูกที่เราได้ประตู เตเวซจ่ายย้อนคืนมาให้สโคลส์วิ่งสอดขึ้นมาอัดเต็มเท้าจากนอกกรอบโทษ ลูกพุ่งผ่านเจมส์เข้าไป ส่วนลูกที่เราเสีย เบ็นจานี่วิ่งสอดขึ้นมาจากกรอบโทษ เทคตัวขึ้นโหม่งลูกเปิดจากกราบซ้ายอยู่ไกลๆ โดยไม่มีใครตามประกบ ทั้งสองประตูจะไปโทษกองหลังไม่ได้ เพราะผู้ยิงสอดมาจากนอกกรอบโทษ ต้องเป็นหน้าที่ของมิดฟิลด์ที่คอยประกบผู้เล่นแถวสองของคู่ต่อสู้ครับ


ทีนี้ มาดูกันนิดนึง ว่าสาเหตุใดที่รูปเกมเราสองนัด ออกมาในแบบนี้ นั่นก็เป็นเพราะความเป็นแชมป์เก่าครับ ปีที่แล้ว มีหลายทีมที่เปิดเกมสู้กับเรา เพราะปีที่แล้วเราเป็นเพียงผู้ท้าชิงอันดับสามอันดับสี่เท่านั้น แต่ปีนี้ จากการเป็นแชมป์เก่า และได้นักเตะอย่างเตเวซ ฮาร์กรีฟส์ นานี่ อันแดร์สัน เข้ามา ทำให้หลายๆทีมเลือกที่จะเล่นเกมส์อดทนกับเรา โดยการเน้นแพ็คหลังแน่นหนาไว้ก่อน ทิ้งตัวรุกไว้แค่สองสามตัว ในแดนหน้าเท่านั้น นั่นทำให้เราเล่นกันลำบาก แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็เป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าต้องเจอนะครับ และสิ่งที่ต้องทำก็คือ การแก้เกมตั้งแต่เนิ่นๆ การที่เรามัวแต่ออกมาพูดว่า เจออุด เจออุด ขี้ขลาด ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่า คู่ต่อสู้จะเน้นตั้งรับเมื่อเจอกับเรา มันไม่มีเหตุผล และไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงครับ


สิ่งที่เราควรจะต้องทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ เมื่อรู้อยู่แล้วว่าคู่ต่อสู้จะมาเน้นตั้งรับ ยิ่งมาเยือนโรงละครของเรายิ่งชัดเจน ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมที่จะเจอรูปเกมอันน่าอึดอัด เตรียมพร้อมในการแก้เกมคู่ต่อสู้ตั้งแต่ก่อนลงสนาม และเตรียมพร้อมแผนสอง แผนสาม รอไว้ หากแผนแรกที่เตรียมมาใช้ไม่ได้ผล ไม่ใช่ดื้อมีกองหน้าตัวเดียว และสำรองก็ไม่ใส่ไว้ แล้วจะเอาอะไรมาพลิกเกมครับ เวลาต้องการประตูช่วงท้ายๆเกม อยากเห็นภาพเหมือนเมื่อสมัยก่อน ที่พอต้องการประตู ก็เอาแล้ว น้าหมีลงมา ยัง ยังยิงไม่ได้ โอเล่ตามมาอีก อย่างน้อยแผนสองแผนสามไม่มี ก็ควรมีกองหน้าสำรองมาใส่เพิ่มเพื่อกดดันคู่ต่อสู้ให้มากขึ้น เพื่อให้ปั่นป่วน เพื่อให้หลุดตำแหน่งบ่อยขึ้น จะได้เข้าทำง่ายขึ้น ไม่ใช่เปลี่ยนโอเชลงมา เปลี่ยนอีเกิ้ลส์ลงมา บอกตรงๆครับ เป็นผม ผมก็ไม่กลัว




เอ้า บ่นมามากแล้วครับ ทีนี้มามองกันในแง่ดีบ้างดีกว่าครับ เราได้สองแต้มจากสองนัด อาจดูเหมือนน้อย หากเทียบกับอีกสามทีมจากบิ๊กโฟร์ที่เหลือ แต่หากเทียบกับสถิติปีที่แล้ว นัดเหย้ากับเรดดิ้ง เราชนะ 3-2 ส่วนเยือนปอร์ทสมัธ เราแพ้ 2-1 ได้สามแต้ม แต่ปีนี้ ได้สองแต้ม ถือว่ายังโอเคอยู่ครับ ปัญหาคือนัดที่เหลือต้องทำผลงานให้เทียบเท่ากับปีที่แล้วให้ได้ เพื่อการันตีว่าแต้มรวมเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน จะได้ไม่ต่ำกว่าเดิมมาก และไปลุ้นเอาว่าจะมีทีมอื่นทำได้ดีกว่าไหม อย่างน้อย ถ้าทุกๆนัดที่เหลือ เราได้แต้มเทียบเท่าปีที่แล้ว เรายังมีถึง 88 แต้มนะครับ อาจจะพอถึงแชมป์ก็ได้ มองโลกในแง่ดีกันหน่อยดีกว่า ว่ามันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้น แม้จะเสมอสองนัดรวดกับทีมอย่างเรดดิ้ง อย่างปอร์ทสมัธ แต่อย่าลืมว่า สองทีมนี้ ปีที่แล้วก็เล่นงานเราอ่วมไม่น้อย สองทีมนี้ไม่หมูนะครับ



สำหรับวันนี้ ลากันแค่นี้ สวัสดีครับ




Create Date : 10 กันยายน 2550
Last Update : 10 กันยายน 2550 11:10:01 น.
Counter : 361 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด