---ของเก่า 18 เมษายน 2550--- แมนยู กับ เชฟ ยูครับ
แผงหลัง ยกเครื่องใหม่หมดจด (เฮ้อ!)

เนื่องจากการบาดเจ็บของผู้เล่นแนวหลังตัวหลักหลายราย ส่งผลให้การจัดตัวแผงแบ๊คโฟร์เมื่อคืนนี้ ออกมาอย่างที่เห็น

เอฟร่า-ไฮน์เซ่-บราวน์-เฟล็ทเชอร์

ซึ่งมองดูแล้ว ค่อนข้างทำให้แฟนแมนยูไนเต้ดส่วนใหญ่ หายใจไม่ทั่วท้องแน่นอน ยิ่งเมื่อเกมผ่านนาทีที่ 20 ไป เอฟร่าก็ดันถูกเสียบจนเจ็บ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป (ทั้งๆที่ผมดูอาการแล้ว น่าจะเล่นไหว แต่ท่านเซอร์คงตไม่อยากเสี่ยงครับ) ทำให้ต้องเปลี่ยนเอาริชาร์ดสันมายืนแบ๊คซ้ายแทน ยิ่งทำให้เสียวกันไปใหญ่


เกมนี้ ไฮน์เซ่ ซึ่งโฉ่งฉ่างกว่าบราวน์เสียอีก มีอาการหลุดให้เห็นบ่อยๆ ส่วนบราวน์ มีหลุดจะจะหนึ่งครั้ง เพียงแต่การหลุดของทั้งคู่นั้น ไม่ได้ทำให้เสียประตู ทั้งนี้ เนื่องจากเชฟ ยู เองนั้น กองหน้าไม่ได้คมเลยในเกมเมื่อคืน ไม่งั้นผลคงออกมาเละเทะแน่ๆครับ ซึ่งผลออกมาในลักษณะนี้ ก็กลายเป็นว่า การเสี่ยงของท่านเซอร์ได้ผลในนัดนี้

ในการจัดรูปแบบตั้งรับนั้น ไฮน์เซ่จะเป็นตัวชนตัวแรก ในขณะที่บราวน์คอยรองข้างหลัง ซึ่งทำได้ดีในระดับหนึ่งเท่านั้น หากจะใช้ชุดนี้ยืนในเกมใหญ่ๆแล้ว เจ๊งแน่ครับ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่เป็นจุดอ่อนของไฮน์เซ่ เนื่องจากเตี้ย ซึ่งท่านเซอร์เองก็คงทราบอยู่แล้ว และคงมีการปรับอีกเล็กน้อย



4-2-3-1 หมากกลความเร็วแสง

ท่านเซอร์ยังคงใช้หมาก 4-2-3-1 เป็นนัดที่สาม ซึ่ง สองนัดแรกได้ผลเป็นอย่างดี ในการอัดโรม่า และ วัตฟอร์ด เนื่องจาก หมากใหม่นี้ ให้อิสระ แก่ตัวรุกในเกมโต้กลับได้อย่างเต็มพิกัด และเปิดพื้นที่ให้วิ่ง ให้ทำทาง กันอย่างเต็มที่ จะเห็นว่า โรนัลโด้ รูนี่ย์ และ กิ๊กส์ 3 กลางรุก สลับตำแหน่งกันตลอดเวลา และมีการหุบเข้ามายิงเรื่อยๆ ส่วน สมิธ ก็คอยหลอกล่อ และดึงกองหลังออกมา รวมทั้งช่วยทำทางได้อย่างดี

หมากดังกล่าวนี้ ทำให้กองหลัง เชฟ ยู รวมทั้ง วัตฟอร์ด และ โรม่า เข้าประกบและตัดเกมผู้เล่น แมน ยูไนเต็ดในเกมโต้กลับไม่ถนัด ต้องวิ่งไล่ วิ่งตามประคอง จนเสียตำแหน่งบ่อยๆ ซึ่งส่งผลให้ สโคลส์ และ คาร์ริค สามารถสอดขึ้นมายิงได้ง่ายขึ้น ข้อดีที่เห็นได้ชัดของหมากนี้ ก็คือการสวนกลับจากแกนรุกทั้ง 4 ซึ่งมีความเร็วสูงทั้งนั้น สามารถควบพาบอลขึ้นมาจากแดนตัวเองได้ทั้งหมด หรือเลือกจ่ายให้กับเพื่อนที่วิ่งตีคู่ขึ้นมาก็ได้ ทำให้สามารถฉีกกองหลังฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

โดยสังเกตเห็นได้ชัดจากเกมกับโรม่านั่นเอง ที่ทำให้ คิวู กับ เม็กแซส เสียคนเลยทีเดียว เพราะขึ้นมาทีละ แค่ 4 คน ก็จริง แต่เป็น 4 คนที่ขึ้นเป็นแผง อย่างรวดเร็ว สามารถเลี้ยงควบมาเอง หรือจ่ายก็ได้ กองหลังจึงคาดเดา และเลือกประกบไม่ถูก ในจังหวะโต้กลับเร็วของแมน ยูไนเต็ด

แต่ส่วนตัวผมเองกลับมองว่า ข้อเสียของหมากนี้คือ ทำให้ลดความอันตรายเวลาเดินเกมบุกแบบต่อเนื่อง (หรือขึงพืด) เพราะได้ถ่างเอาผู้เล่นเทคนิคดีและคล่องตัว ออกด้านข้างทั้งสองคน ซึ่งเวลาขึงเกมบุกแล้ว จะสู้การขึงแบบ 4-4-2 ไม่ได้ สังเกตจากเมื่อคืน ถึงแม้ เชฟ ยู จะเสียเร็ว เพียงแค่นาทีที่ 4 แต่พวกเขาไม่ได้ตกใจ ค่อยๆเล่นไป เพราะทำใจมาแล้วว่าคงไม่ได้ 3 แต้ม แถมยังดร็อปตัวจริงไว้ข้างสนามอีกหลายคน สำหรับวัดกับชาร์ลตันในเกมหน้า ทำให้เกมนี้ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจมาบุก แต่มายันเอาไว้ และโต้โดยใช้กองหน้าแค่ 2 ตัวเท่านั้น ซึ่งก็ไม่คมเสียอีก

รูปเกมพวกเขามาแบบนี้ และแมนยูเองก็ตั้งใจแค่ประคองเกม ไม่เน้นบุกมากนัก ทำให้รูปเกมค่อนข้างเนือยๆ แต่เราสังเกตได้ว่า เวลาครองบอลขึงเกมรุก ทำได้ไม่เนียนตา อาจเป็นเพราะรูนี่ย์ ถูกถ่างเป็นปีก และกิ๊กส์ ยืนกลาง ทำให้เกิดการติดขัดในการทะลุทะลวงยามขึงพืดคู่ต่อสู้ ไม่เหมือนเวลาที่ รูนี่ย์ ยืนกลางต่ำ ซึ่งจะทะลวงได้เด่นกว่านี้มาก อีกทั้งเมื่อคืน เราไม่ได้รุกเต็มตัวด้วย แต่หมากนี้ ผมก็ว่าเหมาะที่จะนำมาใช้เวลานี้ เพราะ สโคลส์ กับ คาร์ริค สามารถช่วยเกมรับได้มากขึ้น กรองบอลคู่ต่อสู้ได้ดีขึ้น กองหลังซึ่งไม่ใช่ตัวจริง มีงานทำน้อยลง

ส่วนตัวผมแล้วนั้น ตอนนี้ก็ยังชื่นชอบ 4-4-2 สไตล์คลาสสิคของแมนยูไนเต็ดมากกว่า เวลาขึงเกมรุก ทำได้ดีกว่า มันกว่า เพียงแต่ว่า ในพ.ศ.นี้ 4-4-2 กลายเป็นหมากที่แก้เกมได้ง่าย เพราะทุกๆทีมได้เรียนรู้มาแล้ว ว่าจะแก้เกมอย่างไร โดยเฉพาะการล็อคกองหน้า และการตั้งโซนขึงแนวรับ รวมทั้งการดักล้ำหน้า ทำให้เจาะเข้าไปลำบากกว่าเดิม นี่อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ท่านเซอร์ทดลองใช้ 4-2-3-1 ซึ่งในเกมโต้กลับที่ต้องการความเร็วแสงนั้น ทำได้สุดยอดมากๆครับ

และผมจะรอพิสูจน์หมากใหม่นี้ ในเกมที่แมนยูไนเต็ด ต้องเน้นการบุกเป็นหลัก เพื่อคว้าชัยชนะโดยที่คู่ต่อสู้มาเน้นตั้งรับ จะสังเกตว่าหมากนี้ ทำงานเกมรุกเต็มตัวในลักษณะใด แต่เมื่อคืน เราไม่อาจได้เห็น เพราะแมนยูไนเต็ดเองเน้นประคองเกม ไม่เสี่ยงให้นักเตะวิ่งมากเกินไป บุกมากเกินไป ซึ่งอาจโดนเสียบบาดเจ็บ หรือล้าได้



กับเกมที่เหลือ

ถีงเวลานี้แล้ว แมนยูไนเต็ดต้องคาดหวังและพึ่งพาตนเองอย่างเต็มที่ในการคว้าชัยชนะให้ได้ทุกๆนัดไป จะมาหวังพึ่งพาหผู้อื่นช่วยหยุดเชลซีให้ คงไม่ได้แล้ว เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่า เชลซีชั่วโมงนี้ แกร่งสุดๆ ไม่มีท้อสักนัด แถมยังฟิตเต็มถังทุกคนอีกด้วย เกมที่จะเจกับเชลซีนัดรองสุดท้ายนั้น เราอาจถึงแพ้ด้วยซ้ำ ดังนั้น ในพรีเมียร์ลีก เราต้องเก็บ 3 แต้มทุกๆนัดให้ได้ ก่อนมาเจอเชลซี เพื่อคงช่องว่าง 3 แต้มไว้ บีบให้เชลซีต้องบุก ทำให้เราสามารถเล่นรับแล้วโต้

หากวันที่เจอกับเชลซี แต้มเท่ากัน หรือกลายเป็นเราตามอยู่ล่ะก็ ความกดดันจะอยู่ที่เรา เพราะต้องออกไปเยือน แถมต้องชนะออกมา ทำให้เราต้องบุก แต่เชลซีรับแล้วโต้ ซึ่งน่ากลัวว่าจะเข้าทางเชลซีมากกว่า

เพราะฉะนั้นแล้ว 3 เกม ก่อนเจอเชลซี (โบโร่ เอฟเวอร์ตัน และ แมนซิตี้) เราต้องเก็บ 9 แต้มเต็มสถานเดียว เพื่อกดดันเชลซีให้ถึงที่สุด และทำให้งานที่ต้องทำ ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่าลือมว่า เรายังต้องเล่น UCL รอบรองอีกสองนัดกับมิลาน จะมัวมาเสียสมาธิเหมือนเกมกับปอร์ทสมัธไม่ได้อีกแล้ว


สุดท้าย ขอให้ทุกๆท่านโชคดี ในการตามลุ้นแชมปืกับแมน ยูไนเต็ดนะครับ สวัสดีครับ



Create Date : 06 กันยายน 2550
Last Update : 6 กันยายน 2550 10:06:57 น.
Counter : 384 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด