20070920 วิพากษ์ Sporting Lisbon VS Man Utd.
สวัสดีครับ
พบกันอีกครั้ง เป็นครั้งที่สี่ที่ไม่มีวิพากษ์ก่อนเกม และแมนยูไนเต็ดเก็บชัยชนะได้อีกแล้ว ตามการสังเกตของคุณผักทอดยอดจากคราวที่แล้วนะครับ ในค่ำคืนที่ผ่านมา ก็เป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆที่ป๋าจัดให้พวกเรา โดยการส่ง เวยน์ รูนี่ย์ลงมาเรียกความฟิตแบบเกือบจะเต็มเกมเลยทีเดียว นับว่าเป็นการเสี่ยงพอสมควรครับ แต่จากรูปเกมที่เราได้ดูกันไป เราก็จะเห็นว่า แมนยูไนเต็ดเล่นในอัตราเจ็ดแปดสิบเปอร์เซนต์อีกแล้ว น่าจะเป็นเพราะอยู่ในช่วงสัปดาห์วิกฤต คือการที่ลูกทีมต้องออกไปรับใช้ชาติกลางสัปดาห์ ตามด้วยการออกไปเยือนกูดิสันปาร์คในวันเสาร์ จากนั้นออกไปโปรตุเกสในค่ำคืนที่ผ่านมา แล้วยังต้องเตรียมรับมือเชลซีต่อไปอีกต่างหาก
การที่ท่านเซอร์วางแผนให้ลูกทีมเล่นเพียงแค่นี้ ก็คงเพราะไม่อยากจะเสี่ยงต่อการที่อาจจะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นนั่นเองครับ เพราะเท่าที่มีอยู่ในเตียงคนไข้ตอนนี้ ก็ทั้ง เบน ฟอสเตอร์, แกรี่ เนวิลล์, โอเช, เฟล็ทเชอร์, ตี๋ปาร์ค, ฮาร์กรีฟส์, ซิลแวสตร์ ส่วนน้าโอเล่ก็แขวนสตั๊ดไปแล้ว (ตอนนี้ช่วยโค้ชทีมเด็กอยู่) ซาฮา ก็เพิ่งหายกลับมายังไม่ถึงเดือน หมูรูนก็หายเจ็บแบบสดๆร้อนๆ อีกทั้ง กิ๊กส์ ก็มีสภาพความฟิตไม่เต็มถังจากการสังเกตจากหลายๆนัดที่ผ่านมา แกทำได้ไม่สุดทุกที ช้าไปครึ่งก้าวตลอด ซึ่งสังขารก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ส่วนพอล สโคลส์ที่อายุอานามก็เริ่มมากขึ้น ทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่เราได้เห็นยูไนเต็ด เดินเกมแค่เจ็ดแปดสิบเปอร์เซนต์จากทั้งสองนัดล่าสุดครับ
เมื่อคืนที่ผ่านมา เตเวซถูกดร็อปไว้ข้างสนาม และเอารูนี่ย์ มายืนหน้าคู่กับไรอัน กิ๊กส์ แผงกองกลางนั้น เลือกใช้ คาร์ริคกับสโคลส์ ยืนตรงกลาง มีนานี่ กับโรนัลโด้ ยืนปีกสองข้าง แต่ในจังหวะการรุกนั้น สโคลส์กับคาร์ริคดูจะไม่มีส่วนร่วมเท่าไหร่นัก รูปแบบการยืนตำแหน่งจริงๆในสนามจึงน่าจะออกมาเป็น 4-2-3-1 คือ คาร์ริค กับสโคลส์ ยืนกลางรับทั้งคู่ ใช้ นานี่ โรนัลโด้ และกิ๊กส์ เป็น กลางรุก มีรูนี่ย์เป็นหน้าเป้า ซึ่งหลังๆมานี้ ป๋ามักจะให้ยืนในลักษณะนี้หลายต่อหลายครั้งครับ แต่ตัวเลือกจะเปลี่ยนไปเท่านั้น ซึ่งการยืนแบบนี้ จะสังเกตได้ว่า บอลหลุดมาถึงเราน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โอกาสสวนกลับของเจ้าถิ่น จึงมักจะถูกบีบจากสโคลส์ และคาร์ริค ให้ถ่ายบอลออกด้านข้างซะมากกว่าจะหลุดมาจากกลางสนาม ซึ่งบราวน์และเอวร่า ก็ยืนตำแหน่งได้ดี ช่วยสกัด ช่วยมาร์คตัว และช่วยสกรีนบอลจากการโยนทางกราบได้ในระดับที่ดีพอสมควรครับ
การยืนตำแหน่งของแผงแบ๊กโฟร์ในเกมนี้ มีวินัยสูงมาก จากทั้งเกมเราจะเห็นว่าสปอร์ติ้ง มีโอกาสได้ส่องจากในกรอบโทษจะๆแค่ครั้งเดียวจริงๆ จากลูกโหม่งในช่วงท้ายเกม แต่ก่อนหน้านั้น จังหวะหวาดเสียวแทบทั้งหมดของเจ้าบ้าน มาจากการยิงไกลจากแถวสอง ซึ่งเกมนี้ ฟาน เดอร์ ซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟให้เราได้เห็นเต็มๆตากันสองลูก แถมเก็บลูกยิงไกลด้วยการยืนตำแหน่งที่ดีมาก มักจะอยู่ตรงๆลูกที่ยิงมาแทบทุกครั้ง จนผมยกให้เขาเป็น แมน ออฟ เดอะ แมทช์ อย่างเต็มใจ
รูปเกมในค่ำคืนที่ผ่านมานั้น ทั้งสองทีมเน้นการเล่นบอลที่แน่นอน มากกว่าการเปิดเกมเข้าแลกกัน ทำให้เกมเดินได้ช้ากว่าสปีดที่เราคุ้นเคยในลีกอังกฤษ อีกทั้งยูไนเต็ดเองก็ดูจะไม่เน้นเอาชัยชนะมากนัก ประมาณว่า เสมอก็โอเค ชนะก็โบนัส ทำให้เกมการครองบอลส่วนใหญ่ตกเป็นของเจ้าบ้าน ส่วนแมนยูไนเต็ดก็เน้นจังหวะฉาบฉวยในเกมโต้กลับ ซึ่งก็หวาดเสียวได้ประปราย เพียงแต่ครึ่งแรก โรนัลโด้ออกจะเงียบไปมาก ทำหวาดเสียวอะไรไม่ได้เต็มที่ มีเพียงจังหวะยิงไกลครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นงานหนักสำหรับผู้รักษาประตูเจ้าบ้านเท่าไหร่
แต่พอล่วงมาสู่ครึ่งหลัง ยูไนเต็ดเน้นออกบอลเร็วขึ้น วิ่งมากขึ้น และเข้าทำเร็วขึ้น ทำให้รูปเกมในจังหวะการรุก ดูมีความหวาดเสียว ได้ลุ้นมากขึ้นกว่าในครึ่งแรก โรนัลโด้ได้เล่นในจังหวะที่คุ้นเคยมากขึ้น ทำให้แสดงความสามารถได้ดีขึ้น ช่วยเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้น และทำให้นานี่เริ่มเปล่งประกายออกมามากกว่าเดิมได้อีกเล็กน้อย ส่วนบราวน์นั้น หลังจากถูกผมต่อว่ามานานเรื่องการเติมเกมบุกที่ทำได้ไม่ดีเอาซะเลย ในเกมนี้ เขาเปิดบอลสวยๆจากกราบได้หลายลูก และหนึ่งในนั้น ก็เป็นลูกแอสซิสต์ให้โรนัลโด้ได้พุ่งโหม่งเป็นประตูชัยได้สำเร็จ ก็หวังว่าจะทำได้ดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆนะน้องน้ำตาล
ในขณะที่รูนี่ย์ ยังคงต้องใช้เวลาสักพัก เพื่อเรียกจังหวะเดิมๆของตัวเองกลับมาครับ และกิ๊กส์ในสภาพนี้ หากไม่ได้เล่นทางฝั่งซ้ายอย่างจริงๆจังๆแล้ว ก็คงต้องทำใจยอมรับการถูกเปลี่ยนตัวออกเพื่อเปลี่ยนเกมอยู่เรื่อยๆแล้วล่ะครับ เพราะดูแกวิ่งไม่ค่อยออกเท่าไหร่แล้ว กับเกมกลางสนาม เนื่องด้วยหากยืนปีก แกจะระวังแค่ข้างเดียว แต่หากยืนหน้าต่ำ หรือหน้าเป้า แกต้องชนเซ็นเตอร์ และมิดฟิลด์ตัวรับ จากทั้งซ้ายและขวา ซึ่งความเร็วความคล่องของกิ๊กส์ก็ถดถอยไปเยอะ ทำให้เขาไม่สามารถแสดงความอันตรายได้เหมือนเคย
ซาฮาเอง เมื่อคืนนี้ ก็ไม่ได้โชว์พิษสงอะไรมากมายนัก หลังจากถูกส่งลงมาแทนรูนี่ย์ในช่วงยี่สิบนาทีสุดท้าย นอกจากยิงไกลสองสามครั้ง ซึ่งไม่เข้ากรอบ แต่การหาจังหวะ หาช่อง และ ดึงตัวประกบ ยังทำได้อันตรายเหมือนเดิม ในขณะที่อันแดร์สันที่ถูกส่งลงมาแทนกิ๊กส์ในช่วงสิบห้านาทีสุดท้าย ก็แทบจะไม่ได้บอล แถมโดนโห่ใส่อีกต่างหาก โทษฐานมาจากปอร์โต้ ทีมคู่อริของสปอร์ติ้ง และเตเวซที่ลงมาแทนโรนัลโด้ในช่วงห้านาทีสุดท้าย ก็ไม่มีเวลาให้แสดงอะไรมากนัก
สิ่งที่อยากชื่นชมก็คือ โรนัลโด้ เมื่อยิงประตูได้ เขากลับดีใจแบบไม่ออกนอกหน้า แถมยกมือขึ้นพนมเหมือนขอโทษแฟนๆเจ้าบ้าน ซึ่งได้ใจแฟนๆไปเต็มเหนี่ยว พอเขาถูกเปลี่ยนตัวออกไป แฟนๆก็ปรบมือให้อย่างกึกก้องทั้งสนาม น่าภูมิใจจริงๆครับ กับสิ่งที่เขาแสดงออกในวันนี้
เกมเมื่อคืนนี้ก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะแมนยูเองเล่นแบบรัดกุม เน้นแน่นอนไว้ก่อน ทำให้เกมเป็นแบบตั้งรับกลายๆ รอจังหวะสวนกลับ ในขณะที่เจ้าบ้านเองก็ไม่ได้รุกแบบเต็มสูบ ตามสไตล์ทีมจากยุโรปที่เน้นครองบอลมากกว่าเปิดเกมบุกเข้าใส่ ดังนั้น ใครที่ชื่นชอบเกมเร็ว เกมเปิด เกมซาดิสม์ คงผิดหวังกันไปเล็กๆครับ
มาดูคะแนนกันหน่อยเป็นไร
เดอร์ ซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟเห็นๆสองลูก และเก็บกินลูกยิงไกลได้ทุกครั้ง วันนี้ผมให้เป็น MOM 9
บราวน์ คุมเกมรับได้เหนียวแน่น เริ่มไว้วางใจได้ แถมนัดนี้เปิดบอลสวยๆหลายลูก เป็นแอสซิสต์ด้วย 7
เอวร่า เมื่อไม่เน้นบุก เอวร่าจึงไม่เด่นในเกมรุก แต่เกมรับก็ยังคงวางใจได้ 6
ริโอ ยืนตำแหน่งดีมาก โดยเฉพาะในกรอบโทษ 6.5
วิดิช ยังคงเป็นตัวชนให้ริโอที่สุดยอดเช่นเดิม เก็บกินทุกจังหวะ โดยเฉพาะกลางอากาศ 7
โรนัลโด้ มาเด่นเอาในครึ่งหลัง แถมพังประตูชัย ช่วยลบครึ่งแรกที่น่าผิดหวังได้มาก 8
สโคลส์ ทำเกมกลางสนามได้ตามระดับ ตามมาตรฐานของเขา 6.5
คาร์ริค นัดนี้กลับเล่นได้เงียบไปหน่อย ไม่ได้โชว์อะไรมากนัก 6
นานี่ หลังจากครึ่งแรกเงียบหายไป ก็กลับมาเห็นได้มากขึ้นตามโรนัลโด้ในครึ่งหลัง 6
กิ๊กส์ เล่นได้แบบเงียบๆเหมือนเคยกับตำแหน่งที่ไม่ส่งผลดีต่อเขาเช่นนี้ 6
รูนี่ย์ ยังต้องตามหาจังหวะเดิมๆอยู่ แต่มีความขยัน แข็งแกร่ง และคล่องกลับมาแล้ว ช่วยแบ่งเบาทีมได้เยอะ 7
ซาฮา ยี่สิบนาที กับโอกาสสองสามครั้ง ถึงไม่เข้ากรอบแต่ก็เห็นได้ว่ายังคงเปี่ยมอันตราย 6
อันแดร์สัน สิบห้านาที และหายไปไหนก็ไม่รู้ 5
เตเวซ ห้านาที 5
ส่วนของสปอร์ติ้ง ผมให้เวโลโซ่ เล่นได้เด่นมากครับ
เฮ้ออออ...... ผมคงต้องงดวิพากษ์ก่อนเกมไปเรื่อยๆแล้วครับ ถ้ายังเป็นเช่นนี้ ตอนนี้สถิติก็เท่ากับว่าเราเก็บชัยชนะสี่นัดรวดเข้าไปแล้ว แถมคลีนชีตรวดเช่นกัน แต่ประตูที่ยิงก็แค่สี่ลูกเท่านั้น ยังคงไว้วางใจไม่ได้นะครับ อย่าลืมว่า ถึงไม่เสียประตู แต่ถ้ายิงไม่ได้ ก็ได้แค่แต้มเดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ ชนะหนึ่งแพ้หนึ่งยังดีเสียกว่าครับ อย่างไรก็ตาม จากเกมเมื่อคืน เราเริ่มเห็นแล้วว่า หากรูนี่ย์จับจังหวะเดิมๆของตัวได้เมื่อไหร่ และเตเวซปรับตัวเข้ากับทีมได้ดีขึ้นเมื่อไหร่ เราน่าจะหวังได้มากขึ้น
และกับเกมรับมือเชลซี ที่แว่วๆมาว่า มูรินโญ่หันหลังออกจากทีมไปแล้วนั้น เราจะทำผลงานได้ดีเช่นกันนะครับ
สวัสดีครับ
ลุงหงบบรรยายเห็นภาพเลย แถมอัพบล๊อกเร็วมาก
ขยันจริงๆ
ขอบคุณค่า...