20070924 วิพากษ์ Man Utd VS Chelsea อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกๆท่าน พบกันอีกครั้ง กับบทวิพากษ์หลังเกมแมนยูไนเต็ดครับ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ปิศาจแดงได้เปิดบ้านต้อนรับเชลซี ที่กำลังระส่ำพอสมควร จากการที่ได้แยกทางเดินกับ โชเซ่ มูรินโญ่ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เรามาเริ่มกันเลยนะครับ แมนยูไนเต็ด ลงสนามในรูปแบบที่ชวนให้แฟนๆกรี๊ดในที่สุดครับ นั่นก็คือ เตเวซยืนหน้าคู่กับรูนี่ย์ อย่างที่หลายๆคนอยากเห็นมานานแล้ว ในเกมแพลน 4-4-2 โดยตำแหน่ง ที่ว่าโดยตำแหน่งก็เพราะว่า การใช้สโคลส์ยืนกลางคู่คาร์ริค ปีกซ้ายเป็นกิ๊กส์ ปีกขวาเป็นโรนัลโด้ หน้าคู่เป็นรูนี่ย์และเตเวซ อันนี้ครับคือที่ผมบอกว่าเป็น 4-4-2 โดยตำแหน่ง ทีนี้ ที่ผมเกริ่นมาก็เพราะอยากให้นึกย้อนไปสักนิดหนึ่งครับ ว่ารูปเกม 4-4-2 ที่เราเคยประสบความสำเร็จสูงสุดนั้น ก็ยืนกันในลักษณะเกมแพลนแบบนี้นี่แหละ ที่เน้นการโจมตีจากปีกเป็นหลัก โดยใช้ความเข้าขา รู้ใจกันระหว่างหน้าคู่กับปีกสองข้างเป็นตัวเข้าทำอย่างได้ผล และมีการเติมจากแถวสองของคีนกับสโคลส์เป็นอาวุธเสริม แต่กับเกมแพลนที่ดูเหมือน 4-4-2 เมื่อคืนนี้ กลับไม่ใช่รูปเกม 4-4-2 อย่างที่เราคุ้นตากัน และเหมือนกับที่ผมเคยออกตัวไปก่อนหน้านี้แล้วครับ ว่า 4-4-2 สไตล์นั้น หายสาบสูญไปจากทีมพร้อมๆกับเดวิด เบ๊คแฮมนั่นแหละครับ แล้วเมื่อคืนนี้มันเป็นอย่างไร ก็คือเป็น4-4-2 ก็จริง แต่เมื่อลงสนามไปแล้ว กลับเล่นในสไตล์ 4-2-3-1 เหมือนที่ท่านเซอร์และเคยรอซกำลังปั้นให้ลูกทีมถนัดนั่นแหละครับ นั่นก็คือ คาร์ริคกับสโคลส์ จะยืนกันในพื้นที่กลางสนามเป็นหลัก เติมขึ้นสูงอย่างมากก็แค่สามสี่สิบหลาจากปากประตูคู่ต่อสู้ ไม่มีการสอดทะลุเข้าไปในกรอบบ่อยๆอย่างที่เคยเห็นในสมัยก่อน แต่จะเน้นการครอบครองบอลกลางสนาม และเก็บบอลแถวสองบริเวณพื้นที่ของเชลซี อีกทั้งคอยสกรีนบอล และชลอเกม เมื่อคู่ต่อสู้ได้บอลสวนกลับเร็วขึ้นมา ซึ่งเกมในลักษณะนี้ จะเป็นเกมในสไตล์ยุโรปมากขึ้นนั่นเอง และทำให้เกมสวนกลับเร็วของคู่ต่อสู้ต้องช้าลงไปได้มาก อีกทั้งบอลก็จะหลุดมาถึงแผงกองหลังได้น้อยลง ส่วนแกนกลางการรุกของเรานั้น กิ๊กส์ เมื่อได้ยืนทางซ้ายเป็นหลัก ก็โชว์ฟอร์มได้ดีขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ดีเท่าที่เราอยากเห็น แต่ถือว่าดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับที่เขาต้องยืนตรงกลาง นัดนี้เขาทำประโยชน์ให้กับทีมได้เยอะมาก ทั้งครองบอลทางซ้าย เปิดบอลเข้ากลาง หรือต่อบอล ซ้อนบอล เล่นกับเอวร่า ทำได้ดีขึ้นมากครับ หากเทียบกับนัดที่เขาเล่นหน้าต่ำ ส่วนโรนัลโด้ เขาเล่นได้ดีในระดับมาตรฐานของเขาในช่วงก่อนได้ประตูขึ้นนำ แต่เมื่อขึ้นนำได้ ในครึ่งหลังดูเหมือนว่าโรนัลโด้กลับต้องการเอาชนะแอชลี่ย์ โคลมากจนเกินไป น่าจะเป็นเพราะการที่เขาไม่เคยดวลชนะแอชลี่ย์ได้แบบชัดๆสักครั้งนั่นเองครับ มักจะโดนแอชลี่ย์ บดบังรัศมีในแทบทุกเกมที่พบกัน ในเกมนี้ก็เช่นกัน เมื่อเข้าครึ่งหลัง แอชลี่ย์กับเอสเซียงช่วยกันซ้อน ช่วยกันปิดโรนัลโด้ที่เริ่มจะดื้ออีกครั้งได้เด็ดขาดยิ่งนัก การขึ้นเกมของปีกแมนยูไนเต็ดยุคนี้นั้น จะไม่ใช่การขึ้นเกมเหมือนสมัยก่อน ที่ขึ้นเพื่อเปิดเข้ากรอบ หรือขึ้นแล้วรอแบ๊คเติมจนสุดเส้น แล้วเปิดบอลเข้ามา แต่ในยุคนี้ ป๋าใช้ปีกเล่นในสไตล์ยุโรปมากขึ้น นั่นคือ เมื่อปีกขึ้นเกมมาตามกราบแล้ว มักจะเลือกจ่ายเข้ากลาง หรือหุบเข้าหน้ากรอบเพื่อหาช่องยิง หรือจ่ายทะลุให้กองหน้า โดยที่การเปิดบอลจากกราบนั้น มักจะเน้นให้แบ๊คเติมขึ้นมาเปิดมากกว่า นั่นคือ แบ๊คของเรา จะเล่นในลักษณะวิงแบ๊คมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน โดยที่ปีกจะหักเข้าไปเล่นข้างในแทนครับ ซึ่งผมได้สังเกตตรงนี้มาหลายนัดแล้ว ถึงได้เห็นความแตกต่างในจุดนี้ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน รูนี่ย์ เกมนี้เขายืนเป็นหน้าเป้า คู่เตเวซ แต่ดูเหมือนเตเวซจะเล่นในพื้นที่ต่ำกว่า ในลักษณะตัวฟรี หรือหน้าต่ำ คอยประสานกับรูนี่ย์ที่ยืนค้ำข้างหน้าอีกที แต่ก็มีหลายช็อต ที่ทั้งคู่สลับกันขึ้น สลับกันเดินเกม ซึ่งก็น่าจะเป็นจุดที่ท่านเซอร์กำลังปั้นให้ทีมเป็นไปนั่นเองครับ การที่รูนี่ย์กับเตเวซเล่นคู่กันในลักษณะนี้ เราจะเห็นว่าทั้งคู่เปิดช่องว่างในพื้นที่แผงหลังเชลซีได้มากขึ้น หาช่องว่างได้ดีขึ้น และมีโอกาสหลุดเข้ายิงบ่อยขึ้น อีกอย่างที่อยากให้จำได้นะครับ ก็คือ อย่าลืมว่านี่เป็นนัดแรกเองนะครับที่ทั้งคู่เล่นด้วยกัน และผมหวังว่า เมื่อทั้งคู่เข้าขารู้ใจกันมากกว่านี้ เกมในแดนหน้าของเราก็น่าจะอันตรายกว่านี้ได้อีก ในแผงหลังของเรา วิดิชที่เป็นสต็อปเปอร์อันดับต้นๆของลีกไปแล้ว แสดงความสามารถให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ในการเก็บกินลูกกลางอากาศ และลูกจ่ายสวนเร็วของเชลซีได้เกือบหมด ในขณะที่ริโอก็สามารถเก็บบอลที่ทะลักออกมาได้อย่างหมดจด ทั้งคู่ช่วยกันประสานงานในเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อรวมกับที่เดอร์ ซาร์เองก็เหนียวหนึบอยู่ในฟอร์มที่ดี นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราเสียประตูน้อยลงครับในซีซั่นนี้ ส่วนบราวน์ เริ่มเล่นได้เด่นขึ้นเรื่อยๆ เกมรับไม่ค่อยน่าเป็นห่วงแล้ว บราวน์สามารถหยุดการเติมเกมทางกราบของคู่ต่อสู้ได้ดีวันดีคืนจริงๆ เพียงแต่บางจังหวะออกจะเหม่อๆไปสักหน่อย ต้องเคี่ยวให้มากขึ้น เกมเมื่อคืนก็มีช่วงกลางครึ่งแรก ที่ไปตามผิดคน ปล่อยให้เขาจ่ายทะลุให้ตัวเติมอีกตัวหลุดมาโล่งๆ ดีที่ริโอมาปิดเหลี่ยมได้ทันนะครับ ลูกนั้นจริงๆแล้วถ้าอ่านเกมขาด หรือมองเกมออกจริงๆ ผมว่าไม่น่าตามผิดคนได้ขนาดนั้นครับ ส่วนการเติมเกมบุก ก็เริ่มเห็นพัฒนาการขึ้นมาบ้างแล้ว แต่นัดเมื่อคืนดูเหมือนท่านเซอร์จะไม่เน้นให้แบ๊คขึ้นเติมบ่อยนัก น่าจะเพราะเกรงๆเกมทางกราบของเชลซีอยู่พอควร เอวร่านั้น ยิ่งเล่นยิ่งเด่น ผมว่าฟอร์มของเอวร่าในตอนนี้ ทำให้เราลืมฟอร์มดีๆของไฮน์เซ่ได้พอสมควรเลยครับ เอวร่าเล่นเกมรับได้เหนียวแน่น อ่านจังหวะจ่าย จังหวะหลุดทะลุ ได้ดีมาก มีพลาดแบบจะจะที่ผมเห็นแค่ครั้งเดียวที่ SWP จิ้มบอลได้ก่อนแล้วสลัดหลุดเขาไปได้ ตั้งแต่เกือบๆกลางสนาม ในขณะที่ฟอร์มการเติมเกมบุกของเอวร่านั้น ทำได้เนียนตาดีจริงๆ และก็ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ในบางนัด เอวร่าจะถูกป๋าจับมายืนเป็นปีกด้วยซ้ำ สำหรับด้านเชลซี ผมเองค่อนข้างมั่นใจมาก่อนแล้วว่า การจากไปของโชเซ่ จะต้องส่งผลในเชิงลบต่อฟอร์มการเล่นของนักเตะอยู่บ้างแน่นอน และผมเองก็เคยตอบบางกระทู้ไปก่อนนี้แล้วด้วยครับ ว่าให้สังเกตดีๆ ผมกล้าพูดเลยว่า จะมีนักเตะบางคน ย้ายออกไปจากเชลซีแน่ๆ ไม่กลางซีซั่น ก็ปิดซีซั่นนี้แหละครับ เพราะหลายๆท่านก็ทราบดีว่า มีนักเตะหลายคนในทีมเชลซี ที่ต่อสัญญาก็เพราะมูรินโญ่ ไม่ใช่เพราะโรมัน ไม่ใช่เพราะเชลซี ผมถึงตั้งอกตั้งใจดูฟอร์มการเล่นของเชลซีด้วย เพื่อดูผลกระทบจากมูรินโญ่เคสนี่แหละครับ และสิ่งที่ผมคิดไว้ก็เป็นความจริง เชลซีที่ไร้มูรินโญ่ ได้แสดงให้ผมเห็นสองจุดใหญ่ๆในเกมการเล่นครับ นั่นก็คือ หนึ่ง คือสิ่งที่หายไปจากทีม ได้แก่ แรงกระตุ้น ความกระหายในชัยชนะ และความกระตือรือร้น สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่มูรินโญ่ปลูกฝังให้ลูกทีมตลอดมา และเราได้เห็นบ่อยๆในทุกๆเกมของเชลซี เราจะเห็นความมุ่งมั่น แววตาของผู้กระหายในชัยชนะ จากนักเตะเชลซีอยู่เสมอๆ การเล่นแบบไม่ยอมแพ้ และกดดันคู่แข่งในยามต้องการประตู แต่ปากฏว่า สิ่งเหล่านี้ ได้ขาดหายไปจากทีมเชลซี ผมจะลองยกให้ดูสักเคสนะครับ ก็คือ จอห์น เทอร์รี่ ปรกติหากถูกบุกกระหน่ำจากคู่ต่อสู้ เราต้องเห็นปฏิกิริยาจากเทอร์รี่ เทอร์รี่มักจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ การกระตุ้นทีม และ สร้างขวัญกำลังใจให้ลูกทีม แต่เมื่อคืน เทอร์รี่เงียบเกินไป เงียบจนผิดวิสัยที่เราเคยเห็น และเมื่อเทอร์รี่เงียบเช่นนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่แผงหลังเชลซี จะหลุดให้เห็นบ่อยๆอย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาครับ สอง การแก้เกม บอกตรงๆว่าเมื่อมีมูรินโญ่ ผมไม่เคยมั่นใจว่าทีมผมจะชนะ แม้ว่าจะนำอยู่ก็ตาม เพราะการแก้เกมของมูรินโญ่นั้น ขึ้นชื่อลือชานัก ว่าสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ตลอดเวลา แต่กับเมื่อคืน เชลซีไม่สามารถพลิกเกมกลับมาได้เลย ไม่ว่าจะเอา กาลู, SWP, หรือปิซาร์โร่ลงมาก็ตาม และอีกอย่างหนึ่ง ผมเองมองไม่เห็นเลย ก็คือว่า รูปแบบที่เชลซีเล่นในลักษณะ 4-3-3 ตามทีมชีตนั้น มันไม่สามารถแสดงอะไรออกมาได้เลยครับ มาลูด้า, โจ โคล, เชฟเชนโก้ ดูเหมือนต่างคนต่างเล่นเกินไป ยืนห่างกันมากเกินไป การเติมเกมจากแดนกลางก็น้อยเกินไป และไม่กดดันแผงหลังเจ้าบ้านได้ถนัดสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นโชคดีของเชลซีอยู่หน่อยหนึ่ง ที่แกรนท์ยังไม่มีใบโค้ชนะครับ ทำเขาไม่สามารถคุมทีมเป็นการถาวรได้ เพราะเราเห็นจากเมื่อคืนแล้วว่า เกมของแกรนท์นั้น ใช้นักเตะเดิมๆที่มี แต่กลับไม่สามารถแสดงผลงานได้เต็มที่เท่าที่ศักยภาพมีอยู่ และการแก้เกมที่ไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้เลย ต่างกับเมื่อตอนที่มูรินโญ่อยู่ในทีมอย่างสิ้นเชิง อีกเรื่องที่ผมว่ากำลังก่อตัวขึ้นมาก็คือ ทีมสปิริตครับ ผมคงไม่แปลกใจเท่าไหร่ ที่เห็นเชว่าเล่นอย่างโดดเดี่ยวเหลือเกิน เพราะในมุมมองของผม เชว่านั้นก็ไม่ต่างจากแกรนท์ นั่นคือ ถูกดึงมาโดยตรงจากโรมัน, ไม่ได้เป็นความต้องการของมูรินโญ่ และการมาของทั้งคู่ ทำให้ทีมเสียขบวนไป ตรงนี้ โรมันกับแกรนท์ต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด หากจะให้สถานการณ์ในทีมดีขึ้นนะครับ ส่วนรูปเกมที่เป็นไปในค่ำคืนที่ผ่านมา ก่อนที่มิเกลจะถูกใบแดงออกจากสนามไป เกมผลัดกันแลกอย่างเมามัน แมนยูใช้เกมเร็ว ต่อบอลเร็ว ถ่ายบอลทางกว้าง แล้วใช้รูนี่ย์กับเตเวซเข้าโจมตี ในขณะที่เชลซี ใช้โจ โคล กับมาลูด้า เดินเกมรุกเน้นไปทางกราบ แต่เนื่องจากการที่เชลซีใช้เกมช้า เน้นแน่นอน ทำให้ไม่ค่อยได้โอกาสสวนกลับเร็วสักเท่าไหร่ และไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ส่องประตูเลย แต่หลังจากที่มิเกลโดนใบแดงออกไปแล้ว แกรนท์กลับเลือกที่จะปิดเกมครับ ถอนเอสเซียงกับมาเกเลเล่ ลงมายังพื้นที่ของตัวเอง ถอยมาลูด้า กับโจ โคลลงมายืนต่ำอยู่กลางสนาม และทิ้งเชว่าไว้คนเดียว ซึ่งเชว่าต้องมาชนกับทั้ง วิดิช และริโอ ทำให้ไม่สามารถเล่นบอลได้เลย และสุดท้ายก็ต้องส่งกาลูลงมาแทนเชว่า แต่ก็เหมือนเดิม กาลูไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน ในขณะที่กาลูเองไม่สามารถทำอะไรได้ มาลูด้าก็เติมเกมไม่ถนัด จนเป็นสาเหตุที่ต้องเอา SWP ลงมาแทน แต่ผมกลับสบายใจขึ้นนะครับ เพราะอะไร เพราะ SWP ถึงจะจี๊ด จะเร็วกว่ามาลูด้า แต่ทีเด็ดทีขาดและลูกแข็งแกร่งนั้นต่างกันเยอะ และเมื่อยังไม่ได้ผล ก็เอาปิซาร์โร่ลงมาแทนโจ โคล ที่ดูจะเดือดๆในเกม แต่แกรนท์อาจจะลืมไปว่า ปิซาร์โร่ ไม่เร็วและคล่องเท่าโจ โคล ทำให้เขาไม่สามารถสลัดหลุดคู่เซ็นเตอร์และแบ๊คเข้าไปจู่โจมได้ และสาเหตุหลักๆที่รูปเกมออกมาเช่นนี้ การที่เชลซีไม่สามารถตั้งเกมได้ หลายคน อาจจะพุ่งเป้าไปที่การตัดสินของกรรมการ ที่ให้ใบแดงมิเกลเพียงแค่ครั้งแรกที่กระโดดเข้ายันเอวร่าเท่านั้น นั่นเป็นจุดเปลี่ยนอันแรกแน่นอน ที่ทำให้เกมของเชลซีเปลี่ยนไป แต่ผมก็ยังเชื่อว่า แฟนๆเชลซีส่วนมาก ก็ยังคงรู้สึกเช่นกันครับ ว่าถ้าเป็นมูรินโญ่ ต่อให้โดนไล่ออก เกมก็จะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน คงยังจำเกมที่บูลารูซโดนใบแดงนัดเจออาร์เซนอลได้ใช่ไหมครับ เชลซีเหลือสิบคน แต่เกมกลับไม่ใช่แบบเมื่อคืนนี้อย่างกับคนละทีม เรื่องการตัดสินของกรรมการก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทีมจะแสดงออกมา ปฏิกิริยาที่มีต่อเกม และหัวจิตหัวใจที่จะต่อสู้อย่างมุ่งมั่น เพื่อต้องการชัยชนะ หรือเพื่อไม่ต้องการความพ่ายแพ้นั่นต่างหาก คือสิ่งที่เชลซีไม่ได้แสดงออกมาอย่างที่ควรจะเป็น อย่างที่เราเคยเห็นกันจนชินตาครับ และตรงจุดนี้เอง ที่ทำให้เชลซีไม่สามารถหาจุดกลับมาสู่เกมที่พวกเขาต้องการได้ มาดูคะแนนนักเตะของเรากันครับ เดอร์ ซาร์ ยังคงอยู่ฟอร์มที่ดี ถึงแม้จะไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรมากนัก 6 บราวน์ เหนียวแน่นมากขึ้นในเกมรับ แต่เกมรุกยังคงไม่ได้โชว์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 6.5 เอวร่า เล่นได้โดดเด่นมากทั้งในเกมรับ และจังหวะการเติม 7 ริโอ ยืนตำแหน่งดีมาก มีช็อตดักลูกสวยๆจากนักเตะเชลซีหลายครั้งมาก และเล่นต่อทั้งๆที่เจ็บต้นขาตั้งแต่ต้น 7.5 วิดิช ยังคงเยี่ยมยอดในทุกจังหวะ โดยเฉพาะกลางอากาศ 7 โรนัลโด้ เหมือนจะมาได้ดีในช่วงแรก แต่กลับฝืนเล่นจนเสียบอลไปง่ายๆบ่อยครั้ง 6 สโคลส์ ทำเกมกลางสนามได้ดี ครองบอล และครอสบอลได้สวยเหมือนเดิม 6.5 คาร์ริค นัดนี้ก็โชว์ฟอร์มได้ดี มีคิลเลอร์พาสสวยๆหลายช็อต และตัดบอลสวนเร็วได้บ่อย 7 กิ๊กส์ เล่นได้ดีขึ้น มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น เมื่ออยู่ทางซ้าย 6 รูนี่ย์ ยืนเป็นหน้าเป้า แต่ก็ลงมาล้วงลูกบ่อยๆ ขยัน เพียงแค่มันไม่ใช่วันของเขา 6 เตเวซ ทำประตูได้เสียที หลังจากรอมาเป็นนัดที่แปด เกมโดยรวมทำได้ดีขึ้น มีส่วนร่วมมากขึ้น 7 ซาฮา สิบนาที กับการได้ลูกจุดโทษ และลุกขึ้นมาสังหารเอง 6 วันนี้ ผมยกให้ริโอครับ เล่นทั้งๆที่ต้นเกมยังเหมือนจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ส่วนของเชลซี ก็มี ปีเตอร์ เช็ค, แอชลี่ย์ โคล, มาลูด้า กับเอสเซียง ที่ผมเห็นว่าเล่นได้ในระดับที่เราเคยเห็นกันครับ ส่วนที่เหลือนั้น ดูจะต่ำกว่ามาตรฐานไปสักหน่อย ก็ต้องหวังให้ แกรนท์ รีบเรียกทีมสปิริตกลับมาให้เร็วที่สุด เพื่อจะกลับมาในเส้นทางที่ถูกต้องต่อไปนะครับ ส่วนของแมนยูนั้นตอนนี้ก็ถือได้ว่า กลับมาสู่เส้นทางที่ต้องการแล้ว หลังจากหลงทางไปในสามนัดแรก แต่หากดูที่รูปเกม เรายังก้าวไปได้ไกลกว่านี้อีกครับ อยู่ที่ท่านเซอร์ และทีมงานแล้วล่ะ ว่าจะปรับแต่งให้ได้ดีขึ้นได้แค่ไหนครับ สวัสดีครับ เข้ามาดุ๊กดิ๊กๆ ค่ะ
![]() โดย: น้องดุ๊กดิ๊ก (^Oh_ScholeSSmith^
![]() |
บทความทั้งหมด
|