20080221 วิพากษ์ Lyon vs Man UTD.
สวัสดีครับ วันนี้ เป็นเกมแชมเปี้ยนส์ลีก กลางสัปดาห์ ที่กลับมาฟาดแข้งกันให้แฟนๆได้ลุ้นอีกรอบ ในรอบแพ้คัดออก หรือที่เรียกว่า น๊อกเอาท์ นั่นเอง เอาล่ะ เนื่องจากเวลาผมไม่ค่อยมีนะครับ วันนี้ต้องไปประชุมต่างจังหวัดช่วงบ่ายด้วย ดังนั้น ผมขอไปเร็วๆหน่อยก็แล้วกัน เริ่มกันเลยนะครับ

เมื่อมาดูการจัดทัพของทั้งสองทีม ผมก็พอมองออกว่า ต่างฝ่ายต่างกริ่งเกรงกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ทางเจ้าบ้าน ลียงนั้น เลือกที่จะส่งหน้าเป้าคนเดียว คือ เบนเซม่า ในขณะที่ผู้มาเยือน ก็ส่งหน้าเป้าตัวเดียว คือ เวย์น รูนี่ย์ ลงมาล่าตาข่ายเช่นกัน ส่วนรูปแบบการจัดทัพ ทั้งสองทีม ต่างมาในสไตล์ 4-3-3 หรือจะมองว่าเป็น 4-5-1 ก็ได้ทั้งนั้น นั่นคือ การใช้กลางแพ็คเกมแน่นสามตัวตรงกลาง ในขณะที่วางปีกไว้สองข้าง ทิ้งหน้าเป้าไว้ตัวเดียวเหมือนๆกัน

ส่วนในม้านั่งสำรอง ก็วางทางเลือกไว้คล้ายๆกันอีก คือการมีกองหน้า และกองกลางรอลงมาเปลี่ยนเกมเมื่อต้องการได้ทันที โดยเจ้าบ้านมี เฟร็ด, เบน อาร์กฟา และบ็อดแมร์ เป็นตัวหลัก ส่วนผู้มาเยือนมี เตเวซ, นานี่, คาร์ริค รออยู่เช่นกัน

ไลน์อัพของท่านเวอร์ จึงออกมาเป็นดังนี้

รูนี่ย์
กิ๊กส์ โรนัลโด้

แอนนี่ สโคลส์
ฮาร์กรีฟส์

เอวร่า วิดิช ริโอ บราวน์

น้าซาร์

เมื่อเริ่มเกม ต่างฝ่าย ต่างผลัดกันรุกและรับ ตามจังหวะของเกม แต่ยังคงเน้นความรัดกุมอยู่ ทำให้สปีดของเกม ไม่ค่อยเร่งขึ้นมาเร็วมากนัก การที่แมนฯยูไนเต็ดฯ เลือกใช้ สโคลส์ และกิ๊กส์ ลงมาพร้อมกันในเกมนี้ ทำให้เห็นได้ชัดเจน ว่า ความต้องการและความมุ่งหมายของท่านเซอร์ อันดับแรกก็คือ เน้นความรัดกุม เน้นการครองเกม และการครอบครองบอลไว้กับตัว มากกว่าที่จะเล่นเกมบุกแบบรวดเร็ววูบวาบเหมือนปกติ ซึ่งแท็คติคนี้ ก็เป็นอย่างเดียวกับที่ลียงเลือกใช้ในครึ่งแรกเช่นกัน

รูปเกมในครึ่งแรก ถึงแม้จะเป็นการผลัดกันรุกและรับก็จริง แต่ยังผสมปนเปไปด้วยความอึดอัด และกระสับกระส่ายเป็นอย่างยิ่ง เมื่อแผงหลังของลียง ยืนไลน์กันได้มั่นคงมาก อีกทั้งแผงกองกลางเจ้าถิ่น ก็ไม่ค่อยขยับขึ้นมาเติมเกมรุกเท่าไหร่ กลับเลือกที่จะให้เพียงสามตัวรุกหลัก ได้แก่ แกร๊ก, เบนเซม่า และ โกวู เข้ามาปั่นป่วนแผงหลังผู้มาเยือนด้วยการแทงบอลยาวหรือวางบอลยาวขึ้นหน้าตามแต่โอกาส

ในขณะที่ยูไนเต็ดนั้น เมื่อเวลาผ่านไป และเห็นว่า ลียงเองก็ไม่ได้เน้นโหมเกมบุกอย่างมากมายเท่าไหร่นัก กลับเล่นรอจังหวะมากกว่า ทำให้นักเตะยูไนเต็ด เริ่มครองเกมได้มากขึ้นเรื่อยๆ และขยับเกมกดดันเข้าไปในแดนเจ้าถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไลน์กลางและหลังของเจ้าถิ่นก็ยังคงเหนียวแน่น และยืนกันได้อย่างมีวินัย ทำให้โอกาสจากการยิงของยูไนเต็ดมักจะมาจากการสอดขึ้นไปยิงจากแถวสอง หรือลงมาทำเกมในพื้นที่ต่ำ แล้วชิ่งเข้าไปมากกว่า จะเป็นการเปิดป้อนเข้าไปในกรอบให้เข้าทำ แต่บูมซงในเกมนี้เป็นตัวกวาดหน้าประตูที่สุดยอดจริงๆ บล๊อกลูกยิงได้หมดจด ช่วยชีวิตกูเป้ต์ได้หลายครั้งหลายหน ทำให้ผมเริ่มที่จะอึดอัดมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป

ซึ่งเกมของลียงเองก็ยังคงอึดอัดไม่แพ้กัน เนื่องจากการใช้ตัวรุกแค่สามสี่คนเท่านั้น ในการขึ้นเกมรุก หรือสวนกลับ ทำให้แผงหลังยูไนเต็ดยังคงสามารถปักหลัก ตั้งเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น เกมนี้ ฮาร์กรีฟส์แสดงให้เห็นว่า เขามีประโยชน์กับทีม โดยเฉพาะในแนวรับอย่างไร ฮาร์กรีฟส์สามารถชลอเกมรุกของลียงได้เป็นอย่างดี ทำให้หลังลงมาแพ็คเกมได้ทันตลอด แต่ก็ยังต้องปรับปรุงเรื่องการผ่านบอล และการเล่นร่วมกับเพื่อนด้วยสปีดที่เท่าเทียมกันอีกเยอะครับ ในครึ่งแรก มีเพียงจังหวะที่ริโอสกัดผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเองเท่านั้น ที่ทำให้ผมถึงกับเสียววาบ นอกนั้น จะเป็นการยิงจากแถวสองทั้งหมด ก็เพราะมาจากการที่ลียงไม่สามารถเจาะเข้าไปในกรอบได้เลย

เมื่อเริ่มครึ่งหลังมา เกมของยูไนเต็ด ถูกท่านเซอร์ปรับให้ใช้ความเร็วมากขึ้นอีกสเต็ป และเน้นการไล่บอลมากขึ้น ทำให้ยูไนเต็ด สามารถครองเกมได้แบบเต็มที่ โอกาสของลียงจึงกลายเป็นการตั้งรับ แล้วรอสวนกลับด้วยการวางบอลยาวให้ตัวรุกทั้งสามลากเข้าทำ ซึ่งตรงนี้เอง อาจเป็นแผนของ อแล็ง แปร็กแรง เทรนเนอร์ลียงก็เป็นได้ เพราะดูแล้ว นักเตะลียงเองก็ไม่ได้ออกอาการตื่น หรือลนลานแต่ประการใด กับการถูกยูไนเต็ดผู้มาเยือนครองเกมแบบเบ็ดเสร็จในบ้านตัวเองเช่นนี้ กลับยังคงเล่นอย่างอดทน ปล่อยให้ยูไนเต็ดรุกเข้าใส่ และรอคอยเพียงจังหวะของตัวเองเท่านั้น จุดนี้เอง ยิ่งทำให้เกมนี้ทวีความอึดอัดให้กับผมมากขึ้น

ซึ่งสุดท้าย ก็ต้องชมเบนเซม่าอย่างแรง ที่เป็นหน้าเป้าเพียงคนเดียว แต่แข็งแกร่ง เหนียวแน่น และยิงได้เป็นธรรมชาติเหลือเกิน ลูกที่เขาได้ประตู ก็มาจากจังหวะสวนกลับ เขาได้บอลหน้ากรอบทางด้านขวา แล้วโยกเข้าซ้ายหนึ่งจังหวะ ก่อนจะยิงทันทีด้วยอีซ้ายส่งลูกแหวกฝ่ากองหลังสามสี่คน เข้าไปชนโคนเสาแรกตุงตาข่าย เป็นประตูที่ปลดล็อกทุกอย่างในเกมที่น่าอึดอัดนี้ทันที เบนเซม่าคนเดียวเองครับ ที่ทำทุกอย่างในพื้นที่หน้ากรอบยูไนเต็ด ทั้งเบียด พิง กระแทก สู้กองหลังแข็งๆอย่างริโอ อย่างวิดิชได้ตลอดจริงๆ น่าชมเชยมากครับ

หลังจากที่มีประตูเกิดขึ้น ยูไนเต็ดก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหาทางเปิดอเวย์โกล์ให้ได้เท่านั้น เพื่อรักษาความได้เปรียบเอาไว้ในเกมหน้า ทำให้นักเตะยูไนเต็ด ดาหน้าเปิดเกมบุกแบบเต็มตัวทันที ซึ่งก็เข้าทางลียงอยู่แล้ว ที่รอคอยเกมโต้กลับแบบนี้มาตั้งนาน เพื่อหวังปิดฝาโลงผู้มาเยือน เกมรับเจ้าบ้านยังคงเหนียวแน่น ฟูลแบ๊คไม่เติมสูงกว่าครึ่งสนามเลย ทำให้เกมทางกราบถูกปิดตายมาตลอดเกมตั้งแต่แรก กิ๊กส์ และโรนัลโด้ต้องหุบเข้ามาเล่นข้างใน ในขณะที่รูนี่ย์ ที่เป็นหน้าเป้าลำพัง ยิ่งทำให้การประกบติดของแผงหลังทำได้ง่าย จังหวะการสอดทะลุจากมิดฟิลด์ ก็มีกองกลางเจ้าถิ่นตามเป็นเงาตลอด จังหวะยิงแต่ละลูก ก็ยังมีบูมซง ที่บล็อกได้ตลอดอีกเช่นกัน ยังกะตัวบล็อคหน้าเน็ตของตะกร้อ

เกมรุกของยูไนเต็ด ยังคงช้าเกินกว่าจะทำอันตรายแผงหลังเจ้าบ้านได้ถนัด เนื่องจากการที่มีกองกลางกระจุกตัวแน่น ในขณะที่กองหน้ามีคนเดียว นั่นทำให้การปักหลักตั้งรับเกมรุกของลียงนั้น ยังคงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เกมสวนกลับของลียงยิ่งทวีอันตรายมากขึ้น เมื่อฮาร์กรีฟส์ ก็ต้องขึ้นไปเติมเกมรุกอีกคน ทำให้เกมสวนกลับ ทะลุมาถึงหลังได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ยังดีที่แผงหลังยังคงสามารถป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น ท่านเซอร์เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ จึงขยับหมากทันที ด้วยการส่งนานี่ และเตเวซลงมาแทน กิ๊กส์ และ สโคลส์ นั่นคือ กลับมาเล่นในสไตล์ 4-4-2 โดยทิ้งการครองเกมจากสโคลส์และกิ๊กส์ออกไป เลือกที่จะใช้ความเร็ว และความคล่องของเตเวซ และนานี่ เข้ามาป่วนเกมเจ้าบ้านแทน

ซึ่งหลังจากการเปลี่ยนตัวนี้ เกมของยูไนเต็ดก็กลับมามีชีวิตชีวาทันที เกมรุกทำได้รวดเร็ว ดุดันมากขึ้น การมีนานี่ และโรนัลโด้ รวมทั้งเตเวซ และรูนี่ย์ ตรงนี้ ทำให้การมาร์คตัวของแผงหลังลียงเริ่มที่จะมีปัญหา เพราะจากการมาร์ครูนี่ย์ หน้าเป้าคนเดียวตอนนี้ มีเตเวซเพิ่มอีกคน และนานี่เองก็จัดจ้านกว่ากิ๊กส์ในวันโรยรามาก ทำให้แผงหลังของลียงปั่นป่วนขึ้นเรื่อยๆ เกมโต้กลับ เริ่มที่จะหมดพิษสง เมื่อพื้นที่ระหว่างกลางและเบนเซม่า ถูกถ่างออกให้ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ แปร็กแรงจึงแก้เกมทันควัน ด้วยการส่งเบน อาร์กฟา และ บ็อดแมร์ลงมา เห็นได้ชัดว่าเพื่อช่วยเกมโต้กลับของเบนเซม่า แต่เบน อาร์กฟา กลับยังคงเร่งจังหวะตนเองเกินไป ทำให้เสียโอกาสจบด้วยการยิงที่ไม่ได้ลุ้นหลายครั้ง

ในขณะที่รูปเกมกลายเป็นการพับสนามของผู้มาเยือนตลอดยี่สิบนาทีหลังสุด แต่ยังคงขาดความแม่นยำ และแน่นอนในจังหวะการวางบอล ท่านเซอร์จึงขยับอีกครั้ง ด้วยการส่งคาร์ริคลงมาแทนฮาร์กรีฟส์ ดันแอนนี่ ขึ้นหน้าอีกคน กลายเป็นเกมรุกเต็มพิกัดแล้ว ให้คาร์ริคคุมพื้นที่คนเดียวตรงกลาง แล้วอาศัยการจ่ายบอลที่แม่นยำของเขาขึ้นหน้า ทีนี้ คาร์ริค ดันติดโรคเร่งเกมมาจากเบน อาร์กฟาอีกคน ไม่รู้วอร์มใกล้กันเกินไปรึเปล่า คาร์ริคเร่งจังหวะตัวเองเกินไป เปิดบอลเสียหลายหนมากจนไม่เชื่อสายตาว่า นี่คือคาร์ริครึเปล่า และมันเอฟเฟ็คท์ไปถึงแอนนี่ ที่เริ่มเร่งจังหวะอีกคน ทั้งคู่เปิดบอลยาวเสียหลายต่อหลายลูก แต่ด้วยการที่ลียงนั้น เสียจังหวะของเกมไปแล้ว ทำให้ยูไนเต็ด ยังคงครองเกมได้อยู่ตลอด เปิดให้ลียงได้สวนบ้างเป็นบางจังหวะ

หลังจากนั้น ลียงเอาเฟร็ดลงมาแทนเบนเซม่า ตรงนี้ ไม่ทราบใครเห็นเหมือนผมรึเปล่านะครับ ผมสังเกตว่า เบนเซม่าเริ่มจะเจ็บน่ะ น่าจะเป็นเพราะเบียด ไถ กับแผงกองหลังยูไนเต็ดมาตลอดกว่าแปดสิบนาที โดนเหยียบไปไม่รู้กี่จังหวะจากช็อตพิงไถ พิงไถของเบนเซม่า น่าจะทำให้แปร็กแร็งไม่อยากเสี่ยง สู้ส่งเฟร็ดลงมาแทนดีกว่า และเก็บเบนเซม่าไว้บู๊ในเกมหน้าแบบเต็มที่ ซึ่งตรงนี้ จะโทษเฟร็ดก็ไม่ได้ในจังหวะที่เสียประตูตีเสมอ ลูกที่เสียให้ยูไนเต็ดนั้น จะเห็นว่าเฟร็ดตามลงมาบล็อกโรนัลโด้ จากลูกเปิดของนานี่ แต่ดันโดนหัวเตเวซบางๆ แบบบางมาก ผมเห็นว่าแนวลูกมันเปลี่ยนไปเล็กน้อยนะครับ แล้วเลยมาลงที่ประมาณข้อเท้าของเฟร็ด ก่อนจะแคนนอนกลับไปเข้าทางปืนเตเวซ ที่ซ้ำเข้าไปไม่เหลือ ทำให้ยูไนเต็ดได้อเวย์โกล์ที่สำคัญมากๆสำหรับเกมในที่สุด

เกมนี้ ประตูที่เกิดขึ้นนั้น ลูกแรกผมคงไม่โทษใคร เพราะฮาร์กรีฟส์เองไล่ตูลาล็องจนต้องจ่ายให้เบนเซม่า ที่ถูกล็อคถึงสามคนแล้ว แต่เบนเซม่ากลับยังคงโยกเข้าซ้ายและยิงทั้งๆที่ถูกปิดจนแทบไม่เห็นทางบอล ผมขอยกลูกนี้ ให้เป็นความสามารถของเบนเซม่าล้วนๆเลยครับ และเป็นการยืนยันอีกครั้ง ว่า นักเตะคนไหนที่อยากได้ ต้องยิงยูไนเต็ดได้อยู่ร่ำไปสิน่า ส่วนอีกลูก ก็ต้องถือว่าโชคร้ายแหละครับ ที่ลียงมาเสียเอาในตอนนี้ และก็ต้องชมสปิริตยูไนเต็ดด้วย ที่สู้จนหยดสุดท้ายจริงๆ สู้จนทำให้ลียงมาพลาดเอาจนได้ หลังจากยืนหยัดมาได้เกือบๆเก้าสิบนาที

สำหรับการจัดตัว ผมคงบอกได้คำเดียวว่า เห็นด้วยกับท่านเซอร์ ในขณะที่หลายๆคนอาจจะไม่เห็นด้วย ที่จะให้สโคลส์ และกิ๊กส์ ลงพร้อมกันเป็นตัวจริง แต่ผมเห็นด้วย เพราะเกมนี้ ตามหลักแท็คติคของบอลยุโรปแล้ว ผู้มาเยือน ย่อมต้องคาดคะเนไว้ก่อนแล้ว ว่าเจ้าบ้านจะต้องการชัยชนะ เพื่อเปิดความได้เปรียบในการเล่นนัดเยือนในนัดที่สอง ในขณะเดียวกัน ก็ต้องพยายามไม่เสียประตูให้ผู้มาเยือน นั่นทำให้ผมเองก็คิดไว้ล่วงหน้า ว่า ลียงน่าจะมาเน้นเกมเพรสซิ่ง เน้นการบีบพื้นที่ ไล่บอลและครองเกมเพื่อยิงยูไนเต็ด ทำให้ถ้าเป็นผมเอง ก็คงต้องเลือกเพลย์เซฟเช่นกัน ด้วยการอัดกลางแน่นไว้ก่อน และก็เลือกกลางที่มีประสบการณ์สูงๆเพื่อครองบอลสู้เจ้าถิ่น นั่นเป็นที่มาของ สโคลส์ และ กิ๊กส์ ในขณะที่ ฮาร์กรีฟส์ ก็จำเป็นในการชลอเกมรุก และตัดบอลจากเจ้าถิ่น ส่วนแอนนี่ นั้น เพื่อเป็นตัวเสริมหน้าเป้าอย่างรูนี่ย์นั่นเอง โดยมีโรนัลโด้คอยปั่นป่วนเกมทางกราบ

แต่ในเกมที่ออกมาจริง ลียงไม่เน้นเพรสซิ่ง ไม่เน้นเปิดเกมบุก กลับเน้นบอลจังหวะแทน และวางกลางห้าคน หน้าตัวเดียวเหมือนกันเป๊ะๆ นั่นทำให้แผนที่ท่านเซอร์วางมา ผิดจากที่คาดไปพอสมควร ทำให้การขึ้นเกมรุกของเรา ใช้จังหวะมากขึ้น และมีความเร็วลดน้อยลง จนทำให้ลียงสามารถป้องกันได้ตลอด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เกมของยูไนเต็ดเสียเปรียบ เมื่อยังครองเกมได้ ไม่เสียประตู ก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบแก้เกม จนเมื่อเสียประตู และยังทวงคืนไม่ได้นั่นแหละครับ ท่านเซอร์ถึงขยับแก้เกมด้วยการเอาตัวครองเกมออก แล้วส่งตัวป่วนลงมาแทนที่ และนั่นก็เป็นอีกเกม ที่ท่านเซอร์ แก้เกมได้ถูกต้อง

เราจะเห็นได้ชัดว่า ท่านเซอร์คิดถูก ที่ไม่เปิดเกมแลกเข้าหาลียง เพราะนักเตะลียงแต่ละคน ทักษะดีมาก ตั้งแต่หลังยันหน้า เล่นบอลในที่แคบได้ดี ไล่ให้จนมุมยาก บีบมากๆเข้า ก็สามารถดึงตัวประกบเข้าหา และจ่ายสวนให้เพื่อนได้ตลอด ตรงนี้อันตรายมากครับ เกมแบบนี้ กับนักเตะทักษะแบบนี้ เล่นเพลย์เซฟในนัดเยือนก่อน คงไม่ถือว่าผิดอะไรหรอกครับ โกวู, เบนเซม่า, แกร๊ก ต่างก็จัดจ้านทั้งนั้น ไหนจะมีฟรีคิกของจูนินโญ่ ที่ขู่ได้ตลอดอีกต่างหาก เกือบยิงได้หนึ่งลูกด้วยซ้ำ แต่ของเรา เจ้าโด้ก็เกือบยิงได้เช่นกัน เกมนี้ ต้องขอชมนักเตะลียงแต่ละคน โดยเฉพาะบูมซง ที่เล่นได้มีวินัยมากๆ และเล่นด้วยเบสิคกับทักษะที่ดี เห็นการให้บอลแต่ละช็อต และการเอาตัวรอดจากแต่ละสถานการณ์แล้ว ต้องยกนิ้วให้จริงๆครับ

จุดที่น่าพูดถึงเกี่ยวกับทางด้านยูไนเต็ดก็คือ นัดนี้ ผมเห็นว่ารูนี่ย์ ไม่ค่อยเน้นในจังหวะปิดสกอร์เท่าไหร่ จากลูกหลุดเดี่ยวลูกนั้น แต่กลับยิงได้ไม่ดีเท่าไหร่ และยังออกลูกขยันเกินเหตุด้วย จากการเข้าไปชาร์จลูกโหม่งของเตเวซ ที่ผมยังลังเล ว่าวิถีบอลมันน่าจะตรงกรอบอยู่แล้วนา... ทำให้ล้ำหน้าซะงั้น แต่ไม่เป็นไรครับ ตรงนั้นเป็นจังหวะที่คาดไม่ถึงมากกว่า ว่าจะเกิดขึ้นมาและตัวเองจะล้ำหน้าอยู่ ส่วนโรนัลโด้ กับเอวร่า ชักจะติดนิสัยหยุดเล่นมากขึ้นทุกที เวลาโดนแฮนด์ออฟเนี่ย ทำให้ถูกโต้กลับง่ายๆบ่อยครั้งมาก ผมไม่เข้าใจว่า ฝืนเล่นไปก่อน หรือไม่ก็เปลี่ยนมาเป็นไล่บอลแทน จะดีกว่าหยุดเล่น เพื่อมองหน้ากรรมการมั้ยครับ

ทีนี้ เมื่อเราเห็นผลจากนัดนี้แล้ว เราจะคาดหมายเกมนัดหน้าได้อย่างไร แน่นอนครับ ว่าประตูของเตเวซ ทำให้ลียงลำบากทันที และเป็นเงื่อนไข ที่บังคับให้ลียงต้องยิงประตูในโอลด์ แทรฟฟอร์ดให้ได้ อย่างน้อยหนึ่งลูก นั่นก็เท่ากับว่า ลียงจำเป็นต้องบุกมากกว่ายูไนเต็ด แต่มันยังมีจุดที่ต้องพูดถึงเพิ่มเติมครับ อย่าไปคิดว่า เราควรรักษาสกอร์ 0-0 เพื่อเข้ารอบนะครับ นั่นเท่ากับรอเวลาฆ่าตัวตายชัดๆ หากเราเล่นเพลย์เซฟอีกนัดในบ้านตัวเอง แล้วลียงก็มาเล่นเชิดฉิ่งตามด้วย นั่นเท่ากับเป็นการทำให้เกมเนือยลงไป และเป็นการค่อยๆออฟศักยภาพนักเตะเราด้วย ยิ่งหากลียงมายิงได้เอาในนาทีท้ายๆ เราเร่งเกมไม่ขึ้นแน่ครับ

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือ เราต้องเล่นตามเกมของเรา ทีมอย่างยูไนเต็ด เล่นรักษาสกอร์ 0-0 ไม่เป็นหรอกครับ เล่นอย่างนั้นทีไรตกรอบทุกที ถ้าจำกันได้ เราต้องเล่นตามเกม ตามแท็คติคที่เราคุ้นเคย รูปเกมจึงจะออกมาดี และมีโอกาสทำสกอร์ได้ สิ่งที่ผมคาดหวังก็คือ เล่นเกมรุกแบบรอบคอบ แต่อาศัยการรุกที่รวดเร็ว โดยพึ่งกองกลางเติมเกมให้น้อยที่สุด บนเงื่อนไขที่ว่า ต่อให้เสียบอล กองกลางก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี นั่นก็คือ คล้ายๆเกมที่เจออาร์เซนอลในเอฟเอคัพนั่นเอง

จุดมุ่งหมายที่น่าจะเน้นเป็นพิเศษในเกมหน้า ก็คือ ยิงประตูให้ได้ครับ ลูกนึงมาก่อนเลย และถ้าได้ ก็บวกอีกลูก โดยพยายามไม่เสียประตูในบ้าน จากนั้น ถ้าทำได้จริง จะเปลี่ยนตัวเก๋ามาครองเกมฆ่าเวลา แล้วเล่นโต้กลับแทน ก็ไม่ว่าอะไรครับ




Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2551 10:43:50 น.
Counter : 472 Pageviews.

2 comments
  
ตามมาอ่านถึงในบล๊อกเลย
โดย: กากีแกมเขียว วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:50:53 น.
  
ไม่รู้สิ รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบแผนที่มีแอนนี่กับสโคลลงพร้อมกันเลย เหมือนว่าไม่มีใครเปลี่ยนแผนการเล่นได้เลย ชอบให้มีคาร์ริกกับสโคล หรือคาร์ริกกับแอนนี่มากกว่า รู้สึกว่าเกมมันหลากหลายได้มากกว่า
ส่วนรูนีย์ก็ไม่คม แต่ไม่ลงก็ไม่ได้เพราะกองหน้าที่ดีกว่าก็ไม่มีแล้ว
ครึ่งแรกดูแล้วเผลอหลับไปเลย ตื่นมาอีกที ก็ก่อนเตเวศยิง
เลยคอมเมนต์มากไม่ได้
โดย: Fansmith IP: 58.137.141.11 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:26:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sa-ngob-jai.BlogGang.com

สงบใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด