สงบใจ...สรุปความล้มเหลวของอังกฤษ
จากที่เมื่อคืนได้ชมมานะครับ ตลอดเกมเลย ผมว่าพอจะสรุปความล้มเหลวของทีมชาติอังกฤษเป็นข้อๆได้ตามนี้นะครับ ขอไล่ตั้งแต่สิ่งที่เป็นพื้นฐานก่อนเลยนะครับ
1. แฟนๆอังกฤษคงต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า ทีมอังกฤษนั้น มีนักเตะที่มีทักษะดี มีเบสิกแน่น และมีความคล่องตัวสูง อยู่ในทีมชาติ เป็นจำนวนที่น้อยเกินไป หากเทียบกับชาติมหาอำนาจลูกหนังอื่นๆ นักเตะอังกฤษ จะมีที่โดดเด่นในด้านเบสิกและทักษะจริงๆนั้น ถึงห้าคนไหมครับ จากสิบเอ็ดตัวจริง ต่อให้เป็นชุดใหญ่ด้วยซ้ำ แต่จริงๆสิ่งที่อังกฤษมีดีกว่าเรื่องนั้น ก็คือ พละกำลัง ความแข็งแกร่ง และใจสู้ ซึ่งเป็นจุดเด่นมาตลอด เช่นเดียวกับ สก๊อตแลนด์ แต่ในระยะหลังๆ ฟุตบอลพัฒนาไปมาก ลำพังเพียงความแข็งแกร่ง และใจสู้ ก็ไม่อาจจะเบียดทีมที่มีนักเตะทักษะดีๆ และเล่นแท็คติกดีๆได้ง่ายๆอีกต่อไปแล้ว
2. เมื่อเราเองก็ทราบตรงจุดนี้ ทำไมแม็คลาเรนไม่ทราบล่ะ หรือทราบ แต่ไม่สามารถทำอะไรที่ดีกว่านี้ได้ รูปเกมเมื่อคืน แม็คลาเรนวางหมากมาทื่อมากๆ เล่นแบบทื่อๆ ไม่มีความหลากหลาย ไม่มีการแก้เกมเชิงลึกเลยแม้แต่นิดเดียว มีแค่จะหน้าตัวเดียว หน้าคู่ จะรับ หรือรุก มีแค่นั้น การทำเกม ก็ดูราวกับว่าให้นักเตะลงไปทำในสนามเอาเอง ไม่ได้มีแบบแผนหรือแท็คติคที่ดูเป็นรูปธรรมสักอย่าง นักเตะที่ยิงแถวสองได้ดีอย่างเจอร์ราร์ด, โจ โคล, แลมพาร์ด หรือแม้แต่ เดโฟ และเบ๊คแฮมที่ลงมาในครึ่งหลัง ผมไม่เห็นมันยิงไกลแบบตั้งใจส่องประตูสักลูกเดียว กลับมัวแต่เน้น ปีเตอร์ เคราช์ ซะจน โครแอตจับทางได้ และแพ็คได้อยู่หมัด ยกเว้นลูกที่สองที่เบ๊คชิงเปิดบอลเร็วเท่านั้น ตรงนี้เองที่บ่งบอกว่า เกมและแท็คติคของแม็คลาเรนนั้น ทื่อมากๆครับ ทื่อซะจนโครแอตเอง แก้เกมได้ง่ายๆเลย
3. การวางหมากและรูปเกมที่ผิดพลาด ทั้งๆที่ผลเสมอก็เพียงพอแล้วต่อการเข้ารอบ แต่กลับเร่งเกมตั้งแต่นาทีแรกๆ แทนที่จะค่อยๆเซ็ต ค่อยๆดูเกมของโครเอเชียก่อน เกมนี้ โครเอเชียเข้ารอบไปแล้ว ดูก็รู้ว่าโครแอตมีแค่สองทางคือ มาโหมเอ็นเตอร์เทนแฟนบอล หรือไม่ก็รับแล้วสวนกลับเพื่อยิงประตูเอามัน แทนที่แม็คลาเรนจะให้ลูกทีมใจเย็นๆก่อน ผมกลับเห็นว่านักเตะอังกฤษปั้นเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่นาทีแรกๆทันที แล้วเซ็นเตอร์ที่เป็น โซลก็ช้ามาก ประกอบกับ บริดจ์ ที่เมื่อคืนรูดจริงๆ กองกลางที่ปั้นเกมรุกซะเพลิน จนถอยมาสกรีนไม่ทัน และคาร์สันที่ออกลูกตื่นๆตลอดทั้งเกม ทั้งหมดนี้ เมื่อเจอนักเตะโครแอต ที่เร็ว คล่อง เบสิกดี และทักษะเหนือกว่า ทำให้ไม่สามารถหยุดเกมสวนกลับของโครแอตได้ครับ
4. ยิ่งการแก้เกมแบบส่งกองหน้ามาเพิ่ม และส่งตัวเปิดบอลลงมานั้น เป็นการแก้เกมที่เน้นการบอมบ์ และยิงประตู ซึ่งสุดท้าย โอเค ทำได้สองประตู ทำให้สถานการณ์กลับมาทรงตัว แต่แทนที่จะเน้นครองเกม หรือกดดันต่อ เพราะโครแอตกำลังป่วน กลับไปตั้งรับซะงั้น ซึ่งโซลที่ช้ามาก กับบริดจ์ที่เป็นบ่อในวันนี้ โดนเจาะตลอด แล้วบอลทะลักมาถึงหน้ากรอบบ่อยมาก และก็โดนในที่สุด ตรงนี้ก็เป็นการแก้เกมที่ประหลาดอีกเหมือนกัน เพราะโครแอตกำลังปั่นป่วน แทนที่จะฉวยโอกาสกดดันเอาอีกสักลูก กลับไปผ่อนเกมซะเฉยๆ จนโครแอตตั้งตัวกลับมาได้
5. ล้มเหลวครั้งนี้ ผมมองว่าเป็นที่แม็คลาเรนเอง ที่ดูจะไม่สามารถหาส่วนผสมระหว่างนักตะที่มี กับแท็คติคที่ดีให้เกิดขึ้นได้ การนำนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวเป็นรองลงมาสู้กับทีมที่มีนักเตะความสามารถเฉพาะตัวดีกว่านั้น การะเอาชนะให้ได้ แบบชนะจริงๆนั้น ต้องอาศัยทีมเวิร์คที่ดีกว่า และแท็คติคที่เหมาะสมกับทีมตัวเองที่สุดเท่านั้น ข้อสรุปนี้ เกิดขึ้นกับกรีซมาแล้ว เกิดขึ้นกับตุรกี กับเกาหลีใต้มาแล้ว เมื่อความสามารถเฉพาะตัว และทักษะเป็นรอง ต้องใช้ทีมเวิร์ค และแท็คติคของเกมที่ดีกว่าเท่านั้น ถึงจะเอาชนะได้ และผมมองว่า แม็คลาเรนไม่มีตรงนั้นครับ
จบแล้วครับ ไม่ทราบจะตรงใจใครหรือไม่นะครับ แต่สำหรับผม บอกตรงๆ หากอังกฤษจะเข้ารอบไปในสภาพนี้ ผมว่าให้รัสเซียเข้าไปเถอะครับ อังกฤษไม่ดีพอจริงๆนั่นแหละ อย่าเข้าข้างตัวเองต่อไปเลย... แม็คลาเรน