ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง คุณได้หรือเสียอะไร? แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง คุณได้หรือเสียอะไร?

<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 กรกฏาคม 2550
 

ในเวลาของพระเจ้า

8 กรกฏาคม 2007
คริสตจักร ยะลา

ยอห์น 2:1-4
1วันที่สามมีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และมารดาของพระเยซูก็อยู่ที่นั่น 2พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้รับเชิญไปในงานนั้น 3เมื่อเหล้าองุ่นหมดแล้ว มารดาของพระเยซูทูลพระองค์ว่า "เขาไม่มีเหล้าองุ่น" 4พระเยซูตรัสกับนางว่า "หญิงเอ๋ย ให้เป็นธุระของข้าพเจ้าเถิด เวลาของข้าพเจ้ายังไม่มาถึง"


อธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้ และขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษผู้ที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย เหตุว่าราชอำนาจและฤทธิ์เดชและพระสิริ เป็นของพระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ อาเมน


ผมได้ชมภาพรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งได้มีการนำเอามาเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต เป็นรายการที่มีชื่อว่า พิธากอรัส สวิชท์ ภาพที่เห็น แทบจะไม่มีคนอยู่ในรายการเลย จะเห็นอย่างมากก็มือข้างหนึ่งเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นพวกชิ้นส่วน หรือเครื่องใช้ต่างๆ เช่นหลอดด้าย กาต้มน้ำ เชือก ปากกา ลูกแก้ว แท่งไม้ และอะไรๆจิปาถะ ภาพแต่ละตอนจะเริ่มต้นขึ้นด้วย มือข้างหนึ่งปล่อยสิ่งของเล็กๆชิ้นหนึ่ง ของชิ้นนั้นก็จะกลิ้งไป ชนกับอะไรอีกชิ้นหนึ่ง ทำให้ชิ้นนั้น เคลื่อนที่ไปโดนเข้ากับอีกสองชิ้น ชิ้นแรกก็หมุนกลิ้งไปตกลงในรู แล้ววิ่งไปตามราง พร้อมๆกันนั้น อีกชิ้นก็จะไปดันให้รถคันเล็กๆวิ่งมา แล้วรถคันนั้นก็เข้ามาพอดีกับที่ชิ้นแรกหล่นลงมาจากราง จากนั้นก็วิ่งต่อไปชนเข้ากับกระเดื่องอันหนึ่งทำให้รอกที่ผูกอยู่ ดึงให้สะพานท่อนแรกหันมารองรับรถคันเล็กนั้น จากนั้นแม่เหล็กอันเหล็กๆที่ติดอยู่กับสะพานท่อนแรกก็ดูดให้สะพานท่อนที่สองและสามหันเข้ามาต่อกันเป็นเส้นทางให้รถคันนั้นวิ่งไปจนไปถึงด่านสุดท้าย ก็วิ่งเข้าไปชนป้ายเล็กๆอันหนึ่งทำให้แถบตัวหนังสือชื่อของรายการ กลิ้งออกมา พร้อมกับเสียงโลโก้ประจำรายการ

ผมชอบดูมาก เนื่องจากให้แนวคิดในเรื่องการออกแบบทางวิศวกรรมและสนุกสนานดีด้วย แต่เมื่อกลับมานั่งคิดอีกครั้ง สิ่งที่อยู่เบื้องหลังกลไกเหล่านี้ก็คือ ผู้ออกแบบ ซึ่งได้วางแผนการไว้อย่างลงตัว สิ่งต่างๆเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม

คิดถึงตรงนี้ก็อดขอบพระคุณพระเจ้าไม่ได้เลย สำหรับชีวิตของเราทุกคน พระองค์ทรงเฝ้าดูแผนการของพระองค์ที่ได้วางไว้สำหรับเรา และทุกสิ่งก็ได้ดำเนินไปตามเวลาอันเหมาะสมของพระองค์

เรื่องจากพระคัมภีร์ ยอห์นบทที่ 2 ที่ได้อ่านไปนั้น เราคงจะคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ถ้อยคำแรกที่แตะต้องใจผมในวันนี้คือ คำตรัสของพระเยซูที่ว่า “เวลาของข้าพเจ้า”

พี่น้องคงจะคุ้นเคยกับเพลงที่เราใช้นมัสการพระเจ้าเพลงหนึ่ง คือ “ในเวลา” เพลงนี้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยให้เราได้ใช้นมัสการพระเจ้ามาประมาณ 25 ปีแล้ว เนื้อเพลงก็ได้พูดถึงสิ่งที่น่าสนใจหลายประการ ผมอยากให้พี่น้องได้มีโอกาสมาพิจารณาด้วยกันอีกครั้ง

ในเวลา ของพระคริสต์
ทรงลิขิตชีวิตของข้า ตามน้ำพระทัย
ขอโปรดให้ข้าเรียนรู้ว่า
ตราบที่ข้า เดินในมรรคา
ดวงชีวาอยู่ในเวลา ของพระองค์

ในเวลา ของพระเจ้า
ทรงเฝ้าดูชีวิตให้อยู่ในน้ำพระทัย
โอ้พระเจ้าข้าขอมอบใจ
มอบถวายชีวิตทั้งกาย
เพื่อจะได้อยู่ในเวลา ของพระองค์


เนื้อความในเพลงที่เราคุ้นเคยนี้ ได้บอกว่า ชีวิตของเรานั้น อยู่ในการเฝ้าดูของพระเจ้า และยังได้เรียกร้องให้เราไว้วางใจพระเจ้า โดยการที่มอบใจ มอบถวายชีวิต ไว้ในการดูแลของพระเจ้า

การแปลเพลงนี้เป็นภาษาไทย ได้พยายามทำให้มีการสัมผัส ตามลักษณะของโคลง-ฉันท์-กาพย์-กลอน และยังต้องลงตัวพอดีกับทำนองเพลงอีกด้วย จึงทำให้เนื้อหาสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ประพันธ์เพลงต้องการสื่อให้เรารับรู้ได้ขาดหายไป เนื้อความในต้นฉบับภาษาอังกฤษได้บอกไว้อย่างนี้

In His time, In His time
He makes all things beautiful in His time.
Lord please show me everyday
As You’re teaching me Your way
And to do just what You say, In Your time.

In Your time, In Your time
You make all things beautiful in Your time
Lord my life to You I bring
May each song I have to sing
Be to You a lovely thing, In Your time.


สิ่งที่เพลงนี้ได้กล่าวถึง แปลความได้อย่างนี้

ในเวลาของพระองค์ พระองค์ได้ทรงกระทำทุกสิ่งให้งดงาม
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสำแดงให้แก่ข้าพระองค์ทุกๆวัน
ดังที่พระองค์ทรงสอนข้าพระองค์ถึงหนทางของพระองค์
และเพื่อข้าพระองค์จะทำในสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้ ในเวลาของพระองค์

ในเวลาของพระองค์ พระองค์ได้ทรงกระทำทุกสิ่งให้งดงาม
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ได้นำชีวิตของข้าพระองค์มาให้พระองค์
ขอให้แต่ละบทเพลงที่ข้าพระองค์ได้ร้องนั้น
จะเป็นสิ่งที่แทนความรักที่ข้าพระองค์มีต่อพระองค์ ในเวลาของพระองค์


จะว่าไปแล้ว เนื้อความในภาษาไทยที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มีเนื้อหาที่ดีและสามารถชูใจและเตือนสติเราได้ หากเราได้มีโอกาสใคร่ครวญไปด้วยในขณะที่ร้อง ซึ่งผมคงจะข้ามไปได้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก เนื่องจากเราคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ผมอยากให้เราได้มาพิจารณาส่วนที่ขาดหายไปจากต้นฉบับว่า เราพลาดอะไรไปตลอด 25 ปีที่ผ่านมา

ในท่อนแรก สิ่งที่หายไปคือ “พระองค์ได้ทรงกระทำทุกสิ่งให้งดงาม ในเวลาของพระองค์” นี่เหมือนเป็นประโยคง่ายๆ ดูเหมือนไม่ค่อยสลักสำคัญอะไร แต่พี่น้องครับ พระวจนะของพระเจ้าได้ยืนยันความจริงที่ยิ่งใหญ่ไว้

ปัญญาจารย์ 3:11
11พระองค์ทรงกระทำให้สรรพสิ่งงดงามตามฤดูกาลของมัน พระองค์ทรงบรรจุนิรันดรกาลไว้ในจิตใจของมนุษย์ แต่มนุษย์ยังมองไม่เห็นว่า พระเจ้าทรงกระทำอะไรไว้ตั้งแต่ปฐมกาลจนกาลสุดปลาย


พระเจ้าทรงวางแผนการณ์สำหรับสิ่งต่างๆ และเป็นแผนการที่งดงามสำหรับคนของพระองค์ หากเราทั้งหลายที่บอกกับชาวโลกว่า เราเป็นประชากรของพระเจ้า แต่ยังคงจมอยู่ในความทุกข์กังวลใจ วิตกในเรื่องราวต่างๆ อย่าลืมบอกตนเองด้วยว่า พระเจ้ามีแผนการที่งดงามสำหรับชีวิตของเราแน่

เนื้อเพลงยังบอกต่อไปอีกว่า ขอทรงสำแดงให้แก่ข้าพระองค์ทุกๆวัน ดังที่พระองค์ทรงสอนข้าพระองค์ถึงหนทางของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะทำในสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้ นี่เป็นสิ่งที่อาจขาดไปจากชีวิตของเราก็เป็นได้ ทั้งนี้เพราะเราอาจขาดความเชื่ออย่างเพียงพอที่จะไว้ใจในหนทางหรือวิธีการของพระเจ้า ทำให้เราไม่ได้เห็นแผนการอันงดงามของพระเจ้า เราอาจมัวหวังพึงความช่วยเหลือจากมนุษย์ หรือแม้แต่หวังความช่วยเหลือจากสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า

เช่นในขณะที่เรากำลังกังวลถึงปัญหาอย่างหนึ่ง อาจเป็นปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ปัญหาธุรกิจ หรือแม้แต่ปัญหาลึกลับก็ตาม เราอาจกำลังคิดหาหนทางหรือหาความช่วยเหลือ ตามสติปัญญาของเรา แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ใครๆในโลกนี้ก็คงไม่ตำหนิที่เราพยายามหาทางออกด้วยตัวเราเอง แต่สำหรับคริสเตียนแล้ว เราต้องเรียนรู้ว่าพระเจ้าของเราทรงควบคุมอยู่เหนือสรรพสิ่ง และหนทางของพระองค์ที่ได้ทรงสอนเราไว้แล้วนั้น เป็นวิธีการของพระเจ้าที่สามารถช่วยเราได้ แม้โลกนี้จะตั้งคำถามที่ทำให้ความเชื่อของเราสั่นคลอนว่า วิธีแบบนั้นไม่เห็นใครเขาทำกัน แต่ผมขอย้ำอีกครั้งว่า วิธีการของพระเจ้าช่วยเราได้แน่ และจะทำให้เราได้รับประสพการณ์อันยิ่งใหญ่ คือการได้เห็นแผนการของพระเจ้าสำเร็จต่อหน้าต่อตาเราอย่างงดงาม “เมื่อเราได้ทำตามสิ่งที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้”

เงื่อนไขสำคัญก็คือ ทำในสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้ มาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าเกิดคำถามขึ้นในใจบางประการ ผมอยากให้เราได้ดูว่าพระเจ้าตอบคำถามในใจของท่านว่าอย่างไร

มาลาคี 3:12-15
12พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า แล้วประชาชาติทั้งสิ้นจะเรียกเจ้าว่า ผู้ที่ได้รับพระพร ด้วยว่าเจ้าจะเป็นแผ่นดินที่น่าพึงใจ 13"พระเจ้าตรัสว่า 'ถ้อยคำของเจ้านั้นใส่ร้ายเรา' เจ้ายังกล่าวว่า 'เราทั้งหลายได้กล่าวใส่ร้ายพระองค์สถานใด' 14เจ้าได้กล่าวว่า 'ที่จะปรนนิบัติพระเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ที่เราจะรักษาพระดำรัสสั่งของพระองค์ หรือดำเนินอย่างคนไว้ทุกข์ต่อพระพักตร์พระเจ้าจอมโยธานั้นจะได้ผลดีอันใด 15บัดนี้เราถือว่าคนอวดดีเป็นคนได้รับพร เออ คนที่ประกอบการอธรรม ใช่ว่าจะมั่งคั่งเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้ทดลองพระเจ้าแล้วก็ปลอดภัยไป' 16แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกันและกัน พระเจ้าทรงฟังและทรงได้ยิน และมีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำหน้าพระพักตร์ ได้บันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าและที่ตรึกตรองในพระนามของพระองค์ไว้ 17พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า "เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา ในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้ ดังชายที่ไว้ชีวิตบุตรของเขาผู้ปรนนิบัติเขา 18แล้วเจ้าจะสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมและคนอธรรม ระหว่างคนที่ปรนนิบัติพระเจ้ากับคนที่ไม่ปรนนิบัติพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่ง


พระเจ้าบอกว่า “ถ้อยคำของเจ้านั้นใส่ร้ายเรา” พระองค์จะพิสูจน์ให้ดูว่า คนที่ติดตามพระองค์นั้นจะเป็นอย่างไร

กลับมาดูเนื้อเพลงกันต่อ ในข้อที่สอง ได้พูดถึงสิ่งที่เราทั้งหลายได้กระทำเสมอในวันอาทิตย์ นั่นคือการร้องเพลงนมัสการพระเจ้า เนื้อเพลงได้บอกไว้ว่า ขอให้แต่ละบทเพลงที่ข้าพระองค์ได้ร้องนั้น จะเป็นสิ่งที่แทนความรักที่ข้าพระองค์มีต่อพระองค์ เราได้ร้องเพลงนมัสการพระเจ้าด้วยท่าทีอย่างนี้หรือเปล่า

ประสบการณ์ของเรากับพระเจ้า จะเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่เบื้องหลังท่าทีในการที่เราร้องเพลงนมัสการพระเจ้า ถ้าหากเราไม่เคยมีประสพการณ์กับพระเจ้าเลย สิ่งที่เราร้องออกมาก็เป็นได้เพียงเสียงเพลงจากปาก แต่หากเราได้มีประสบการณ์กับพระเจ้ามาแล้ว เพลงเดียวกันจะถูกเปล่งออกมาจากหัวใจของเรา เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรักที่เรามีต่อพระองค์ และที่สำคัญพระเจ้าทรงรับรู้ว่าเสียงนั้นออกมาจากไหน

ขอให้เราได้เริ่มต้นใหม่อย่างนี้คือ แต่ละวันที่เราดำเนินชีวิตให้เราได้ใช้วิธีการของพระเจ้า ตามที่พระองค์ได้ตรัสสอนเราแล้วในพระคัมภีร์ โดยที่เราต้องมีความเชื่อ และไว้วางใจว่า วิธีของพระเจ้าช่วยเราได้แน่นอน หากยังขาดความเชื่อให้เราอธิษฐานขอ และเราจะได้รับประสพการณ์อันยิ่งใหญ่นั่นคือ พระองค์ได้ทรงกระทำทุกสิ่งในชีวิตของเราให้งดงาม และเมื่อเรามีประสพการณ์อย่างนี้แล้ว เราจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าออกจากใจของเราได้

เอาล่ะครับ เราจะกลับมาดูพระวจนะของพระเจ้าจาก ยอห์น บทที่ 2 อีกครั้ง ในเรื่องของ งานสมรสที่บ้านคานา

ยอห์น 2:1-11
1วันที่สามมีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และมารดาของพระเยซูก็อยู่ที่นั่น 2พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้รับเชิญไปในงานนั้น 3เมื่อเหล้าองุ่นหมดแล้ว มารดาของพระเยซูทูลพระองค์ว่า "เขาไม่มีเหล้าองุ่น" 4พระเยซูตรัสกับนางว่า "หญิงเอ๋ย ให้เป็นธุระของข้าพเจ้าเถิด เวลาของข้าพเจ้ายังไม่มาถึง" 5มารดาของพระองค์จึงบอกพวกคนใช้ว่า "จงกระทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด" 6มีโอ่งหินตั้งอยู่ที่นั่นหกใบตามธรรมเนียมการชำระของพวกยิว จุน้ำโอ่งละสี่ห้าถัง 7พระเยซูตรัสสั่งเขาว่า "จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็มเถิด" และเขาก็ตักน้ำเต็มโอ่งเสมอปาก 8แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า "จงตักเอาไปให้เจ้าภาพเถิด" เขาก็เอาไปให้ 9เมื่อเจ้าภาพชิมน้ำที่กลายเป็นเหล้าองุ่นแล้ว และไม่รู้ว่ามาจากไหน (แต่คนใช้ที่ตักน้ำนั้นรู้) เจ้าภาพจึงเรียกเจ้าบ่าวมา 10และพูดกับเขาว่า "ใครๆเขาก็เอาเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อได้ดื่มกันมากแล้วจึงเอาที่ไม่สู้ดีมา แต่ท่านเก็บเหล้าองุ่นอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้" 11นี่เป็นการกระทำอันเป็นหมายสำคัญครั้งแรกของพระเยซู ทรงกระทำที่บ้านคานาแคว้นกาลิลี และได้ทรงสำแดงพระสิริของพระองค์ และสาวกของพระองค์ก็ได้วางใจในพระองค์


เหตุการณ์นี้มีถ้อยคำสำคัญที่แตะต้องใจผมอีกถ้อยคำหนึ่ง ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตคริสเตียน ที่บรรพบุรุษแห่งความเชื่อหลายยุคหลายสมัยได้นำไปใช้ และเป็นเหตุให้ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ดำเนินไปตามแผนการอันงดงามของพระเจ้า เป็นพระพรของพระเจ้าไปสู่ลูกหลานหลายชั่วอายุคน

แต่ปัจจุบันโลกเจริญมากขึ้นในสายตาของมนุษย์ ทำให้คริสเตียนส่วนหนึ่งตัดสินใจที่จะนำวิถีชีวิตของตนไปแขวนไว้กับความรู้และภูมิปัญญาของมนุษย์ แน่นอนว่าการงานที่ทำไปก็เกิดผลเช่นกัน แต่เป็นผลงานที่เกิดขึ้นโดยไม่มีพระพรของพระเจ้าอยู่ด้วย และในที่สุดลูกหลานในชั่วอายุถัดไปก็ขาดพระพร

เคล็ดลับที่ว่าก็คือ คำที่นางมาเรีย มารดาของพระเยซูได้บอกกับคนรับใช้ว่า "จงกระทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด" ครับเป็นประโยคที่ง่ายมากๆ ฟังครั้งเดียวก็จำได้ แต่กว่าที่คนคนหนึ่งจะยอมรับได้ว่านี่คือหนทางเดียวที่เขาควรทำ ก็อาจต้องเสียเวลาหลายสิบปี ระหว่างนั้น ยังอาจสอนคนอื่นๆให้หลงผิดตามไปด้วยอีกหลายสิบหลายร้อยคน

เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา บางท่านในที่นี้ก็ได้เข้าร่วมชั้นเรียนผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ถ่ายทอดสดมาจากคริสตจักรใจสมาน อาจารย์ประยูรได้อธิบายความหมายของคำที่อาจารย์เปาโลใช้ในคำขึ้นต้นของพระธรรมโรม ว่า “ผู้รับใช้ของพระคริสต์” คำว่าผู้รับใช้คำนี้ มีความหมายว่า “ทาสที่สมัครใจที่จะรับใช้นายของตน” สิ่งที่ทาสทำก็คือ ตั้งตารอคอยคำสั่งจากนาย ว่านายจะสั่งให้ทำอะไร และจะมีความชื่นชมยินดีที่สุดที่นายเรียกใช้เขา

พี่น้องครับ เราที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียน อยู่ในฐานะอะไรครับ “เจ้านายของพระเจ้า” หรือ “ผู้รับใช้ของพระเจ้า” หากเรารู้ว่าเราเป็นผู้รับใช้ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ การตั้งตารอคอยคำสั่งของนาย และทำตามที่นายสั่ง

คำว่าทำตามที่นายสั่งนี้ อาจทำให้พี่น้องสับสนบางประการ โดยเฉพาะเมื่อไปปะปนกับเบื้องหลังชีวิตเก่า หรือวัฒนธรรมเก่าที่พูดถึงการเป็นศาสนิกชนที่ดีโดยการประพฤติปฏิบัติตามบัญญัติคำสอนของศาสนา

ผมขออธิบายเป็นภาพเปรียบเทียบให้เห็นว่า แตกต่างอย่างไร

หลายๆท่านอาจได้รับรู้ข้อมูลทางการแพทย์มาบ้างว่า หากคนเรามีสุขภาพดี มันจะแสดงออกมาหลายประการเช่นผิวพรรณสดชื่น ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรค ไม่เหนื่อยง่าย รูปร่างสมส่วน ระบบขับถ่ายดี ลมหายใจสะอาด ไม่เป็นรังแคและอื่นๆ ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นจากภายใน แต่ปัจจุบันโฆษณาทางโทรทัศน์ที่เราอาจพบเห็นได้บ่อยคือ เครื่องสำอางสารพัดยี่ห้อ มีสรรพคุณอย่างพิเศษที่ทำให้ดูผิวพรรณดูสดชื่นเป็นสีชมพูเปล่งปลั่งได้ โดยไม่ต้องมีสุขภาพดี ทาแล้วสวยงามได้ทันที หลอกลวงตัวเองและผู้อื่นได้ทันใจอย่างที่ต้องการ


พี่น้องครับ พระวจนะของพระเจ้าได้แสดงให้เราเห็นว่า ชีวิตคริสเตียนที่แท้จะเป็นอย่างไร เมื่อเรามีชีวิตที่บังเกิดใหม่ ผลฝ่ายวิญญาณเหล่านี้จะเกิดขึ้น แต่มันจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากชีวิตที่บังเกิดใหม่จากภายใน ส่วนความเข้าใจผิดที่ว่าก็คือ การที่เราอ่านเจอลักษณะของชีวิตใหม่และผลฝ่ายพระวิญญาณในพระคัมภีร์ แล้วพยายามเอาไปประพฤติปฏิบัติ นั่นก็มีลักษณะเหมือนกับการเอาเครื่องสำอางมาทาตัวให้มีสีชมพู

คนเหล่านั้นที่บังเกิดใหม่แล้ว มีพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิตของเขา ลักษณะตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์จะปรากฏออกมาเอง ไม่ต้องฝืนตัวที่จะกระทำ ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยที่จะพยายาม และนี่ก็คือสิ่งงดงามที่พระองค์เป็นผู้กระทำให้เกิดขึ้นในเวลาของพระองค์ ไม่ใช่สิ่งที่เราพยายามทำเอง

เมื่อเราบังเกิดใหม่แล้ว พระวิญญาณของพระเจ้าอยู่กับเรา คำสั่งเหล่านั้นจะไม่เป็นปัญหายุ่งยาก เพราะเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าที่ประกอบกิจอยู่ในเรา แต่ถ้าเราไม่บังเกิดใหม่จากภายใน คำสั่งเหล่านั้น จะเป็นเสมือนกับดักและหินสะดุดที่สร้างความยุ่งยากให้กับชีวิตของเรา และหากพี่น้องของเรายังไม่บังเกิดใหม่ การที่จะแนะนำให้เขาประพฤติปฏิบัติคำสั่งของพระเยซูนั้น ก็เท่ากับการส่งเขาเข้าไปหาหินสะดุด

โรม 9:31-33
31แต่พวกอิสราเอลซึ่งใฝ่หาความชอบธรรมตามบัญญัติ ก็ยังไม่ได้บรรลุตามบัญญัตินั้น 32เพราะอะไร เพราะเหตุที่เขามิได้แสวงหาโดยความเชื่อ แต่แสวงหาโดยการประพฤติ เขาสะดุดก้อนหินที่ให้สะดุดนั้น 33ดังที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า จงดูเถิดเราได้วางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน ซึ่งจะทำให้สะดุดและหินก้อนหนึ่งซึ่งจะทำให้ล้มแต่ผู้ที่เชื่อในพระองค์จะไม่ได้รับความอับอาย


กลับมาที่เรื่องของงานสมรสที่หมู่บ้านคานา 7พระเยซูตรัสสั่งเขาว่า "จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็มเถิด" สิ่งนี้ไม่เกินกำลังที่คนรับใช้เหล่านั้นจะทำได้ 8แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า "จงตักเอาไปให้เจ้าภาพเถิด" นี่ก็ไม่เกินกำลังที่คนรับใช้จะทำได้ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงน้ำเปล่าเป็นเหล้าองุ่น นั่นไม่ใช่หน้าที่ของคนรับใช้เลย แต่เป็นหน้าที่ที่พระเยซูเป็นผู้กระทำ และนี่คือวิธีการของพระเจ้า

การที่คนรับใช้เอาน้ำเปล่าเติมให้เต็มโอ่งโดยไม่ถามอะไรสักคำ และตักเอาไปให้เจ้าภาพชิมโดยไม่ถามอะไรสักคำ เปรียบได้กับความเชื่อฟังที่คริสเตียนจะต้องมี คือยอมรับและใช้วิธีของพระเจ้า แล้วพระองค์จะกระทำทุกสิ่งให้งดงาม ในเวลาของพระองค์



Create Date : 08 กรกฎาคม 2550
Last Update : 8 กรกฎาคม 2550 17:05:19 น. 15 comments
Counter : 1748 Pageviews.  
 
 
 
 



===HappY BiRtHDaY na ka.===



ขอให้มีความสุข มากๆ

ประสบความสำเร็จในชีวิต..

มีพลังที่ยิ่งใหญ่ในการทำความฝันให้เป็นจริง..
 
 

โดย: ^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:13:33 น.  

 
 
 



ป้าพานางฟ้ามาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
********
****


 
 

โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:11:27 น.  

 
 
 
 
 

โดย: โสมรัศมี วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:58:00 น.  

 
 
 


HappY BirthDay


ยะลา เหตุการเป็นอย่างไรครับ มีทางที่จะต้องเป็นเขตปกครองอิสระหรือเปล่า ? สถานะการณ์รุนแรงขึ้นทุกวัน อยู่กันอย่างไรครับ ทางจังหวัดอื่นที่ได้รับข่าว มีแต่ความรุ่นแรงน่ากลัวและทางมุสลิมเป็นต่อ
 
 

โดย: Yoawarat วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:21:38 น.  

 
 
 
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอวยพรคร้าบ

ดูข่าวการปราบปรามผู้ก่อการร้ายในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
รู้สึกใจชื้นขึ้นหน่อยครับ ทางการเอาจริง ก็จัดสามารถการได้แหละครับ

"สมานฉันท์" ในแนวทางนี้ ใช้ได้ครับ คือ
ต้องดีกับชาวบ้าน เพราะเราต้องอยู่ร่วมผืนดินกันต่อไป
แต่กับโจรและแนวร่วม ต้องกำราบให้จริงจังครับ
 
 

โดย: ksk วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:01:47 น.  

 
 
 
สุขสันต์วันเกิดนะครับ อาจารย์ ksk มีความสุขมากๆ ครับผม ^^ สุขสมหวังทุกประการครับ
 
 

โดย: Due_n วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:58:37 น.  

 
 
 
Happy Birth Day ka...
 
 

โดย: Rabbit Sunflower วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:44:13 น.  

 
 
 
แฮปปี้ เบิร์ท เดย์ ด้วยคนนะค่ะ

มีความสุขมากๆๆ

ดูแลสุขภาพดีๆ

ช่วงนี้ฝนตกบ๊อย บ่อย

ระวังไม่สบายนะค่ะ**

-------------------

 
 

โดย: kawaya วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:45:52 น.  

 
 
 
แวะมาสุขสันต์วันเกิดค่ะ

ขอให้คุณเจ้าของบล็อก และครอบครัวมีแต่ความสุข สมหวัง สดชื่น แจ่มใสทั้งกายและใจตลอดไปนะคะ

รวย ๆ ๆ เฮง ๆ ๆ ค่ะ




ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...
 
 

โดย: largeface วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:35:38 น.  

 
 
 
สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะครับ สมหวังทุกสิ่ง เป้นจริงทุกอย่าง ดังหวังนะครับ

สุขภาพดีทุกวัน ปลอดภัยทุกที่ พระคุ้มครองนะครับ





มีเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่อย่างนึงคือ


คนเกิดเดือนนี้ หน้าตาดีทุกคนครับ
 
 

โดย: note-d วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:36:48 น.  

 
 
 
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งคร้าบ...
 
 

โดย: ksk วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:21:36 น.  

 
 
 
ผมก้อคนปัตตานีคับ
 
 

โดย: jesse_b_boy วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:58:27 น.  

 
 
 
ชอบที่พี่เขียนจังค่ะ
ขอบคุณพระเจ้าที่เปิดมาเจอ และตัดสินใจอ่านเพราะต้องสอบ กำลังพยายามอ่านหนังสืออยู่ค่ะ
หนุนใจมากเลย

ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ ด้วยความเชื่อ มันจะดีขึ้นค่ะ
 
 

โดย: น้องหนูแจง IP: 161.200.255.162 วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:3:53:51 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายครับผม
 
 

โดย: experimental วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:5:01:52 น.  

 
 
 
มาเยี่ยมครับ สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะครับ อ่านประวัติแล้วนับถือครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ขอบคุณที่เยี่ยมบล็อคผมครับ ผมเห็นด้วยในประเด็นเรื่องความหลากหลายครับ แต่ในเรื่องเลือด ผมคาดว่า เขาคงพยายมจะหาเลือดทดแทนให้ผู้ป่วยหน่ะครับ (แต่คงอีกนาน)
 
 

โดย: Tahno วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:17:02:11 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ksk
 
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผมเป็นคริสเตียนครับ
เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ
จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี)
ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO
Toulouse FRANCE ปี 1994
เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43)
ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ)
ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K
กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547
สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น
สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด
และยาวมาจนถึงตอนนี้
ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน free counter

free counter

New Comments
[Add ksk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com