ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง คุณได้หรือเสียอะไร? แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง คุณได้หรือเสียอะไร?

<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 สิงหาคม 2552
 

เราอยู่ในพระองค์ พระองค์อยู่ในเรา

9 สิงหาคม 2009
คริสตจักร ยะลา

ยอห์น 17:20-23
20"ข้าพระองค์มิได้อธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้พวกเดียว แต่เพื่อคนทั้งปวงที่วางใจในข้าพระองค์เพราะถ้อยคำของเขา 21เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์ คือพระบิดาทรงสถิตในข้าพระองค์ และข้าพระองค์ในพระองค์ เพื่อให้เขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระองค์ และกับข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา 22เกียรติซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้มอบให้แก่เขา เพื่อเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์กับข้าพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้น
23ข้าพระองค์อยู่ในเขาและพระองค์ทรงอยู่ในข้าพระองค์ เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อโลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา และพระองค์ทรงรักเขาเหมือนดังที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์


อธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณพระองค์ที่เราได้เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระองค์ โดยทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอด ขอพระองค์ทรงโปรดให้เราได้ดำเนินตามพระประสงค์ของพระองค์ ในการสำแดงให้โลกได้เห็นว่า พระองค์ได้ทรงให้พระเยซูพระบุตรองค์เดียวเสด็จเข้ามาเพื่อช่วยคนทั้งหลายให้รอดได้


วันนี้เรามาถึงช่วงปลายๆของพระธรรมยอห์น บทที่ 17 แล้ว คำอธิษฐานของพระเยซูที่ทรงตรัสไว้ในบทนี้ ได้สอนให้เราเข้าใจถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า รับรู้ถึงพระสัญญาและแผนการของพระเจ้า ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถยืนหยัดและดำเนินชีวิตในการติดตามและปรนนิบัติพระเจ้าได้ในทุกสถานการณ์

เมื่อคราวที่แล้ว เราได้พูดถึงข้อ 17-19 ผมจะขอทบทวนให้ดังนี้

ข้อ 17 ได้พูดถึงการชำระด้วยความจริง ซึ่งก็คือพระวจนะของพระเจ้า ชีวิตของเราทั้งหลายที่พระเจ้าได้ทรงซื้อ ได้ทรงไถ่ออกมาจากการเป็นทาสของบาป เราได้รับการไถ่ออกมาโดยพระชนม์ชีพของพระเยซูที่ทรงสละเพื่อรับโทษบาปแทนเราบนไม้กางเขน และเมื่อเราได้เข้ามามีส่วนในฐานะของลูกของพระเจ้าแล้ว พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่เราจะดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ สมกับฐานะแห่งการเป็นบุตรของพระเจ้า กระบวนการที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อเรา ในการชำระชีวิตของเราให้บริสุทธิ์นั้น พระเยซูคริสต์ได้ทรงบอกให้เราทราบโดยทางคำอธิษฐานของพระองค์ว่า เป็นการชำระโดยความจริง ซึ่งก็คือโดยพระวจนะของพระเจ้า เพราะพระวจนะของพระเจ้าเป็นความจริง

พระวจนะของพระเจ้าจะชำระเราได้อย่างไร การที่เราอ่านพระวจนะของพระเจ้านั้น จะทำให้เราเห็นข้อบกพร่องและความผิดบาปในชีวิตของเรา พระวจนะของพระเจ้าเป็นดาบสองคมที่สามารถแทงทะลุกระทั่งจิตวิญญาณ เพื่อที่จะวินิจฉัยให้เราเห็นรากเหง้าของความบาปในชีวิตของเรา หากเราไม่สนใจพระวจนะของพระเจ้า เราก็จะไม่มีโอกาสที่จะได้รับการชำระโดยความจริง ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของเราจะเติบโตไม่ได้ หรือพูดอีกอย่างคือเราจะมีชีวิตที่บริสุทธิ์อย่างที่พระเจ้าพอพระทัยไม่ได้ และถ้าหากเราอ่านแล้วแต่เรายังมีใจดื้อดึงและต่อสู้พระวจนะของพระเจ้า เราก็ยังคงไม่ได้รับการชำระ ซึ่งการดื้อดึงนั้น อาจนำเราเข้าสู่การชำระที่ต้องแลกด้วยความเจ็บปวด

ข้อ 18 พระเยซูได้พูดถึงภาระกิจที่ทรงมอบหมายให้กับเรา คือทรงใช้เราไปในโลก เหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงใช้ให้พระเยซูเข้ามาในโลก พระเยซูทรงเข้ามาในโลกเพื่ออะไร เพื่อการตั้งอาณาจักรอันรุ่งเรืองในโลกนี้หรือ เปล่าเลย พระเยซูทรงตรัสว่า อาณาจักรของพระองค์ไม่ได้เป็นของโลกนี้ พระองค์เข้ามาเพื่อแสวงหาคนเหล่านั้น ที่เป็นคนของพระองค์ มาหาแกะที่เป็นของพระองค์ซึ่งหลงหายไป

และเราทั้งหลายที่เป็นผู้เชื่อ ได้ทรงใช้ให้ไปในโลกเพื่อภารกิจเดียวกันคือการแสวงหาแกะของพระองค์ ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายแห่งความสุขสำราญส่วนตัวอีกต่อไป เรื่องนี้อาจทำให้ผู้เชื่อหลายคนลำบากใจ เพราะดูเหมือนว่าแผนการต่างๆในชีวิตเปลี่ยนไปหมด เราต้องอยู่อย่างไม่มีความสุขหรือ ไม่ใช่เช่นนั้นครับ แต่เราจะพบว่าความสุขใจที่เรามีในการปรนนิบัติพระราชกิจการงานที่ได้รับมอบหมายนั้น มีมากกว่าความสุขที่เราเคยได้รับจากการแสวงหาเป้าหมายส่วนตัวของเรา

ข้อ 19 พระเยซูคริสต์ได้ทรงผ่านเข้าไปในการทนทุกข์ต่างๆ ซึ่งเปรียบได้กับการชำระทองคำด้วยไฟที่ร้อนแรง ทั้งนี้เพื่อทรงพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้กระนั้นพระองค์ก็ไม่ทรงกระทำบาปเลย มารซาตานก็ไม่อาจที่จะโต้แย้งใดๆได้ พระเยซูจึงทรงเป็นผู้ทรงไถ่บาปแทนคนทั้งปวงได้โดยชอบธรรม

วันนี้เราจะมาดูต่อในข้อที่ 20-23

20"ข้าพระองค์มิได้อธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้พวกเดียว แต่เพื่อคนทั้งปวงที่วางใจในข้าพระองค์เพราะถ้อยคำของเขา

พระเยซูได้ทรงเปิดเผยอย่างชัดเจนว่า คำอธิษฐานของพระองค์นั้น ไม่ได้เป็นไปเพียงเพื่อเหล่าสาวกคนสนิทจำนวนสิบเอ็ดคนเท่านั้น แต่กำลังอธิษฐานเผื่อพวกเราในเวลานี้ด้วย และยิ่งกว่านั้น เรายังเห็นข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือ พระเยซูทรงหวังว่าบรรดาผู้ที่เหล่าสาวกได้นำมาเชื่อ ซึ่งรวมถึงพวกเราด้วย จะได้มาถึงซึ่ง “ความไว้วางใจในพระเยซู”

สิ่งนี้เป็นข้อสำคัญสำหรับการนำคนมาถึงความรอดในพระเยซู นั้นคือเราต้องนำให้เขามาถึงความไว้วางใจในพระเยซู ไม่ใช่นำมาถึงความสะดวกสบาย หรือนำมาถึงความสนุกสนาน หรือนำมาถึงการรักษาโรค หรือนำมาถึงการสังคมสงเคราะห์ หรือนำมาถึงสิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่ “การวางใจในพระเยซู”

คริสตจักรของเราได้เคยได้เรียนรู้มาความผิดพลาดในอดีตของการประกาศข่าวประเสริฐมาแล้ว สมัยหนึ่งเรามีคริสเตียนข้าวสาร สมัยหนึ่งเรามีคริสเตียนทุนการศึกษา สมัยหนึ่งเรามีคริสเตียนสรวญเสเฮฮา ไม่เพียงแต่คริสตจักรของเรา คริสตจักรอื่นๆบางแห่งเคยมีคริสเตียนยาเขียวยาแดง คริสเตียนสาวกฝรั่ง คริสเตียนชอบพูดภาษาอังกฤษ

ในเมื่อเราเองได้เรียนรู้จากบทเรียนในอดีตแล้วว่า คนเหล่านั้นที่เราพยายามทุ่มเทอย่างผิดเป้า เราเหน็ดเหนื่อยโดยเปล่าประโยชน์ เป็นเวลาหลายปี แต่ในที่สุดคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มาถึงความรอด และพากันหลงหายไปหมดสิ้น

ในขณะที่ในอดีต เราก็ได้พบเห็นพี่น้องคริสเตียนที่อาจไม่ได้มีฐานะดีโดดเด่นอะไร บางช่วงก็ต้องเจอมรสุมชีวิต โดยที่พี่น้องคริสเตียนก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่เขายังคงยืนหยัดในการติดตามพระเยซู เพราะเขาได้รับการนำที่ถูกต้อง คือการนำให้มาถึงความไว้วางใจในพระเยซู ไม่ใช่มาถึงวัตถุสิ่งของ หรือมาถึงที่พึ่งทางใจอื่นๆ


ดังนั้น พึงระลึกเสมอว่า ให้ถ้อยคำของเราทั้งหลาย เมื่อเรากำลังทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซู เป็นถ้อยคำที่นำให้คนบาปมาถึงความวางใจในพระเยซู


21เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์ คือพระบิดาทรงสถิตในข้าพระองค์ และข้าพระองค์ในพระองค์ เพื่อให้เขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระองค์ และกับข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา

ความเป็นห่วงที่พระเยซูทรงมีต่อผู้เชื่อในทุกยุคสมัยก็คือ การที่ผู้เชื่อจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยพระเยซูได้ทรงให้แบบอย่างของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไว้ว่า เป็นเหมือนที่พระบิดาทรงสถิตย์ในพระเยซู และพระเยซูอยู่ในพระบิดา

ประโยคนี้ ไม่ได้หมายความว่าในท่ามกลางผู้เชื่อให้ส่วนหนึ่งแสดงตัวเหมือนเป็นพระบิดา อีกส่วนหนึ่งแสดงตัวเป็นพระเยซู แต่กำลังชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และการทำงานร่วมกันของพระบิดากับพระเยซูคริสต์

ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในลักษณะที่ว่านี้ เป็นอย่างไร เราสังเกตเห็นได้ 4 ประการ

1.พระเยซูทรงสนิทสนมกับพระบิดา เราจะเห็นว่าพระองค์ให้เวลากับการอธิษฐานกับพระบิดาเป็นเวลานานๆ(ลูกา 6:12) ผู้เชื่อก็เช่นกัน ควรมีโอกาสที่จะใช้เวลาด้วยกันในการสามัคคีธรรม ในการพูดคุย ในการอธิษฐาน เพื่อการสนิมสนมจะเกิดขึ้นในท่ามกลางผู้เชื่อทุกคน

2.พระเยซูได้ทรงตรัสว่า พระบิดาทรงรักพระบุตร(ยอห์น 3:35) และพระเยซูเองก็ทรงรักพระบิดา(ยอห์น 14:31) การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในท่ามกลางผู้เชื่อนั้น ต้องประกอบไปด้วยความรัก ความหมายของคำว่าความรักในมาตรฐานของพระเจ้านั้น เราคงรับรู้อยู่แล้ว

3.พระเยซูไม่ทรงกระทำสิ่งใดตามอำเภอใจ (ยอห์น 5:30) การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในท่ามกลางผู้เชื่อก็แสดงออกอย่างนั้น คือไม่กระทำสิ่งใดตามอำเภอใจ แต่มีการหารือกัน มีการร่วมมือกัน

4.พระเยซูทรงเชื่อฟังพระบิดาทุกประการ(มัทธิว 26:39) พระเยซูได้ทรงสำแดงให้เห็นเป็นตัวอย่างของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่สำคัญอีกประการคือการเชื่อฟัง (เอเฟซัส 5:21) ในท่ามกลางผู้เชื่อนั้น การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสามารถแสดงออกได้โดยการยอมรับฟังความคิดเห็น ยอมรับฟังเหตุผลของกันและกัน แม้ว่าบางครั้งผู้เสนอความคิดเห็นจะเคยเป็นเด็กเมื่อวานซืน หรือเป็นผู้ที่ไม่ได้มีตำแหน่งการงานสูง แต่จงยอมรับฟังกันในพระคริสต์


22เกียรติซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้มอบให้แก่เขา เพื่อเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์กับข้าพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้น 23ข้าพระองค์อยู่ในเขาและพระองค์ทรงอยู่ในข้าพระองค์ เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อโลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา และพระองค์ทรงรักเขาเหมือนดังที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์

พระเยซูทรงประทานเกียรติให้เราบรรดาผู้เชื่อ เพื่อให้ผู้เชื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกียรติที่ว่าคืออะไร? ผู้รับใช้พระเจ้าที่มีประสบการณ์ในการรับใช้พระเจ้าจำนวนมาก กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การทนทุกข์เพื่อพระนามของพระเยซู คือเกียรติที่เราได้รับร่วมกับพระองค์

2 ทิโมธี 2:9-10
9และเพราะเหตุข่าวประเสริฐนั้นข้าพเจ้าจึงทนทุกข์ ถูกล่ามโซ่ดังผู้ร้าย แต่พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่มีผู้ใดเอาโซ่ล่ามไว้ได้
10เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงยอมทนทุกอย่าง เพราะเห็นแก่ผู้ที่ทรงเลือกไว้นั้น เพื่อเขาจะได้รับความรอด ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ พร้อมทั้งศักดิ์ศรีนิรันดร์



โรม 8:17
17และถ้าเราทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทั้งหลายทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์นั้น ก็เพื่อเราทั้งหลายจะได้ศักดิ์ศรีด้วยกันกับพระองค์ด้วย



ตามปกติแล้ว ไม่มีใครอยากประสบความทุกข์ยากลำบาก แต่หลายๆครั้งเราก็พบว่า โดยความทุกข์ยากที่ผู้เชื่อต้องแบกรับร่วมกันนั้น ทำให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ซึ่งก็คงจะเป็นความจริง เพราะแม้แต่คนของโลกนี้ก็ยังรู้ถึงประโยชน์ของความทุกข์ยากที่จะทำให้เกิดการเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน อย่างเช่นกิจกรรมซ้อมเชียร์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ซึ่งรุ่นพี่จะบีบบังคับให้รุ่นน้องรู้สึกอึดอัดใจ ไม่พอใจ ทั้งนี้รุ่นน้องปีหนึ่งแต่ละคนมาจากคนละที่คนละทาง ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อมีความกดดันที่ต้องรับร่วมกัน ก็หันหน้าเข้าหากัน เพื่อรวมตัวในการที่จะต่อสู้กับรุ่นพี่ และในที่สุดสิ่งที่ได้มาก็คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในท่ามกลางนักศึกษาใหม่

การก่อสร้างอาคารใหม่ของคริสตจักรของเราที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่นานข้างหน้านี้ ก็อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญอีกบทหนึ่งที่พระเจ้าจะทรงใช้ เพื่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในท่ามกลางพวกเราที่นี่ เราคงมีโอกาสได้ร่วมตัวกันเพื่ออธิษฐานอดอาหาร รวมตัวกันเพื่ออธิษฐานโต้รุ่ง มีโอกาสได้เห็นพี่น้องแต่ละครอบครัวเสนอตัวเพื่อร่วมแบกรับภาระการงานนี้ และผลที่เราจะได้รับจากการแบกภาระร่วมกันนั้นก็คือ การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน




Create Date : 10 สิงหาคม 2552
Last Update : 10 สิงหาคม 2552 9:46:48 น. 8 comments
Counter : 2181 Pageviews.  
 
 
 
 
ฟังคำพยานที่โบสถ์วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฉันรู้สึกว่าการเป็นคนจนเนี่ยเพราะพระเจ้าไม่อวยพรใช่ไหมค่ะ
 
 

โดย: แดง IP: 74.63.117.196 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:16:03:02 น.  

 
 
 
รู้สึกดูถูกตัวเองอย่างมาก
อยากรวยอย่าท่านสมคิดจัง
 
 

โดย: แดง IP: 74.63.93.189 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:19:49:28 น.  

 
 
 
พี่น้องครับ อย่าให้เรามองมนุษย์ครับ
ให้เรามองพระเยซูคริสต์เป็นตัวอย่างเท่านั้น

พระเยซูไม่ได้มีทรัพย์สมบัติใดๆในโลกนี้ แต่ทรงกระทำน้ำพระทัยของพระเจ้าให้สำเร็จ

เปาโลบอกว่า เขาทำตามอย่างพระคริสต์ เราสามารถดูแบบอย่างการรับใช้พระเจ้าของเปาโลได้
และเปาโลก็ไม่ได้เห็นความจำเป็นต้องมีทรัพย์มาก จึงจะรับใช้พระเจ้าได้
ตรงกันข้าม เมื่อไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวกับหัวใจ ฤทธิ์เดชของพระเจ้าจึงปรากฏอย่างเต็มขนาด

คำพยานของพี่อารีย์ เป็นแบบอย่างที่ดีมากครับ
ผมอยากจะบอกพี่อารีย์ว่า ในมือของเราทั้งหลาย ผู้รับใช้ของพระเจ้า
คือ โลห์ และดาบ ซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ที่เราจะใช้ในสงครามฝ่ายวิญญาณ

เอเฟซัส 6:10-20
10 สุดท้ายนี้ขอท่านจงมีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์
11 จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้
12 เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ
13 เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้
14 เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก
15 และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า
16 และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย
17 จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า
18 จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน
19 และอธิษฐานเพื่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อจะทรงประทานให้ข้าพเจ้ามีคำพูดและเกิดใจกล้า ประกาศและสำแดงข้อลับลึกแห่งข่าวประเสริฐได้
20 เพราะข่าวประเสริฐนี้เองทำให้ข้าพเจ้าเป็นทูตผู้ต้องติดโซ่อยู่ เพื่อข้าพเจ้าจะเล่าข่าวประเสริฐด้วยใจกล้าตามที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าว


ขอพระเจ้าเสริมกำลังพี่น้องครับ
 
 

โดย: ksk วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:16:47:53 น.  

 
 
 
ส่วนกรณีคุณสมคิดนั้น ปล่อยเขาไปเถอะครับ
เราคงทำได้แค่อธิษฐานเผื่อเขาเท่านั้นครับ พูดอะไรมากไม่ได้
 
 

โดย: ksk วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:17:02:28 น.  

 
 
 
คำพยานขอคุณอารีย์หนุนใจผมมาก
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณสำหรับคำหนุนใจของอาจารย์ksk
ขอพระเจ้าเสริมกำลังพี่น้องเช่นกันครับ
 
 

โดย: คนถักอวน IP: 204.124.182.189 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:6:17:38 น.  

 
 
 
ด้วยความยินดีครับพี่น้อง คนถักอวน
ขอพระเจ้าสถิตย์อยู่ด้วย และเป็นกำลังของท่านครับ

ขอเชิญชวนให้พี่น้องทุกคนในคริสตจักรฟังคำเทศนากันครับ

พระวจนะของพระเจ้าเป็นความจริง
เป็นการสำแดงของพระเจ้าที่เราจะเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า
เป็นพระวจนะที่ปลดปล่อยเราออกจากเครื่องพันธนาการทางความคิดและวิญญาณ
เพื่อให้เราเป็นไท(อิสระ)โดยพระคริสต์ และเดินอย่างถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า
มีชีวิตฝ่ายวิญญาณที่ใกล้ชิดพระเจ้า
และเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ครับ

หากเราคุ้นเคยกับพระดำรัสของพระเจ้าเป็นอย่างดี
เราจะสามารถแยกแยะได้เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาครับ

ฟังกันได้ทั้งวัน ทั้งคืน ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง FM 88.0MHz วิทยุชุมชนคริสเตียนยะลา ครับ

ตอนนี้คำเทศนามีอยู่ในคลัง มากกว่า 250 ไฟล์ครับ
โดยผู้รับใช้พระเจ้าที่ได้รับการยอมรับว่าสอนถูกต้อง
และดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระวจนะของพระเจ้า
เช่น อ.สมศักดิ์ ชูสงฆ์, อ.มนุญศักดิ์ กมลมาตยกุล, อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี,
อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์, อ.เอษรา โมทนาพระึคุณ, อ.มาโนช แจ้งมุข,
อ.สงคราม เกรียงปริญญากิจ, อ.จักรพันธ์ ชูเกียรติวงศ์กุล, อ.สมชาย ส่องทางธรรม,
อ.ธีระ เจนพิริยะประยูร, อ.สุข พงศ์น้อย, อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์,
อ.บุญอิทธิ์ บูรพวงศ์, อ.ทองหล่อ วงศ์กำชัย, อ.คำปัน สนิท,
อ.นิติเชรษฐ์ สดุดีวงศ์, อ.เข็มเพชร ยังทองหลาง, หมอภากร จันทนะมัธฐะ,
อ.อภิชาติ พูลศักดิ์วรสาร, หมอจี๊ด, อ.พิทักษ์
และจะมีเพิ่มเติมมาอีกเรื่อยๆ ครับ

ขอให้ชีวิตของเราถูกสร้างขึ้นโดยพระวจนะครับ
 
 

โดย: ksk วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:10:03:10 น.  

 
 
 
คืออะไรคับ
 
 

โดย: หล่อฟาด IP: 115.87.208.187 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:15:05:59 น.  

 
 
 
"ความลับไม่มีในโลกนี้
สักวันก็จะต้องถูกเปิดเผยออกมา"
นี่คือสัจธรรม...คนชั่วจะต้องถูกลงโทษ
แล้วใครเล่าจะเหมาะสมในการจัดการ
กับคนชั่วเหล่านั้นที่ทำร้ายผู้หญิงและเด็ก
คลิปที่ 1 อ.สมศักดิ์ ชูสงฆ์ ข่มขืนเด็กสาววัยรุ่น อายุ 16 ปี
//www.youtube.com/watch?v=friRbxjvLe4
คลิปที่ 2 อ.สมศักดิ์ ชูสงฆ์ ข่มขืนเด็กสาววัยรุ่น อายุ 16 ปี
//www.youtube.com/watch?v=9dXsDe7qQXo
คลิปที่ 3 อ.สมศักดิ์ ชูสงฆ์ ข่มขืนเด็กสาววัยรุ่น อายุ 16 ปี
//www.youtube.com/watch?v=QZrXgki-5iY
 
 

โดย: ผู้ปกครองคริสตจักร IP: 119.76.46.151 วันที่: 7 ธันวาคม 2557 เวลา:0:47:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ksk
 
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผมเป็นคริสเตียนครับ
เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ
จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี)
ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO
Toulouse FRANCE ปี 1994
เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43)
ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ)
ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K
กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547
สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น
สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด
และยาวมาจนถึงตอนนี้
ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน free counter

free counter

New Comments
[Add ksk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com