ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง คุณได้หรือเสียอะไร? แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง คุณได้หรือเสียอะไร?

 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 มกราคม 2550
 

ไม่ใช่ตามใจฉัน (ตอนที่ 2)

19 มีนาคม 2006
คริสตจักร ยะลา

ในครั้งที่แล้วผมได้นำเสนอกับพี่น้องในหัวเรื่อง “ไม่ใช่ตามใจฉัน” เป็นการชี้ให้เห็นถึงสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่เรามักจะลืมนึกถึง นั่นคือการที่ “น้ำพระทัยของพระเจ้า สำคัญกว่าความคิดของเราเอง” จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม สิ่งที่ควรเกิดขึ้นทันทีที่เราระลึกได้คือ การกลับใจเสียใหม่หันจากการตามความคิดของตนเอง มาฟังว่าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์อย่างไรและติดตามไป

เยเรมีย์ 7:23-26
23 แต่เราบัญชาเขาทั้งหลายอย่างนี้ว่า 'จงเชื่อฟังเสียงของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชากรของเรา และดำเนินในหนทางที่เราได้บัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะได้อยู่เย็นเป็นสุข'
24 แต่เขาทั้งหลายมิได้เชื่อฟังหรือเงี่ยหูฟัง แต่เขาทั้งหลายดำเนินตามแผนการของเขาเองและในความดื้อกระด้างตามจิตใจชั่วของเขาทั้งหลายและเดินถอยหลัง มิได้เดินขึ้นหน้า
25 ตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลายออกจากแผ่นดินอียิปต์จนทุกวันนี้ เราได้ส่งผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราไปยังเขาอย่างไม่หยุดยั้ง วันแล้ววันเล่า
26 ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ฟังเรา หรือเงี่ยหูฟัง แต่ได้กระทำให้คอของตนแข็ง เขาได้กระทำชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษทั้งหลายของเขาเสียอีก

อธิษฐาน
ขอพระเจ้าทรงเมตตาเราทุกคนที่นี่ ให้เราทุกคนได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าถึงสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า เพื่อเราจะดำเนินไปตามนั้น ขอให้เราได้อยู่ในพระเยซูคริสต์และพระเยซูคริสต์ทรงอยู่ในเรา ขอพระองค์ทรงนำสิ่งที่ไม่เป็นของพระองค์ออกไปจากชีวิตของเรา และขอทรงเจิมเราด้วยฤทธิ์พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ เพื่อเราจะเป็นแขนงที่มีชีวิตซึ่งติดอยู่กับเถา และเกิดผลตามน้ำพระทัยของพระองค์


พระเยซูคริสต์ทรงเป็นต้นแบบของคริสเตียน ผมเชื่อว่าทุกคนรู้ แต่เราอาจจะคิดอย่างถ่อมตนว่าเราไม่มีทางที่จะเป็นเหมือนอย่างพระองค์ได้ เป็นความถ่อมใจซึ่งไม่ใช่สิ่งผิด แต่อย่าให้ความถ่อมใจนั้นทำให้เราเปลี่ยนทิศทางในการดำเนินชีวิตคริสเตียน อย่าให้เราหันเหไปจากการที่พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยให้เราจำเริญขึ้นสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ ไปเป็นการมีชีวิตที่เรา “คิดเอาเอง” ว่า “คริสเตียนสายกลาง”

เอเฟซัส 4:13-15
13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์
14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง
15 แต่ให้เรายึดความจริงด้วยใจรัก เพื่อจะจำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะ คือพระคริสต์

ปัญหาสำหรับคริสเตียนในประเทศไทยของเราคือ การที่เรารับอิทธิพลของวัฒนธรรมที่ล้อมรอบเราอยู่ ทำให้เรามีแนวคิดหลายอย่างยึดติดกับคำสอนเหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว เช่นคำสอนให้ยึดทางสายกลาง ไม่ตึง ไม่หลวมจนเกินไป อาจมองว่าเป็นคำสอนที่ดีสำหรับเรื่องทั่วๆไป แต่เมื่อใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตคริสเตียนหรือความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าแล้ว แนวคิดนี้เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับพระวจนะของพระเจ้า เพราะคริสเตียนจะต้องรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิต สุดใจ สุดกำลังความคิด ไม่ใช่ครึ่งเดียว

พระเจ้าไม่ได้ทรงซื้อเรามาแบบสินค้าลดราคา Sale 50% แต่ซื้อเราออกจากการครอบงำของบาปด้วยเต็มราคา คือด้วยชีวิตของพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ทำไมเราจึงปรารถนาจะมีความสัมพันธ์กับพระองค์เพียงครึ่งเดียว

พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างในด้านของการ “ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า และยอมปฏิเสธความต้องการของตนเอง” ดังที่เราได้เคยอ่านในพระคัมภีร์มาแล้วหลายๆตอน สิ่งนี้ดูจะไม่เป็นปัญหา หากว่าน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นไปในทิศทางที่เรารู้สึกพึงพอใจ รู้สึกได้รับประโยชน์ รู้สึกมีความสุขกายสบายใจ
และเราพร้อมที่ยอมรับได้ แม้ว่าน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นจะไปในทิศทางที่เราไม่พึงพอใจนัก รู้สึกอึดอัด รู้สึกทุกข์กายทุกข์ใจ แต่ทิศทางชีวิตของเราที่กำลังจะต้องเติบโตขึ้นนั้น คือต้องเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์ นั่นคือเชื่อฟังและทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ยอมปฏิเสธความต้องการของตนเอง

ลองมาดูบทเรียนอื่นๆเกี่ยวกับ การยอมกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

ทนทุกข์ตามน้ำพระทัยพระเจ้า
อะไรคือเหตุผลที่เปโตร เอ่ยปากขัดขวางพระเยซูไม่ให้เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม และเป็นเหตุให้เขาถูกพระเยซูตำหนิ เราอาจคิดว่าความรักที่เขามีต่อพระอาจารย์เป็นเหตุให้ทำอย่างนั้น แต่แท้ที่จริงสาเหตุคือเวลานั้นเขายังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจว่า การยอมทนทุกข์เป็นน้ำพระทัยพระเจ้า
จนกระทั่งในวันเพนเทคสเต พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จมาบนเปโตรและเหล่าสาวก จากนั้นเราก็เห็นได้ว่าทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป จดหมายฝากของเปโตรที่เราเห็นในพระคัมภีร์ได้แสดงให้เราเห็นถึงความเข้าใจใหม่ของเปโตรเกี่ยวกับการทนทุกข์

1 เปโตร 3:17
17 เพราะว่า การได้รับความทุกข์เพราะทำความดี ถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ก็ดีกว่าจะต้องทนอยู่เพราะการประพฤติชั่ว

เรื่องของความทุกข์ยากลำบากนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครชอบ อันนี้เป็นสิ่งปกติ ยกเว้นคนนั้นมีอาการทางจิตที่นิยมชมชอบการเจ็บปวดของตัวเองหรือของคนอื่น แต่เราจะว่าอย่างไรถ้าพระวจนะของพระเจ้ากำลังบอกเราว่า การทนทุกข์เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับคริสเตียน

การทนทุกข์ที่พระคัมภีร์พูดถึงนี้ก็ไม่ใช่ลักษณะของการทำร้ายร่างกายตนเอง อย่างที่เราอาจเคยเห็นในโทรทัศน์ว่ามีลัทธิประหลาดในอินเดีย ทรมาณตัวเองด้วยสารพัดวิธี เพื่อจะบรรลุธรรมของลัทธินั้น

พระเจ้ากำลังเฝ้าดูท่าทีของเราที่เราตอบสนอง เมื่อความทุกข์ยากที่เกิดจากความอยุติธรรมของเพื่อนมนุษย์เข้ามาถึง ถ้าเรามองว่าความทุกข์ยากนั้นเกิดขึ้นเพราะใครบางคน สิ่งนั้นจะชักนำให้เราไปสู่ความบาปได้ โดยการที่เราอาจใช้วิธีการตอบสนองต่อความทุกข์ยากนั้นตามความคิดของเรา แต่ถ้าเรามองด้วยความเข้าใจที่ว่าพระเจ้าเป็นผู้อนุญาตให้ความทุกข์ยากนั้นเข้ามาถึงเรา แล้วเราเรียนรู้ที่จะก้มลงและยอมจำนนต่อพระเจ้า อธิษฐานขอพระเจ้าเพื่อสอนให้เราเรียนรู้พระประสงค์ของพระองค์ และในที่สุดสิ่งนี้จะกลับกลายเป็นพรอย่างไม่ต้องสงสัย

1 เปโตร 2:15
15 เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ที่จะให้ท่านทั้งหลายระงับความโง่ของคนโฉดเขลาด้วยการประพฤติดี

พระธรรมข้อนี้ได้แนะนำวิธีที่เราควรใช้ในการตอบสนองกับความทุกข์ยากที่เข้ามาถึงเรา นั่นคือการประพฤติดี และนี่จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า เราเป็นอิสระจากบาป เป็นผู้ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว คนทั่วไปจะตอบสนองความทุกข์ยากนั้นด้วยการทำบาป แต่เราที่เป็นคริสเตียนเป็นอิสระจากบาปแล้ว เราจึงไม่ใช้ความบาปตอบโต้กับเหตุการณ์นั้น

1 เปโตร 4:19
19 เหตุฉะนั้น ขอให้คนทั้งหลายที่ทนทุกข์ทรมานตามพระประสงค์ของพระเจ้า จงประพฤติชอบและฝากวิญญาณจิตของตนไว้กับองค์พระผู้สร้าง ผู้เที่ยงธรรมนั้นเถิด

ผู้ที่รู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังบทเรียนจากการทนทุกข์ และได้ตอบสนองด้วยวิธีการของพระองค์แล้ว ผู้นั้นจะกล้าที่จะฝากวิญญาณจิตไว้กับพระองค์ได้ เพราะมั่นใจว่าเมื่อพระเจ้าอนุญาตให้ลูกของพระองค์เข้าสู่ความเจ็บปวด ก็จะทรงประทานกำลังให้อย่างเพียงพอที่จะทนได้ด้วย

ผมเคยยกตัวอย่างง่ายๆให้น้องอนุชนที่อยู่ในวัยเรียนฟังว่า ในมหาวิยาลัยนั้นบางครั้งเราก็พบกับเรื่องบางอย่างที่ใครๆเขาก็ทำกัน เช่นการโมเมผลการทดลอง หรือการแอบจดสูตรเข้าห้องสอบ เป็นสิ่งที่ทำให้สะดวกสบายขึ้น แต่เราในฐานะของคริสเตียนเราตอบสนองกับเหตุการณ์นี้อย่างไร เราควรจะยอมรับความยากลำบากนั้น เพื่อเห็นแก่ชีวิตที่บริสุทธิ์จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า แน่นอนเมื่อเราตัดสินใจที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ประสงค์ให้เราเป็นคนบริสุทธิ์ เราก็ต้องพบกับความยากลำบากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แต่นั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย พระเจ้าไม่ได้พอพระทัยในคะแนนของเรามากไปกว่าการที่เรามีชีวิตที่บริสุทธิ์จำเพาะพระพัตร์พระองค์ ให้เรามั่นใจว่าพระเจ้าทรงสัตย์ซื่อที่จะประทานพระพรให้กับเราเมื่อเราดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์

สงบสุขในน้ำพระทัยพระเจ้า
กิจการ 21:10-14
10 ครั้นเราอยู่ที่นั่นหลายวันแล้ว มีชายผู้ทำนายคนหนึ่งลงมาจากแคว้นยูเดียชื่ออากาบัส
11 ครั้นมาถึงเรา เขาก็เอาเครื่องคาดเอวของเปาโล ผูกมือและเท้าของตนกล่าวว่า "พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสดังนี้ว่า "พวกยิวในกรุงเยรูซาเล็ม จะผูกมัดคนที่เป็นเจ้าของเครื่องคาดเอวนี้ อย่างนี้มอบไว้ในมือของคนต่างชาติ"
12 ครั้นเราได้ยินดังนั้น เรากับคนทั้งหลายที่อยู่ที่นั่น จึงอ้อนวอนเปาโลมิให้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
13 ฝ่ายเปาโลตอบว่า "เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงร้องไห้และทำให้ข้าพเจ้าช้ำใจ ด้วยข้าพเจ้าเต็มใจพร้อมที่จะไปให้เขาผูกมัดไว้อย่างเดียวก็หามิได้ แต่เต็มใจพร้อมที่จะตายที่กรุงเยรูซาเล็มด้วย เพราะเห็นแก่พระนามของพระเยซูคริสตเจ้า"
14 เมื่อท่านไม่ยอมฟังตามคำชักชวน เราก็หยุดพูดและกล่าวว่า "ขอให้เป็นไปตามพระทัยพระเจ้าเถิด"

จากพระคัมภีร์ตอนที่อ่านมานี้ แสดงให้เห็นตัวอย่างของพี่น้องในสมัยนั้นถึงการ สงบสุขในน้ำพระทัยของพระเจ้า เพราะเมื่อถึงสถานการณ์ที่มืดมิดที่สุด เขาเผชิญได้ด้วยคำว่า “ขอให้เป็นไปตามพระทัยพระเจ้าเถิด”

น้ำพระทัยของพระเจ้า มี 2 ลักษณะคือ
-น้ำพระทัยอันประเสริฐที่มาจากความรักของพระเจ้า ซึ่งเป็นความชอบธรรม ความดีงามที่พระเจ้าทรงรับรองและทรงบัญชาให้เกิดขึ้น
-น้ำพระทัยในเชิงอนุญาต บางครั้งอาจรวมถึงเหตุการณ์ร้าย

จึงสามารถกล่าวได้ว่า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปนอกเหนือน้ำพระทัยของพระเจ้า เช่นการที่เปาโลตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรู เกิดขึ้นจากการที่พระเจ้าทรงอนุญาต ไม่ใช่พระองค์พอพระทัยให้เขาโดนจับ

เมื่อเราตกอยู่ในสถาณการณ์ใดๆ เราสามารถตอบสนองดังนี้
1.ให้เราเตือนตนเองว่า ที่เรามาอยู่ตรงนี้ เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่นำให้เรามาอยู่ ณ จุดนี้ ไม่ว่าสถาณการณ์นี้จะเกิดขึ้นจากใครก็ตาม ให้เราพูดว่า “ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด”
2.ให้เราเตือนตนเองว่า เมื่อพระองค์ทรงให้เรามาอยู่ที่นี่ พระองค์จะประทานพระคุณให้กับเรา เพื่อเราจะประพฤติอย่างเหมาะสมในความทุกข์ยากนี้ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการยอมจำนนอย่างสิ้นเชิงต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า และแสดงการไว้ใจว่าพระเจ้าทรงดูแลเราดู
3.ให้เราเตือนตนเองว่า พระเจ้ามีพระประสงค์บางอย่างที่จะสอนเรา และการตีสอนนั้นก็เพื่อชำระเราให้เป็นคนบริสุทธิ์ เราจึงควรพูดว่า “ขอพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระองค์เถิด”
4.ให้เราเตือนตนเองว่า พรเจ้าทรงนำเราเข้าสู่สถาณการณ์นี้ ก็จะนำเราออกไปในเวลาอันเหมาะสม และตามวิธีการของพระองค์ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการที่เกิดขึ้นจากความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรา


ขอพระเจ้าทรงเมตตาแก่พวกเราทุกคนที่จะ เข้าใจและยอมจำนนต่อน้ำพระทัยอันดีเลิศของพระเจ้า




Create Date : 25 มกราคม 2550
Last Update : 25 มกราคม 2550 15:57:14 น. 0 comments
Counter : 729 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ksk
 
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผมเป็นคริสเตียนครับ
เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ
จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี)
ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO
Toulouse FRANCE ปี 1994
เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43)
ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ)
ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K
กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547
สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น
สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด
และยาวมาจนถึงตอนนี้
ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน free counter

free counter

New Comments
[Add ksk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com