|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ไม่ใช่ตามใจฉัน
5 กุมภาพันธ์ 2006 คริสตจักร ยะลา
ทุกวันนี้มีการพูดถึง สิทธิมนุษยชน, การมีเสรีภาพ มีการแสดงออกถึงการต่อต้านอำนาจเผด็จการ การกดขี่ครอบงำ แม้แต่เหตุผลที่จะก่อสงครามขึ้นก็อ้างว่าเพื่อปลดปล่อยประชาชนที่ถูกกดขี่ให้มีอิสรภาพ เราจึงมีความรู้สึกได้ว่าเสรีภาพเป็นสิ่งที่ดีงามและน่าปรารถนาอย่างยิ่ง ซึ่งก็เป็นความเข้าใจที่ไม่ผิดเลย พระคัมภีร์ก็ได้บอกเราไว้อย่างนั้นจริงๆ ใน ยอห์น 8:36 เหตุฉะนั้นถ้าพระบุตรทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท ท่านก็เป็นไทจริงๆ พระคริสต์ได้ทรงไถ่เราให้ออกจากการเป็นทาสบาปแล้ว เมื่อเราหลุดจากการเป็นทาส หมายความเราเป็นไท หรือเป็นอิสระ
อิสรภาพ เสรีภาพ เป็นสิ่งที่งดงามที่พระเจ้าประทานให้แก่มนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างไว้ แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ได้ใช้เสรีภาพนั้นไปในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้มนุษย์ได้ล้มลงในบาป
แม้ว่าทุกวันนี้เราทุกคนที่นี่สามารถพูดได้ว่า เราได้รับการไถ่ให้เป็นไทแล้ว เรามีอิสระแล้ว แต่กลับพบว่าปัญหาเกิดขึ้นกับอิสรภาพที่เรามีอยู่ เพราะเราไม่เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับอิสรภาพที่พระองค์ประทานให้เรา
อธิษฐาน ขอพระเจ้าทรงเมตตาเราทุกคนที่นี่ ให้เราทุกคนได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าถึงสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับอิสรภาพที่พระองค์ได้ทรงมอบให้กับเรา เพื่อเราจะดำเนินตามน้ำพระทัยของพระองค์
มัทธิว 6:9-10 9 "ท่านทั้งหลาย จงอธิษฐานตามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ 10 ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก
เราคงคุ้นเคยดีกับคำอธิษฐานที่พระเยซูทรงสอน เชื่อว่าหลายคนในที่นี้สามารถท่องจำได้ และเชื่อว่าคำอธิษฐานนี้เป็นพระพรอย่างมากกับผู้ที่ได้จดจำไว้ในใจ ผมอยากให้พี่น้องไม่เพียงจำได้ แต่จะให้คำอธิษฐานนี้เป็นจริงในชีวิตคริสเตียนของพี่น้องทุกคนด้วย
เรารู้ดีว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า 100% และทรงเป็นมนุษย์ 100% ในความเป็นมนุษย์ของพระองค์นั้น มีลักษณะของมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบตามพระฉายาของพระเจ้า อย่างที่พระเจ้าทรงมีพระประสงค์จะให้มนุษย์เป็น น่าเสียดายที่ อาดัมและเอวา ไม่สามารถรักษาลักษณะอันนี้ไว้ได้ แต่พระเยซูคริสต์ทรงทำได้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้พระเยซูคริสต์ทรงรักษาลักษณะของมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบตามพระฉายาของพระเจ้าไว้ได้ คำตอบคือการกระทำทุกสิ่งตามน้ำพระทัย หรือพระประสงค์ของพระเจ้า
ยอห์น 5:30 และ 6:38 30 "เราจะทำสิ่งใดตามอำเภอใจไม่ได้ เราได้ยินอย่างไรเราก็พิพากษาอย่างนั้น และการพิพากษาของเราก็ยุติธรรม เพราะเรามิได้มุ่งที่จะทำตามใจของเราเอง แต่ตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา 38 เพราะว่าเราได้ลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อกระทำตามความประสงค์ของเราเอง แต่เพื่อกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา
พระเยซูทรงบอกเราไว้อย่างชัดเจนถึงสิ่งสำคัญนี้ เราอาจนึกเถียงอยู่ในใจว่า แหมก็นั่นมันวัตถุประสงค์พิเศษสำหรับพระเยซู ที่เข้ามาตามแผนการของพระเจ้า พระองค์ก็เลยต้องทำตามแผนนั้นสิ ส่วนเราไม่ได้เป็นพระเยซู เราก็ไม่เห็นจะต้องทำเหมือนอย่างพระองค์เลย
1 เปโตร 4:2 เพื่อจะได้ไม่ดำเนินชีวิตที่ยังเหลืออยู่ในโลกตามใจปรารถนาของมนุษย์ แต่ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
พระคัมภีร์ข้อนี้คงทำให้เรารับรู้อย่างชัดเจนว่า คริสเตียนต้องดำเนินตามพระประสงค์ของพระเจ้า เอ๊ะ แล้วอิสรภาพที่พระองค์ประทานให้ล่ะ ยังไงกัน เดี๋ยวก็บอกว่าให้อิสระ เดี๋ยวก็บอกว่าต้องทำโน่นทำนี่ กลายเป็นไม่มีอิสรภาพซะแล้ว
ยอห์น 8:32-34 32 และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท" 33 เขาทั้งหลายทูลตอบพระองค์ว่า "เราสืบเชื้อสายมาจากอับราฮัม และไม่เคยเป็นทาสใครเลย เหตุไฉนท่านจึงกล่าวว่า "ท่านทั้งหลายจะเป็นไท" 34 พระเยซูตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป
พระเยซูคริสต์ได้ทรงไถ่เราทั้งหลายให้เป็นไท คือเป็นอิสระจากบาปแล้ว เราไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยว หรือไม่ต้องรับผลของบาปอีก แต่อิสระนั้นไม่ได้ให้ไว้เพื่อเราจะกลับไปทำบาปได้อีกเรื่อยๆ เปรียบเทียบได้กับว่าครั้งหนึ่งมือของเราไปติดขี้มา ทั้งสกปรก และเหม็น พระเจ้าได้ชำระเราให้สะอาด เมื่อเราพบว่ามือเราสะอาดแล้ว เราจะทำอะไร จะเอาไปจุ่มขี้อีกหรือ หรือจะรักษาให้คงความสะอาดไว้ อิสระนั้นมีอยู่ครับ เราสามารถจะเอาไปจุ่มขี้ได้อีก ถ้าเราต้องการ แต่ถ้าเราต้องการรักษาไว้ให้สะอาดเราก็มีอิสระที่จะทำอย่างนั้น ไม่มีใครจะมาบังคับให้เราเอามือไปจุ่มขี้ และพระเจ้าได้ทรงประทานวิธีการของพระองค์ เพื่อช่วยเราในการรักษาความสะอาดนั้น ดังนั้น เราจึงควรทำตามวิธีการที่พระเจ้าทรงแนะนำ
และหัวข้อสำหรับคำเทศนาวันนี้ก็คือ ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ใช่ตามใจฉัน ผมอยากให้เราได้มาร่วมกันค้นหาดูจากพระวจนะของพระเจ้าว่า อะไรคือน้ำพระทัยของพระเจ้าที่เราจะต้องทำตาม
คำว่า น้ำพระทัย สร้างความงุนงงไม่น้อยเลย ลองคิดถึงความหมายของคำนี้ว่าคืออะไร คำว่า พระทัย ก็คงแปลได้ง่ายๆว่า ใจ ดังนั้น น้ำพระทัย ก็เลยถูกแปลง่ายๆว่า น้ำใจ ในประเทศไทยของเรานี้ เราคุ้นเคยกับคำว่า โครงการน้ำพระทัยจากในหลวง ซึ่งในที่นี้ก็น่าจะมีความหมายว่าเป็นน้ำใจจากพระมหากษัตริย์ เพื่อช่วยเหลือราษฎร
แต่คำว่า น้ำพระทัย ที่ปรากฎในพระคัมภีร์ มีความหมายว่า พระประสงค์ หรือพระดำริ ในฉบับภาษาอังกฤษใช้คำว่า Will ซึ่งก็มีความหมายว่า ความต้องการ หรือบางครั้งหมายถึงพินัยกรรมด้วย ซี่งจริงๆแล้วพินัยกรรมที่พ่อแม่ทำไว้ ก็คือความประสงค์ของพ่อแม่ที่ฝากเอาไว้ให้ลูกหลานได้กระทำตาม
แท้จริงปัญหาของคริสเตียนไม่ใช่ไม่รู้น้ำพระทัยพระเจ้า แต่ปัญหาคือเรามักไม่ต้องการที่จะกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ผมอยากให้ลองนึกภาพของหนังจีนกำลังภายใน เมื่อมีพระราชโองการจากฮ่องเต้มาถึง ข้าราชการท่านหนึ่ง ผู้นำสารก็ได้อ่านพระราชโองการให้ฟัง เมื่อฟังจบแล้ว หากข้าราชการท่านนั้นบอกว่า อืม รับทราบ แล้วก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้กระทำตามพระราชโองการนั้น จะเกิดอะไรขึ้นเราคงเดาได้ คล้ายกันมาก ปัจจุบันนี้เราทุกคนได้รับทราบน้ำพระทัยของพระเจ้าดี แต่ดูเหมือนยังอยู่เฉยๆกันอยู่ สิ่งนี้เป็นเหตุที่ทำให้ชีวิตคริสเตียนของเราขาดพระพร ไม่เติบโต และอาจหมายถึงห่อเหี่ยว ถดถอย
ลองมาดูว่าการทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าสำคัญอย่างไร และเพื่ออะไร
1. การกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เป็นหนทางเดียวที่จะไปสู่แผ่นดินสวรรค์ได้ มัทธิว 7:21 "มิใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า" จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเรา ผู้ทรงสถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้
ใช่ครับที่บอกว่า การรับด้วยปาก และเชื่อด้วยใจ นำไปสู่ความรอด แต่การเชื่อด้วยใจนั้นจะแสดงออกมาเป็นการกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
2. การกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า คือการที่เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ มัทธิว 12:50 ด้วยว่าผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา"
เราคงจำได้เรื่องที่พระเยซูบอกว่า เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง
จงเข้าสนิทอยู่ในเรา
เข้าสนิททำอย่างไรล่ะ นี่คือคำตอบครับ
3. การกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า คืออาหารสวรรค์ ยอห์น 4:32-34 32 แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า "เรามีอาหารรับประทานที่ท่านทั้งหลายไม่รู้" 33 พวกสาวกจึงถามกันว่า "มีใครเอาอาหารมาถวายพระองค์แล้วหรือ" 34 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "อาหารของเราคือการกระทำตามพระทัยของพระองค์ ผู้ทรงใช้เรามา และทำให้งานของพระองค์สำเร็จ อาหารที่ร่างกายเติบโตและแข็งแรง ดังนั้นชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราจะเติบโตและแข็งแรงได้ก็ด้วยการทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
4. การกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า คือหนทางสู่ความกระจ่างฝ่ายวิญญาณ ยอห์น 7:17 16 พระเยซูจึงตรัสตอบเขาว่า "คำสอนของเราไม่ใช่ของเราเอง แต่เป็นของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา 17 ถ้าผู้ใดตั้งใจประพฤติตามพระประสงค์ของพระองค์ ผู้นั้นก็จะรู้ว่าคำสอนนั้นมาจากพระเจ้า หรือว่าเราพูดตามใจชอบของเราเอง คำสอนของพระเจ้าอาจเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก แต่เมื่อเรากระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เราจะสามารถเข้าใจคำสอนที่มาจากพระเจ้าได้
5. การกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า คือเคล็ดลับของความมั่นคง 1 ยอห์น 2:15-17 15 อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น 16 เพราะว่าสารพัดซึ่งมีอยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนังและตัณหาของตา และความทะนงในลาภยศไม่ได้เกิดมาจากพระบิดา แต่เกิดมาจากโลก 17 และโลกกับสิ่งที่ยั่วยวนของโลกกำลังล่วงไป แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ หลายครั้งเรามีชีวิตที่ขึ้นๆลงๆ รู้สึกว่าสันติสุขที่มีไม่มั่นคง เดี๋ยวมีเดี๋ยวหาย ไม่แตกต่างอะไรกับชาวโลกทั่วไปที่ไม่มีพระเจ้า ที่เราเป็นอย่างนั้น เพราะชีวิตเรากำลังถูกชักนำโดยวิถีของโลก มากกว่าด้วยน้ำพระทัยของพระเจ้า หากนี่เป็นปัญหาของเรา ให้เราอธิษฐานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานกำลังให้กับเราเพื่อกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แล้วเราจะมีชีวิตมั่นคง เพราะน้ำพระทัยของพระเจ้ามั่นคง
6. ทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า เพื่อจะได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้ ฮีบรู 10:36 ท่านทั้งหลายจำเป็นต้องมีความอดทน เพื่อว่าท่านจะได้สามารถกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้ แล้วท่านจะได้รับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้นั้น ปัญหาต่างๆจะเกิดขึ้นเสมอในชีวิตของทุกคน สำหรับคริสเตียนแล้ว ขอให้เราได้ระลึกอยู่เสมอว่า เราจะต้องทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าแม้ว่าจะมีปัญหาหนักหนาเพียงใด แทนที่จะคิดหลบหลีกโดยการยอมออกนอกน้ำพระทัยของพระเจ้า แน่นอนว่ามีหลายคนที่พลาดไป ทั้งนี้เพราะเขาพยายามที่จะสู้ด้วยกำลังของตัวเอง อย่าลืมว่าเราสามารถของกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้
เอาละครับ เราคงเห็นแล้วว่าการกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นสำคัญอย่างไร แต่พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยอย่างไรล่ะ
1. การชำระเราให้เป็นคนบริสุทธิ์ คือน้ำพระทัยของพระเจ้า 1 เธสะโลนิกา 4:3 นี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ให้ท่านเป็นคนบริสุทธิ์ พระองค์ประสงค์ให้เราเป็นคนบริสุทธิ์ เพื่อเราจะสามารถมีส่วนในความบริสุทธิ์ของพระเจ้า เพื่อเราจะมีส่วนในแผ่นสวรรค์กับพระองค์ การเป็นคนบริสุทธิ์หมายความว่าไร้ซึ่งบาป เมื่อมองกลับมาดูชีวิตเรา อาจทำให้ท้อแท้ได้ว่า เราเองยังทำบาปอยู่เรื่อยๆ จะเป็นคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร แน่นอนว่าเราจะทำไม่ได้หากเราจะพยายามด้วยกำลังความสามารถของเรา แต่หากเรามีใจปรารถนาที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าในการเป็นคนบริสุทธิ์ ให้เราได้อธิษฐานขอต่อพระเจ้า ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เติมเต็มชีวิตของเรา และเราจะมีกำลังที่จะต่อสู้กับบาปที่จะเข้ามาสู่ชีวิตของเรา
2. ขอบพระคุณอยู่เสมอ คือน้ำพระทัยของพระเจ้า 1 เธสะโลนิกา 5:18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย การเรียนรู้ที่จะขอบพระคุณในทุกกรณี จะเป็นการนำให้เราห่างจากการตามใจของเราเอง เมื่อเราขอบพระคุณในทุกกรณี ทำให้เราได้สัมผัสถึงสัติสุขที่ไม่ใช่สันติสุขของโลก แต่เป็นสันติสุขจากสวรรค์ที่พระเจ้าโปรดประทานให้ การขอบพระคุณในทุกกรณีจะให้ความกล้าหาญแก่เราในการปรนนิบัติพระเจ้า ทำให้เราเป็นท่อพระพรสำหรับคริสตจักรและโลกนี้
3. ความรอดของมนุษย์ทั้งปวง คือน้ำพระทัยของพระเจ้า 1 ทิโมธี 2:1-4 1 เหตุฉะนั้นก่อนสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้าขอร้องท่านทั้งหลายให้วิงวอนอธิษฐานทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อคนทั้งปวง 2 เพื่อกษัตริย์ทั้งหลายและคนทั้งปวงที่มีตำแหน่งสูง เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างเงียบๆและสงบสุขในทางธรรมและอย่างนอบน้อม 3 การกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ดี และเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา 4 ผู้ทรงมีพระประสงค์ให้คนทั้งปวงรอด และให้รู้ความจริง
2 เปโตร 3:9 องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้า ในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายมาช้านาน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่
เป็นสิ่งสำคัญที่คริสเตียนจะต้องเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า โดยเฉพาะในเรื่องของความรอดนั้น หลายครั้งที่เรากำหนดกรอบขึ้นมาด้วยความคิดของตัวเอง พระคัมภีร์ 2 ข้อนี้บอกให้เรารู้น้ำพระทัยของพระเจ้านั้น เพื่อทุกคนจะได้รับความรอด แต่เรามักคิดว่าเขาพวกนั้น คนพวกนี้ ไม่น่าจะมีทางที่จะมาถึงความรอดได้เลย ทำให้เราไม่เพียงไม่ได้นำข่าวประเสริฐไปถึงเขาเหล่านั้น บ่อยครั้งที่เราไม่ยอมแม้แต่จะอธิษฐานเผื่อคนเหล่านั้น
เรื่องของน้ำพระทัยของพระเจ้า ยังมีอีกหลายหัวข้อที่เราต้องเรียนรู้ คงต้องเก็บไว้ในโอกาสต่อไป สิ่งสำคัญคือเราต้องรับรู้ว่า น้ำพระทัยของพระเจ้านั้นสำคัญกว่าความคิดของเรา ดังนั้น
ขอให้เป็นไป ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ใช่ตามใจฉัน
Create Date : 25 มกราคม 2550 |
Last Update : 25 มกราคม 2550 15:53:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1556 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
ksk |
|
|
Location :
ยะลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
ผมเป็นคริสเตียนครับ เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี) ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO Toulouse FRANCE ปี 1994 เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43) ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ) ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547 สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด และยาวมาจนถึงตอนนี้ ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน
free counter
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|