32Then you will know the truth, and the truth will set you free." 32 你 們 必 曉 得 真 理 , 真 理 必 叫 你 們 得 以 自 由 。

The voice of you

The voice of you


อย่างปุยนุ่น ...บางเบา
อย่างปรอยฝน ..ฉ่ำเย็น
อย่างไอแดด ...เสื้อผ้า
....กลางลมหนาว





นานแค่ไหนแล้ว?

...ที่ฉันไม่ได้ยินเสียงของเธอ...



คิดถึงเสียง น้ำเสียงของเธอ
แม้สมองจะบอกว่ามันอาจไม่ได้เป็นเสียงที่มาจากแหล่งกำเนิดที่ไพเราะที่สุดในเอกภพ
แต่ใจกลับร่ำร้อง ว่ามันเป็นเสียงที่น่าฟังและฉันอยากได้ยินมากที่สุด
.....
ภายใต้เงื่อนไขของการเกิดและการรับรู้เสียง

เมื่อฉันรู้จักเธอมากขึ้น ฉันมีทักษะใหม่เกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อเสียงของใครสักคน
นิยามใหม่เกี่ยวกับคุณภาพของเสียงสำหรับฉันเปลี่ยนไป

....มาตรฐานที่จะบอกว่าเสียงไหนไพเราะได้สูงขึ้น









คิดถึงเธอเหลือเกิน
คิดถึงเสียงของเธอ

ที่เชื่อมโยงให้รับรู้ได้ว่า ความรักจากเธอยังมีให้ฉัน....






นานแค่ไหนแล้ว?

...ที่ฉันไม่ได้ยินเสียงของเธอ...


เมื่อคืนนี้เองที่เราคุยกัน
แต่ฉันกลับคิดถึงเสียงของเธอมากมายขนาดนี้ เหมือนไม่ได้ยินมันมาแสนนาน
ฉันอยากได้ยิน...


อยากรับรู้ว่าเธอยังคุยอยู่กับฉันเสมอ
จากนี้ และอยากให้เป็นเช่นนั้นเรื่อยไป ..แสนนาน..



นานแค่ไหน...ที่ฉันไม่ได้ยินเสียงของเธอ...?
....เมื่อครู่นี้เองที่เราคุยกัน....

บางที....อาจไม่ใช่ระยะแห่งความโหยหา ที่จะเพิ่มให้ฉันคิดถึงเสียงของเธอ
หากแต่เป็นความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอต่างหาก ....ที่บีบรัดใจฉันให้ร้องหาเธอ



มากขึ้น และมากขึ้น

เรื่อยไป....




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 29 พฤษภาคม 2550 12:07:50 น.   
Counter : 801 Pageviews.  

บันทึก ...หมายเลข230507.11.59

ที่รัก....
เชื่อว่าเธอคงรู้สึกเหมือนฉัน
เชื่อว่าเราคงรู้สึกเหมือนกัน

เธอมีตัวตนอยู่จริง ฉันมีตัวตนอยู่จริง
แต่เราต่างก็รู้สึกราวว่า
เราเสมือนหนึ่งไอน้ำที่จะสลายหายไปเมื่อแสงแดดร้อนแรงสาดมา

หมอก ก็คือไอน้ำ และแม้แสงตะวันจะสาดมา แม้หมอกจะจางลงจนมองไม่เห็น
แต่ที่ใดมิเรียกว่าสุญญากาศ ที่นั่นก็มีความชื้นอยู่
...และที่นั่นก็มีไอน้ำ ..แม้จะมองไม่เห็น

ไม่ใช่แค่เธอที่หวาดกลัวว่าฉันจะสลายไปกับแสงตะวันของวันข้างหน้าที่มิอาจรู้
แต่แท้จริงแล้ว.....ฉันเองก็กลัว ...เราทั้งคู่ต่างก็กลัว



เราต่างก็รู้สึก ว่าฉันและเธอเหมือนไม่มีอยู่จริง... แม้เราจะมีอยู่จริง

เธอไม่เหมือนใครที่ฉันรับรู้ว่ามีอยู่จริง
เธอเหมือนความงามที่แวะมาเยือนฉันในความฝันเที่ยงวัน และจากไปในความฝันของค่ำคืน
การมาของเธอ สร้างความสับสนระหว่างความฝันและความจริง
การมาของเธอ สร้างความสับสนให้ฉันต้องถามตัวเองว่าฉันตื่นหรือฝันอยู่

....
เราต่างก็รู้สึก ว่าฉันและเธอเหมือนไม่มีอยู่จริง... แม้เราจะมีอยู่จริง

เหมือนหมอกไอน้ำยามเช้า สงบเย็น
งดงาม น่าหลงใหล

...แต่ก็ดูเลือนลาง เหมือนภาพมายา มิอาจคว้า มิอาจครอบครอง
...เป็นความจริง แต่ก็เสมือนหนึ่งว่าเราฝันไป



มนุษย์เป็นเช่นนี้หรือ?
โลกเป็นเช่นนี้หรือ?



ความทุกข์ยาก ยอมรับได้ง่ายว่ามันมีอยู่และจะไม่สลายไป
ความสุขนั้นเล่า กลับยากจะยอมรับว่ามีอยู่จริง และจะหายไป...ง่ายอย่างลมพัดไอธุลีดิน...

โลกเป็นเช่นนี้หรือ
จริงหรือ?



ปลาน้ำลึก ก้นบึ้งกลางมหาสมุทร ที่ตามืดบอด เพราะแสงตะวันไม่เคยส่องถึง
มันก็คงมองว่าแสงตะวันเป็นเพียงมายาแห่งเทพนิยาย แม้พบก็ว่าฝันไป
เฉกเช่นที่เราต่างก็เพิ่งจะพบกันและกัน ว่าเราต่างมีอยู่ด้วยในโลกนี้

ฉันไม่เคยพบอะไรอย่างเธอ
เธอไม่เคยไม่เจออะไรอย่างฉัน
นั่นเป็นข้อสรุปหรือ

..ว่าเราไม่ต่างไม่มีอยู่จริงสำหรับกันและกัน...
..เราจะหายไปง่ายดายอย่างธุลีดินกลางพายุหรือ...



......

ผิดหรือ ที่มนุษย์จะมีความสุขแท้จริง
ผิดหรือ ที่เราจะพบใครบางคน ที่เราเคยเชื่อว่าไม่มีอยู่จริง


จริงหรือ?
ถ้าเราพบอะไรอย่างนั้น เราจำต้องรีบสรุปด้วยความรู้เดิมของเราว่าเป็นเพียงมายา



เราพบกันแล้ว

....เธอ
....เธออย่าปล่อยมือฉัน


อย่าปล่อยให้ฉันหลุดลอยกลับไปสู่โลกที่ไม่มีเธออีกเลย....
แม้ฉันจะสามารถอยู่ในโลกนั้นได้อย่างเข้มแข็งโดยปราศจากเธอก็ตาม


แต่คนอย่างฉันก็ขอเลือกจะละโมบในความสุขที่จะมีเธออยู่ด้วยในโลกใบเดียวกันกับฉัน
...ก็แล้วกัน...



อย่าปล่อยมือกันและกัน
อย่าปล่อยพายุพัดพาถ้อยคำของฉันไป

เวลานับจากนี้จะช่วยพิสูจน์ ถึงการมีอยู่จริงของเราทั้งคู่



....เราพบกันแล้ว

....เธอ
....เธออย่าปล่อยมือฉัน




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2550 21:05:02 น.   
Counter : 473 Pageviews.  

ขอบคุณ...

ขอบคุณ...

ขอบคุณที่เปิดประตูต้อนรับคนแปลกหน้าอย่างฉัน
ขอบคุณในความเป็นเจ้าบ้านของเธอ



....

ฉันได้รู้จักเธอมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนฉันได้แค่เฝ้าสังเกตและรู้จักเธอผ่านบานหน้าต่างนั้น



...ครั้งนึง ฉันแค่เพียงต้องการเข้าไปเยี่ยมเยียนเธอ แต่เมื่อฉันได้รู้จักเธอมากขึ้น ฉันกลับรู้สึกว่าฉันต้องการมากกว่านั้น



...


ฉันอยากให้เธอเห็นอย่างที่ฉันเห็น
ฉันอยากจะจูงมือเธอไปในที่ที่ฉันเคยไป

อยากจะซับน้ำตาทุกหยดของเธอ
...หรืออย่างน้อยๆก็อยากจะอยู่ด้วยจากนี้ไปในเวลาที่เธอร้องไห้




อยากจะเห็นเธอหัวเราะ ร่าเริง มีความหวัง
อยากให้ดวงตาของเธอเต็มด้วยความสดใส มีสีสันที่สวยงามและแสงสว่าง เมื่อเธอมองดูโลกใบนี้

แม้โลกใบนี้...ที่มันมีสิ่งไม่สวยงามมากมายคอยฉาบบังความงามไว้




...อย่าปล่อยมือฉัน...

...และจงมั่นใจ ว่าฉันจะไม่ปล่อยเธอไป


....

เวลา อาจจะเปลี่ยนอะไรได้มากมาย
แต่ก็มีอะไรมากมาย ที่เวลาไม่เปลี่ยนมัน


ฉันจะวนเวียนมาในเวลาเช้า อย่างตะวัน
ฉันจะวนเวียนมาในเวลาเย็นค่ำ อย่างดวงจันทร์

ฉันจะเป็นป้ายชี้ทางให้เธอ อย่างที่ดวงดาวทำมา



....


ขอให้ไว้ใจคนแปลกหน้าคนนี้
ฉันจะไม่นำเธอไปในที่ที่เธอจะเสียน้ำตาที่มีรสขมอีก
ฉันจะนำเธอไปในที่ที่เราจะหัวเราะร่วมกัน


ฟังฉันนะ ...และอย่าปล่อยมือฉัน



อย่าให้ฉันมาในฐานะคนแปลกหน้าและจากไปในฐานะเดิม
อย่าให้เราเป็นเพียงเจ้าบ้านและผู้มาเยือนที่จะหลงลืมกันไปตามเงื่อนไขของเวลา





ก้าวออกจากอดีต
อนาคตอยู่ข้างหน้า


อย่าปล่อยมือฉัน

... แล้วไปด้วยกัน




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2550 21:05:50 น.   
Counter : 428 Pageviews.  

หน้าต่างของวันนี้

บนเก้าอี้ตัวเก่งของเธอ เธอผ่อนกายลง ความคิดคลายตัว

...ความทรงจำฟื้นขึ้น...



อดีต มาเยี่ยมเยียน......




ภายนอกหน้าต่าง แมกไม้และทิวหลังคา สลับเหลื่อมตายตัว กำลังเริ่มมีชีวิต....

พวกมันเริ่มแปลงเป็นสิ่งต่างๆมากมาย เป็นบุคคล เป็นสถานที่ เป็นเสียง เป็นภาพ
เป็นเรื่องราว....



...

กี่ครั้งแล้วนะ

ที่เธอนั่งชมเรื่องราวเหล่าน้นผ่านหน้าต่างบานนั้น บนเก้าอี้ตัวเดิมตัวนี้



แววตาเธอดูไม่ได้มีความสุขกับมันเสียหนอ่ย แต่เธอกลับชอบมานั่งดุมันอยู่บ่อยๆ..

ทำไมนะ ทำไม?


...เธอชอบที่จะเจ็บปวดหรือ
...หรือในบรรดาความเจ็บปวดนั้น มันมีบางสิ่งทีเธอรักฝังอยู่ในนั้นด้วย





....สิ่งที่เธอรักไม่ได้อยู่กับเธอแล้วสิ?....
แต่มันยังคงอยู่กับอดีตพวกนั้นมาตลอดสินะ



เธอคิดถึงสิ่งที่เธอรัก เธอปรารถนามัน
แล้วเธอก้ยอมที่จะเจ็บปวดกับอดีตเดิมๆ ด้วยการเปิดมันดู

แล้วเธอก้บอกตัวเองว่า มันคุ้มค่าที่จะเจ็บปวดกับการจมกับอดีต ที่สิ่งที่เธอรักแฝงอยู่ในนั้น



...

จะให้ฉันพูดอย่างไรล่ะ

จะให้ต่อว่าเธอ แล้วลากเธอขึ้นจากเก้าอี้ แล้วไล่เธอไปวิ่งเล่นตรงสนามเด็กเล่นหน้าบ้านเหรอ

จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ
จะให้ด่าว่าเธอกับความไร้สาระของเธอที่เอาแต่จมอยู่กับอดีตหรือ

จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ
จะให้ฉันวิ่งออกไปนอกบ้าน แล้วสร้างละครเรื่องใหม่ ให้เธอหันมาสนใจมากว่าภาพลวงตาที่เธอกำลังดูผ่านหน้าต่างอยู่นั้นหรือ?


จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ
จะให้ฉันสะกิดเธอให้ตื่นจากภาพมายาหรือ




....


จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ
ในเมื่อฉันทำที่ว่ามานั้นหมดแล้ว
แต่เธอก็ไม่เคยเปลี่ยนใจจากสิ่งนั้น







ตอนนี้คงหมดหน้าที่ฉันแล้ว ที่ฉันจะคิดว่าฉันควรทำอะไรอีก
ฉันคงทำได้แค่คอยดูแลเธออยู่ห่างๆ


และรู้มั้ยที่รัก....ฉันห่างได้มากพอที่เธอจะไม่รู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของฉันนะ


นี่คงเป็นละครฉากสุดท้ายสำหรับบทของฉันในละครของเธอ



ฉันจะหายไปจากจอภาพของเธอแล้ว
แต่บทพูดสุดท้ายของฉันก่อนที่จะจากไป และหวังว่าเพราะว่ามันเป้นคำสุดท้ายจากฉัน

เธออาจจะสนใจที่ใส่ใจมันบ้าง




"ถ้าเธอคิดว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่เธอต้องแลก เธอก็ทำไปเถอะนะ"



ฉันคงพูดได้เท่านี้....


บาย.....




 

Create Date : 23 เมษายน 2550   
Last Update : 23 เมษายน 2550 19:22:07 น.   
Counter : 404 Pageviews.  

อิทธิพลของยามเช้า บทรำพัน 1.2 ของลูกแกะตัวนึง แทนที่ด้วยห่วงใย

รักร้อน เร่ารุ้ม สุมใน
ผู้ใด พิจใจ บอกได้

ขาดน้ำ ขาดดิน ชีวินวาย
แต่มิตาย เพราะขาดรัก คอยสุมใจ

...



รักนั้น ผุ้คนว่า เป้นฉะไหน
รักอย่างไร ไม่ร้าว ใจให้หาย

รักนั้นร้าย รักนั้นดี อยู่ตรงไหน
อยู่ที่ใคร หรืออย่างไร จึงเรียกรัก




...รักคือ.....





ความรักนั้น...ก็อดทนนาน
และกระทำคุณให้

ความรักไม่อิจฉาไม่อวดตัว..

ไม่หยิ่งผยองไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว
ไม่ฉุนเฉียวไม่ช่างจดจำความผิด..



ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ..


ความรักทนได้ทุกอย่าง
....แม้ความผิดของคนอื่น

และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ

และมีความหวังอยู่เสมอ

และทนต่อทุกอย่าง..



......1 โครินธ์ 13:4-7







 

Create Date : 20 เมษายน 2550   
Last Update : 20 เมษายน 2550 6:17:22 น.   
Counter : 816 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

เดียวดาย9อักษร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เดียวดาย9อักษร's blog to your web]