32Then you will know the truth, and the truth will set you free." 32 你 們 必 曉 得 真 理 , 真 理 必 叫 你 們 得 以 自 由 。

แหงนมอง


24 มิถุนายน 2549
.....
ฉันนั่งเอาเท้าจุ่มฟ้า สองมือตีเปาะแปะกับน้ำใต้ผิวฟ้า
วันนี้น้ำเย็นเป็นพิเศษ แสงแดดไม่ส่องผ่านปุยขาวขาวเทาข้างบนนั้นมาหลายวันแล้ว

คืนก่อน ฉันนึกถึงเธอขึ้นมาได้ว่า รองเท้าของเราสลับกัน หลังจากงานเลี้ยง

ฉันกำลังจุ่มเท้าขึ้นฟ้า เผื่อว่าถ้าเธอเหลือบตามามองฉันด้วยความนึกถึงนั้น
เธอจะเห็นว่า รองเท้าข้างนึงของเธออยู่ที่เท้าข้างนึงของฉัน

ฉันแปลกใจ
ว่าทำไม
เธอซึ่งอยู่บนนั้น ถึงเอาแต่มองอะไรก็ไม่รู้ ที่อยู่สูงยิ่งกว่าเธอ
แต่ก็นั่นล่ะ จะว่าไปแล้ว จริงๆฉันเองก็มักจะมองเธอที่อยู่สูงกว่าฉัน

.......
ด้านล่างที่ฉันอยู่นี้ ก็มีหลายคน หลายบ้าน
ฉันไม่ค่อยสนใจมองเท่าไหร่ เพราะมองทีไร มองไปก้เห็นแต่หลังคา

ฉันไม่ค่อยอยากลงไปข้างล่างนั่นเท่าไหร่ เพราะเห็นมาตั้งแต่เกิดแล้ว
ฉันชอบมองขึ้นไปข้างบนมากกว่า
เพราะมันดูลึกลับ กว้างใหญ่ และคลาสสิค

ฉันมักจะแหงนมองดูเธอบ่อยๆ และก็แปลกใจที่ก็มักจะเห็นเธอแหงนมองดูอะไรไม่รู้เหมือนกัน
อะไรหรือใครที่เธอกำลังแหงนมองนั้น กำลังมองตอบเธอรึเปล่านะ
หรือเค้าจะทำเหมือนเธอเหมือนกัน ที่ก็ไม่ได้สนใจมองลงตอบสายตาของฉัน

ยังไงก็คิดถึงเธอนะ

ว่างๆมาเอารองเท้าคืนด้วยล่ะ
สวัสดี




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2549   
Last Update : 10 สิงหาคม 2549 17:16:01 น.   
Counter : 365 Pageviews.  

จดหมายตอบกลับ

ประหลาดใจ

วันนี้ท้องฟ้าใสมาก

ฉันมองขึ้นไปบนโลกสีน้ำเงินใบนั้น
มองยาวออกไปถึงท้องน้ำเบื้องบน

วันนี้ฉันมองไม่เห็นเธอ
วันนี้น้ำขุ่นมัวกว่าหลายๆวันก่อนรึเปล่า

หรือว่าวันนี้ เธอจะหลบไปอยู่สูงขึ้นไป ลึกไปในทะเล

....
ฉันมักจะนั่งจินตนาการอยู่บ่อยๆ ว่าบนท้องทะเลนั้นเหนือท้องฟ้าชั้นบรรยากาศของโลก ...มันจะเป็นอย่างไร

บนท้องน้ำนั้น คงมีอะไรต่างๆมากมาย มีใครต่อใครหลายๆคน มีสิ่งต่างๆหลายอย่าง ให้เธอเที่ยวเล่น ให้เธอใช้เวลากับมัน

ตรงที่ที่ฉันอยู่ เป็นอวกาศ ที่นี่ไม่มีแรงดึงดูด ไม่มีทิศเหนือใต้ออกตก
แรงกระทบเพียงนิดเดียว สามารถดีดฉันให้กระเด็นได้
อุณหภูมิรอบตัวฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่า หนาว อุ่น หรือว่าร้อน
เพราะมันไม่เคยแตกต่าง

ร้อยปีก่อน ฉันรู้สึกยังไง ตอนนี้มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น
ฉันอิจฉาเธอ ที่เธอรู้ถึงความแตกต่าง ...ในโลกของเธอ ทุกอย่างดูเหมือนดังบทกวี
ที่สามารถพรรณาความแตกต่างของสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่งได้อย่างงดงาม
มีการบรรยายคุณลักษณะ ของสิ่งต่างๆ ในต่างช่วงเวลา ต่างสถานที่ แม้สิ่งเดียวกัน
ก็ยังสามารถร้อยเรียงเป็นเรื่องราวได้ ..มากมาย

.....
แต่ที่ตรงนี้ ทีที่ฉันอยู่

มันไม่สามารถบรรยายอะไรได้อย่างที่สามารถทำ
ที่ที่ฉันอยู่ มันว่างปล่าว ความมืดกับความสว่างไม่ต่างกัน

ที่นี่อิสระ ...

ใช่ ที่นี่อิสระมากๆ
อิสระมากจนบางทีฉันก็อยากจะมีกฏ มีข้อบังคับ ไว้ครอบครองฉันเหมือนกัน
ฉันอยากจะลองเคลื่อนไหวให้ยุ่งยากดูบ้าง

ฉันอยากจะลองทรมานกับความหนาวเหน็บที่เธอเคยเล่าว่าเธอเคยเผชิญบ้าง
ฉันอยากรู้ว่าวันที่เธอบ่นว่าร้อนนั้น ..มันเป็นอย่างไร

ฤดูกาลต่างๆ ที่เธอเคยเล่าว่ามันสร้างควมแตกต่างของหลายๆอย่าง
มันทำให้โลกดูมีสีสัน เหมือนโลกได้เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ไม่ซ้ำ

ที่ที่ฉันอย่นี้ มันไม่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้า ทุกอย่าง ร้อยปีก่อน ฉันเคยเห็นยังไง ตอนนี้มันก็เป็นของมันอย่างนั้น ...ฉันไม่เคยเห็นว่ามันจะเคยเปลี่ยน
วันนี้นับจากอดีต และนับต่อไปจนอนาคตกาล ....ฉันก็คงไมได้เห็นอะไรแปลกใหม่

....
อิจฉาเธอเหลือเกิน ปลาดาว
บนท้องน้ำนั้นเธอจะกำลังทำอะไรอยู่บ้าง
จะนึกถึงฉันอยู่บ้างรึเปล่า เหมือนที่ฉันนึกถึงเธอ

มีคำตัดพ้อจากจดหมายของเธอ ว่าฉันมักจะแหงนมองอะไรบางอย่างจนไม่สนใจเธอ
ฉันต้องขอโทษ ถ้าทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้น
ปลาดาว มีเรื่องนึงไม่รู้ว่าเธอจะรู้หรือยัง
ว่าจริงๆแล้ว เธอไม่สามารถมองเห็นฉันได้

ฉันประหลาดใจ ที่เธอบอกว่าเธอเห็นฉัน และฉันไม่สนใจเธอ
เพราะจริงๆแล้ว เธอไม่สมารถมองเห็นฉันได้เลย
อยากให้เธอลองมองดูดีๆ ว่าฉันที่เคยเห็นนั้น ใช่ฉันจริงๆหรือเปล่า หรือเป็นเพียงภาพลวงตาที่คล้ายฉัน

....
เรื่องรองเท้านั้น ...

หวังว่าวันนึง ถ้างานเลี้ยงจะสามารถเกิดขึ้นได้อีก
ที่จะรวบรวมทุกอย่างในจักรวาลให้สามารถพบกันได้ โดยไม่ขึ้นกับระยะทาง และเวลา หรือเงื่อนไขใดๆ
..เราคงได้แลกรองเท้าของกันและกันกลับคืน

คิดถึงเธอเสมอนะ เจ้าปลาดาว




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2549   
Last Update : 10 สิงหาคม 2549 17:05:28 น.   
Counter : 380 Pageviews.  

เม่นรำพัน

เม่นรำพัน

ศิลาหินปลิวว่อนดังขนนก

หมื่นวิหคถลาร่วงสู่อาสัญ

มัจฉาว่ายลอยคอไม่ไหวติง

เหมือนบางสิ่งสลายสิ้นในพริบตา

แดดที่หนาวเช้าที่มืดมิอยากตื่น

มิอยากฝืนรับว่าเช้าแล้วต้องไป

จะสลัดให้หายง่วงมิใช่ง่าย

ฉันนอนหนาวจนฟ้าสาง ....ตื่นทั้งคืน

ขนของฉันไม่อุ่นเหมือนขนเค้า

ขนของเค้าไม่ทิ่มแทงเหมือนขนฉัน

ยากยอมรับว่าขนเรานั้นต่างกัน

ขนของฉันไม่นุ่มนวลเหมือนขนใคร...

... ขนเช่นนี้จะหาไอ แห่งอุ่นอิ่ม ที่ไหนเจอ...




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2549   
Last Update : 5 สิงหาคม 2549 8:59:32 น.   
Counter : 461 Pageviews.  

เจ้าหญิงนิทรา ความสุข ความฝัน ความหวัง ความจริง

เจ้าหญิงนิทรา
ความสุข ความฝัน ความหวัง ความจริง

….
ฉันตื่นในความมืด จากฝันที่เรืองรอง
จุมพิตนั้น ที่ปลุกพรากฉัน จากฝันที่ยาวนานมาร่วมกับฉัน
ฝันนั้นออกจะยาวนาน จนยากจะจำได้ว่านานเท่าไร

รู้สึกภูมิใจเหลือเกิน ที่จะบอกกล่าวว่าฝันของฉันนั้นงดงามเพียงไร
ฉันมักได้ยินเรื่องราวอันงดงามมากมายของความรัก
ฉันฝันและเชื่อว่าในที่สุด ฉันต้องได้สัมผัสกับความงดงามนั้นเช่นกัน
ฉันจึงเริ่มฝัน…..

ความรักอันงดงามมีรูปแบบเริ่มกอบตัวขึ้นในความฝัน
เวลาผ่านไป ฉันสร้างรูปแบบความรักที่งดงามไว้หลากหลาย
เมื่อความรักรูปแบบหนึ่งถึงตอนจบที่สวยงาม ฉันก็แต่งใหม่ให้งดงามกว่าเดิม
ฉันยิ้มซึ้งมีความสุข ในการรับสัมผัสจากเรื่องราวที่ฉันสร้างขึ้น
ทุกขณะ ทุกลมหายใจในความหลับ
ฉันเต็มไปด้วยความสุข

แน่นอนว่าในที่สุด ความสุขเช่นนั้นที่ฉันสร้างในความฝัน
จะมาถึงฉันในความตื่นเช่นกัน
ฉันมีความสุขในความฝัน และฉันเปี่ยมความหวังในการตื่นสู่ความจริงที่จะสวยงามกว่า
…เปี่ยมความหวัง รอคอยจุมพิตนั้น

ฉันวางกายหลับไหล ในดินแดนแห่งอัศวินม้าขาว
ริมฝีปากฉันเผยรอจุมพิตอันดื่มหวานของพวกเขามาตลอด
จิตใจฉันเปี่ยมด้วยความสุขในความฝัน
ริมฝีปากฉัน เปี่ยมด้วยความหวังจะตื่นมาในความสุขแท้จริง
ความสุขแท้จริง…

ที่สุด…
ฉันก็รู้สึกถึงรสสัมผัสที่ริมฝีปากของฉัน
จุมพิตจากเจ้าชายอัศวินม้าขาว

……..
ฉันตื่นในความมืด จากฝันที่เรืองรอง
จุมพิตนั้น ที่ปลุกพรากฉันจากฝันที่ยาวนานมาร่วมกับฉัน
ฝันนั้นออกจะยาวนาน จนยากจะจำได้ว่านานเท่าไร
……..

แล้วฉันก็เรียนรู้กับความรักในนิยามใหม่
เป็นนิยามที่ฉันไม่เคยบัญญัติหรือคิดจะบัญญัติในความฝันเลย
และน่าแปลก ที่ฉันสร้างรูปแบบของความรักในแบบของฉันมากมาย
แต่ในความจริง กลับไม่มีรูปแบบเหล่านั้นเลย

แสงแดดอ่อนในยามเช้าที่เคยชักชวนฉันให้ออกไปวิ่งเล่น
ฉันกลับรู้สึกว่า บางครั้งเหมือนสัญญาณว่าฉันไม่อยากเปิดประตูออกไป
ฝนที่เคยฉ่ำเย็น ฉันเริ่มเรียนรู้ในความเปียกแฉะของมัน และฉันไม่ชอบมันด้วย
ใบไม้ปลิดปลิว อ่อนระทวยล่องตามกระแสลมเย็น
ฉันกลับรู้ว่า ในบางครั้งกายแห้งใบไม้นั้นกลับเป็นเรื่องราวที่ต้องตามเก็บกวาด
ในสายลมเย็น ได้พบว่าในหลายครั้งแฝงมาด้วยลมร้อน
ในยามแดดร้อนบุปผชาตไม้ดอกเบ่งบาน งดงามเหลือเกินเมื่อฉันเคยนั่งมองมันจากในชายคา
ฉันเริ่มเรียนรู้ว่า นอกชายคานั้นร้อนทรมานจนไม่อาจมีจิตใจชื่นชมในความงามนั้น
เช่นเดียวกับความเหน็บหนาวปุยน้ำแข็งขาวโพลน มันจะมีความงามต่อเมื่อฉันหลบอยู่ในที่อบอุ่นเท่านั้น
หากต้องเป็นส่วนหนึ่งของความงามนั้น ฉันกลับเรียนรู้ว่า นั่นคือความทรมาน


ฉันเรียนรู้ และฉันเริ่มเข้าใจ
ไม่มีความฝันในความจริง
ฉันอยากบอกกับเจ้าชายอัศวินม้าขาวของฉันเหลือเกินว่า…..

“ฉันอยากกลับไปอยู่ในโลกของความฝันมากกว่า….”
และฉันรู้
ว่าเป็นไปไม่ได้
………

……….

April 11,2005
Bless in girlminds




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2549   
Last Update : 5 สิงหาคม 2549 8:53:34 น.   
Counter : 521 Pageviews.  

ตำนานรักเสาธง ภาคปัญญาอ่อน(มีภาคเดียวแหล่ะ)

ตำนานรักเสาธง ภาคปัญญาอ่อน(มีภาคเดียวแหล่ะ)
เสาธง....
ตำนานนึงของเสาธง ลมพัดมา ธงไหว สองคนมอง คนนึงว่า ธงไหว คนนึงเห็น ลมไหว ..สองคนเถียงกันไป คนที่สามจึงว่า ..ใจท่านไหว...

สามคนโดนรถชนตาย เพราะมัวยืนวิจารณ์ธง กลางสี่แยก....

หันซ้ายหันขวา แล้วค่อยข้ามถนน
ข้ามถนนก็หัดดูรถ ดูสัญาณไฟ อย่ามัวแต่มองธง
..อย่ามัวแต่ มองคนอื่น....

เหตเพราะมันต้องซึ้งกินใจ จะทำยังไงให้เสาธงซึ้งได้
ให้หนุ่มสาว ปีนเสาธงโดดลงมาตายเพราะรักอันซึ้งแปลกๆอย่างสะพานสารสินดีไหม

ไอเดียพอได้ แต่ผิดหลักความเป็นจริงไปหน่อย คนจะฆ่าตัวตาย ทำไมเขายังมีแรง ปีนเสาธง แล้วเวลาปีเนี่ย
ก็ต้องมีคนนึงอยู่บน คนนึงอยู่ล่าง ถ้ามีคนนึงซึ่งอยู่บน "ตด" ออกมา ...มันจะไม่โรแมนติกเอา... อืม
อีกอย่าง ถ้าคนที่อยู่บน เกิดมือสั่น เพราะใจท้ออยากตาย ปีนไม่ถึงยอดเสาที่แนะกันไว้ ..มืออ่อนปล่อยตัวครูดลงมาทับคนข้างล่าง ร่วงลงสู่ยอดพื้น ..ตายไม่เท่อีก
..ตายเท่..

นี่จะตายอยู่แล้วยังมาห่วงเท่อีก

ตายแบบไหนถึงจะเท่

คิดให้หนักกว่า มันเป็นการตายเพราะรักแปลกๆ มันเลยต้องโรแมนถึกด้วย
ก่อนตายต้องจับมือกัน ต้องพูดอะไรซึ้งๆ ถ้าขึ้นไปบนเสาธงได้จริงๆล่ะก็ ลมจะแรงมากในหลายๆช่วง
เวลาพูดอะไรเสียงจะถูกลมพัดไปทางอื่น ทำให้ไม่ได้ยิน
เวลาลมพัดแรงๆ เวลาอ้ปากพูดประโยคเด็ด น้ำลายในปากจะถูกลมกระพือให้หลุดออกจากปาก ..โชคดีถ้าอีกคนอยู่เหนือลมก้ไม่มีอะไร ...แต่ถ้าอีกคนอยู่ใต้ลม
มันจะกลยเป็นการ "ถ่มน้ำลายรดหน้า" ...อาการเช่นนี้ไม่มีในสารบบของนิยายโรแมนติก
..หนักกว่า อาจจะเกิดการชกต่อยกันขึ้น เพราะถูกหมิ่นด้วยน้ำลาย ...นิยายรักโรแมนถึก ตำนานรักยอดเสาธง จะกลายเป็นหนังบู๊ ศึกยอดเสา ไปเสีย....

ทำไมจะต้องยึดติดกับยอดเสาธงด้วย
ก็จะเอาอะ มีไรมั้ย หลักการนึงของการเกทไอเดีย ก็คือการสรางความลำบากให้ตัวเอง ..แล้วก็ตะแบง แถกๆไปเรื่อยๆ จะแป้ก จะอะไรช่างมัน เอาเผือกเอามันเข้าว่า

คนรักกันยืนมองเสาธงกลางสี่แยกไฟแดง
คนนึงว่า ธงไหว คนนึงว่า ลมไหว
มือที่สาม โผล่มา บอกว่า ใจไหว
คนที่สี่เลยโผล่มา บอกว่า....

"พวกลื้อมายืนพล่ามอะไรกันตรงนี้วะ เด่วได้รถชนตายอย่างเมื่อสามวันก่อนหรอก ไปไป๊ ไปเน่ากันที่อื่น"

...นิยายเสาธงเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..... บางทีก็ไม่ต้องสอนอะไรหรอก




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2549   
Last Update : 5 สิงหาคม 2549 8:22:33 น.   
Counter : 491 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

เดียวดาย9อักษร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เดียวดาย9อักษร's blog to your web]