ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง คุณได้หรือเสียอะไร? แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง คุณได้หรือเสียอะไร?

<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
14 กรกฏาคม 2551
 

การจัดเตรียมของพระเจ้า (ตอนที่ 3)

13 กรกฎาคม 2008
คริสตจักร ยะลา


ปฐมกาล 50:18-26
18พี่ชายก็พากันมากราบลงต่อหน้าโยเซฟแล้วว่า "ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นผู้รับใช้ของท่าน" 19โยเซฟจึงบอกเขาว่า "อย่ากลัวเลย เราเป็นดังพระเจ้าหรือ 20พวกท่านคิดร้ายต่อเราก็จริง แต่ฝ่ายพระเจ้าทรงดำริให้เกิดผลดีอย่างที่บังเกิดขึ้นนี้แล้ว คือช่วยชีวิตคนเป็นอันมาก 21ดังนั้นพี่อย่ากลัวเลย เราจะบำรุงเลี้ยงพี่ทั้งบุตรด้วย" โยเซฟพูดปลอบโยนพวกพี่น้องดังนี้ทำให้เขาอุ่นใจ 22โยเซฟอาศัยอยู่ในอียิปต์กับครอบครัวบิดาของท่าน โยเซฟอายุยืนได้ร้อยสิบปี 23โยเซฟได้เห็นลูกหลานเหลนของเอฟราอิม บุตรของมาร์คีผู้เป็นบุตรของมนัสเสห์ก็เกิดมาบนเข่าของโยเซฟ 24โยเซฟจึงบอกพวกพี่น้องว่า "เราจวนจะตายแล้ว แต่พระเจ้าคงจะทรงเยี่ยมเยียนพวกท่านและจะพาออกไปจากประเทศนี้ ให้ถึงดินแดนที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ" 25โยเซฟกล่าวว่า "พระเจ้าจะทรงเยี่ยมเยียนพวกท่านเป็นแน่ แล้วท่านทั้งหลายต้องนำกระดูกของเราไปจากที่นี่" แล้วท่านให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลสาบานตัวรับรอง 26โยเซฟสิ้นชีพเมื่ออายุได้ร้อยสิบปี เขาก็อาบยารักษาศพไว้แล้วบรรจุไว้ในโลงที่อียิปต์


อธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่ง เราทั้งหลายเป็นประชากรองพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงซื้อมาด้วยราคาสูง คือโดยพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เราทุกคนที่นี้ปรารถนาจะมีชีวิตที่ดำเนินอยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ ขอทรงทอดพระเนตรและทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเราด้วยพระกรุณา หากว่าในท่ามกลางเรามีผู้ใดที่มีความวิตกกังวลในชีวิต ขอพระเจ้าจะทรงตรัสกับเขาเพื่อให้เขาได้มั่นใจในการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า และให้เขาได้มั่นใจว่าพระเจ้าได้จัดเตรียมสิ่งสารพัดไว้แล้วด้วยความรักอันใหญ่ของพระองค์


เมื่อครั้งที่แล้ว ผมได้นำเรื่องของผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ และโยเซฟมาเป็นตัวอย่าง ให้พี่น้องได้เห็นว่า พระเจ้าของเรานั้นทรงเฝ้าดูชีวิตของผู้รับใช้ของพระองค์ และทรงจัดเตรียมสิ่งสำคัญไว้สำหรับเขา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่หนุนใจเราทั้งหลายในเวลาปัจจุบันนี้ว่า พระเจ้าองค์เดียวกันนั้น ทรงกำลังเฝ้ามองดูและจัดเตรียมสิ่งสารพัดที่จำเป็นสำหรับชีวิตของเราทั้งหลายเช่นกัน

ผมจะขอทบทวนสักเล็กน้อย เพื่อให้เราจะยังพอระลึกได้ถึงเรื่องราวการจัดเตรียมของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเอลียาห์และโยเซฟ

พระเจ้าได้ใช้เอลียาห์ให้ไปกล่าวโทษต่อกษัตริย์อาหับเนื่องจาก กษัตริย์อาหับได้กระทำสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัย และพระเจ้าสำแดงให้เห็นความไม่พอพระทัยนั้น โดยให้เกิดการแห้งแล้งกันดารเป็นเวลาถึง 3 ปี แต่ตลอดระยะเวลานั้น พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งจำเป็นไว้สำหรับเลี้ยงดูเอลียาห์ คือ
-พระเจ้าได้ให้อีกาคาบเนื้อและขนมปังมาเลี้ยงเอลียาห์ แต่เอลียาห์ไม่ต้องทำบาปต่อพระเจ้า
-พระเจ้าก็ทรงเลี้ยงดูเอลียาห์ ผ่านทางครอบครัวของหญิงหม้ายยากจนคนหนึ่ง
-เอลียาห์ นั่งๆนอนๆ นานถึง 3 ปี รอคอยกำหนดเวลาของพระเจ้า
-ด้วยขนมปังและน้ำ 2 มื้อ เพียงพอที่จะเดินทางไกลถึง 40 วัน 40 คืน
-เอลียาห์บ่นต่อพระเจ้าคิดว่า มีเขาเพียงผู้เดียวที่เหลืออยู่ พระเจ้าได้เตรียมคนอื่นๆอีกกว่า 7 พันคนเพื่อการงานของพระองค์

ส่วนชีวิตของโยเซฟนั้น การจัดเตรียมของพระเจ้าก็ล้ำลึกและยิ่งใหญ่จริงๆ
-โยเซฟมีชีวิตที่ยำเกรงพระเจ้า ทำให้เขาไม่เข้าร่วมในการกระทำผิดกับพี่ๆ แม้ว่าผลที่ตามมาคือความไม่พอใจของพี่ๆ เนื่องจากชีวิตของเขาฟ้องความผิดของพี่ๆ
-พระเจ้าได้ทรงสำแดงนิมิตให้โยเซฟได้เห็น แม้จะยังไม่เข้าใจ แต่เขาก็กล่าวถึงนิมิตนั้น
-โยเซฟถูกแยกออกจากบรรดาพี่น้องของเขา ออกจากชนชาติ ออกจากอาชีพ ออกจากความรักความอบอุ่นในครอบครัว ไปคนต่างชาติต่างภาษา ไปสู่ฐานะอันต่ำต้อย ไปสู่ที่ๆมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างเขา
-เรียนรู้การทำงานร่วมกับพระเจ้า การงานต่างๆจึงดำเนินไปโดยพระเจ้า

คราวที่แล้วเราได้มาจบลงที่เรื่องราวของโยเซฟที่ทำงานร่วมกับพระเจ้า พระเจ้าทรงอยู่ด้วยกับโยเซฟ ซึ่งก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคริสเตียนทุกคน สิ่งสำคัญที่คริสเตียนต้องไม่ลืมคือ การที่เราจะดำเนินชีวิตโดยมีพระเจ้าสถิตอยู่ด้วย การงานของเราจึงจะดำเนินไปโดยพระเจ้า แต่หากว่าเรากำลังคิดว่า การงานที่ดำเนินไปโดยพระเจ้านั้นหมายถึงการเจริญรุ่งเรืองในด้านทรัพย์สินและชื่อเสียง เราก็มองด้วยสายตาที่สั้นไปสักหน่อย แน่นอนว่าในช่วงนี้ของโยเซฟเป็นไปอย่างนั้น คือมีทรัพย์และชื่อเสียง แต่เรื่องราวต่อไปของโยเซฟคือ

ปฐมกาล 39:6-20
6นายมอบของทุกอย่างของเขาไว้ในความดูแลของโยเซฟ เมื่อมีโยเซฟแล้ว เขาก็มิได้เอาใจใส่สิ่งใดเลย เว้นแต่อาหารที่ท่านรับประทาน 7โยเซฟนั้นเป็นคนสวยหน้าตาคมคาย อยู่มาภายหลังภรรยาของนายมองดูโยเซฟด้วยความปฏิพัทธ์ และชวนว่า "มานอนกับฉันเถิด" 8แต่โยเซฟไม่ยอม จึงตอบแก่ภรรยาของนายว่า "คิดดูเถิด เมื่อมีข้าพเจ้า นายก็มิได้ห่วงสิ่งใดซึ่งอยู่ในบ้านเรือน ได้มอบของทุกอย่างที่มีอยู่ไว้ในมือข้าพเจ้า 9ในบ้านนี้นายก็ไม่ใหญ่กว่าข้าพเจ้า นายมิได้หวงสิ่งใดจากข้าพเจ้า ยกเสียแต่ตัวท่านเพราะเป็นภรรยาของนาย ข้าพเจ้าจะทำความผิดใหญ่หลวงนี้อันเป็นบาปต่อพระเจ้าอย่างไรได้" 10แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า โยเซฟก็ไม่ยอมนอนกับนางหรืออยู่ด้วยกัน 11วันหนึ่งโยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระการงานของเขา ไม่มีชายประจำบ้านคนใดอยู่ในนั้น 12นางก็คว้าเสื้อผ้าโยเซฟเหนี่ยวรั้งไว้ แล้วพูดว่า "มานอนอยู่กับฉันเถิด" แต่โยเซฟทิ้งเสื้อผ้าไว้ในมือนางหนีไปข้างนอก 13เมื่อนางเห็นว่าโยเซฟทิ้งเสื้อผ้าไว้ในมือของนาง หนีไปข้างนอกแล้ว 14นางก็ร้องเรียกชายประจำบ้านของตนมาบอกว่า "ดูซิ นายเอาคนชาติฮีบรูมาไว้ทำความหยาบคายแก่เรา มันเข้ามาหาจะนอนกับฉันแต่ฉันร้องเสียงดัง 15เมื่อมันได้ยินฉันร้องขึ้น มันก็ทิ้งเสื้อผ้าไว้กับฉันหนีไปข้างนอก" 16แล้วนางก็เก็บเสื้อผ้าไว้ใกล้ตัวจนนายกลับมาบ้าน17แล้วนางก็บอกกับนายดังนี้ว่า "อ้ายบ่าวชาติฮีบรูที่ท่านนำมาไว้นั้นเข้ามาหาจะทำหยาบคายแก่ฉัน 18เมื่อฉันร้องขึ้น มันก็ทิ้งเสื้อผ้าไว้กับฉันหนีไปข้างนอก" 19ครั้นนายได้ฟังคำภรรยาบอกว่า "บ่าวของท่านทำกับฉันดังนั้น" ก็โกรธนัก 20จึงเอาโยเซฟไปจำไว้ในคุกที่ที่ขังนักโทษหลวง โยเซฟก็ต้องจำอยู่ที่นั่น


โยเซฟถูกจับไปขังไว้ในคุก พระเจ้าหายไปไหนหรือ? พระเจ้าไม่ได้สถิตกับโยเซฟแล้วหรือ? เรารู้ดีว่าไม่ใช่เช่นนั้น พระเจ้ายังทรงอยู่กับโยเซฟ และแม้ว่าสถานการณ์ในเวลานี้เปลี่ยนแปลงไป จากทรัพย์สินและขื่อเสียงที่มีมากมาย กลายเป็นคนที่ต้องถูกกักขังในคุก แต่สิ่งนี้ไม่ใช่ด้วยการที่เขาทำความชั่ว แต่ด้วยการที่เขายำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย แม้ว่าจะนำไปสู่ความยากลำบาก แต่พระเจ้ายังสถิตกับโยเซฟ เพราะเขายำเกรงพระองค์ และหันจากความชั่วร้าย

พี่น้องที่รัก หากวันนี้ท่านเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยว่าพระเจ้าหายหน้าไปไหน ทำไมท่านจึงทุกข์ยากลำบากเพราะติดตามพระองค์และหันจากความชั่วร้าย ขอให้ตัวอย่างของโยเซฟในตอนนี้ทำให้ท่านได้รับความชูใจ เมื่อพระเจ้าสถิตอยู่กับท่านความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องน่ากล้วแต่พระองค์จะนำท่านให้ผ่านไป และนำให้ไปถึงความสำเร็จดังนิมิตที่ทรงเปิดเผยไว้นั้น ดังนั้นการตกต่ำลงก็เป็นส่วนหนึ่งในการจัดเตรียมของพระเจ้าเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าท่านสำรวจดูแล้วพบว่า ความทุกข์ยากที่ท่านประสพอยู่นั้น เป็นผลมาจากการละเมิดต่อพระเจ้า หนทางเดียวที่จะทำให้ท่านกลับสู่สภาพดีคือ การสารภาพความผิดนั้นต่อพระเจ้า หันกลับจากสิ่งผิดนั้น และดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าไป พระพรของพระเจ้าจะไม่มาสู่ท่านหากท่านจะจมอยู่ในความผิดบาปนั้น ป่วยการที่จะอธิษฐานขอพระพรจากพระเจ้า

2-3 สัปดาห์ก่อนพวกเราได้เรียนพระคัมภีร์ทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตจากคริสตจักรใจสมาน อ.มนูญศักดิ์ ได้กล่าวถึงคำว่า “ทดลองพระเจ้า” ท่านได้ยกตัวอย่างว่าหากเราดำเนินชีวิตจมอยู่ในบาปแต่ยังพยายามขอให้พระเจ้าอวยพระพร อย่างนี้เข้าข่ายทดลองพระเจ้า เพราะรู้อยู่แล้วว่าพระเจ้าไม่พอพระทัยกับความบาปในชีวิตของเรา แต่ยังไม่สำนึก ซ้ำยังจะมีหน้ามาขอพระพรจากพระเจ้าอีก

ปฐมกาล 39:21-23
21แต่ว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับโยเซฟ และทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่เขา ทรงโปรดให้พัศดีเมตตาปรานีเขา 22 พัศดีก็มอบนักโทษทั้งปวงที่ในเรือนจำไว้ในความดูแลของโยเซฟ การงานที่ทำในที่นั้นทุกอย่างโยเซฟเป็นผู้รับผิดชอบ 23พัศดีไม่ได้เอาใจใส่การงานใดๆที่โยเซฟดูแล เพราะเหตุพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่านและการงานใดๆที่ท่านกระทำพระเจ้าก็ทรงโปรดให้เจริญ


เรายังคงสามารถมองเห็นพระพรที่เกิดขึ้นกับโยเซฟได้ แม้ว่าเส้นทางชีวิตของเขาในเวลานั้นน่าจะเรียกได้ว่าตกต่ำสุดๆ หากเราทั้งหลายสัตย์ซื่อและมั่นคงในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า เราจะสามารถเห็นพระพรอย่างนั้นเช่นกัน หากว่าท่านรู้สึกว่าฐานะของท่าน, หน้าที่การงานของท่านช่างต่ำต้อยเหลือเกิน จงมองดูเถิด พระเจ้าจะอวยพระพรท่านจากการงานที่ดูต่ำต้อยนั้น ด้วยผลแห่งความยำเกรงพระเจ้าและการหันจากสิ่งชั่วร้ายที่ประจักษ์ชัดในชีวิตของท่าน

ปฐมกาล 40:1-2
1ต่อมาพนักงานน้ำองุ่นของกษัตริย์แห่งอียิปต์ และพนักงานขนมของพระองค์ทำผิดต่อเจ้านาย คือกษัตริย์แห่งอียิปต์ 2ฟาโรห์ทรงกริ้วข้าราชการทั้งสองนั้น คือหัวหน้าพนักงานน้ำองุ่น และหัวหน้าพนักงานขนม 3จึงให้จำคุกไว้ในบ้านของผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ในคุกที่โยเซฟติดอยู่นั้น 4ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์สั่งโยเซฟให้รับใช้สองคนนั้น โยเซฟก็ปรนนิบัติเขา พนักงานทั้งสองติดคุกอยู่พักหนึ่ง


พระเจ้าได้จัดเตรียมเส้นทางให้กับโยเซฟ เพื่อให้มีโอกาสได้พบกับชาย 2 คน ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะนำโยเซฟไปสู่ปลายทางตามที่พระเจ้าได้สำแดงนิมิตให้ ก่อนหน้านี้ โยเซฟก็เป็นแค่คนช่างฝัน ไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าเขาสามารถแก้ฝันได้ จะบอกว่าโยเซฟเป็นผู้พยากรณ์ก็ไม่น่าจะได้ เพราะฝันของตนเองที่เป็นนิมิตนั้น ตนเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ แต่เวลานั้น พระเจ้าได้ให้โยเซฟสามารถแก้ฝันให้กับชาย 2 คนนั้นอย่างถูกต้อง

การจัดเตรียมของพระเจ้าในตอนนี้คือ พระเจ้าทรงให้โยเซฟเป็นตัวแทนหรือเป็นทางผ่านของพระเจ้าในการเปิดเผยข้อลับลึก อันนี้ต่างกันกับการเป็นผู้พยากรณ์ เพราะโยเซฟไม่ได้กล่าวคำพยากรณ์ใดๆดังเช่นผู้พยากรณ์ท่านอื่นๆที่ปรากฏในพระคัมภีร์ได้ทำ โยเซฟแต่เพียงแค่เปิดเผยความหมายของนิมิตเท่านั้น ไม่ใช่ว่าโยเซฟกลายเป็นผู้วิเศษอะไร

แต่เหตุการณ์ก็ยังต้องรอกำหนดการของพระเจ้า เพราะแม้ว่าโยเซฟจะแก้ฝันให้ชาย 2 คนได้ถูกต้อง และฝากความหวังไว้ว่าเขาจะกลับมาช่วยให้ออกจากคุกโดยเร็ว แต่การรอคอยนั้นต้องใช้เวลาถึง 2 ปี

และกำหนดการของพระเจ้าก็มาถึง ฟาโรห์ได้นอนหลับและฝันไป ตื่นมาก็เป็นทุกข์กับความฝันนั้น ผมเชื่อว่าความฝันนั้นเป็นนิมิตที่มาจากพระเจ้า เราพบว่าสิ่งที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้จึงมาถึงจุดมุ่งหมายสำคัญอีกครั้ง ชายที่โยเซฟเคยแก้ฝันให้เมื่อ 2 ปีก่อน เพิ่งจะระลึกได้ว่าเคยได้รับการแก้ฝันจากคนคนหนึ่งในคุก จึงทูลกับฟาโรห์ ทำให้โยเซฟได้ออกมาจากคุกในวันนั้น

ปฐมกาล 41:14-16
14ฟาโรห์จึงรับสั่งให้เรียกโยเซฟมา เขาก็รีบไปเบิกตัวโยเซฟออกมาจากคุกใต้ดิน ครั้นโยเซฟโกนศีรษะผลัดเสื้อผ้าแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์ 15ฟาโรห์ตรัสแก่โยเซฟว่า "เราฝันไป หามีผู้ใดแก้ฝันได้ไม่ เราได้ยินว่า เมื่อเจ้าได้ฟังความฝัน เจ้าก็แก้ฝันได้" 16โยเซฟจึงทูลตอบฟาโรห์ว่า "การแก้ฝันมิได้อยู่ที่ข้าพระบาท พระเจ้าต่างหากจะประทานคำตอบอันควรแก่ฟาโรห์"


พระเจ้าทรงใช้โยเซฟอีกครั้ง ในการเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่เปิดเผยข้อลับลึก และเราเห็นคำตอบที่ซื่อสัตย์ของโยเซฟที่นี่ โยเซฟไม่ได้แย่งเกียรติของพระเจ้าเลย เป็นบทเรียนที่สำคัญประการหนึ่งหากเราปรารถนาจะเป็นผู้ที่พระเจ้าเลือกใช้

นอกจากการเปิดเผยข้อลับลึกของพระเจ้าแล้ว โยเซฟยังได้รับสติปัญญาในการที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านั้นด้วย ดังนั้นในวันเดียว จากคนที่นอนคุกมานานกว่า 2 ปี โยเซฟก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองเหนือประเทศอิยิปต์ มีครอบครัว มีตำแหน่ง มีอำนาจ

แต่ทั้งนี้โยเซฟยังคงดำเนินต่อไปด้วยความยำเกรงพระเจ้า สังเกตได้จากชื่อของลูกชายทั้งสองของเขา เป็นชื่อที่มีความหมายเล็งถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อเขา

ปฐมกาล 41:50-52
50ก่อนถึงปีกันดารอาหาร โยเซฟมีบุตรชายสองคน ซึ่งนางอาเสนัทบุตรีโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนมีให้ท่าน 51โยเซฟเรียกลูกหัวปีว่า มนัสเสห์ "เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวง และบรรดาพงศ์พันธุ์ของบิดาเสีย" 52บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม "เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้ามีพงศ์พันธุ์ทวีขึ้นในดินแดนที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ"


และในที่สุดนิมิตที่พระเจ้าได้ทรงสำแดงไว้ตั้งแต่โยเซฟยังเป็นเด็ก ก็มาเกือบจะถึงจุดหมายปลายทาง โดยการทรงนำของพระเจ้า โยเซฟได้ครอบครองดูแลกิจการงานของประเทศอิยิปต์ ได้สะสมอาหารไว้ตลอด 7 ปีที่อุดมสมบูรณ์ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ปีแห่งการกันดารอาหาร ทั้งชาวอิยิปต์เอง และชาวต่างขาติรอบๆต่างก็ต้องมาขอซื้ออาหาร เวลานั้นพี่ๆของโยเซฟก็เดินทางมาซื้ออาหารที่อิยิปต์ โดยที่ไม่รู้ว่าเขากำลังอยู่ต่อหน้าใคร และภารกิจสำหรับชีวิตของโยเซฟก็มาถึงจุดหมายปลายทาง คือเพื่อจะสงวนคนของพระเจ้าไว้จากเหตุการณ์กันดารอาหาร โยเซฟจึงได้เข้าใจถึงการจัดเตรียมของพระเจ้าในที่สุด

ปฐมกาล 45:1-15
1โยเซฟอดกลั้นต่อหน้าบรรดาผู้ที่ยืนอยู่ต่อไปอีกมิได้ก็ร้องสั่งว่า "ให้ทุกคนออกไปเสียเถิด" จึงไม่มีผู้ใดยืนอยู่ด้วย เมื่อโยเซฟแจ้งให้พี่น้องรู้จักตัวท่าน 2แล้วโยเซฟร้องไห้เสียงดัง จนคนอียิปต์ทั้งหลายได้ยิน และคนในสำนักพระราชวังฟาโรห์ได้ยิน 3โยเซฟบอกพวกพี่น้องว่า "เราคือโยเซฟ บิดาเรายังมีชีวิตอยู่หรือ" ฝ่ายพวกพี่น้องไม่รู้ที่จะตอบประการใด เพราะตกใจกลัวที่เผชิญหน้ากับโยเซฟ 4โยเซฟจึงบอกพี่ชายว่า "เชิญเข้ามาใกล้เราเถิด" เขาก็เข้ามาใกล้ แล้วโยเซฟว่า "เราคือโยเซฟน้องที่พี่ขายมายังอียิปต์ 5แต่บัดนี้อย่าเสียใจไปเลย อย่าโกรธตัวเองที่ขายเรามาที่นี่ เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้มาก่อนหน้าพี่ เพื่อจะได้ช่วยชีวิต 6เพราะมีการกันดารอาหารในแผ่นดินสองปีแล้ว ยังอีกห้าปีจะไถนาหรือเกี่ยวข้าวไม่ได้เลย 7พระเจ้าทรงใช้เรามาก่อนพี่ เพื่อสงวนคนที่เหลือส่วนหนึ่งบนแผ่นดินไว้ให้พี่ และช่วยชีวิตของพี่ไว้ด้วยการช่วยกู้อันใหญ่หลวง 8ฉะนั้นมิใช่พี่เป็นผู้ให้เรามาที่นี่ แต่พระเจ้าทรงให้มา พระองค์ทรงโปรดให้เราเป็นเหมือนตัวบิดาฟาโรห์ เป็นเจ้าในราชวังทั้งสิ้น และเป็นผู้ครอบครองประเทศอียิปต์ทั้งหมด 9รีบไปหาบิดาเราบอกท่านว่า "โยเซฟบุตรของท่านพูดดังนี้ว่า พระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้าเป็นเจ้าเหนืออียิปต์ทั้งสิ้น ขอไปหาลูก อย่าได้ช้า 10พ่อจะได้อาศัยอยู่ในเมืองโกเชน และพ่อจะได้อยู่ใกล้ลูก ทั้งตัวพ่อกับลูกหลาน และฝูงแพะแกะฝูงโค และทรัพย์ทั้งหมดของพ่อ 11ลูกจะบำรุงรักษาพ่อที่นั่น ด้วยยังจะกันดารอาหารอีกห้าปี มิฉะนั้นพ่อและครอบครัวของพ่อและผู้คนที่พ่อมีอยู่จะยากจนไป' 12นี่แน่ะนัยน์ตาพี่และนัยน์ตาของเบนยามินน้องของฉันได้เห็นว่าเป็นปากของฉันเองที่ได้พูดกับพี่ 13พี่จงเล่าให้บิดาของเราฟังถึงยศศักดิ์ที่ฉันมีอยู่ในอียิปต์ และที่พี่ได้เห็นนั้นทุกประการ พี่จงรีบพาบิดาเรามาที่นี่เถิด' 14โยเซฟกอดคอเบนยามินผู้น้องแล้วร้องไห้ เบนยามินก็กอดคอโยเซฟร้องไห้เหมือนกัน 15โยเซฟจึงจุบพี่ชายทั้งปวงและร้องไห้พี่น้องก็สนทนากับโยเซฟ


แม้ว่าภารกิจของโยเซฟจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่แผนการของพระเจ้าสำหรับมนุษย์ยังคงดำเนินต่อไปอีกยาวไกล และเราก็ยังสามารถเห็นและเรียนรู้ถึงการจัดเตรียมของพระเจ้าอีกมากมายปรากฏในพระคัมภีร์ สิ่งเหล่านั้นจะช่วยเราให้มีความมั่นใจว่า พระเจ้ามีแผนการสำหรับเราเช่นกัน และเรากำลังดำเนินไปในการจัดเตรียมของพระเจ้า หากว่าพระเจ้าเปิดเผยนิมิตให้ จงมั่นใจว่า “เป็นพระเจ้าเองที่จะจัดเตรียมทุกสิ่งและนำเราไปจนนิมิตนั้นสำเร็จลงทุกประการ”


Create Date : 14 กรกฎาคม 2551
Last Update : 14 กรกฎาคม 2551 10:58:51 น. 2 comments
Counter : 1794 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณครับ
ติดตามทุกอาทิตย์ครับ
 
 

โดย: pun IP: 118.174.189.194 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:40:51 น.  

 
 
 
ยินดีครับ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรครับ
 
 

โดย: ksk วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:26:08 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ksk
 
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผมเป็นคริสเตียนครับ
เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ
จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี)
ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO
Toulouse FRANCE ปี 1994
เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43)
ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ)
ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K
กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547
สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น
สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด
และยาวมาจนถึงตอนนี้
ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน free counter

free counter

New Comments
[Add ksk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com