No. 601 ประจำวัน จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
บางครั้งไปทำธุระหรือไป ทำงานต่างจังหวัด ทราบคร่าว ๆ ว่า พิษณุโลก มีที่เที่ยว |
น่าจะไป แต่ไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก เพราะรีบทำธุระ
|
เลยพลาดไม่ได้ไป ทั้งที่อยู่ไม่ไกลเลย
|
|
กลับมาแล้ว จึงรู้ว่า มีน้ำตกห้วยหมี เป็นภาพของ คนอื่นนะครับ น่าไปเที่ยว
ไม่ใช่ที่นั่นแห่งเดียวที่พลาด ลองอ่านต่อ... |
|
จากที่เล่าไว้ที่บล๊อกก่อนหน้านี้ ขับรถสบาย ๆ ไปเที่ยว อ.เนินมะปราง เรียกว่าไปเที่ยวแบบ |
ไม่รู้อะไรมาก เลยได้เห็นภูมิประเทศที่สวย งดงามตามธรรมชาติ แถมไม่พออยู่ในหมู่บ้าน |
ไม่ต้องขับรถไกล แหะ ๆ ถ้าอยู่ในตัวอำเภอนะครับ |
|
ทิ้งท้ายก่อนที่ เพื่อน ๆ ดูภาพจนเบื่อ ถ่ายให้เห็นรองเท้าสี ตองอ่อน ตอนที่จะปีนขึ้นถ่ำ |
เดือนถ่ำดาว มีคนแซว....ใช้รองเท้าสีนี้เชียวเหรอ
|
จริงแล้วสีนี้ไม่ค่อยชอบหรอก คือเป็นคนหารองเท้าได้ ยากมาก คือ ต รีนโตเกิน |
ชอบรองเท้าญี่ปุ่น ใช้มานานตั้งแต่ปี 2522 แพงหน่อย แต่คุ้มสุดคุ้ม
ไม่บอกหรอกว่า ยี่ห้ออะไร
|
เดินหา ซีคอน ศรีนครินทร์ พาราไดซ์ เซ็นทรัลบางนาง แถวสยาม ไม่ได้ครับทั้งที่ฝรั่งเดิน |
กันเยอะ ชอบยี่ห้อไหน รุ่นที่ต้องการ มีเบอร์ 12 หรือ 13 US เปล่า |
ไม่มีครับ มีรุ่นนี้... รุ่นเดียวครับพี่ เบอร์ 11 US (มีขนาดวัดเป็น CM หรือ UR UK ก็มี)
|
ดูราคาแล้ว สะอื้น เกือบแปดพันบาท แหะ ๆ ดูเท้าตัวเองแล้วไม่เกิน 5 พันบาทก็พอมั้ง |
เดินหาอีก เอายี่ห้อนี้ก็ได้ เบา บางดี เพื่อนที่เป็นนักวิ่งแข่ง มาราธอน 42.195 บอกว่า ดี |
แต่ไม่เหมาะที่จะใส่วิ่งแข่ง 100 กม..เอื๊อก ๆ
|
ก็ปกตินาน ๆ วิ่งแค่ 10.5 เท่านั้นแหละ เลยเลือกคู่สีตองอ่อน ใส่ปั่นจักรยานไปตามถนน |
คนอื่นจะเห็นชัด รถจะได้ไม่บี้ อีกอย่่าง ผมไม่มีทางเลือกนี่
|
พอใจแล้วชอบใจ นุ่ม เบา ดุจไม่ใส่อะไร 555 แต่ไม่เหมาะปีนป่ายที่มีน้ำแฉะ คือมันลื่น
|
พื้นนุ่ม รุ่นนี้ มีพื้นแข็งเฉพาะส่วน ส้นเท้า..ปกติผมจะใช้ พื้นกลางนุ่ม ขอบพื้นริมรอบนอก |
สีดำแข็ง เวลาเดินเหยียบน้ำ จะจิกติด ไม่ลื่น ซึ่งเป็นรองเท้านักวิ่งจ๊อกกิ้งทั่วไป
ถ้าได้แบบภาพข้างล่าง จะมีพื้นสีดำ ส่วนนี้จะแข็งกว่าสีอื่น ช่วยการจับพื้นได้ดี วิ่งเดินบนพื้นที่เปียกก็ดี |
|
ที่ผมใส่ปีนเข้าปากถ่ำข้างบน ลื่นครับ... เลยต้องถอย อีกอย่างมีป้ายห้าม เดินเข้าถ่ำโดยไม่มี |
จนท.อุทยานนำพา อันตราย... เท่าที่สอบถามว่าถ่ำลึก |
ถอย ๆ ดีกว่า
|
มาดูเด็ก ๆ เล่นน้ำ น้ำไม่มาก ใส ต้นไม้ปกคลุม สบาย ๆ
|
.....
|
|
แสง เงา ความร่มรืน แบบที่เห็นตามภาพเลย....
|
ข้างล่างเป็น ถนนรถข้ามไปได้ ยามน้ำน้อย เป็นสำนักงาน หน่วยพิทักษ์ อุทยานแห่งชาติ บ้านมุง
เหมาะสำหรับ ไปเล่นน้ำ ทานอาหาร มีซุ้มขายเครื่องดื่มอยู่ ซุ้มเดียว มีรถไอติม อีก 1 คัน
เราอยู่กันพักใหญ ก็ขับรถกลับสู่ถนนหมายเลข 1295 ย้อนกลับสู่่ตัว ตลาดอำเภอ ขวามือเจอถนนแยก
เข้าไป ไม่บอกว่าไปไหน เลยขับเข้าไป เจอถนน บ้านคนแบบข้างล่างนี้
เหมือนกับที่ มีคนถ่ายแล้วโพสต์ใน เน็ต สวย...ครับ แหะ ๆ เขาถ่ายสวย ส่วนผมเป็นแบบนี้แหละ
ทำเฉพาะ ลดขนาดลง.... สีแสง เลเยอร์ เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ ไม่ครับ อยากให้เห็นของจริง
เวลานั้นเริ่มบ่าย ท้องเริ่มครึ้มไกล ๆ เลยพลอยให้เห็นแบบนี้
|
....
....
เพือนร่วมเที่ยว ดีใจ เจอใบหญ้าเปลี่ยนสี ยังกับ้ไปเห็นของแปลก เลยต้องรีบเบรค
เขาใช้ยา พวกพาราควอตฉีด ฆ่าไว้นะ ไม่ให้มันสูง หุ หุ ให้หญ้าตายจะได้ไม่ต้องใช้มีดหวดให้ราบ
ยาชนิดนี้ จะไป ทำลายเส้นทางเดินของน้ำในใบ ลำต้นของหญ้า ได้ไว ใบเหี่ยว เหลืองทันใจ
แต่มันไม่ทำลายถึง ราก.. ผมเองใช้ที่ ไร่ จันทบุรี เป็นอีกแบบ ถึงรากถึงโคน คุมได้ หลายเดือน
....
...
....
....
....
|
....
....
....
ขับรถ ส่องทางขวามือไปเรื่อย ๆ เป็นภูเขาหินปูน ชาวบ้านปลูกอ้อย เป็นส่วนใหญ่ บางตอน
ปลูกสวนมะม่วง วันที่ไปเป็นวันหยุดในฤดูฝน ไม่มี รถขับสวน หรือขับตามเลย
และแล้วก็ เจอถนน ดินแดง กะดูแล้ว คงไม่มีอะไรมั้ง
เลี้ยวรถกลับซิครับ
ที่ไหนได้....... อ่านแล้วดูภาพต่อนะครับ
ขับรถกลับ มองหาร้านกาแฟ ชื่อดี ๆ ในเวฟ ไม่เจอครับ......ทีมเที่ยว อยากกินกาแฟสด อีก 2 คนอยากจะหา ของฝาก
ประเภทของกิน แห้ง ๆ สำเร็จรูป
ขับย้อนไป สามแยก อ.เนินมะปราง มีบ้านคนสองข้างทาง บ้าง แบบชาวบ้าน สบาย ๆ ท่ามกลางต้นไม้ขนาดกลาง
กับไร่ข้าวโพด กล้วยน้ำว้ามีบ้างแต่น้อย ซ้ายมือเห็น ตึกสูง แปลกกว่าคนอื่น
ตี่ต่างว่าเป็น แลนด์มาร์คแห่ง อ.เนินมะปรางไปก่อนก็แล้วกัน
พวกเราเวลาไปเที่ยวไหน ก็ไปใช้ ไปดูธรรมชาติ ในละแวกนั้นฟรี ๆ แต่ชาวบ้านน่าจะมีส่วนได้ของทรัพยากรนั้นบ้าง
เท่าที่ดูแล้ว คงไม่อาจจะตอบแทนชาวบ้านได้
คือระหว่างที่ไป ไม่มีของขาย ของฝาก ลองขับรถไปสังเกตดู มีร้านขายทองใหญ่ ร้านขายมอเตอร์ไซค์
ขายของโชห่วย แบบชาวบ้าน มีรีสอร์ท อยู่บ้างไม่มากนัก
ชาวบ้าน คงทำการเกษตร ผลไม้ ข้าว อ้อย เป็นหลัก..... ใจผมนึกถึง อ.บางกระทุ่ม จังหวัดเดียวกันนี้
ทำกล้วยน้ำว้า ให้เป็น กล้วยตาก ใคร ๆ ก็ซื้อไปกิน ไปฝาก เป็นล่ำเป็นสัน
ที่นั่นบางบ้าน ทำกล้วยตาก ขาย หักค่าใช้จ่ายแล้ว รับเดือนละ 20,000 กว่าบาท น่าสนใจ
ผมว่า ชาวบ้านทำเงินจากการแปรรูป กล้วยปี หนึ่ง ไม่ใช่น้อย ทั้งทำกล้วยตากด้วยตนเอง ง่าย ๆ และไม่น่าเชื่อ
กล้วยน้ำว้า มะลิอ่องที่ทำกล้วยตาก หรือพันธ์ุอื่น มีไม่พอ
เพื่อน ๆ ที่ทำงานแถว อ.บางกระทุ่ม เล่าว่า ชาวบ้าน และโรงงานกล้วย รับซื้อกล้วย จากอำเภออื่น แม้แต่จังหวัดอื่น
เวลารถพิคอัพ วิ่งเข้าตัวตลาด จะมีคนยืนดักรอ...ซื้อ
เหมือนกันกับครั้งที่ผม ขับรถใส่เงาะไปขาย ที่ตลาดปากทางไป วัดเขาสุกิม จันทบุรี จะมีคนยืนโบกมือ
10 บาทขายเปล่า
ขาย
พี่คนโบกมือ จะกระโดดเกาะท้ายรถ บอกทางให้ไปที่ ซุ้มรับซื้อ
.....
กลับถึง กท. ก็ลองเข้าดูข้อมูล สำนักงานท่องเที่ยว พิษณุโลก ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับ อำเภอนี้หรือเปล่า
หน้าหลักของเวฟเขาจะเน้น ภาพถ่าย ข้าราชการใส่ชุดสีกากี ประชุม หรือยืนต้อนรับ....
บางกลุ่ม พาไปเที่ยว สาว ๆ ฟ้อนรำสวย หรือไปชมไร่ผลไม้ ไม่มีรายละเอียดว่าที่ไหน
แล้วก็สนับสนุน เรื่องกีฬา กับ วัฒนธรรม เยอะหน่อย
เสียดายจัง ส่วนผมไปแล้วก็ เสียดายเหมือนกัน เมื่อกลับถึง กรุงเทพ
เข้าไปดู ในเน็ต พบว่าประชาชน โพสต์ภาพ เกี่ยวกับ อ.เนินมะปรางแบบนี้
ส่วนหนึ่งของ น้ำตกห้วยขุนเทิน มีภาพน้ำเยอะ สวย ร่มรื่น
เป็นปากทางเข้าถ่ำ พระวังแดง ที่ดูใหญ่ น่าสนใจมาก..
นักท่องเที่ยวเดินลงไปในถ่ำ บางช่วงจะกว้าง และเจอ ปลาไม่มีตาแบบข้างล่าง
แสดงว่า เป็นปลาโบราณที่ไม่เห็นแสงมา นานหลายล้านปี ปลาเลยพัฒนา ไม่นัยตาซะเลย หุ หุ
เป็นถ่ำ พระวังแดง อยู่ ต.ชมพู ถ่ำ ระยะทางในถ่ำ 13.50 กิโลเมตร ผนังกว้างบางช่วง 50 - 100 เมตร
ต้องบอกว่าโอโห้.... เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่่าสนใจ
ตามข่าวว่า มีชาวต่างชาติ เดินสำรวจแล้ว ต้องนอนถ่ำ 1 คืน เดิน 2 วัน จึงจะไปโผล่ปากถ่ำอีกภูเขา
คิดดูว่า ถ่ำใหญ่ลึกเพียงใด
จะว่า การท่องเที่ยวพิษณุโลก เขาก็ไม่ได้ เขาอาจจะเผยแพร่ไปแล้ว แต่คนไม่เห็นเองก็ได้
เหมือนผมนี่ไง.... ไปเกือบถึงแล้ว ไม่ได้ไป จุดใหญ่ คือน้ำตก ห้วยขุนเทิน ส่วนถ่ำใหญ่และลึก เพิ่งทราบ
คงจะเหมาะสำหรับ นักท่องเที่ยวที่ใจถึง และจ้างคนนำทาง พาเข้าไปบางส่วน
ผมได้แต่คิดว่า
ถ้า ชาวบ้าน อ.เนินมะปราง มีผลิตภัณฑ์สินค้าการเกษตร ขาย ก็น่าจะดี เขาจะได้รับเงินเต็ม ๆ เช่น
ขนุน อบแห้ง เขาว่า สกัดความชื้นด้วยความเย็นออก ทำให้ขนุนแห้ง รสชาดไม่เปลี่ยน
แตกต่างกับ อบแห้งด้วยลมร้อน
แต่จะทำเช่นไร ข่อย บ่ฮู้ ปรึกษานักวิทยาศาสตร์ ของไทยก็แล้วกัน ข่าวว่า ทำได้อยู่แล้ว
ส่วนเงินทุนที่จะทำเครื่อง สกัดความชื้นด้วยความเย็น ลองนึกถึง กองทุนหมู่บ้านที่ รัฐบาลเขาให้ก็ได้
ผมเองช่วงที่ทำไร่ อ.แก่งหางแมว ที่ประชุมหมู่บ้าน ลงเสียงให้ นำเงินกองทุน ซื้อแม่ปุ๋ยมาผสมขายให้คนในหมู่บ้าน
กำไร งอกงามดีจะตายไป
ผมว่า ถ้าแปรรูป ขนุนที่ขายสด แกะสดขาย ก็ได้ แต่ไม่อาจจะซื้อไปฝาก คนอื่นได้ ทำเป็น ขนุนอบแห้ง
แบบที่เวียตนาม หรือในไทยบางตำบล ขายก็น่าจะขายได้เยอะ
ส่วนมะม่วงอบแห้ง แบบข้างบน ไปพิษณุโลกครั้งนี้ หลานชาย นำมะม่วงอบแห้งมาให้กิน อร่อย
บอกว่าในพิษณุโลก ทำขายได้แล้ว
ที่ อ.เนินมะปราง มีสวนมะม่วงเยอะกว่า อย่างอื่น ถ้าศึกษา การแปรรูป แล้วขาย คงจะได้ราคาดีกว่า
กลัวอย่างเดียว อย่าสาน กระบุงตระกร้าขาย ที่บ้านก็ซื้อมาเยอะมากจนต้องเก็บแขวน
ฝุ่นจับเขรอะ... ต้องนำไป มอบให้วัดพระพยอม ไว้ใส่ผลไม้ ขายนำเงินเข้าวัด
แต่ไม่แน่นะ อาจจะมีคนต้องการซื้อชะลอม ไว้แสดงหนังบ้านทรายทองก็เป็นไป
ส่วนผ้าทอ ลายต่าง ๆ ยังห่อกองไว้ในตู้ น่าจะ 20 กว่าผืน ไม่ได้ใช้หรอกครับ..
เพื่อนคนจีนบอกว่า
ขายของกิงลี อีกิงแล้ว ก็ เข้าส้วม พอหมกก็ กิงอีก ขายไล่ตาหลอก อั๊วรับเงินเนาะ ๆ
เสื้อผ้าขายได้ 1 ชิ้นกว่าจะซื้ออีกก็ หลายเดือน(อันนี้ผมว่าเอง เพราะขายผ้ามาหลายปี)
แต่ถ้าจะให้เงินถึงมือ ชาวบ้านเจ้าของท้องที่ ทำแบบ ตั้งด่าน เก็บเงินแบบ ที่เรา นั่งเครื่องลง
สนามบิน HEHO เมียนม่า นั่งรถตู้ไป ทะเลสาปอินเล มีป้อมยามเก็บตังค์ คนละ 10 U$
ก็ไม่ดีนะครับ มันเกินไป 555
ไปละครับ วันหลังมาเล่า ปนบ่น....บ้างนิดหน่อย
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
end 865,753 |
st.ผู้เข้าชม 863,602 |
= 2,151 คน |
|
งานเขียนประเภท Diarist |
|
พี่ไวน์ใส่รองเท้าเบอร์ใหญ่เท่าฝรั่งเลยครับ
ผมใส่รองเท้าเท่าเบอร์ใหญ่สุดเหมือนกัน
แต่เป็นของเด็กนะครับ 555
รองเท้าที่ดีช่วยได้มกาเวลาเดินเที่ยวจริงๆครับ
โดยเฉพาะการเดินแบบเทรกกิ้ง เดินป่า เดินเขา
ผมว่าถึงแพงแต่ก็คุ้มครับ
ช่วยเซฟข้อเท้าและน่องได้เมากจริงๆ
วิวภูเขาหินปูนสวยมาก
ทำให้นึกถึงกุ้ยหลินครับ
โหวต Diarist ครับพี่