No. 531 บล๊อกประจำวันศุกร์ - อาทิตย์ |
|
เมื่อวาน ตั้งใจจะไปปั่นจักรยาน ออกกำลังกายตอนเย็น แต่ฝนยัง |
ไม่ยอมจากฟ้า เลยต้องม้วนตัวกลับไปหมกอยู่ที่ห้องพัก |
|
วันนี้ออกบ้านเช้ามืด แหงนดูฟ้าแล้ว มีเน่านิด ๆ พอไหว คว้ากระเป๋ากล้องถ่ายรูป |
คล้องไว้ข้างหลังไปปั่นจักรยาน ที่รอบอ่างเก็บน้ำบางพระ คราวนี้มีน้ำอยู่มากกว่า |
กว่าทุกครั้ง |
|
|
|
นึกถึงน้ำที่แห้ง จนน่าใจหาย เช่นเมื่อหลายเดือนก่อน ยังคิดเลยว่า ทำไมหนอ |
ราชการจึงไม่ยอมทำฝนหลวง ทั้งที่มีเมฆอยู่ แสดงว่าความชื้นน่าจะมีพอที่จะทำฝน |
|
|
|
ตอนนั้นยอมรับเลยว่า ไม่ค่อยรู้เรื่องฝนหลวงมากนัก ภายหลังจึงรู้ว่า ถ้ามีความชื้น |
ไม่มากพอ ก็ไม่คุ้มที่จะลงทุนทำฝนหลวง... คราวก่อนก็ได้แต่บนตามประสา คนไทย |
แหะ ๆ ก็คิดดูซิครับ น้ำทะเลแถว อ.ศรีราชาเยอะจะตายไปน่าจะระเหยไปบนฟ้า
ถ่ายภาพคนอื่นมาให้ดูบรรยากาศ ยามเช้า
|
|
วันนี้ค่อนข้างสบายใจ เลยปั่นจากสันอ่าง ย้อนกลับไปหน้าสำนักงานชลประทาน ที่ 9 |
เลยไปทางร้านอาหารป้า ผ่านไร่สับปะรด เขียวชะอุ่ม
ถ่ายติดริมรั้ว แหะ ๆ โมเต็ล ชื่ออะไรไม่รู้ มัวแต่ผลุบเข้าไป .. ที่ไร่นะครับ
หลายสิบปีก่อน ศรีราชา มีพันธุ์สับปะรด ที่หวาน กรอบ อร่อยเรียกกว่า
สับปะรดศรีราชา ที่จริงชื่อพันธุ์ ปัตตาเวีย ปัจจุบันหาไม่ค่อยได้แล้ว
ปกติมาศรีราชาจะ เขัาตลาดสดเทศบาล ซื้อสับปะรดกินราคาปอกแล้ว ครึ่ง ลูกละ 25 บาท
แต่เดี๋ยวนี้ 30 บาทลูกเล็กลง สีก็ซีด..น่าจะไม่ใช่พันธ์ุดั่งเดิม แล้วในไร่ข้างบน
จะใช่หรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน
เลยโค้งที่มีโรงฟักไข่ เห็นทางเล็ก ๆ เลยปั่นจักรยานเข้าไปเห็น ท้องน้ำกว้างใหญ่เลยถ่ายภาพมา
เป็นส่วนหนึ่งของ อ่างเก็บน้ำบางพระ.. สำหรับผลิตน้ำประชา อ.เมืองชลบุรี
แปลกดีครับ.. น้ำอยู่ อ.ศรีราชา. แต่ชาว ศรีราชากลับได้ใช้น้ำจาก อ่างเก็บน้ำหนองค้อ
|
ยังไม่เหนื่อย เร่งสปีดให้เหงื่อออก ไปที่ บริษัทอิสต์วอเตอร์ ผลิตน้ำดิบ ผ่านวัดตโปธาราม แล้วกลับ |
มาทางเดิม ปั่นสวนนักปั่น เจ้าถิ่นที่เคยเห็นหน้ากัน ต่างถิ่นก็มี |
|
ขากลับแวะเข้าตลาดเทศบาลศรีราชา ซ้ำข้าวผัดกุ้ง กล่องละ 40 บาท |
หมูปิ้ง 5 ไม้กับ ข้าวเหนียวจ่ายไป 60 บาทสบายแล้วตอนเช้า |
...........
|
ได้เวลาไป เที่ยว....ขับรถไป อ.บางละมุงแถวตะเคียนเตี้ย ไปทำธุระ |
เสียก่อนนิดหน่อย ไม่ได้มาที่นี่หลายเดือนแล้ว |
เดิมทีตั้งใจจะขับรถ แวะไปเที่ยว บางสะเหร่ สัตหีบ ยอมวิ่งรถอ้อม จะได้คลายเครียด |
แต่แหงนดูฟ้าแล้ว คงไม่เหมาะ เจอฝนแน่ เลยเปลี่ยนเส้นทางไป |
ถนนสายกลาง มีรถวิ่งไปมา ค่อนข้างเยอะ เจอฝนเป็นระยะ |
กว่าจะถึงระยอง เกือบเที่ยง
ขับรถเข้าถนนมุ่งสู่สะพาน เปี่ยมพงษ์สานต์ก่อนถึง สภอ.ระยอง
|
|
กะจะไปกิน ก๊วยเตี๋ยว เส้นปลา เกี๊ยว หรืออะไรพวกนี้ที่ร้าน เจ๊จิ๋ม |
เป็นมื้อเที่ยง เลี้ยวขวาทางไป ปากน้ำระยอง ไปไม่ได้ สพานเปี่ยมพงษ์สานต์ ที่เก่าแก่ |
ถูกปิดกำลังรื้อสร้างใหม่
ภาพสะพานข้างบน ถูกปิดล้อมรั้ว ต้องขับรถย้อนไปเข้าอีกถนน |
เลยเลี้ยวขวาเข้าถนนเล็กมาก น่าจะเรียกว่า ตรอกมากกว่า ถิ่นเดิมครับ เมื่อก่อนเดิน |
ไปเที่ยวบ้านเพื่อนบ่อย ยิ่งขับลึกเข้าไป ดูจะไม่เข้าท่า หาทางเลี้ยวออก
ไปเจอถนน |
สุขุมวิท นึกได้ทางเข้าอีกทาง ต้องผ่านสวนศรีเมือง ใช่เลยต้องขับผ่าน ร.พ.ระยองก่อน |
ขับซิกแซกไปมาหลายตลบ ยังไงก็ไม่หลง เพราะเป็นทางบังคับ
|
โผล่อีกที ก็ใกล้ร้านเจ๊จิ๋ม ปลาลวกจิ้ม ที่จอดรถสบาย เพราะคนไม่รู้ทางกันเยอะ |
กินพวก เส้นปลา 3 ชาม หมูสะเต๊ะ 2 ชุดกับน้ำดำ 1 ขวด |
อร่อย.. เหมือนเดิมค่าเสียหาย 315 บาทเอง... คุ้มค่าจากการขับรถไป 100 กม.เอง 555 |
|
ไปเที่ยวปากน้ำระยอง ถิ่นที่เคยตกปลา มือเปล่าไม่มีคันเบ็ด ใช้เอ็นกับตะกั่วเหวี่ยงไป |
ไกลในทะเล ที่อยู่ ๆ ก็ลึก บ๋อมลงไปเลย ครั้งเมื่อทำงานที่ระยอง
|
วันนั้นจำได้ดีเลย เหวี่ยงไป 3 ครั้งเอง.. ต้องเย่อ กับปลาฉลาม ถุงมือก็ไม่มี |
เอ็นบาดมือ ฉลาดมันสบัด กว่าครึ่ง ชม.ได้มั้ง ปลาฉลามยอมแพ้มือเปล่า |
อิ อิ ลูกปลาสู้เต็มที่ ตัวแค่ข้อมือ เด็กเอง...
ข้างเป็นภาพแทนนะครับ ตัวเล็กว่านี้ 4 เท่า
|
กลับไปห้องพักที่บริษัท ข้างโรงหนังเทศบันเทิง ใช้ทิงเจอร์ราด แสบสุด ๆ |
|
โม้เรื่องเก่าซะนาน..ขับรถไปทางหาดแสงจันทร์ ใกล้บ้านบล๊อกเกอร์สาว กับหนุ่มท้วม ๆ |
แต่ไม่ได้ไปหาหรอกครับ แหะ ๆ ไม่รู้จักบ้าน ขับออกสู่สุขุมวิท เลี้ยวขวากลับเข้าเมือง |
ระยองใหม่ มุ่งไปโน่นครับ บ้านเพ..
แวะเข้าศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ทะเล เพ ว่าจะแวะหลายครั้งแต่ไม่ได้แวะ วันนี้เลยแวะดู
เห็นไอติม รถสามล้อ เลยแวะกินถ้วยละ 20 บาท รสชาดพอไหว แต่อร่อยสู้ ที่ มหาชัยไม่ได้
ขับรถไป ไม่ไกลกะจะไป บนเขาตรงที่มีรีสอร์ทใหญ่.. แต่ไม่แวะสู้ไปตรงนี้ไม่ได้ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
ก่อนเข้า ต้องหยุดผ่าน เสียค่าธรรมเนียม อุทยานนี่ก่อน คนละ 40 บาทเอง
ระหว่างยืนรอ ส.ว.คนหน้า เข้าไปจ่ายเงินก่อน. จนท.มองหน้าเลย ขอดูบัตร ปชช
ส.ว.อายุ 60 ปีไม่ต้องเสีย เสียแต่ค่า นำรถยนต์เข้าครับ
ป้า..เขาก็บ่นนิด ๆ แหม..น่าจะให้เข้าฟรีเหมือนกัน จนท.อมยิ้ม
พอดี รถยนต์อายุยังไม่ถึง 60 ปี..เลยต้องเสีย 30 บาทครับ 555
.....
ภาพหินข้างบน คล้ายกับไม้ แต่ไม่ใช่ เป็นหินที่อัดแน่นหลายล้านปี
ทะเล กับภูมิประเทศสวย... เลยพบ ว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว 3 คู่มาถ่ายภาพ
ทีมถ่ายภาพ แต่ละทีมหลายคน เพราะต้องถือปลายกระโปรงที่ยาว
ตอนเจ้าสาวเคลื่อนตัวด้วยความลำบาก แหะ ๆ เจอสาวเจ้า
อวบระยะสุดท้ายทั้งนั้นเลย เจ้าบ่าว ช่างผอมซะจริง
ผมเลยหยุดดู พวกเขาพักใหญ่
....
นักท่องเที่ยวอื่นก็มีนะครับ
อีกทีมอยู่หลายแหลม เป็นหนุ่มสาว หอบครุย มาถ่ายภาพ
เป็นบัณฑิต แถวท่าพระจันทร์
....
ระยะทางไม่ไกลเลย แค่ 600 เมตร
....
สังเกต หินขวามือ จะเป็นรอยพรุน เป็นหินภูเขาไฟ
....
ภาพข้างบน ก้อนเท่าฝ่ามือ ไม่โต เป็นรูปคล้าย รอยตีนเสือข้างซ้าย แต่คงไม่ใช่
น่าจะเป็นรอย น้ำกัดเซาะ
...
...
...
ภาพข้างบน เป็นหินสีออกชมภู ปนแดง สวยแปลกดี
...
...
...
กลับมาที่รถ เจอทีมถ่าย พรีเวดดิ้ง คราวนี้ เจ้าสาวสวย เจ้าบ่าวหล่อ
ทีมถ่ายเขา รอแดด คงจะให้แดดคล้อยลงนิด ภาพจะได้ออกมาสวย คู่นี้เป็น คนทำงานที่ระยอง
ส่วนเจ้าบ่าวเป็น ตำรวจ แหะ ๆ แอบได้ยินเขามา
ระหว่างที่เดินไป สังเกตุ เห็นก้อนหิน คล้ายกับ ต้นไม้ที่กลายเป็นหิน..แต่ไม่ใช่ กลับมาลองเข้าไปดู
เรื่องการเกิด เกาะแก้วพิศดาร หรือ เกาะเสม็ดเสร็จทุกราย เกิดจากภูเขาไฟ หินที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ของระยอง
ตรงเขาแหลมหญ้า เป็นแมกซ์ม่า ปูดขึ้นมา บางจุดจะเป็นหินถูกบดอัดเป็นแผ่น
คนไทย หัวแหลมรู้ว่า หินพวกนี้มีแร่ธาตุเป็นประโยชน์กับ ต้นไม้ เลยนำมาป่น ใส่ถุงขาย เรียกว่า
ภูไมค์ เขานำมาปรับปรุงดิน ทำให้ต้นไม้งอกงาม ข่าวว่าเขานำมาจาก ภาคอิสาณนะครับ
แต่ภาพข้างบน น่าจะมีแร่ธาตุปนอยู่หลายชนิด... เมื่อก่อนทำงานอยู่กับบริษัทที่ขาย เตาบาร์บีคิวจากต่างประเทศ
เขานำมาขาย พร้อมกับ หินภูเขาไฟ เป็นก้อนไม่โต เขานำมาวางไว้บนเตาแก๊ส แล้วจุดไฟ
พอไฟติด หินจะดูดซับ ควันที่เกิดจาก เนื้อถูกความร้อน เกิดน้ำมันหยด ปกติจะเกิดควัน แต่เมื่อนำหินภูเขาไฟวางลง
มันจะลดควันได้ดี เขากลัวคาร์บอน เวลาจับเนื้อแล้วเกิดมะเร็งนะครับ... ผมก็จำขี้ปากเซลล์อีกต่อ
ผมยก เรืองหินภูเขาไฟมา มีประโยชน์หลายอย่าง แล้วแต่คนจะนำไปใช้
ระหว่างที่เดินไป ผมถ่ายภาพไว้เยอะ เพราะสีมันสวย รวมทั้งลวดลาย แค่นั้นเอง
อยู่ที่เขาแหลมหญ้า มองไปเกาะเสม็ด ห่างกันเพียง 2.5 กิโลเมตรเอง เพียงแต่อยู่ด้านหลัง
น้ำลึกไม่มีหาดทราย มีแต่หิน และเขาสูง ไม่เหมาะอยู่อาศัย
เหมือนอีกด้านที่ นักท่องเที่ยวจาก ฝั่งบ้านเพ มีหาดทรายสวยงาม แต่ระยะทางตั้ง 6.5 กิโลเมตร
ดูนาฬิกาแล้ว น่าจะเดินทางกลับ ฟ้าเริ่มเน่าอีกแล้ว เลยขับกลับ ด้านหาด แม่รำพึง
ผ่านระยองนอกเมือง ฝนตก เป็นระยะ
|
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
หินที่อยู่ริมทะเล สีแปลก สวยดีจริง ๆ ด้วยค่ะพี่ไวน์