์No. 566 ถูกหลอก... ดีเหมือนกัน ? แหะ ๆ
No. 567 บล๊อกประจำวัน ศุกร์ - อาทิตย์
|
| | หลังจากรับประทานอาหารเย็น รสชาดโอเค พอไหว คือธรรมดามาก ๆ | ภัตตาคารที่นั่น รับคนได้เยอะ โต๊ะเกือบเต็ม มีเสียงเพลงเปิดคลอ ด้วยไพเราะดี | เป็นเพลงสากล ดีเจคงจะดูแขกที่มานั่ง เป็นฝรั่งผิวขาว คนไทย เกาหลี อายุ 40 อัพเลยเปิดเพลงที่คุ้นเคย | ไพเราะมาก มองออกไปข้างนอก เห็นสายน้ำซองไหล | เลยปลีกตัวออกมา ที่สวนหย่อม กำลังดูเพลินมา สะดุดตา
คำว่า บ่อน แหะ ๆ พวกเราชิน คำว่า บ่อนประตูน้ำ บ่อนวิ่งนี่นา เลยขำนิดๆ เรื่องของภาษาลาวกับไทย
|
| | ท้าวอึ่ง โชเฟอร์พาเรากลับ ไปส่งที่โรงแรม ใครจะเดินเที่ยวแถวนั้นได้เลย เป็นเมืองเล็ก ๆ น่าจะ | เล็กกว่า อ.ปาย มีบาร์เปิดเพลง นักท่องเที่ยวฝรั่งนั่งดื่ม | ผมเดินท่อม ๆ คนเดียว คนอื่น คงจะเหนื่อย เดินผ่านร้านค้าที่ขายเหล้า บุหรีกับอย่างอื่นสำหรับนักท่องเที่ยว | ที่นี่แหละครับ ซื้อซิมเล่นเน็ตได้อย่างเดียว 7 วันของลาวราคา 170 บาทไทย | แรงใช้ได้... ส่วนโทรได้หรือโทรไม่ได้ไม่สำคัญ ใช้พูดผ่านไลน์ก็ได้ แม้จะเสียงขาด ๆ หายไปบ้าง | | วังเวียงตอนกลางคืนที่ ขึ้นหน้าขึ้นตา คงจะเป็นบาร์ เปิดไฟสลัว ลูกค้านั่งดื่ม ฟังเพลงเบา ๆ กัน | กับอีกอย่าง ก็ คือ พวกแพนเค็ก แบบลาวครับ คือโรตีทำกันใหม่ ๆ ใส่ ไข่ แตง กล้วยหอม กล้วยอื่น | ราคาไม่แพงเท่าใด 45 บาทหรือ หมื่นกีบ
| |
| | ถ้าเป็นเบอเกอร์หรือแซนด์วิซ 90 บาทบางชนิด200 กว่าบาท บางชนิดขาย 60,000 กีบ ควรถามก่อน
เท่าที่คุยกับคนลาว เขาบอกว่า | ชาวบ้านซื้อกินไม่ค่อยได้. เขาว่า หมู เนื้อ ไก่ นำเข้าจากไทย กับจีน เจอภาษีแพง | ผมลองเข้าไปเช็คอัตราภาษี นำเข้าของลาว ก็ไม่ได้แพงอะไร น่าจะนะครับ ว่า ฝรั่ง คนไทย เกาหลี จีน | ฐานะดีกว่า เขาเลยตั้งราคาขายไว้สูง
| อัตราค่าแรงงานขั้นต่ำ ประมาณ 93 บาท ก็ตกประมาณเดือนละ 2,500 กว่าบาทไม่ถึง 3,000 บาท | คนลาวเล่าว่า ชาวบ้านจะปลูกผัก เลี้ยงไก่ จับปลา มาทำอาหารกิน จึงจะอยู่ได้ | | คืนนั้นผมกลับถึงห้องพัก อุ่นดีหน่อย แต่ตอนนั่งเรือหางยาวไปกลับ 10 กว่า กิโลเมตรมันเหนียวตัว | ก็อาบน้ำซิครับ |
| แต่งตัว เช็คดูเฟชบุค กับ บล๊อกแก๊ง เห็นเพื่อนเข้าไปเยี่ยมหลายคน เข้าเน็ตด้วยมือถือ แล้วใช้โปรแกรม | ฮอตสปอต พ่วงกับโน๊ตบุคแทน wifi ของโรงแรม เพราะไม่ได้เรื่อง แหะ ๆ ขอบ่นหน่อย | แต่อย่างว่า โรงแรมสอาด ตามมาตรฐาน ทั่วไป ลองเช็คราคา 3,000 กว่าบาท แต่มีส่วนลด แล้วประมาณ | 1,500 กว่าบาท ก็โอเค รวมอาหารเช้าด้วย.... ปิดไฟนอนหลับสบาย | | ตื่นมาอีกเช้า เดินลงไปถ่ายภาพ มุมอื่นของโรงแรม ก่อนที่คนจะลงไป ทานอาหารเช้า |
....
...
นั่งกินอาหารเช้า เมนูสากล พวกใส้กรอก ขนมปัง ฯ กะว่าจะไปนั่งระเบียงด้านนอกที่เปิดโล่ง แต่ไม่ทัน มีคนจองก่อน
| วันนี้นางตุ๊กติ๊ก แนะนำว่าใส่กางเกงขาสั้นดีกว่า จะต้อง พายเรือคยัค ของที่กันน้ำไม่ได้ ไม่ควรเอาไป | หลังจากพวกเรากินอาหารเช้าที่โรงแรม ก็รีบขึ้นรถ สองแถว เตรียมตัวเปียก | หนาว.... จะไหวเหรอ.... นั่นซิ มีพายเรือ แล้ว ก็นั่งยางเข้าถ่ำอีก
| | นั่งรถแบบ สองแถวแน่นอนเบาะ มีพลาสติกหุ้มกันน้ำเข้าเบาะ
ไปได้ครู่เดียว พวกเราบ่น หรือปรารภว่า | ไม่เห็นตลาดแบบลาวเลย... ผมกับเพื่อนป๋อง เงียบ อมยิ้มไม่ว่าอะไร | ตุ๊กติ๊ก ไกด์สาวเลยบอกให้โชเฟอร์รถพาไป ตลาดสด แต่อีกแห่ง ดีเหมือนกันจะได้ดูว่าแตกต่างกว่าที่เราไป
| |
ไม้ฟืนที่เขาขาย ลาวเรียกอะไรไม่รู้ แต่ถ้า เชียงใหม่เรียกว่า ไม้เกี๊ยะ เป็นไม้สนมีน้ำมันอยู่ในตัว
เขาเจียกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จุดไฟติดง่าย แล้วแหย่ใส่ กองฟืนใหญ่ แทนขี้
แทงขี้ใต้... แสดงว่า ชาวลาว บางส่วนยังใช้ฟืน หรือถ่านไม้อยู่
.... ลูกอะไรใครรู้จักบ้าง...
ผลไม้ ลูกสีเทา อมม่วงนี้ ไม่เห็นมานานมาก คือเห็นที่เชียงใหม่ตอนเป็น เด็ก จะมีชื่อเรียกว่า
มะก๊อแกง คนขายจะไปเก็บจากป่า มาต้ม เราก็ใช้แทะกิน เปลือกนอกนุ่ม รสหวาน มัน เค็ม ข้างในเป็นเม็ดกลมแข็งกินไม่ได้
แต่ที่ลาวไม่รู้ว่าเขาเรียกว่า อะไร กลับมา ลองนำภาพไป เข้ากูเกิ้ล หาเปรียบเทียบ
ดันบอกว่า บลูเบอรี่ ผมว่าไม่ใช่หรอก.. คือ รูปภาพเรามันเล็กเกินไป
ข้างล่าง คงเรียกว่า ขนมครก มีอะไรไม่รู้หยอดไว้ด้านหน้า แทนใบหอมซอย
.....
มีมันเทศหัวยาว ๆ ขาย แต่คงไม่ใช่พันธ์ญี่ปุ่นที่ แพง อร่อย
ข้างบน เป็นหวด ไม้สำหรับ นึ่งข้าวเหนียว นึกได้ตอนนี้เลยว่า ไปลาว ไม่ได้กินข้าวเหนียวเลย
ผลไม้ มะม่วง สอบถามแล้ว มาจาก ไทย แพง
ข้างบน เม็ดเล็ก เป็นพวง ที่เชียงใหม่เรียกว่า มะแคว่น เป็นเครื่องเทศ นำมาคั่วแล้วโขลกใส่
น้ำแกง หอม
ข้างบน เป็นต้น ผักกาดกวางตุ้ง ต้นเล็กมีดอก ที่เชียงใหม่เรียกกว่า ผักกาดจ้อน
หมายถึง ผักกาดแคระแกรน เหมือนม้าบักจ้อน 555
เรามาตลาดเช้า เกือบสาย ตอนเกือบ 8 โมงเช้า ตลาดเกือบวายไปแล้ว
ข้างบน มีสาหร่ายเขียว กองโตขายด้วย... เป็นสาหร่ายที่อยู่ได้ในน้ำสะอาด หรือน้ำไหล ที่เชียงใหม่เขากินกัน โดยนำมายำ ใส่น้ำพริก ใส่ปูนาต้ม ปลาร้า มะเขือขื่น น้ำแฉะ ๆ
อาหารชนิดที่ว่า ไม่ค่อยกล้ากิน คือเละ ๆ เขียว กลัว 555
แต่ คุณ Moresaw เพื่อนบล๊อกเกอร์ ถามว่า ได้กิน ไคแผ่น หรือเปล่า ชักเอะใจ อะไรหว่า
เลยเข้าไปดูในกูเกิ้ล... ปรากฏว่า คนลาวเขาทำความสอาดสาหร่าย ไปตากเป็นแผ่น
แล้วโรยด้วย งาขาว ผสมน้ำปรุงรส แล้วนำไปทอดมา กิน
เสียดายจัง พวกเราน่าจะไปหาซื้อมากินด้วย... สันนิษฐานว่า "ไค" น่าจะมาคำว่า
ตะใคร่ (น้ำ)
เห็นภาพ แล้วน่ากิน .. ก็พวกเราเคยกิน สาหร่ายแผ่นจากจีนมาแล้ว มีแต่เค็ม ๆ ก็ยังกิน
บางครั้งเจอ ทรายปนด้วย 555 แต่ที่ ลาว น่าจะทำสะอาดกว่านะ
ข้างบนเม็ดอะไรไม่รู้ แม่ค้าบอกว่า กก.ละ 200 บาทเป็นของหายาก
เห็นเสื้อกันหนาว มียี่ห้อดังด้วย น่าจะเป็นของปลอมจากจีน นำมาขาย
ต่อจากนั้น รถสองแถวก็พาเรานั่งไป ครึ่ง ชม.. กว่า มุ่งไปทาง หลวงพระบาง ถนนหมายเลข 13
ภาพข้างล่างมองจาก บนสะพานจะเห็นเต็นท์ที่ จัดงานแต่งงานคนในหมู่บ้าน
รถไปจอดริมหาดทราย ริมน้ำซอง ไกด์บอกว่า พวกเราจะต้องเดินจากรถไป ลอยน้ำเข้าถ่ำ
ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ไปกลับประมาณ 14 กม.. ปรากฏว่า ส.ว. 4 คนขออยู่
ริมชายน้ำ... ส่วนผมเหรอ... เดินซิครับ เรื่องเล็กมาก ระยะทางแค่นี้
แหะ ๆ คุยซะหน่อย
เดินบนสะพานไม้ ข้ามแม่น้ำซอง แหะ ๆ คือถึง แม่ซองเบอร์ 9 ขึ้นมาทีนที แม่ซอง
มาเที่ยวก่อนผมครับ
แต่พอข้ามไปฝั่งโน้น เห็นเต๊นท์กางเต็ม มีโต๊ะจีนปูผ้าแดง ดูแล้วคงผ่านงานเมื่อคืน
แต่เห็น จาน ชาม หม้อข้าว กระถังน้ำแข็ง คว่ำตากแดด
นึกถึง โต๊ะจีน ราคาถูก แถวรอบ ๆ กรุงเทพ บางรายอาจจะตากกับพื้นเหมือนกัน
เอื๊อก ๆ .... ไม่ไหวมั้ง
เราเดินตามกันไปเรื่อย ๆ ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ผ่านทุ่งนาที่แห้ง
ระหว่างทาง เห็นเด็กน่ารัก โบกมือให้ .... น่ารักมาก เลยเข้าไปจับมือเล็ก ๆ เล่น เลย
ถือโอกาสถ่ายภาพมาให้ดู น่าจะเป็นเด็กลาว ผสมเวียตนาม
เนื้อที่ บริเวณบ้านกว้างนะครับ แต่เขาปลูกต้นหอมใส่กะบะไว้ข้างบน มี
ตาข่ายกัน ไก่ จิกกิน
มีข้าวโพดนึ่ง ขายด้วย ดูแล้วเป็นข้าวโพดที่ปลูกแถวนั้น สด คงจะหวานดี
บ้านบางหลัง สวย ดูใหญ่โต อยู่สบาย
..
เลยหมู่บ้าน ก็ลัดเลาะไปตาม คันนาที่แห้ง อากาศเย็นค่อนข้างหนาว
ขนาดเดินไปนะครับ คิดเลยว่า จะลงลอยน้้ำดีไม่ดี 555
เราเดินใกล้ ภูเขา ก็เจอสายน้ำไหลเคียงทางเดิน ใส....
ข้างบน เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีศาลา ที่นั่งสำหรับ นักท่องเที่ยว มีอาหารวางไว้ให้คนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์
ทั้งฝรั่ง เกาหลี จีน และไทย
มองไปข้างหน้าเลย ลำน้ำ มีคนหย่อนตัวห้อยมาตาม สลิง... ดูท่าทางจะสนุก ปนเสียว
ไม่สูงมาก น่าจะสูงประมาณ 20 เมตร
...
ผมยืนดู คนทะยอยลงน้ำ บางคน นำเท้าแหย่น้ำ แล้ว เบ้หน้า.... ไม่เอา หนาว 555
แต่ส่วนใหญ่ ลง
ผมยืนถ่ายภาพ มาให้บล๊อกเกอร์หนุ่ม ๆ ดู เห็นบ่นว่า ไม่เห็น ขาขาว
ๆ บ้างเลย 555 เลยเอาใจพวกเขาหน่อย
...
พวกเราที่ไป ลงลอยน้ำทุกคนแหละครับ ยกเว้นผม แหะ ๆ เปล่ากลัวหนาว กลัวเปียกน้ำ
กล้อง มันแพง
ข้างบน เป็นชาว จีนมากว่า ส่งเสียงดังเจี้๊ยว... แต่ยังดี ทะยอยลงตาม
ลำดับ ใจนึกถึง ภูเขาที่เดินผ่านมา
ผมยืนอยู่ที่นั่น ชั่วโมงกว่า เมื่อย เลยไปยืนพิงศาลา ดู ฝรั่งผิวขาว ลง
น้ำเปียก หนาว
ไกด์ก่อกองไฟกองโตให้ผิง น่าดูมาก แต่เสียใจ ไม่กล้าถ่ายภาพมา
เกือบ 2 ชม...ที่อยู่ที่นั่น กลับเดินเท้ากลับไปสู่ลำน้ำซอง
ปกติผมไม่ค่อยกล้าถ่ายภาพ ตรง ๆ ต่อหน้าคนเดินไปเดินมา แต่คราวนี้ ผมยืนถือกล้องส่องเล็ง
ไว้นาน นักท่องเที่ยว เขาเดินอมยิ้ม ผมเลยกล้ากดแชะมา
แต่ที่รู้แน่ นางตุ๊กติ๊ก บอกระยะทางไป 7 กิโลเมตร บอกเว่อไป ผมกะดูแล้วไม่ไกล
ไปกลับน่าจะไม่เกิน 5 กิโลเมตร
แล้วที่ นางจะพาไปอีก.4 แห่ง.. คงสบาย ๆ มั้ง อันนี้ไม่แน่ใจซะแล้ว
แล้วบอกว่า จะมีอาหารกลางวัน อร่อยด้วยนะคะ....
ไม่ลองก็ไม่รู้ ...ไว้ตอนหน้า..
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อ
end 785,529 st.visit 783,596
1,933 คน
งานเขียนประเภท Diary
Create Date : 10 มีนาคม 2560 |
Last Update : 14 มีนาคม 2560 11:14:43 น. |
|
26 comments
|
Counter : 2033 Pageviews. |
|
|
ยังไม่เคยไปลาวลึกๆเลยคะ..
อยู่แค่ช่องแม็กเท่านั้น..
โหวตให้ล่ะ