No. 536 บล๊อกประจำวัน จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
|
พวกเราลงรถบัสคันเดิม ร่ำลาโชเฟอร์ชาวมอสโคว ขอบใจที่ |
ขับรถดีมาก แม้ใบหน้าจะไม่ยิ้มเลย แต่กิริยากายเขาแสดงออกว่า มีความเป็นมิตร |
เขาคุ้นเคยกับการให้บริการ |
มีน้ำพริกตาแดง กับน้ำพริกนรกเหลือ ไกด์ไทยเตรียมไว้ให้ลูกทัวร์ |
อยู่ครึ่งกระปุกพลาสติกเล็ก เหลือจากที่พวกเราควักกิน ตอนร้านอาหารจีนในมอสโควอยู่ |
ไกด์ไทยถามโชเฟอร์ว่า จะมอบให้จะรับหรือไม่
|
โชเฟอร์ รีบ ยืนมือรับไป ตอบว่า สปาชิบะ (ขอบคุณ).. แววตา แสดงออกว่า "ชอบ" |
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ไกด์บอกว่าเขาคุ้นเคย กับคนไทย และน้ำพริก เขาตัก |
กินน้ำพริก ยามที่ไกด์กับโชเฟอร์นั่งกินอาหารแยกจากพวกเรา |
|
อ้อ..ที่รัสเซียเรื่องเงินทิป เป็นเรื่องสำคัญ เราจะมอบเงินดอลล่าร์ให้ ทีมงานไกด์ |
กับโชเฟอร์ก่อนจากกัน มีไกด์ไทย 1 คนไกด์รัสเซีย 2 |
กับโชเฟอร์ 2 คน.. เราจ่ายรวมคนละ 43 U$ เอา 18 คนคูณ ไกด์ไทยนำไปแบ่งแต่ละคน |
ผมว่าคุ้มครับ เขาบริการดี แม้จะไม่ยิ้มก็ตามเถอะ... |
|
เรากำลังไป เมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก.. ระยะทางประมาณ 800 กม.เท่านั้นเอง |
เรานั่งรถไฮสปีดเทรน เราขนกระเป๋าจากรถบัสเข้าสู่สถานีรถไฟด้วยตนเอง |
ตัวสถานีก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก
|
ไกด์นำเอกสารตั๋วแจก แต่ละคน แล้วก็พาพวกเราเข้าสู่สถานี ไม่ยากเลยเพราะเป็น |
สายภายในประเทศ รถไฟ แสบสัน แหะ ๆ เขาเขียนว่า |
SAPSAN EXPESS TRAIN
ไกด์หญิงชาวมอสโคว ผมสีน้ำตาล เสื้อแดง มาส่งพวกเราที่รถไฟ ยังถือไม้นำทาง
รูปมิกกี้เม้าส์ กันพวกเรา หลงฝูง... ก็ผู้คนเยอะจริง ๆ
|
รถไฟจะออกเดินทาง 14.10 ยืนรอที่ชานชลา ครู่เดียวขบวนที่ไป |
ก็ค่อย ๆ แล่นเข้าเทียบสถานี
เสียงไม่ดังเท่าใด น่าจะเป็นขบวนใหม่ที่พัฒนาแล้ว |
หิ้วกระเป๋า ยืนทิ๊กเก็ตให้เขาดู แล้วก็เดินเข้าภายในตู้ ตามหมายเลขที่นั่งไว้ |
ดูแล้วสบายดี หันหน้าชนกัน 4 คน ผมเจอคนรัสเซีย 2 คนกับคนชาติอื่น ดูแล้วสุภาพ
ภาพข้างล่าง ผมรีบถ่ายก่อน ผู้โดยสารคนอื่นจะมานั่ง จนเต็ม
|
|
เจอนักท่องเที่ยวจีนอยู่บ้างแต่ไม่มาก
|
นั่งมองข้างทางไปเรื่อย ๆ มีบ้านคนเป็นหลัง เหมือนกัน แต่ถ่ายไม่ทันครับ รถไฟ |
ใช้ความเร็ว 196 - 200 กว่า กม/ชม.นิด ๆ เป็นส่วนใหญ่ |
มิเตอร์ความเร็ว อยู่ เหนือทางเดิน
|
|
ระยะที่เที่ยวอยู่ในมอสโคว ไม่ค่อยเห็นบ้านคนเป็นหลัง ๆ มีแต่อยู่อพาทเม้นท์สูง ๆ |
กันเป็นส่วนใหญ่ |
พอเห็นบ้านคน อยู่เรียงราย ห่าง ๆ ข้างทางรถไฟ อยู่บ้าง สวยดีครับ นึกสงสัยว่า |
เอ..คนรัสเซียมีบ้านตนเองด้วย ที่ผ่านมา พวกเขาอยู่ในระบอบคอมมิวนิสต์นาน |
หลายปี ไม่มีที่ดิน หรือบ้านส่วนตัว เพราะถูกยึดเป็นของรัฐ หมด |
|
เรียกว่า คนรัสเซีย ต้องอยู่ อาคารใหญ่ ๆ กัน บางช่วงปี มีการแบ่งปันขนมปังด้วย |
กลับมาที่ไทย เลยเข้าไปหาข้อมูล
|
มิคาอิล กอร์บาชอฟ เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนาน.. ได้ ผ่อนคลายสื่อต่าง ๆ เยอะขึ้น |
แต่ก็รอดพ้นจาก การปฏิวัติ ได้ คงทำงานอยู่ระยะหนึ่ง ก็ถูกบีบให้ลาออก |
|
บอริส เยลต์ซิน ประกาศยกเลิกระบอบคอมมิวนิสต์ เมื่อธันวาคม 2534 -2535
|
สหภาพโซเวียต ได้ล่มสลาย แยกเป็นหลายประเทศ แต่ รัฐบาลตอนนั้น ยังคงเหนียว |
แน่นตั้งเป็น สหพันธ์รัฐรัสเซีย มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 1 |
โดยมี บอริส เยลต์ซิน ได้เป็นประธานาธิบดี |
ผู้นำหลายคนได้ เปิดประเทศกว้างขึ้น มีการผ่อนคลายหลายประการ แต่ฐานะการเงิน |
ของรัสเซียยังไม่ดีขึ้นเท่าใด |
คนรัสเซียไม่อาจจะนำเงิน ไปลงทุนต่างประเทศได้ การจับจ่ายซื้อของก็ไม่ค่อยมี |
คนมีเงินก็เก็บเงินไว้ รัฐบาลก็ตายซิครับ จะหาเงินภาษีมาจากไหน เลยมีนโนบาย จัดแบ่ง |
ที่ดินให้คนอยู่อาศัย ใครจะปลูกบ้านก็ปลูก แต่ต้องเข้าหลักเกณท์เขา
|
คนรัสเซียทนอุดอู้ในแฟลตที่มีเงินเหลือใช้ ก็เบื่อ เลยไปปลูกบ้านหลังที่สอง แถว |
นอกเมือง วันเสาร์อาทิตย์ก็ออกไปอยู่ บ้านนอก ปลูกผักปลูกอะไร |
มีความสุขพอประมาณ รัฐบาลก็ เก็บภาษีจากการขายวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งเปิดประเทศ |
ขายส่งแก๊ส ถ่านหิน นำเงินเข้าประเทศ |
แต่อย่างว่า รัสเซีย บทจะหนาว ก็หนาวเหลือเกิน คนมีบ้านที่รอบนอกเมืองก็จะอยู่ |
ในฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ร่วง |
บ้านแต่ละหลังสวยนะครับ มีบ้านหลังเล็ก ๆ ใส่กระจกด้วย
|
นั่งมอง ไปที่ความเร็วของรถ โชว์ไว้เหนือช่องทางเดิน
|
นั่งฟัง มันจะมีเสียงดังถึงก็ชั่ง ไม่ถึงก็ชั่งหรือเปล่า หนอ ไม่มีครับ 555 |
แสดงว่าเขาวางรางได้ดี น่าจะกว้างกว่าด้วย มีเสียงดังประมาณนั่งรถพิคอัพไทย |
ใหม่ ของไทยเท่านั้นเอง คือ เก็บเสียง หรือป้องกันเสียงเข้า ได้ดีเลย |
เวลารถจอดแต่ละสถานี ขวดน้ำที่ผมตั้งไว้บนโต๊ะกลาง ไม่ล้ม |
เขาน่าจะใช้ระบบเบรค ABS คือนิ่มนวล หรือมีระบบที่ทันสมัยสำหรับรถที่วิ่งบนรางเหล็ก
ก่อนขึันรถไฟ ไกด์แจกอาหารกล่องไว้ล่วงหน้า กลัวจะหิว ให้กินรองท้อง
ผมคิดในใจทาง ลบ.. เพราะความเคยชินว่า
รถไฟความเร็วสูง จะเสียเวลา แบบรถไฟประเทศหนึ่ง แหะ ๆ
เผลอกินไปจนหมด แล้วนึกได้ว่า ไปถึงที่แล้ว จะต้องเข้าร้านอาหารจีน พุงครากแน่เลย
|
สุดยอดครับ นั่งเพลิน ใช้เวลาเดินทางถึง เมือง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กประมาณ 4 ชม..ได้มั้ง |
ชักติดใจ กลับไทยเลยเข้าเช็คข้อมูล ค่าโดยสารรถ 99 U$ |
|
นับว่ารัสเซียเขาพยายามพัฒนารถไฟ ด้านความเร็ว ได้ดี แต่บางช่วงเวลา |
ระบบที่พัฒนาก็ยังสู้ประเทศอื่นไม่ได้ ก็จ๋อยไป แต่เขายังมีความพยายามหลายครั้ง |
ดีตรง เขาไม่อนุรักษ์ "ความช้า" แบบที่ไหนไม่รู้ซิครับ |
|
เพื่อนที่จะบินจาก มอสโคว ไป เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ก็ได้นะครับ 1 ชม.20 นาที |
ค่าโดยสาร ประมาณ 750 บาทเอง ถูกกว่าไป รถไฟความเร็วสูง |
|
เราถึงเมือง St.Petersburg เย็นมากแล้ว ขึ้นรถบัสคันโตเหมือนเดิม โชว์เฟอร์คนใหม่ |
ไกด์สาว คนใหม่ พูดเก่ง เห็นมีแววตาที่เจือยิ้ม รู้สึกเลยว่า ไกด์คนนี้น่ารัก มีเซอร์วิสมายด์ |
รถพาไปดู แสงไฟของอาคาร ของตัวเมืองที่สวย |
เขาบอกว่า ถนนสายนี้เป็นสายหลัก ที่โชว์แสงไฟ ใคร ๆ ก็มาดูความสวยงามยากค่ำคืน |
....
ภาพข้างบน เป็นอาคาร ข้างร้านอาหารจีน ที่เรากินตอนกลางคืน
รถพาเขา ไปตามถนนต่าง ๆ แล้วก็ไปหยุดรอ ตรงทางขึ้น ทางเข้าโรงแรมนี้
เป็นโรงแรมที่ใหญ่ พอดู.. รถเรารอ รถคันอื่น ส่งแขก เดินเข้าล๊อบบี้ก่อน มีหลายคัน
พักใหญ่รถก็พา ไปจอดหน้าโรงแรม ลงจากรถ หนาว...มาก
รับกระเป๋าแล้วก็ลาก เข้าไปรอข้างใน
ไกด์ยืน แจก คีย์การ์ดห้องแต่ละคน เห็นเขาเรียก ชื่อผม ก็เข้าไปรับ
เธอหัวเราะกี๊ก.. ไม่ใช่คะ ชื่อเดียวกัน พี่ไมตรี รอเดี๋ยวนะคะ
ไม่น่าเชื่อ ชื่อที่ไม่ค่อยมีคนตั้ง ดันซ้ำกัน
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
|
end 732,948 |
|
st. visit บล๊อก 730,888 |
2,060
งานเขียนประเภท Diarist |
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
การรับรู้ข่าวสารของรัซเซีย
มีส่งมาถึงไทยน้อยมากเลยนะครับ
ส่วนใหญ่เราดูข่าวจากฝั่งอเมริกาเป็นส่วนใหญ่
ความรู้สึกของผม
คิดว่ารัซเซียเป็นประเทศใหญ่และน่าจะทันสมัยมากๆเลยนะครับ