สัตว์เล็กในป่าใหญ่ - บทที่ 1





วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกันกับ "มอสส์ฟลาวเวอร์" แต่ขอเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "สัตว์เล็กในป่าใหญ่" ค่ะ เป็นภาคที่สอง ต่อจากภาคแรก

หมายเหตุซ วรรณกรรมเรื่องนี้แปลมาจากวรรณกรรมต่างประเทศ เรื่อง "Mossflowers"

===============================================================================


สกิปเปอร์เดินกระโผลกกระเผลกเข้ามาในห้องอาหารที่บร็อคฮอลล์แล้วลงนั่งถอนใจยาวพร้อมกับบีบนวดหางและอุ้งเท้าไปมา

ฟอร์จูนาต้าและมาสค์กำลังเก็บถ้วยจานชามมื้อกลางวันเข้าที่ นางหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์พยักเพยิดไปทางสกิปเปอร์แล้วขยิบตาให้เพื่อนร่วมทางของมัน มาสค์มีท่าทางขันๆ นางหมาจิ้งจอกขยิบตาอีกครั้งหนึ่งแล้วเดินทอดน่องเข้าไปหาสกิปเปอร์

“ท่านเจ็บป่วยไม่สบายหรือเปล่า?” นางทำเป็นถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย “บาดแผลเก่ากำเริบหรือเปล่า?”
สกิปเปอร์ส่ายหัวปฏิเสธพร้อมกับบีบนวดเท้าตัวเองต่อไป “เปล่า เดี๋ยวนี้เวลาที่ข้าขึ้นจากน้ำหรือแม้แต่ตากฝน ข้าก็จะมีอาการเจ็บที่เท้าและหางทุกครั้ง มันเจ็บเข้าไปถึงกระดูกเลย อู๊วส์ เจ็บจริงๆ!”
นางฟอร์จูนาต้าคุกเข่าลงตรงหน้าสกิปเปอร์ “ขอข้าตรวจดูหน่อยได้ไหม? ข้าเป็นหมอรักษาโรคนะ”

ตอนแรกนางลูบไล้ขนบนอุ้งเท้าของเจ้านาก ต่อจากนั้นก็ใช้มือกด สกิปเปอร์แสร้งทำเป็นเจ็บปวดรวดร้าวมากขึ้น

“โอย อู๊ฟฟ์” เขาส่งเสียงร้อง “ใช่แล้ว ตรงนั้นแหละ เจ้ากดถูกจุดพอดีเลย”
นางหมาจิ้งจอกลูบหนวด ทำท่าทางเป็นมืออาชีพเต็มที่ “อืมม์ ข้าว่าเท้าของท่านเริ่มจะมีอาการแข็งนะ” นางบอก
สกิปเปอร์แกล้งทำเป็นกังวล “แข็ง? แล้วจะทำให้หางข้าชี้น่ะหรือ? มันร้ายแรงแค่ไหนกันล่ะ?”

นางฟอร์จูนาต้าส่ายหัวอย่างวิตก “ร้ายแรงมากถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ ข้าเคยเห็นนากที่ตัวโค้งงอเพราะอาการเท้าแข็งมามากแล้ว จะเจ็บมาก มากจริงๆ”
“แล้วเจ้ารักษาได้ไหม?” สกิปเปอร์ถาม
ฟอร์จูนาต้าเอนกายไปพิงโต๊ะ “ยาแก้ไข้เป็นเหล้าเจือไม้ สกัดจากใบมะเขือพวง เพื่อระงับปวด นอกจากนี้ก็ยังมีตัวยาอื่นๆอีกหลายตัว แต่ข้าไม่ได้นำติดตัวมาด้วย”
“แต่เจ้าไปหามาได้ใช่ไหม?” สกิปเปอร์ถามอย่างมีความหวัง
นางหมาจิ้งจอกยิ้มกับมาสค์ “น่าจะได้ แต่ข้าคงต้องออกไปเที่ยวหาในป่า เจ้าคิดว่าอย่างไร แพชโค๊ต?”

มาสค์ตามแผนของนางทันแล้ว “ถูกแล้วละ บีซอมเทล” เขาตอบ “เราต้องออกไปหาตัวยาในป่าเพื่อตอบแทนความกรุณาของพวกเขาที่มีต่อเรา เราจะนิ่งเฉยปล่อยให้นากตัวนี้ทนทุกข์ทรมานแบบนี้ไม่ได้”

นางฟอร์จูนาต้าพยายามบังคับเสียงไม่ให้ผิดปกติ “ใช่แล้ว เราอาจต้องขอสัตว์ที่นี่ไปข่วยสักตัวสองตัว เอาเฉพาะพวกที่ไม่มีหน้าที่ต้องทำอะไรอย่างเจ้าลูกเม่นสองตัวนั่นก็ได้ มันต้องชอบวิ่งเล่นในป่าแน่ๆเลย”

สไปค์และโพซี่ (ซึ่งปลอมตัวเป็นเฟอร์ดี้และค๊อกส์) เต็มใจที่จะไปช่วย นางกู๊ดดี้ใช้ผ้ากันเปื้อนที่สวมอยู่เช็ดจมูกให้ลูกทั้งสอง

“ทำตัวให้ดีๆนะ อย่าไปกวนพวกหมอล่ะ” นางเตือนลูก “ทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษเลยนะ”
นางหมาจิ้งจอกตบหัวเจ้าลูกเม่นทั้งสองเบาๆเป็นเชิงเอ็นดู “พวกเขาอยู่กับข้ากับแพชโค๊ตได้สบายๆเลยละ คุณนาย”

นางหมอและผู้ช่วยเดินออกไปโดยมีลูกเม่นสองตัวเดินอยู่ข้างหน้า พวกมันหยอกล้อเล่นกันไปตลอดทาง มาสค์แขวนถุงใส่สมุนไพรไว้ที่คอแล้วเดินเคียงคู่ไปกับนางหมาจิ้งจอก

“เฮ้ บีซอมเทล ตอนนี้เจ้ามีแผนอย่างไร?” เขาถาม “ข้าเข้าใจว่าเราจะหนีกลับไปที่โกตีร์ไปบอกราชินีของเจ้าถึงที่ซ่อนตัวของพวกสัตว์ในป่าไม่ใช่หรือ?”

นางหมาจิ้งจอกก้มหัวหลบกิ่งไม้ที่ยื่นลงมา “เราก็จะทำอย่างที่เจ้าว่ามาน่ะแหละ แพชโค๊ต แต่ถ้าเราเอาเชลยสองตัวที่หนีกลับมาไปกับเราได้ก็จะยิ่งดี เราจะยิ่งได้รับเกียรติและรางวัลเพิ่มขึ้นอีก ข้าไม่นึกอยากเป็นเจ้าลูกเม่นตัวใดตัวหนึ่งในสองตัวนี้เลย ตอนที่ต้องกลับไปอยู่ใต้เขี้ยวเล็บของนางทซาร์มิน่า”

มาสค์รู้สึกเกลียดความโหดร้ายของนางหมาจิ้งจอกมากยิ่งขึ้น แต่ประสบการณ์อันมากมายทำให้เขายังสามารถทำหน้าเฉยไร้ความรู้สึกอยู่ได้

นางฟอร์จูนาต้าจ้องมองเจ้าเม่นเล็กๆสองตัวที่กำลังเล่นดินในแอ่งกันอยู่อย่างสนุกสนาน “เราจะได้คะแนนเพิ่มแน่ถ้าเอาเจ้าสองตัวนี่กลับไปกับเราด้วย”

“เจ้าจะได้รับอะไรที่สาสมกับเจ้าในวันนี้แหละ” เสียงของมาสค์เปลี่ยนเป็นกระซิบ
นางหมาจิ้งจอกได้ยินคำพูดของเพื่อนร่วมทางของนางเพียงครึ่งๆ “เฮ้ เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
มาสสค์หันไปมองรอบๆตัว “ข้าพูดว่าไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหน”
“โอ ไม่นะ อย่าบอกนะว่าเรากำลังหลงทาง” นางฟอร์จูนาครวญคราง

มาสค์ชี้ไปที่ทางแยก “ไม่หรอก ไม่ทางแยกซ้ายก็ขวานั่นน่ะแหละ เอายังงี้นะ ข้าจะไปทางด้านขวาแล้วคอยจับตาดูเจ้าสองตัวนี่ ส่วนเจ้าก็ไปทางแยกซ้าย ถ้าเป็นทางที่ถูกเจ้าก็จะเจอต้นบีชที่ล้มอยู่ แล้วก็ตะโกนเรียกข้า และถ้าข้าเจอต้นบีชบนทางแยกที่ข้าไป ข้าก็จะเรียกเจ้า”

นางฟอร์จูนาต้าเดินแยกไปพร้อมกับตะโกนบอกลูกเม่นน้อยทั้งสองว่า “ทำตัวดีๆนะ เจ้าตัวเล็ก อยู่กับลุงแพชโค๊ตนะ แล้วค่อยเจอกัน”

เมื่อนางหมาจิ้งจอกเดินหายไปแล้วมาสค์ก็นั่งลงบนตอต้นเกาลัดแล้วหยิบลูกเกาลัดเคลือบน้ำตาลมาแจกลูกเม่นตัวละเม็ด

“คุณไม่ใช่ลุงแพชโค๊ตของเราจริงๆใช่ไหม?” โพซี่หัวเราะกิ๊กกั๊กล้อเลียน
มาสค์ตบตัวมันเบาๆอย่างเอ็นดู “ไม่ใช่หรอก แล้วบีซอมเทลก็ไม่ใช่ป้าจริงๆของเจ้าด้วย แต่ข้าไม่คิดว่าเราจะได้เจอนางอีกแล้วละ”
สไปค์จ้องหน้ามาสค์อย่างเคร่งขรึม “ให้เราเรียกคุณว่าลุงมาสค์เหมือนเดิมได้ไหมฮะ?”

มาสค์ส่งกระติกน้ำของเขาให้โพซี่กับสไปค์ดื่ม แล้วเอาหางปลอมเช็ดเศษลูกเกาลัดที่เปื้อนหน้ามันทั้งสองออก

“เอาไว้คืนนี้ตอนที่เรากลับถึงบร็อคฮอลล์โดยปลอดภัยเสียก่อนดีกว่า” เขาตอบ “ตอนนี้ต้องแกล้งทำเป็นว่าข้าคือลุงแพชโค๊ตของเจ้า”
โพซี่กอดหางปลอมเอาไว้อย่างปลอบประโลม “คุณเป็นลุงแพชโค๊ตที่น่ารักมาก”

แม้จะกำลังปลอมตัวอยู่แต่มาสค์ก็หน้าแดงด้วยความปลาบปลื้ม

ฟอร์จูนาต้ามองเห็นต้นบีชที่ล้มขวางอยู่เบื้องหน้า นางเดินไปเอนกายพิงมันอย่างโล่งใจ

“พิวส์ ขอบคุณสวรรค์ที่มาถูกทางแล้ว” นางพูดออกมาดังๆ “ให้ข้าพักหายใจให้หายเหนื่อยเสียก่อนแล้วค่อยตะโกนบอกเจ้าแพชโค๊ต”

“เจ้าจะไม่ได้ร้องตะโกนอะไรอีกต่อไปแล้วละ นังจอมทรยศ!” เลดี้แอมเบอร์และกระรอกอีกสิบตัวกระโดดจากต้นไม้ลงมายืนขวางนางหมาจิ้งจอกเอาไว้ กระรอกแต่ละตัวน้าวคันธนูที่มีลูกธนูเสียบเตรียมพร้อมที่จะยิง

ฟอร์จูนาต้ารู้ด้วยสัญชาติญาณว่าแผนการของนางล้มเหลวเสียแล้ว นางยืนก้มตัวจนหูลู่ลง

“เจ้าแพชโค๊ตต่างหากล่ะ” นางพูดพร้อมกับสะอึกสะอื้น “ข้าไม่ได้คิดจะทำอันตรายเจ้าลูกเม่นสองตัวนั่นเลย มันบังคับข้าให้ร่วมมือทำตามแผนชั่วๆของมัน มันบอกข้าว่า---“

“หยุดพูดเสียที นังหมาจิ้งจอก!”

เลดี้แอมเบอร์หย่อนหางเป็นพุ่มของนางลงแตะดิน เชือกคันธนูสิบเส้นตึงเขม็งยิ่งขึ้น

หัวหน้ากระรอกชี้อุ้งมืออย่างกล่าวหาไปที่สายลับผู้ติดกับ “พวกเรารู้ว่าเจ้าเป็นใครตั้งแต่ตอนที่เจ้าเข้ามาในป่านี้แล้วละ” เลดี้แอมเบอร์ทำเสียงขู่ “วันนี้ตอนที่เจ้าออกจากบร็อคฮอลล์ข้าอยู่ห่างเจ้าไปเพียงชั่วยอดไม้เดียว ข้าได้ยินทุกคำที่เจ้าพูดกับมาสค์”

นางหมาจิ้งจอกก้มตัวต่ำลงไปอีกและพยายามจะหาแพะมารับบาปแทนนางให้ได้

“ไม่ พวกท่านเข้าใจผิด มันชื่อแพชโค๊ต ทหารรับจ้าง” นางเถียง “ข้าไม่รู้จักใครที่ชื่อมาสค์ อ้อ เดี๋ยว มีหมาจิ้งจอกอีกตัวหนึ่งที่ชื่อมาสค์ มันอาศัยอยู่แถวๆปราสาทโกตีร์—เป็นสัตว์ที่ชั่วร้ายมาก คงจะเป็นหมาจิ้งจอกตัวที่เจ้าพูดถึงแหละ ข้าจะพาท่านไปหามันเอง”

“เลิกโกหกเสียทีเถอะ นังหมาจิ้งจอก” เสียงของแอมเบอร์กระด้าง “เจ้าเป็นผู้ทรยศมาตลอดชีวิต และรางวัลที่เจ้าจะได้รับคือการถูกหักหลัง เล่าเรื่องโกหกหลอกลวงของเจ้าให้ใครก็ตามที่เจ้าจะได้พบที่ป่าดำฟังเถอะนะ”

หางของเลดี้แอมเบอร์ชูตั้งขึ้นตรงราวกับเสาธง ลูกธนูสิบดอกแล่นออกจากคันธนูเข้าหาเป้าโดยไม่ผิดพลาด



ชีวิตของพวกกลาสีหนู ดีกว่าอยู่ในคุกที่โกตีร์
เป็นการพักฟื้นอุ้งเท้าที่ต้องใช้เดินทาง
มีสายลมช่วยพัดใบเรือไป
สัตว์รูเป็นกัปตัน หนูสองตัวเป็นกลาสี
และตุ่นหนึ่งตัวเป็นเด็กรับใช้
เห็นซาลามานดาสตรอนเมื่อไหร่
เราจะร้องตะโกนว่า อะฮอย!!!

เมื่อยามบ่ายมาถึงสามสหายในเรือที่ล่องลอยอยู่ในลำน้ำสายใหญ่ทางทิศใต้ เริ่มหัดแล่นเรือที่ล็อค-อา-ล็อคตั้งชื่อว่าวอเตอร์วิง หรือปีกแห่งน้ำ มาร์ตินกำลังถือพวงมาลัยเรือโดยมีสัตว์รูช่วยกำกับอยู่อย่างใกล้ชิด ในขณะที่กอนฟฟ์เล่นเป็นผู้บัญชาการเรืออวดความรู้เรื่องการเดินเรือที่เพิ่งค้นพบใหม่ๆ

“แล่นตามลมไป เด็กๆ ถือหางเสือให้ตรง ระวังกราบเรือด้านซ้ายด้วยนะกัปตันล็อค-อา-ล็อค หันพวงมาลัยไปทางกราบเรือด้านขวาด้วย แล้วไปเรื่อยๆตามทิศทางนั้นแหละ!”

แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าดินนี่ไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นกลาสีเรือ เจ้าหนุ่มน้อยนอนอยู่กลางลำเรือเอามือทั้งสองกุมท้องไว้แน่น

“บรื๋อว์ โอย ช่วยข้าด้วยกอนฟฟ์ ข้ากำลังจะตายอยู่แล้ว ขึ้นฝั่งกันดีกว่าแล้วเดินกันไปเอง โอย ทำไมโลกหมุนติ้วยังงี้ล่ะ”

ล็อค-อา-ล็อคส่งสมุนไพรมาให้ดินนี่เคี้ยว หลังจากนั้นไม่นานมันก็รู้สึกดีขึ้น แต่ก็ยังบ่นไม่จบ “โอย ข้ายอมเป็นนกบินขึ้นไปบนท้องฟ้ายังดีกว่ามาอยู่ในเรือของเจ้าลำนี้ซะอีก”

มาร์ตินเฝ้าสังเกตกระแสน้ำอย่างระมัดระวัง ตอนนี้เทือกเขามาชะโงกง้ำอยู่เหนือเรือของพวกเขาแล้ว บดบังท้องฟ้าเบื้องบนจนมองไม่เห็น

“ล็อค-อา-ล็อค เจ้าสังเกตกระแสน้ำบ้างหรือเปล่า? ตอนนี้มันไหลเร็วและแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ข้าคิดว่าเรือวิ่งเร็วเกินไปแล้วนะ”

“ใช่แล้วละ ข้าสังเกตเห็นว่าลำธารกำลังจะพาเราดิ่งตกลงไปข้างล่างที่ลึกนั่นแล้ว มาร์ติน” ถึงจะดูกังวลแต่เจ้าสัตว์รูก็ยังพูดด้วยเสียงเรียบๆปกติ “มานี่หน่อยสิกอนฟฟ์ ลองลดใบเรือและเสากระโดงลง มาร์ตินกับดินนี่ไปช่วยกอนฟฟ์ด้วย ข้าจะถือหางเสือเอง”

ระหว่างที่สี่สหายกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่กับการบังคับเรือ กระแสน้ำก็เริ่มเชี่ยวกรากมากขึ้น ยอดคลื่นที่ปะทะหัวเรือแตกเป็นฟองฟอดไปปะทะก้อนหินแล้วตกลงไปบนกระแสน้ำ ที่กำลังหมุนวนอย่างบ้าคลั่งเป็นฟองขาวราวกับฟันที่ขรุๆขระๆ ล็อค-อา-ล็อคพยายามประคองคันบังคับหางเสืออย่างสุดความสามารถเพื่อให้เรือวอร์เตอร์วิงผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปให้ได้ เรือลำน้อยโคลงเคลงและเริ่มเอียง น้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักเข้ามาตรงท้ายเรือ

“เอาเสากระโดงขึ้น!” สัตว์รูร้องตะโกนสั่งดังลั่นเหนือเสียงอึกทึกครึกโครมของน้ำ “เมื่อปลดใบเรือลงแล้วต้องช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ ก่อนที่มันจะท่วมเราตายกันหมด เร็วเข้า!”

เรือวอเตอร์วิงกระโดดขึ้นสูงราวกับปลาซัลมอนที่ตื่นตกใจ เสียงน้ำดังยิ่งขึ้นเมื่อปะทะเข้ากับปากอุโมงค์ที่อยู่เหนือขึ้นไป ทำให้เกิดเสียงสะท้อนกึกก้องไปทั่ว พุ่มไม้และพืชผักที่ห้อยแขวนอยู่ตกใส่พวกในเรือ ก้อนหินใหญ่ๆครูดกราบเรืออย่างน่าหวาดเสียว และโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าเรือลำน้อยถูกพัดพาลึกเข้าไปในอุโมงค์ที่ซึ่งกระแสน้ำกลายเป็นน้ำตก

น้ำแตกกระจายเดือดพล่านเป็นฟองขาวกระชากเรือให้ลอยละลิ่วไปเหนือปากเหว เรือวอเตอร์วิงลอยอยู่ในอากาศได้เพียงชั่วเสี้ยววินาทีก่อนจะตกจมดิ่งลงไปในห้วงเหว เสากระโดงเรือฟาดเข้ากับด้านข้างของภูเขาจนหักเสียงดังเพลาะสนั่น เศษไม้ที่แตกออกมาตกกระจายลงใส่พวกลูกเรือ



ทซาร์มิน่ายืนอยู่ตรงที่ประจำของนางที่หน้าต่างบานสูงในห้องนอน โดยมีเจ้าคลัดด์ยืนแอบอยู่ด้านหนึ่งรอฟังคำสั่ง

“ผักฤดูใบไม้ผลินี่ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก คลัดด์ เจ้าไปสืบสิว่าพวกนกชอบกินอะไร แล้วก็เอาไอ้นั่นแหละไปหว่านกระจัดกระจายไว้ วางกับดักแล้วส่งพลธนูออกไป จับนกพิราบป่าอ้วนๆเต่งๆให้ได้สักหนึ่งหรือสองตัว---แบบนั้นแหละที่ข้าต้องการ”

“ขอรับ คุณหญิง กระผมจะจัดการทันที” เจ้ากัปตันวีเซอร์ย่ำเท้าออกไปอย่างว่านอนสอนง่าย
ทซาร์มิน่าชะโงกตัวออกไปทางช่องหน้าต่างเพื่อสำรวจความเคลื่อนไหวบริเวณชายป่า “เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป!”

หมาจิ้งจอกแปลกหน้าตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากแถวต้นไม้เตี้ยๆและลากร่างเล็กๆของลูกเม่นสองตัวที่มีเชือกมัดไว้มาด้วยอย่างรีบร้อน มีฝูงนากและกระรอกวิ่งไล่ตามมาเบื้องหลัง ตอนที่เหลียวไปมองบรรดาผู้ไล่ล่า เจ้าหมาจิ้งจอกสะดุดเชือกล้มลง ฝูงสัตว์ที่ตามมากรูกันเข้ามาตะครุบตัว

ทซาร์มิน่าผลักคลัดด์ไปที่ประตู “เร็วเข้า เร็วเข้า ลงไปที่นั่นเร็วๆแล้วเอาทหารเท่าที่หา ได้แถวนั้นไปด้วยไปช่วยเจ้าหมาจิ้งจอกนั่น แล้วเอาตัวเจ้าลูกเม่นสองตัวนั่นมาให้ได้!”

สั่งจบนางพญาแมวป่าก็วิ่งกลับไปที่หน้าต่างโดยเร็วแล้วร้องตะโกนออกไปว่า “อดทนไว้ก่อนนะ คนของเรากำลังจะออกไปช่วยเจ้าแล้ว คอยระวังเจ้าลูกเม่นสองตัวนั่นไว้ให้ดีด้วย!”

หมาจิ้งจอกแปลกหน้าต่อสู้อย่างมีฝีมือพอตัวทีเดียว แต่ก็โชคร้ายที่พวกศัตรูมีกำลังพลมากกว่า สัตว์กลุ่มหนึ่งช่วยกันกลุ้มรุมทำให้มันต้องพยายามปกป้องตัวเอง ในขณะเดียวกันฝูงกระรอกก็ช่วยกันตัดเชือกที่มัดลูกเม่นทั้งสองอยู่ขาดกระเด็นไปแล้วพามันขึ้นไปบนต้นไม้หายไปในป่ารกทึบของมอสฟลาวเวอร์

ช้าไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว! นางทซาร์มิน่ากระแทกมือลงบนขอบหน้าต่างเต็มแรงอย่างขัดใจ สัตว์อีกฝูงที่กำลังมะรุมมะตุ้มเจ้าหมาจิ้งจอกอยู่เมื่อครู่ก็เผ่นแผล็วหายวับไปใต้พุ่มไม้ราวกับควันหมอก

นางแมวป่ายืนอยู่ตรงทางเข้าห้องโถงเมื่อคลัดด์พาหมาจิ้งจอกแปลกหน้าเข้ามา นางจ้องมองมันอย่างใกล้ชิด

มาสค์หอบหายใจหนักๆแล้วนอนหมอบลงไปบนสะโพก “วิ๊วส์ เจ้ากระรอกกับตัวนากฝูงนี้ต่อสู้ยังกะหมาบ้าแน่ะ !”

ทซาร์มิน่าเดินวนไปรอบๆตัวเจ้าหมาจิ้งจอก “เจ้าเองก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่” มีคำชมเชยปนอยู่ในน้ำเสียง “เจ้าชื่ออะไร? มาที่นี่ทำไม?”

มาสค์เงยหน้าขึ้นมอง “ข้าชื่อแพชโค๊ต ท่านคงเป็นราชินีทซาร์มิน่าแห่งตาพันดวง นางฟอร์จูนาต้าเล่าเรื่องท่านให้ข้าฟัง”
“งั้นเจ้าก็พบกับนางหมาจิ้งจอกตัวนั้นแล้ว มันอยู่ที่ไหนล่ะตอนนี้น่ะ?”

มาสค์ยักไหล่ “คงจะนอนอยู่ในป่าพรุนไปด้วยลูกธนูจากพวกกระรอก นางเชื่องช้าไปหน่อย ข้าคงจะจัดการกับเจ้าพวกสัตว์ในป่าที่ตามมาถึงนี่ได้เรียบร้อยไปแล้ว ถ้ามิใช่เพราะความงุ่มง่ามโง่เง่าของนางหมาจิ้งจอกนั่น”

คลัดด์ก้าวออกมาข้างหน้าอย่างไม่รู้กาละเทศะ แล้วใช้หอกกระทุ้งเจ้าหมาจิ้งจอกแปลกหน้า “เจ้ายังไม่ได้บอกคุณหญิงเลยนะว่ามาที่นี่ทำไม?”

มาสค์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเข้ากระแทกหอกในมือของคลัดด์ ทำให้ด้ามหอกทิ่มเข้าบริเวณหน้าท้องของมันเต็มแรงจนล้มลงนอนหงาย มาสค์กระโดดขึ้นไปยืนบนหน้าอกแล้วใช้กริชในมือจี้ติดคอหอยเจ้ากัปตันวีเซอร์

“ฟังดีๆนะเจ้าอ้วน” เขาคำรามอย่างดุร้าย “ถ้าเจ้าบังอาจทิ่มหอกนั่นมาใส่ข้าอีกครั้งหนึ่งข้าจะยัดหอกนั่นเข้าไปในปากเจ้าเลย จำไว้ว่าข้าคือแพชโค๊ตทหารรับจ้าง ข้าจะขายบริการให้เฉพาะผู้ที่กล้าสู้ราคาค่าตัวข้าเท่านั้นแหละ”

มาสค์ใช้อุ้งเท้าข้างเดียวเหยียบจมูกคลัดด์เอาไว้แล้วบิดจนเจ้าวีเซอร์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วหันไปมองนางทซาร์มิน่าโดยไม่สนใจผลลัพธ์ที่เกิดกับเจ้าคลัดด์อีกต่อไป

“ราชินี ท่านอาจจะต้องการนักรบผู้กล้านะ ถ้าทหารของท่านเป็นแบบนางฟอร์จูนาต้ากับเจ้าโง่นี่เสียเป็นส่วนมาก”

ทซาร์มิน่ายิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว “ในที่สุดข้าก็ได้เจอนักรบตัวจริงแล้ว ขอต้อนรับสู่โกตีร์ แพชโค๊ต ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะทำประโยชน์ให้ที่นี่ได้มาก คลัดด์ลุกขึ้นจากพื้นเสียทีแล้วถอดเสื้อคลุมกัปตันของเจ้าให้แพชโค๊ตไป ตั้งแต่นี้ไปเจ้าต้องรับคำสั่งจากเขา”

คลัดด์ถอดเสื้อคลุมออกด้วยหน้าตาบึ้งตึงแล้วโยนไปให้มาสค์

แอชเลคกระโผลกกระเผลกเข้ามาพร้อมด้วยทหารหมู่หนึ่งแล้วโยนถุงสมนไพรลงบนพื้นห้อง “พวกเราติดตามไล่ล่าพวกส้ตว์เหล่านั้นไปในป่า” มันรายงานอย่างเศร้าสร้อย “ แต่ไล่ไม่ทัน ข้าพบฟอร์จูนาต้าห่างจากที่นี่ไปทางตะวันออก ร่างของนางเต็มไปด้วยลูกธนู ตอนนี้เราพานางมาไว้ตรงลานฝึกทหาร”

“ตายหรือ?”
“ตายสนิทเลยขอรับ คุณหญิง”
“แล้วข้าจะเอาหมาจิ้งจอกตายมาทำอะไรล่ะ?” นางทซาร์มิน่าถามอย่างหงุดหงิด “โยนมันออกไปในป่าให้เป็นเหยื่อแร้งกาสิ”

นางแมวป่าเดินกลับขึ้นบันได “แพชโค๊ต ข้าจะอยู่ในห้องนอนของข้า อีกสักพักมาหาข้าในห้องนะ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาหลายเรื่อง”

มาสค์กระชับเสื้อคลุมยศกัปตันให้แนบเข้ากับตัว “ขอรับคุณหญิง อีกสักครู่แล้วกัน ตอนนี้กระผมอยากไปสำรวจห้องขังต่างๆที่นางฟอร์จูนาต้าเคยเล่าให้ฟัง เผื่อจะพบร่องรอยหลักฐานว่าทำไมเจ้าลูกเม่นสองตัวนั่น ถึงหลบหนีออกไปได้ง่ายดายนัก”

ทซาร์มิน่าเดินตาลอยขึ้นบันไดไป ช่างเป็นโชคดีของนางยิ่งนักที่ได้พบเจ้าหมาจิ้งจอกตัวนี้







Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2556 21:12:47 น.
Counter : 1098 Pageviews.

16 comments
  
เปิดบ้านให้พี่ตุ้ยค่ะ

โดย: mambymam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:40:39 น.
  
เดืนตามคุงแหม่ม เม้นท์ 1 มาค่า พี่ตุ้ย
มาอ่านเริ่อวใหม่เลยค่า

ขอบคุณคะแแนก๋วยเตี๋ยวนะค่าพี่ตุ้ย
พรุ่งนี้นู๋มาใหม่ค่า
โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:35:19 น.
  

อุ้มตามคุณเค็งมาอ่านและก็มากด Like ให้เป็นคนที่ 2 เลย
โดย: อุ้มสี วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:27:32 น.
  


มาส่งกำลังใจให้่ตุ้ยค่า

ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

พี่ตุ้ยสบายดีนะคะ

โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:05:25 น.
  
มาแล้วค่าพี่ตุ้ยจัง

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




ตื่นมาพบความสดชื่นนะค่า

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:5:01:57 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตุ้ย





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:6:02:27 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย วันนี้มาโหวตค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

เมื่อวานไหล่เดี้ยง นอนพักยาว เลยไม่ได้แวะมาค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ

โดย: mambymam วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:00:36 น.
  

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

เอากำลังใจมาฝากคุณตุ้ยค่ะ
มีความสุขทุกวันนะคะ
โดย: AppleWi วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:17:10:46 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ย วันนี้เอาบานบุรีแคระมาเปิดตัว



ถ้าพี่ตุ้ยว่าง เชิญด้วยนะคะ

โดย: mambymam วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:33:42 น.
  


ขอบคุณสำหรับโหวตค่าพี่ตุ้ย

วันนี้เอาน้องวัวมาฝากแทนดอกไม้ค่ะ 555
ช่วงนี้อากาศแถวบ้านกาญแย่มากค่ะ
ทั้งลมทั้งหิมะฝน มึดครึ้มทั้งวัน น่าเบื่อมากๆ
ถ้าเมืองไทยอากาศร้อนก็แวะมาเดินเล่นแถวบ้านกาญคลายร้อนกันค่ะ

หลับฝันดีนะค่า
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:55:23 น.
  
มาทักทายในเวลามื้อเที่ยงค่ะคุณตุ้ย
มีความสุขในการเขียนงานนะคะ
โดย: AppleWi วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:16:14 น.
  
สวัสดียามใกล้ค่ำค่ะพี่ตุ้ย
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ

หม่ำข้าวเย็นให้อร่อยน้า



โดย: mambymam วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:28:43 น.
  
ทักทายค่ะคุณตุ้ย

ไลค์ และ โหวตค่ะ
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:47:53 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
jamaica Music Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
------------------------
แวะมาส่งกำลังใจให้คุณตุ้ยค่ะ สบายดีนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:04:17 น.
  
มาส่งกำลังใจค่ะคุณตุ้ย


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
nulaw.m Home & Gargen Blog ดู Blog
Sai Eeuu Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:18:14 น.
  
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ตุ้ย
แม่หมูแวะมาเยี่ยมพร้อมส่งกำลังใจนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: jamaica วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:04:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
กุมภาพันธ์ 2556

 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
16
17
18
20
21
23
24
25
27
28
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com