เรียนท่านผู้อ่านคอลัมน์นี้
ถ้าผู้ใดมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องสามีนอกใจและต้องการคำปรึกษา (เท่าที่จะให้ได้จากประสพการณ์ของตัวเอง) ก็ยินดีนะคะ แต่ขอให้เข้าไปตั้งกระทู้ในคอลัมน์ "ถาม-ตอบ ปัญหาสามีนอกใจ" ซึ่งเป็นคอลัมน์ใหม่ที่จะตอบปัญหาโดยตรงค่ะ (ดูหัวข้อด้านบนซ้ายมือ) เพราะถ้ามาโพสต์ไว้ในคอลัมน์นี้ บางครั้งผู้เขียนไม่ได้เข้ามาดูค่ะ ทำให้ไม่ได้ตอบ ส่วนคอลัมน์ใหม่ที่รวบรวมปัญหาทั้งหมดที่มีผู้ส่งมาถาม จะเข้ามาอ่านทุกวันค่ะ
ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะคะ
ดอยสะเก็ด
ตอนที่แล้วได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อกอบกู้ความมั่นใจในตัวเองให้กลับคืนมา โดยจะพูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นอันดับแรก แต่คงต้องขออารัมภบทก่อนสักเล็กน้อยก่อนนะคะ
หลังจากแต่งงานมาได้พักหนึ่ง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะดูแลตัวเองในเรื่องนี้น้อยลง เพราะภาระหน้าที่ในฐานะภรรยาและอาจจะในฐานะแม่ของลูกตัวน้อยๆด้วย ที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือไปจากหน้าที่การงาน ที่ยังคงจะต้องทำอยู่ต่อไป (คงมีผู้หญิงจำนวนน้อยที่ลาออกจากงานหลังแต่งงาน) ทำให้วุ่นวายจนไม่มีเวลาส่วนตัว ที่จะออกไปฟิตเนสหรือไปสถานเสริมความงาม เหมือนสมัยที่ยังเป็นโสด
การที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน (ภาระเดิม) บวกกับการต้องดูแลสามี ทำไมต้องดูแล ก็เขาโตแล้วไม่ใช่หรือ? เคยมีคนต่อว่าผู้เขียนว่า คุณไม่เห็นค่อยดูแลผมเลย เราก็นึกในใจว่า เอ๊ะ..ทำไมต้องดูแล ที่ดูแลรับใช้เรื่องเสื้อผ้า อาหารการกิน ฯลฯ ไปจนถึงเรื่องบนเตียง ยังไม่พออีกเหรอ' ภาระของเราก็ท่วมท้นอยู่แล้ว ต้องดูแลทั้งพ่อและลูก (ภาระใหม่ที่เพิ่มเข้ามา) อยากถามจังว่าตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานน่ะ ใครช่วยดูแลเขาล่ะเนี่ย โตจนเป็นพ่อคนแล้ว ก็น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ครองเรือน ด้วยการดูแลตัวเองบ้างน้า
ภาระใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจนแทบจะหมดแรง อยู่ที่ทำงานก็ต้องทำงานเต็มที่ประมาณ 8 ชั่วโมง ออกจากที่ทำงานก็อาจจะต้องแวะซื้ออาหารสำเร็จรูป กลับไปปรนเปรอคนในบ้าน หรือถ้าสามีเป็นคนจู้จี้ ไม่ยอมกินอาหารถุง ภรรยาผู้น่ารักก็อาจจะต้องรีบกลับไปปรุงอาหารให้พ่อเจ้าประคุณได้กินถูกปากอีก แล้วไหนจะงานบ้านที่รอให้กลับไปทำอีกล่ะ (ถ้าไม่มีลูกจ้าง) ฯลฯ
หลังจากนั้นก็ต้องดูแลลูกที่อาจจะยังเล็ก (ที่ต้องมีคนช่วยดูแลระหว่างที่คุณแม่ไปทำงาน ซึ่งอาจจะเป็นลูกจ้าง หรืออาจจะเป็นคุณย่าคุณยาย ถ้าคุณโชคดีพอ) แต่ทันทีที่กลับถึงบ้านก็ต้องใช้เวลาอยู่กับลูก เพราะปล่อยให้อยู่กับคนอื่นมาทั้งวันแล้ว ถ้าเป็นลูกที่โตจนไปโรงเรียนได้แล้ว ผู้หญิงก็อาจมีหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอีกคือ แวะรับลูกที่โรงเรียน สอนการบ้านลูก ฯลฯ ไม่รู้ว่าทำไมใครๆจึงชอบโยนภาระเรื่องนี้ให้ผู้หญิงฝ่ายเดียว เห็นพวกเราเป็นทศกัณฐ์หรือไง? ฯลฯ
เอ๊ะ..แล้วผู้ชายทำอะไรบ้างล่ะเนี่ย อย่าอ้างนะว่าก็ทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวไง? ห้ามอ้างนะ เพราะไม่เห็นมีใครเสนอให้เราออกจากงานมานั่งเป็นคุณนายให้สามีเลี้ยงเลยนี่ คุณผู้ชายที่หลงเข้ามาอ่านอย่าเพิ่งโกรธนะคะ ล้อเล่นค่ะ...ล้อเล่น สมัยนี้ทั้งสามีและภรรยาก็ต้องช่วยกันทำงานหาเงินเข้าบ้านด้วยกันทั้งนั้นแหละค่ะ
ภาระสารพันที่ถูกโยนมาให้พร้อมทะเบียนสมรส ทำให้ผู้หญิงที่กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ยังเป็นสาวสวยโสภาน่ารักน่าใคร่ ต้องกลายมาเป็น นังแจ๋ว ที่รับภาระต่างๆจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน้อตไปในบัดดล ทันทีที่หลงเข้ามาในวัฏจักรนี้ แล้วยังงี้จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลตัวเองให้สวยงามเหมือนเก่าล่ะคะ ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือผู้หญิงส่วนใหญ่ ก็เต็มใจที่จะยอมเหน็ดเหนื่อย แบกรับภาระพวกนี้เอาไว้ด้วยสิคะ เพราะผู้หญิงทำเรื่องพวกนี้ด้วยหัวใจ (รักทั้งสามีและลูก) และต้องการจะประคับประคองสถาบันครอบครัวเอาไว้ ให้ยืนยงสถาพรค่ะ!!
แล้วอยู่ๆ วันร้ายคืนร้ายก็มาเยือนด้วยข่าวร้าย ทำให้ผู้หญิงคนที่กำลังมีความสุข กับภาระที่แบกอยู่อย่างเหน็ดเหนื่อยแต่ด้วยความเต็มใจ อุทิศเวลาทั้งหมดให้จนแทบไม่มีเวลานอก ต้องมายืนอยู่หน้ากระจกเงาเพื่อมองหาจุดบกพร่องของตัวเอง ที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไปโดยด่วน เพื่ออะไรล่ะคะ....ถ้าไม่ใช่เพื่อกอบกู้ความมั่นใจในตัวเอง ที่ถูกทำลายลงไปในพริบตาด้วยข่าวร้ายที่กลายเป็นจริง.... ให้กลับคืนมาเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป