โรงหนังปิดยาว ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เอาหนังเก่าที่เคยดูมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพิ่งมาดูใหม่อีกรอบ มาเล่าให้ฟังครับ พอดีเห็นตะพาบ กม.251 พอดี น่าจะตรงกับเรื่องนี้นะครับ : สิ่งที่เคยพลาดไป
L.A. Confidential : ดับโหด แอลเอ เมืองคนโฉด
ผู้กำกับ
Curtis Hanson บทภาพยนตร์
Brian Helgeland Curtis Hanson นักแสดง
Kevin Spacey ,
Russell Crowe ,
Guy Pearce เรื่องย่อ
ลอสแอนเจลิส ในปี ค.ศ. 1950 กรมตำรวจแอล.เอ. (LAPD) ภายใต้การดูแลของ สารวัตร ดัดลีย์ สมิธ (เจมส์ ครอมเวลล์) เหล่าตำรวจพยายามที่จะปราบปรามและกวาดล้างอาชญากรรมใน ทุกซอกทุกมุมของเมือง หนึ่งในตำรวจเหล่านั้นคือ เอ๊ด เอ๊กซชีย์ (กาย เพียร์ซ) นายตำรวจหนุ่มผู้ทะเยอทยานที่จะเดินตามรอยเท้าพ่อผู้ซึ่งได้รับความเคารพ เป็นอย่างสูงในวงการ และได้ตายในหน้าที่ เอ๊ด แม้เขาจะเปี่ยมไปด้วยความฉลาดและมากล้นด้วยความสามารถ แต่เขาก็เป็นคนชนิดที่พร้อมจะเหยียบหัวคนอื่นเพื่อเลื่อนชั้นตัวเอง เอ๊ดเป็นคนที่โดดเดี่ยวที่สุดในหน่วยงาน เนื่องจากตำรวจคนอื่น ๆ ต่างมุ่งหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากหน้าที่
ในอีกด้านที่ตรงข้ามอย่างสุดฟากกับเอ๊ด ก็คือภาพของนายตำรวจที่ประสบความสำเร็จอย่างสุดขั้ว คือ แจ๊ค วินเซนท์ (เควิน สปเซีย์) นายตำรวจที่มีชื่อเสียงโด่งตังที่สุดในหมู่ตำรวจด้วยกัน แจ๊คประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการสร้างภาพพจน์ให้กับตัวเอง และองค์กร โดยการทำหน้าที่ที่ปรักษาด้านเทคนิคให้กับละครประจำสัปดาห์ทางโทรทัศน์ ซึ่งแสนอภาพพจน์ของกรมตำรวจแอล.เอ.ในฐานะของหน่วยงานผู้รักษากฎหมายที่ดีที่ สุดแห่งหนึ่งของโลก เบื้องหลับเขาแอบร่วมมือกับ นักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซิด ฮัดเจียน (แดนนี เดอ วีโต) ของหนังสือพิมพ์แทบลอยด์และนิตยสารที่ ชื่อ "Hush Hush" ในการทำธุรกิจค้าผู้หญิงอย่างผิดกฎหมาย และฮัดเจียนก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยโปรโมทและสร้างชื่อเสียงให้กับแจ๊คไปด้วย เมื่อทำข่าวการจับกุมของเขาออกเผยแพร่ในทุกครั้ง
บัท ไวท์ (รัสเซล โครว์) นายตำรวจเพียงคนเดียวที่ดูจะซื่อตรง และปราศจากเล่ห์เหลี่ยมอย่างตำรวจคนอื่น ๆ แต่เขาก็มีความเชื่อเช่นเดียวกับผู้บัญชาของเขา ดิ๊ก สเตนส์แลนด์ (แกรแฮม เบคเคิล) ที่ขอบที่จะตัดสินคดีอย่างรวดเร็วในข้างถนน มากกว่าที่จะยอมปล่อยให้มีการตัดสินตามขั้นตอนของกฎหมาย
การคอรัปชั่นระบาดไปทั่วสำนักงานตำรวจ เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างก็ฉ้อฉลเหมือนกันทั้งสิ้น ทุกคนที่ได้รับผลประโยชน์ต่างพร้อมใจกันปิดปากเงียบ จนกระทึ่งคืนหนึ่ง มีขี้เมาคนหนึ่งถูกรุมทำร้ายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในคุก เอ็กซลี่ พยายามที่จะช่วยเหลือการกระทำอย่างป่าเถื่อนที่ผิดกฎหมายนั้น แต่ถูกกันให้ได้แต่มองดูอยู่นอกวง ดังนั้นเขาจึงขอเปลี่ยนสายงานเข้าไปเป็นนักสืบคดีอาชญากรรม โดยหวังที่จะพิชิตคดีอาชญากรรม กอบกู้ภาพลักษณ์ของตำรวจใหม่ให้ขาวสะอาด และที่สำคัญคือทำให้ตัวเขาเองได้เลื่อนขั้นขึ้น สเตนลีย์ยอมตามคำขอของ เอ๊ด สองวันหลังจากนั้น เขาก็พบศพถูกยิงตายอย่างลึกลับ การติดตามสืบคดีอย่างลับ ๆ จึงเริ่มต้นขึ้นโดย เอ๊กซลี่ และได้รับความร่วมมือจากสองนายตำรวจ วินเซนท์ และไวท์ ปมฆาตกรรมแรกถูกเปิดเผยและโยงไปพัวพันกับสาวสวยที่เป็นนางทางโทรศัพท์ ลิน แบรคเคน (คิม บาซิงเจอร์) ผู้ซึ่งเป็นที่ต้องสงสัยว่าเธอคือกุญแจตัวสำคัญที่จะเปิดเผยเรื่องราวทั้ง หมด แต่ไม่ช้าเขากลับพบว่าตกหลุมรักเธอเสียเอง ในขณะที่ เอ็ดเกิดความคิดเห็นขัดแยัง และแยกตัวออกหาหลักฐานเอง เขาพบร่องรอยทีละน้อย แต่เมื่อเงื่อนปมของคดีฆาตกรรมได้ถูกค้นพบมากขึ้นเรื่อย เอ๊ดเริ่มปะติดปะต่อจิ๊กซอว์ที่มีเป็นภาพใหญ่ ทำให้เขารู้ว่าเบื้องหลังของมัน ซับซ้อน และเลวร้ายเกินกว่าทุกจินตนาการที่พวกเขาเคยคิดถึง
เรื่องนี้ผมดูในโรงเมื่อ 23 ปีก่อน ตอนนั้นดูไม่ค่อยดูเรื่องเท่าไหร่ เสียดายมากปีนั้น Titanic มาแรงมาก L.A. ก็เลยพลาดออสการ์ไป หนังคว้าไปสองออสการ์จากคิม บาซิงเจอร์ สมทบหญิง และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผมมาดูรอบนี้ถึงจะเข้าใจในตัวหนัง เนื่องจากตัวละครเยอะมาก ๆ จำได้ไม่ค่อยหมด เรื่องนี้พล็อตเรื่องนี่สุด ๆ ไปเลย เนื้อเรื่องพลิกไปพลิกมา คาดเดาไม่ถูกเลย ถึงจะเดาได้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง มีหักมุมตอนจบพอให้ได้ลุ้นกันบ้าง แต่ก็ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งดารานักแสดงมีแต่ดาราเจ้าบทบาททั้งนั้น การแสดงนี่ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว กินขาดเลยครับ ถ้าไม่มี Titanic เป็นก้างขวาคอ เรื่องนี้ได้หนังยอดเยี่ยมออสการ์แน่นอนครับ แม้จะพลาดออสการ์ไป เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่กล่าวขวัญและเป็นหนังที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนครับ
VIDEO แปะเทรลเลอร์ไว้ด้วยครับ
ข้อมูลจาก wiki และอินเตอร์เน็ตครับ