วัยเด็กผมใช้ชีวิตอยู่ในซาลัมพูดให้ดูดีก็ชุมชนแออัน...
จนถึงทุกวันนี้ที่นั่น...ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ที่เปลี่ยนไปคือ คนใหม่ ๆ ที่เข้ามาพักอาศัยและคนเก่า ๆ ที่แก่ลงทุกวันทุกวัน
เพื่อนวัยเดียวกันที่เติบโตขึ้น ในแบบต่าง ๆ ของแต่ละคน
ชีวิตวัยเด็กของผม วุ่นอยู่กับการหาปลากัดตามทุ่งหญ้า น้ำคำ
เพราะชื่นชอบเป็นพิเศษ
ปีนต้นไม้ เก็บเศษลวดทองแดง จากสายไฟฟ้า
หลังจากเผาไฟ...เพื่อนำมาขาย ซื้อขนมกิน นั่งเล่นรถซาเล็งของคนเก็บของ
เก่าในระแวกชุมชน แอบปีนเข้าไปในโรงงานผลิตสารเคมี...
ปีนขึ้นไปบนต้นตะขบเพื่อหาลูกตะขบ กินเล่น
ผมชอบลูกสีเขียวออกเหลืองเพราะมันมีความหวานและฟาดในตัว
ปั้นจักรยานรอบ ๆ ชุมชน ตระเวนเดินพันแข่งขันฟุตบอลกับชุมชนอื่น ๆ
ระแวกใกล้เคียง หากชนะก็จะมีการซื้อขนมมากินกันกับเพื่อนฝูง
การพนัน...ดมกาว...คนทะเลาะกัน...ตีกันในยามค่ำคืน
...เสียงเอะอะโวยวาย...ขโมยของ
เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกชุมชนแออัน
วันหนึ่งผมเดินเล่นบนเนินเป็นที่สำหรับจอดรถซาเล็งมีหลายคัน...
เดินไปเรื่อย ๆ บนซากกองขยะที่ถูกไฟเผาไหม้เศษตะกอนสีดำ
เถ่าถ่าน ถุงพลาสติก ขวดแก้วและกระป๋อง...
ผมเดินไปเหยียบเศษแก้วโดยไม่รู้ตัว ผมไม่รู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ...
เลือดมันหลั่งออกมาไม่หยุดจากเท้าขวาของผม ความกลัวทำให้ผมร้องไห้...
ผมเดินกระเพกกลับบ้านเลือดหยดเป็นสายทาง...พร้อมน้ำตานองทั่วใบหน้า
จะมีใครเล่ามาช่วยประคองผม...เห็นผมเจ็บเขายิ่งเจ็บกว่า...
"พ่อ" ตกใจรีบเข้ามาโอบพยุงผมขึ้นหยิบผ้ามาพันรอบ ๆ ต้นขา
คว้ากุญแจมอเตอร์ไซด์ RC สีแดงสตาร์ทพาผมไปส่งคลีนิกใกล้บ้าน...
หมอที่คลีนิกทำอะไรไม่รู้ผมกลัวจนไม่กล้ามองเท้าตัวเอง...
ตึง...ตึง...ตึง... ความรู้สึกที่ถูกเข็มเจาะทะลุผิวหนังหนา ๆ ใต้ฝาเท้า
แต่ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด...
หวนนึกถึงคลินิกนี้ทีไร...มากี่ครั้งก็ยังเจอ แพทย์และพยาบาลคอยตอนรับคนเดิม
ถึงแม้สภาพเธอจะทรุดโทรมไปตามการเวลา แต่แววตาและการเทคแคร์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
จะมีบุลคลที่เพิ่มขึ้นมาช่วยงานที่คลีนิกบ้าง คงไม่พ้นลูก ๆ หลาน ๆ ของเธอ...
บาดแผลครั้งนั่นติดตัวผมไปตลอดจนกระทั้งปัจจุบัน...
ที่ "ใต้ฝ่าเท้าขวาของผม"