Group Blog
กันยายน 2565

 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ถนนสายนี้ ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 309 "ล้อเลียน"





โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 309
 
 





"ล้อเลียน"
 
 
 
 


โจทย์โดย
  คุณต่อ  (toor 36)



 
 
 
เมื่อตอนเด็กๆ  เจ้าของบล็อกเป็นเด็กที่ค่อนข้างเจ้าเนื้อ จึงถูกคนในบ้านเรียกว่า 
“หมู”  บ้าง  “หมูจุ๊”  บ้าง  เจ้าของบล็อกไม่ได้รู้สึกอะไรว่าเป็นการล้อเลียน  กลับรู้สึกว่าพี่น้องในบ้านให้ความสนิทสนมด้วย  จึงได้ตั้งชื่อตลกๆมาเรียกกันเล่นในบ้าน  ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ  ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆครับ  จนถึงตอนโตแล้วเมื่อย้อนกลับไปนึกถึงตอนเป็นเด็กๆก็ยังไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี ....  จริงๆนะครับ






 





 
และเพราะความที่เป็นคนที่อวบเป็นระยะสุดท้าย  ช่วงอยู่ประถมปลายๆ  ถูกพ่อบังคับให้ไปว่ายน้ำทีสระว่ายน้ำใกล้ๆบ้าน  เจ้าของบล็อกก็ไปโดยดีนะครับ  .....  จำได้แม่นเลยว่ามีอยู่วันนึงเจ้าของบล็อกไปว่ายน้ำคนเดียว  แล้วมีกลุ่มวัยรุ่นที่โตกว่าเจ้าของบล็อกกลุ่มนึงมาว่ายน้ำด้วย  วัยรุ่นกลุ่มนั้นก็แซวเจ้าของบล็อกด้วยเสียงดังคับสระว่า  ..... 
“หมู”  บ้าง  “อ้วน”  บ้าง  แรกๆเจ้าของบล็อกก็เฉยๆนะครับ  คิดอยู่ว่าถ้ายิ่งโกรธวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็จะได้ใจ  สนุกกันใหญ่  สู้เจ้าของบล็อกทำเฉยๆไปคิดว่าวัยรุ่นกลุ่มนั้นคงเบื่อและเลิกแซวกันไปเอง
 












 
แต่เรื่องมันไม่จบง่ายๆครับ  วัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ยังแซวเจ้าของบล็อกอยู่ไม่เลิกไม่รา  เจ้าของบล็อกหนีไปว่ายอีกฝั่งหนึ่งของสระก็ยังตะโกนแซวกันอย่างสนุกปาก  เจ้าของบล็อกเลยตัดสินใจขึ้นจากน้ำ  กลับบ้านดีกว่า  ....
 




 
พอเจ้าของบล็อกขึ้นบันไดสระว่ายน้ำไปถึงขอบสระ  วัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ว่ายน้ำมาเกาะที่บันไดสระแล้วแซวเจ้าของบล็อกต่อ  .....
 




 

เจ้าของบล็อกก็ใช้เท้ายันที่หน้าวัยรุ่นคนหนึ่งจนตกน้ำไป  .....  แล้วเจ้าของบล็อกก็วิ่งขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหนีกลับบ้านเลยครับ
 



 
วิธีการที่เจ้าของบล็อกใช้ค่อนข้างจะฮาร์ดคอร์ไปนิดครับ  แต่มันเหลืออดจริงๆ  แซวกันอยู่ได้นานมากๆ 







 
 

----------------------------------------------------------------------------






ตอนที่เจ้าของบล็อกเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ  มีอยู่คืนนึงที่เจ้าของบล็อกกับเพื่อนๆคนไทยไปกินข้าวเย็นกันมา  แล้วมีแอลกอร์ฮอร์นิดหน่อยด้วย  ทุกคนลงความเห็นว่าจะมาค้างที่ห้องของเจ้าของบล็อก  เพราะอยู่ใกล้ที่สุด 
 
 



จากสถานีรถไฟเราต้องเดินต่อประมาณ  15  นาที  ถึงจะถึงบ้านของเจ้าของบล็อก  ระหว่างที่เดินๆกันอยู่  มีกลุ่มวัยรุ่นออซซี่กลุ่มหนึ่ง  (คนออสเตรเลียจะเรียกตัวเองว่า  “ออซซี่”)  เดินสวนไป  เจ้าของบล็อกและเพื่อนๆคนไทยก็ไม่ได้สนใจอะไร  รีบๆเดินเพื่อนจะถึงบ้านเร็วๆ  เพราะง่วงและเมาเต็มที 
 



 
พลันก็มีเสียง
  “เพล้ง”  ....  ดังขึ้นกลางกลุ่มของเจ้าของบล็อก  พร้อมกับมีความรู้สึกว่ามีวัตถุบางอย่างกระเด็นมาโดนที่ขานอกกางเกงยีนส์ ......
 



 
เมื่อเพ่งสายตาดูในความสลัวๆของแสงไฟส่องถนนแล้วถึงได้เห็นว่า 
“เป็นขวดเบียร์แตก”  ....  ในสมองของเจ้าของบล็อกรีบลำดับเหตุการณ์ทันที  .....  กลุ่มวันรุ่นออซซี่กลุ่มที่เพิ่งเดินผ่านไปคงโยนขวดเบียร์ใส่กลุ่มของเจ้าของบล็อกแน่ๆ  ....  ดีทีทุกคนใส่กางเกงยีนส์  จึงไม่ได้รับบาดเจ็บจากเศษขวดเบียร์ที่แตกๆ  พวกเรายังได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังตามมาอีกด้วย
 
 





คงเป็นเพราะความเมานั่นแหละครับ  เจ้าของบล็อกหันหลังกลับไปวิ่งไล่กลุ่มวัยรุ่นออซซี่กลุ่มนั้น  พร้อมทั้งตะโกนว่า 
“You are a dead man” ..... แปลได้ว่า  ....  ตายซะเถอะ ....  ประมาณนั้นครับ  แล้วเพื่อนๆของเจ้าของบล็อกก็วิ่งตามเจ้าของบล็อกมาทั้งกลุ่ม  คงตั้งใจจะวิ่งมาห้ามเจ้าของบล็อก  แต่กลุ่มวัยรุ่นออซซี่คงคิดว่าไอ้นักเรียนไทยกลุ่มนี้มันคงเอาจริง  เลยวิ่งหนีกันกระเจิง  .............  วีรกรรม  (เมา)  ครั้งนั้นของเจ้าของบล็อกยังเป็นที่ร่ำลือมาจนถึงทุกวันนี้ถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปสิบกว่าปีแล้วก็ตามครับ
 
 
 






 




------------------------------------------------------------------------------



 
 
เจ้าของบล็อกเป็นคนที่ไปรับหลานสาวที่โรงเรียนเองทุกวัน  เวลานั่งมาในรถเจ้าของบล็อกจะหลอกถามเรื่องที่โรงเรียนทุกวันครับ  ใครไม่มาโรงเรียนบ้าง  ใครโดนครูดุบ้าง  เป็นวิธีการทางจิตวิทยาที่ให้เด็กรู้สึกไม่กลัวที่จะคุยกับผู้ปกครอง  กล้าที่จะเล่าเรื่องต่างๆ  ถ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็จะชมเชย  ถ้าเป็นเรื่องที่ผิดเราก็ต้องตักเตือน 
 
 




บังเอิญหลานสาวของเจ้าของบล็อกเป็นเด็กสาวคนเข้ม   มีผิวสีแทน  ......  วันหนึ่งหลานสาวเจ้าของบล็อกก็เล่าให้เจ้าของบล็อกฟังเองเลยว่า  ....
 
 




หลานสาว :  วันนี้เพื่อนหนูเรียกหนูว่า
  “ดำ”

เจ้าของบล็อก :  แล้วหนูตอบเพื่อนไปว่ายังไงคะ


.
.
.
.

หลานสาว :  หนูบอกเพื่อนว่า 
“It’s  not  my  problem.  It’s  yours.”
 




 




“การล้อเลียน”  ทำอะไรเจ้าของบล็อกกับหลานสาวไม่ได้จริงๆครับ  ฮ่าๆๆๆๆๆ
 





 
 
 



 
 
















 











 
139137140







 



Create Date : 04 กันยายน 2565
Last Update : 4 กันยายน 2565 8:49:24 น.
Counter : 979 Pageviews.

16 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณปัญญา Dh, คุณเริงฤดีนะ, คุณtanjira, คุณtoor36, คุณnonnoiGiwGiw, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณkae+aoe, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณJohnV

  
หลานสาวคุณบอล
ตอบได้ดีมากๆครับ
ใช่เลยครับ คนล้อต่างหากที่ควรอาย

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:13:06:58 น.
  
อิ อิ
คำตอบของหลานสาวนี่
นึกถึงตัวเองเลยค่ะ

เรียกว่า การ fight back ด้วยสัญชาตญาณ
การปกป้องตัวเอง..

เผลอๆโดนต่อยสวน
เพราะที่บ้านพ่อ(อยากมีลูกชาย) ซื้อกระสอบทราย
และลงนวมเด็ก ให้ทุกวันหยุด




วีรกรรม ในวัยเด้กก็อยู่ที่ใจด้วยนะคะ
คนไทย(อ่อนน้อมก็จริง)ลึกๆไม่ชอบให้ใครรุกราน

ไปนู้น

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:15:02:56 น.
  
สวัสดีค่ะคุณบอล

พี่เองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรค่ะกับการที่ญาติพี่น้องเรียก กุ้งแห้ง หรือยัยแห้ง เมื่อสมัยเด็กๆ

พี่ว่าคนที่โดนยันตกน้ำก็สมควรแหละค่ะ เล่นไม่เลิก 555

หลานสาวน่ารักมากค่ะ กับคำตอบของเธอ

พี่เองก็เลี้ยงลูกสาวแบบคุยกันทุกวัน ถามเค้าทุกวัน
จนเค้าติดเป็นนิสัยไปเลยว่า เวลากลับบ้านจะต้องเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้แม่ฟังค่ะ
เค้าจะเล่าเรื่องเพื่อน เรื่องอาจารย์ จริงๆมันเป็นจิตวิทยาอย่างคุณบอลว่าไว้แหละค่ะ
จนถึงเดี๊ยวนี้ ลูกสาวมีอะไรก็จะเล่าไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องเพื่อน มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วค่ะ

พี่ว่าหลานสาวจะต้องเก่งเหมือนคุณลุงแน่ๆค่ะไม่ต้องห่วง ยิ่งคุณลุงดูแลด้วยความเข้าใจแบบนี้ด้วย คือดีงามค่ะ

ขอบคุณคุณบอลค่ะสำหรับกำลังใจที่บล็อกพี่ค่ะ

ขอให้สุขกายสบายใจนะคะ คุณบอล
โดย: tanjira วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:15:55:40 น.
  
ปัญหาพวกนี้ที่เราทำได้คือ ไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ เหมือนมันเป็นอากาศธาตุ แล้วมันจะเบาลงจนหยุดไปเอง ถ้าไม่เบาลงก็ค่อยคิดอีกที แต่ทีนี้ที่น่ากังวลจะเป็นเคสครูเสียมากกว่าที่กระโดดเข้ามาร่วมวงและล้อเลียนนักเรียนเสียเอง เช่น เรียกนักเรียนว่า ไอ้เตี้ย ไอ้แว่น ไอ้บอด ไอ้เป๋ มันเหมือนเป็นการประกาศให้นักเรียนทุกคนทราบว่า เรียกแบบนี้ได้ (เพราะครูยังเรียกแบบนี้) ดังนั้นนักเรียนคนอื่นๆ ก็จะพากันเรียกตามที่ครูเรียก ทั้งที่ตรงอกก็มีปักชื่อไว้อยู่แล้ว ทำไมครูไม่อ่านชื่อจากตรงนั้น

ความจริงถ้าล้อกันเล่น แล้วหยุดก็โอเคครับ เข้าใจได้ แต่ถ้าไม่หยุดแล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกสนุก หรือยินดีด้วยก็เข้าข่ายบูลลี่แล้ว ที่น่าห่วงไม่ใช่กับนักเรียนด้วยกัน แต่เป็นครูกระทำต่อนักเรียนมากกว่า
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:16:20:38 น.
  
น่าจะนิสัยคล้ายกันทั้งบ้านแหละคุณบอล

โดย: หอมกร วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:22:06:58 น.
  
สวัสดีครับคุณบอล

บางครั้งถ้ามันเหลืออด ก็ต้องปล่อยกลับไปบ้างเนาะ
ชอบคำตอบของหลานคุณบอลนะครับ
เบาๆ แต่เจ็บ
โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:23:01:24 น.
  
ผมกับเพื่อนสนิท ถูกเรียก อ้วน ผอม
เวลาได้ยิน ก็แค่ยิ้มๆครับ ผมจบมัธยมปลายด้วยน้ำหนัก 42 ส่วนเพื่อนหนักเกือบ 100 โล

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 4 กันยายน 2565 เวลา:23:09:01 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2565 เวลา:5:37:54 น.
  
มาช้า แต่อ่านแล้วขำดี แต่ไงคุณบอลแรงขนาดนั้น 555

ัยัน... ตกสระไปเลย หุ หุ ดีจังเลยจะได้เข็ดกันมั่ง
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 5 กันยายน 2565 เวลา:5:47:23 น.
  
“It’s not my problem. It’s yours.”

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 5 กันยายน 2565 เวลา:15:16:01 น.
  
ถ้าตอนนั้นผมซื้อที่ได้
ตอนนี้ผมจะเหนื่อยหนักเลยครับ
เพราะต้องผ่อน ต้องเจอดอกเบี้ยในช่วงโควิด
เลยคิดอีกที
เราก็โชคดีแล้วที่ไม่ต้องเป็นหนี้ครับ 555

และที่สำคัญบ้านที่ซื้อไว้ 20 ปี
ก็มีโอกาสได้อยู่จริงๆเสียทีครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2565 เวลา:15:20:32 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กันยายน 2565 เวลา:5:23:27 น.
  
โห....ประสบการณ์พี่บอลนี่ก็หนักหน่วงเหมือนกันนะครับ
แต่ดีตรงที่พี่บอลก้ตอบโต้พวกชอบบลูลี่ได้เจ็บๆ คัน ๆเหมือนกัน นี่แหละ มันต้องโดนกันบ้าง ไม่ใช่คิดว่าจะทำคนอื่นได้อย่างเดียว

แต่ที่ต่างประเทศบางทีก็น่ากลัวนะครับ การบลูลี่ของเค้ารุนแรงกว่าไทยเยอะเลย ของไทยยังดูขายขำ แต่ไม่ขำ
ถ้าเป็นสถานการณ์เหมือนที่พี่บอลเจอที่ออส ผมกลัวนะ กลัวโดนกระทืบ แล้วเราตัวเล็กกว่า พวกเราน้อยกว่า เดี๋ยวสู้ไม่ได้ ถ้าเป็นที่ไทย ผมถือว่าไม่เล็ก ถ้าหิวก็กินข้าว ถ้าห้าวมาก็กินตรีนผมแน่นอน

จากบล๊อก
ม่แต่คนบอกว่าผู้ชายชอบสีน้ำเงินโรเมนติก อิอิ โรแมนติกไหน ก็นั่งดู Topgun ชมวิวอ่าวพัทยากับแฟนน่ะครับ 5555555 น่าจะดูหนังน่ารัก ๆ เนอะุ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 6 กันยายน 2565 เวลา:12:10:59 น.
  
ส่งการบ้านประจำเดือน ก.ย.เมนูแรก ค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 กันยายน 2565 เวลา:14:33:48 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องบอล

ขอบใจนะ ที่ไปเม้นท์และให้กำลังใจบล็อกเชียงรายตอนจบของครู

ผาหมีสวยมากจ้ะ รถสามารถไปถึง เดินไม่มากและดอยตุง ถ้าต้องการ
ชมดอกไม้สวย ๆ ค่อย ๆ เดินก็ไม่เหนือยนักนะ เพราะทางเดิน
ราบเรียบแต่ถ้าไปเยือนพระตำหนักเดินไกลมาก แถมไม่ให้ถ่ายรูปภายในอีกให้แต่หูฟัง บรรยายความรู้แต่ละห้อง จำไม่ได้หรอก อิอิ

ตะพาบล้อเลียน ของบอล ยกตัวอย่าง เรื่องการล้อเลียนหลาย ๆ
รูปแบบทั้งนั้น ซึ่งทำให้คนที่ล้อเลียน ไม่ชอบทั้งนั้น โดยเฉพาะถ้า
เป็นปมด้อยของเขา ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง จ้ะ ครูว่า คนที่ชอบ
ล้อเลียนปมด้วยของคนอื่น ใจเขาไม่ปรกติ จ้ะ

โหวดหมวด ตะพาบ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 6 กันยายน 2565 เวลา:14:48:01 น.
  
"ปมด้อยของคนอื่นไม่ใช่เรื่องตลก" จริงๆครับ
โดย: JohnV วันที่: 6 กันยายน 2565 เวลา:23:58:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 157 คน [?]