แกงเลียงผักหวานป่า กุ้งสด ร้อน ๆ ...มาแล้วจ้า

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ชามนี้ ทานแล้วไม่อ้วนคะ แต่ทานเยอะ ๆ แล้วอิ่ม อร่อย

แม่ใบตองรู้จักผักหวานป่า เห็นความอ่อน ความสด จากเพื่อนเฟช ที่เค้าปลูกขาย แล้วมันล่อตาล่อใจ

ให้อยากชิมรสชาติอันกรอบหวาน ม๊ากกมาก

   ผักหวานป่า หาซื้อในกรุงเทพฯ ไม่ค่อย ได้

พอดีเมื่ออาทิตย์ก่อน รถขายกับข้าวในหมู่บ้าน เอามาขาย ขีดละ 20 บาท

เลยสอยมาสองกำ  ถามพี่นันท์ จากอุตรดิตถ์ ในเฟช ...ที่บ้านเค้าปลูกผักหวานป่าขาย

ว่าทำอะไรอร่อย เค้าบอกอร่อยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แกงเลียง ผัดน้ำมันหอย จิ้มน้ำพริก

อู้ยยยย  พูดมาแต่ละอย่าง ต้องนั่งกลืนน้ำลาย เอื้อกใหญ่กันเลยคะ

แม่ใบตองจัดการเอามาแกงเลียงดีกว่า ไปซื้อเห็ดกับบวบหอม ที่ตลาดนัดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย

แค่นี้ก็ได้แกงเลียงหม้อใหญ่แล้วคะ

  ผักหวานป่า ใบอ่อน สีเขียวอ่อนกว่า ผักหวานบ้าน

เด็ดทั้งใบ ทั้งยอด กรอบอร่อย ๆ

   ผักอะไรเอ๋ย  ...ในแกงเลียง ต้องมีใส่ ขาดไม่ได้

นั่นคือ  ใบแมงลัก หอม ๆ คะ

   สำรับส่วนผสม....เตรียมพร้อม ประกอบด้วย

ผักหวานป่า 2 กำ

บวบหอม  3  ลูก

เห็ดฟาง 200 กรัม

ใบแมงลัก 1 กำ

ปลาทูทอดแกะเอาแต่เนื้อ 1 ตัว

กุ้งสด 7 ตัว

กะปิ  1 ช้อนโต๊ะ

หอมแดง 5 หัว

พริกไทยเม็ด 20  เม็ด

กุ้งแห้ง  1 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่า 3/4 ลิตร

   ผักสำหรับใส่แกงเลียง วันนี้มี ผักหวานป่า บวบหอม และเห็ดฟาง

อาจใส่อย่างอื่นได้ตามความชอบ เช่น ฟักทอง ตำลึง น้ำเต้า ข้าวโพดอ่อน

   เครื่องตำน้ำพริกแกงเลียง ประกอบด้วย

กุ้งแห้ง  หอมแดง พริกไทยเม็ด และกะปิ

   กุ้งสด แกะเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำ ๆ ออก ล้างให้สะอาด

   เตรียมเครื่องเรียบร้อย พร้อมปรุง

   โขลกริกแกงเลียง โดย เริ่มตำกุ้งแห้งให้ละเอียด

ตามด้วย พริกไทยเม็ด  ตำจนละเอียด แล้วใส่หอมแดง ลงโขลก จนเกือบละเอียด

ตามด้วย กะปิ บด ๆ บี้ ให้เข้ากัน

   นำน้ำเปล่าใส่หม้อ ตักเครื่องแกงเลียง ลงละลายกับน้ำเปล่า

ยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด

พอเดือด แล้วใส่กุ้งสดลงไป

   ตามด้วยปลาทูแกะเอาแต่เนื้อ

   รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ผักที่สุกยากลงก่อน

เช่น เห็ดฟาง บวบ

   พอผักอื่นสุก ใส่ผักหวานป่าลงคน ผสมให้เข้ากัน

   ตามด้วยใบแมงลัก

   พอเดือดอีกครั้ง ชิมรสชาติตามต้องการ

สามารถเติมเกลือได้อีกเล็กน้อย ค่อย ๆ เติม เพราะมีความเค็มของกะปิ กับกุ้งแห้งอยู่แล้ว

ปิดไฟ ยกลง

   ตักใส่ชาม พร้อมทานกับข้าว ร้อน ๆ

ผักหวานป่า หวาน กรอบ ในรสชาติ อร่อยมาก ๆ

   ได้น้ำพริกกะปิสักถ้วย ยิ่งอร่อยใหญ่...

   สรรพคุณ / ประโยชน์ของผักหวานป่า

คุณค่าทางอาหารของผักหวานป่า

ผักหวานป่าจัดเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงชนิดหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านแหล่งโปรตีน วิตามินซี และพลังงาน นอกจากนี้ยังมีปริมาณเยื่อใยพอสมควรช่วยในการขับถ่ายให้ดีขึ้น ในยอดและใบสดที่รับประทานได้ 100 กรัม ประกอบด้วยน้ำ 76.6 กรัม โปรตีน 8.2 กรัม คาร์โบไฮเดท 10 กรัม เยื่อใย 3.4 กรัม เถ้า 1.8 กรัม แคโรทีน 1.6 มก. วิตามินซี 115 มก. และค่าพลังงาน 300 กิโลจูล (KJ) อย่างไรก็ตามการบริโภคผักหวานป่าควรปรุงให้สุกเสียก่อน เนื่องจากการบริโภคสด ๆ ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการเบื่อเมา เป็นไข้ และอาเจียนได้ การนำผักหวานป่ามาปรุงอาหารนั้นใช้ได้ทั้งส่วนที่เป็นยอดและใบอ่อน นำช่อผลอ่อน ๆ สำหรับผลแก่อาจลอกเนื้อทิ้งนำเมล็ดไปต้มรับประทานได้เช่นเดียวกับเมล็ดขนุน มีรสหวานมัน การปรุงอาหารจากผักหวานป่า นอกจากต้ม ลวก เป็นผักจิ้มน้ำพริกแล้วอาจนำไปทำแกง แกงเลียง หรือต้มจืดได้เช่นกัน


ประโยชน์ของผักหวานป่า

ผักหวานป่าเป็นเครื่องยาไทยจำพวกผักจะใช้ส่วนรากมาทำยา รากมีรสเย็นสรรพคุณ แก้ไข้ แก้ดีพิการ แก้เชื่อมมัว แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้กระสับกระส่าย พบว่าผักหวานป่าจัดเป็นทั้งอาหารและยาประจำฤดูร้อนแก้อาการของธาตุไฟได้ตามแพทย์แผนไทย ส่วนยอดก็นิยมนำมาปรุงอาหารมีรสหวานกรอบช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำและระบายความร้อนหรือใช้ปรุงเป็นยาเขียวเพื่อลดไข้ ลดความร้อน ปัจจุบันพบว่ามีการนำมาพัฒนาเป็นชาผักหวานป่าทำเป็นเครื่องดื่มต้านอนุมูลอิสระ

สรรพคุณของผักหวานป่า

ส่วนของลำต้นจะใช้แก่นผักหวานต้มรับประทานน้ำเป็นยาแก้ปวดตามข้อหรือปานดงหรือจะใช้ต้นผักหวานกับต้นนมสาวเป็นยาเพิ่มน้ำนมแม่หลังคลอดบุตร รากต้มรับประทานน้ำเป็นยาเย็นแก้พิษร้อนในแก้น้ำดีพิการและแก้ปวดมดลูก

ส่วนที่ใช้ประโยชน์ : ลำต้น ใช้ประโยชน์ในทางเป็นพืชสมุนไพรอย่างหนึ่ง ยอดอ่อน ดอกอ่อน และ ผลอ่อนใช้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้ม ผัด แกง ทอด ส่วน ผลสุกนำมาต้มให้สุกและรับประทานเนื้อข้างใน

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากที่นี่คะ >>>

ประโยชน์ของผักหวานป่า

มีความสุขที่ได้ แบ่งปัน..... สร้างสรรค์ 

ยินดีที่แวะมาเยียมเยียนกันนะคะ

Create Date : 12 มีนาคม 2556
Last Update : 12 มีนาคม 2556 16:29:58 น.		15 comments
Counter : 22698 Pageviews.
Share Tweet