แกงขี้เหล็ก หมูย่าง  ขี้เหล็กมีขายในตลาดสดทั่วๆ ไป มี 2 แบบคือ ต้มไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะนำไปทำแกง กับใบและดอกขี้เหล็กสดๆ มัดเป็นกำใหญ่ มีทั้งยอดอ่อนและช่อดอกรวมกัน ประเภทต้มแล้วจะขายเป็นก้อนกลม หรือชั่งเป็นกิโลขาย 
ส่วนใหญ่นิยมซื้อที่ต้มแล้วมาทำแกงกิน เพราะประหยัดเวลาและลดขั้นตอนลงได้ ถ้าซื้อแบบใบและดอกสดมาจะมีข้อดีคือได้เลือกใบอ่อน จนมาถึงอ่อนกลางได้ สามารถล้างทำความสะอาดได้ ต้มน้ำล้างขมได้รสเป็นที่พอใจ ส่วนที่ซื้อต้มแล้วมา มักจะปนใบแก่มามากเกินไป ต้องคัดออก และก่อนต้มอาจไม่มีการล้างใบและดอกขี้เหล็กก่อน เมื่อนำมาแกงแล้วรสออกขมเกินไป ความสดใหม่จะน้อยกว่าทำเอง
ในฤดูฝนดอกขี้เหล็กจะเยอะ ดอกขี้เหล็กอร่อยมาก โดยเฉพาะดอกที่ยังตูมอยู่ จะมีรสขม มันหวาน เมื่อแกงเข้าเครื่องแกงและกะทิ รสชาติไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี

เครื่องปรุง ใบขี้เหล็กต้ม 1 ถ้วย ดอกขี้เหล็กต้ม 1/2 ถ้วย เนื้อหมูส่วนสะโพก 200 กรัม น้ำมันพืช 1 ช้อนชา มะพร้าวขูด 500 กรัม น้ำพริกแกงคั่ว (น้ำหนัก 50 กรัม) 1/4 ถ้วย น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
วิธีทำ 1. นำใบและดอกขี้เหล็ก มาต้มน้ำทิ้ง เพื่อลดความขม และเผื่อน ให้ลดลง ต้มหลาย ๆ น้ำได้ จนล้างความขมให้เป็นที่พอใจ แล้วบีบน้ำออกจากขี้เหล็กให้หมด พักไว้ 2. ทำหมูย่างโดยล้างหมูให้สะอาด ใส่ชาม ตามด้วยซีอิ๊วขาว เคล้า พอทั่ว หมักไว้ ประมาณ 15 นาที นำไปย่าง หรืออบให้สุกเกรียม นิด ๆ แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง เตรียมไว้ 3. คั้นมะพร้าวโดยใส่น้ำอุ่น 1/4 ถ้วย คั้นให้ได้หัวกะทิ 1 ถ้วย ใส่น้ำอุ่นอีก 2 ถ้วย คั้นให้ได้กะทิ 2+1/2 ถ้วย 4. เคี่ยวหัวกะทิ 1/2 ถ้วยในกระทะด้วยไฟอ่อนจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงคั่ว ผัดจนมีกลิ่นหอมและมีมันสีแดงลอยหน้า จึงใส่เนื้อหมูย่างลงผัดจนทั่วและสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำตาล ผัดจนทั่ว ค่อยๆ ใส่กะทิ ผัดจนหมดกะทิ ปิดไฟ 5. ตักแกงที่ผัดใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลางจนเดือด ใส่ใบและดอกขี้เหล็กต้ม ต้มจนเดือด ใส่หัวกะทิที่เหลือ ปิดไฟ 6. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ  นำใบและดอกขี้เหล็ก มาต้มน้ำทิ้ง เพื่อลดความขม และเผื่อนให้ลดลง ต้มหลาย ๆ น้ำได้ จนล้างความขมให้เป็นที่พอใจ แล้วบีบน้ำออกจากขี้เหล็กให้หมด พักไว้
 ทำหมูย่างโดยล้างหมูให้สะอาด ใส่ชาม ตามด้วยซีอิ๊วขาว เคล้าพอทั่ว หมักไว้ ประมาณ 15 นาที นำไปย่าง หรืออบให้สุกเกรียมนิด ๆ แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง เตรียมไว้
 คั้นมะพร้าวโดยใส่น้ำอุ่น 1/4 ถ้วย คั้นให้ได้หัวกะทิ 1 ถ้วย ใส่น้ำอุ่นอีก 2 ถ้วย คั้นให้ได้กะทิ 2+1/2 ถ้วย
 เคี่ยวหัวกะทิ 1/2 ถ้วยในกระทะด้วยไฟอ่อนจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงคั่ว ผัดจนมีกลิ่นหอมและมีมันสีแดงลอยหน้า จึงใส่เนื้อหมูย่างลงผัดจนทั่วและสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำตาล ผัดจนทั่ว ค่อยๆ ใส่กะทิ ผัดจนหมดกะทิ ปิดไฟ ***************************** ขั้นตอนนี้ แม่ใบตองไม่ได้นำหัวกะทิไปผัด เพราะไม่ต้องการน้ำแกงแบบมัน ๆ ใช้วิธี นำพริกแกงมาละลายกับกะทิ แล้วตักไฟให้เดือดข้น  แล้วใส่ขี้เหล็กลงเคี่ยว ไฟอ่อน ๆ จนแตกมัน ตามด้วยใส่หมูย่างที่เตรียมไว้  ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำตาล จนได้รสชาติที่ต้องการ ตั้งไฟให้เดือดอีกสักครู่ ปิดไฟ  ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ  แกงขี้เหล็กเป็นแกงที่ชอบอีกอย่าง จริง ๆ เคยได้ยินว่าแกงขี้เหล็ก จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้สูงวัยเท่านั้น เด็ก ๆ จะไม่ชอบทานกัน เพราะมีรสขมมาก  แต่แม่ใบตองชอบแกงขี้เหล็ก กินผักได้ทุกชนิดมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้น ลบคำว่าผักขม ๆ สำหรับ สว. สำหรับแม่ใบตองไปได้ เลย อิอิ ((จะบอกเป็นนัย ๆ ว่ายังไม่สูงวัย ก็ชอบของขม ๆ คะ))  สรรพคุณ ขี้เหล็กมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ สามารถขับพิษร้ายออกจากร่างกายได้ เป็นยานอนหลับธรรมชาติอย่างดียิ่ง ในใบขี้เหล็กจะมีสารระงับประสาทช่วยคลาย ความเครียด ดอกขี้เหล็กแก้หืด รักษารังแค นอกจากนี้ขี้เหล็กยังมีสารเบต้าแคโรทีน ที่ร่างกายจะนำไปสร้างวิตามินเอ บำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง แถมยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย มีความสุขที่ได้ แบ่งปัน..... สร้างสรรค์ ยินดีที่แวะมาเยียมเยียนกันนะคะ
|