The Bow รักเจ้าดึงรั้งดั่งคันศร
The Bow รักเจ้าดึงรั้งดั่งคันศรพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 9 เมษายน 2549 กลายเป็นผู้กำกับฯขาประจำของผู้เขียนไปแล้วสำหรับนักสร้างหนังชาวเกาหลีชื่อ คิม คี ดุก เมื่อไหร่มีงานใหม่ออกมาเป็นต้องขวนขวายมาชมให้ได้โดยไว และด้วยธรรมชาติของเขาซึ่งเป็นคนทำงานเร็ว จึงมีงานใหม่ออกมาแทบจะหัวปีท้ายปี อันที่จริง อาการโปรดปรานงานของคิม คี ดุก ไม่ได้เกิดขึ้นแต่แรกเริ่ม ช่วงต้นที่งานยังวนเวียนอยู่กับความรุนแรงแบบซาโด-มาโซคิสม์ เช่นใน The Isle(2000) ชื่อของเขาถูกจัดอยู่ในจำพวกของแสลงที่ไม่น่าลิ้มลองอีก กระทั่ง Spring, Summer, Fall, Winter... and Spring(2003) เรื่องราวอิงหลักศาสนาพุทธซึ่งวิจิตรงดงาม ละเมียดละไม จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นงานของคนที่เคยถูกสื่อต่างชาติประณามว่าเป็น ปีศาจ ทำให้ใครต่อใครมองเขาในแง่มุมใหม่ เปลี่ยนทัศนคติจากร้ายกลายเป็นดีแบบพลิกฝ่ามือ หลังจากนั้น คิม คี ดุก มีงานต่อยอดความสำเร็จออกมาในปี 2004 ถึง 2 เรื่อง เริ่มจาก Samaritan Girl(2004) ซึ่งอ้างอิงจาก The Divine Comedy ของดังเต้ ที่ส่งให้เขาได้รางวัลผู้กำกับฯยอดเยี่ยมที่เบอร์ลิน ตามมาด้วย 3-Iron (2004) กับรางวัลสิงโตเงินที่เวนิซ ทั้งสองเรื่องแม้ว่ายังมีร่องรอยของความรุนแรงอยู่ แต่ภาพรวมของหนังคือความรันทดงดงามที่ติดตรึงความรู้สึกอย่างยิ่ง โดยไม่ต้องให้คอยนาน ปี 2005 คิม คี ดุก ปล่อยงานใหม่ชื่อ The Bow มาให้ดื่มด่ำกันต่อ The Bow เป็นเรื่องของชายชราผู้ใช้ชีวิตตามลำพังบนเรือกลางทะเลกับเด็กสาววัย 16 ปี โดยตั้งใจไว้ว่าเมื่อเด็กสาวครบ 17 ปีเมื่อไร เธอจะกลายเป็นเจ้าสาวของเขา ชายชราหาเลี้ยงชีพด้วยการพาคนจากฝั่งมานั่งตกปลาบนเรือ ผู้ชายรายแล้วรายเล่าต่างหมายเกี้ยวพาล่วงเกินเด็กสาว แต่ลูกธนูจากคันศรของชายชราที่พุ่งแหวกอากาศเฉียดร่างคนเหล่านั้นห่างไปไม่กี่นิ้ว ช่วยปราบพฤติกรรมต่ำทรามได้ชะงัด นอกจากชายชราจะใช้ธนูเป็นอาวุธคู่มือแล้ว ยามฟ้าพลบหลังจาก อาบน้ำ ให้เด็กสาวแล้ว เขาจะนั่งบรรเลงเพลงไพเราะบนหัวเรือ โดยใช้คันศรนั้นดัดแปลงเป็นเครื่องดนตรี ที่ประหลาดกว่านั้นคือชายชราใช้ธนูนี้เป็นเครื่องมือดูดวงให้ลูกค้า ด้วยการยิงศรใส่เด็กสาวขณะนั่งไกวชิงช้าข้างลำเรือ สร้างความหวาดเสียวแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก ช่วงเวลานับถอยหลังสู่วันวิวาห์ถึงคราวไม่ราบเรียบ เมื่อปรากฏเด็กหนุ่มนักศึกษาหน้าตาดีคนหนึ่งมาเป็นลูกค้าบนเรือ ว่าที่เจ้าสาวซึ่งยังไม่เคยพบเจอเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันจึงถูกตาต้องใจแต่แรกพบ เด็กหนุ่มมอบเครื่องเล่นเพลงพกพาแก่เด็กสาว เธอเฝ้าฟังมันไม่หยุดจนไม่สนใจชายชรา ไม่สนใจเพลงที่เธอเคยฟังยามพลบค่ำ คล้ายว่าสวรรค์กลางทะเลของชายชรากำลังจะพังทลายลงต่อหน้าต่อตา... ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Bow เป็นการเล่นกับความหมายหลากหลายของคำ โดยแต่ละความหมายต่างเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาเรื่องราวของหนัง คำนี้ตามคำอ่านแบบหนึ่งแปลได้ 2 ความหมาย หนึ่งคือ คันศร และอีกความหมายคือ คันชัก ของเครื่องสาย อีกคำอ่านหนึ่งแปลได้ 2 ความหมายเช่นกัน นั่นคือ หัวเรือ และการ ก้มศีรษะ ซึ่งในเรื่องนี้น่าจะหมายถึงการยอมจำนน ซึ่งทั้ง คันศร คันชัก หัวเรือ และ การยอมจำนน ล้วนแต่เชื่อมโยงกับชีวิตของชายชราทั้งสิ้น หนังแสดงให้เห็นว่าชีวิตของชายชราผูกโยงยึดแน่นอยู่กับธนูเสมอ ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ชายชราจัดเตรียมดัดแปลงคันศรเป็นเครื่องดนตรี ต่อมาเราจึงได้เห็นเขาใช้เครื่องดนตรีนี้บรรเลงเพลงเพื่อแสดงออกทางอารมณ์ทั้งยามสุขและทุกข์ นอกจากนี้ เขายังใช้ปกป้องเด็กสาวผู้เป็นที่รัก จนถึงฉากจบที่ธนูปรากฏต่างตัวชายชราในวันวิวาห์ ส่วนเรือซึ่งมีรูปทรงไม่ต่างจากคันศร นอกจากจะเป็นบ้านแห่งเดียวของชายชราแล้ว เหตุที่เกิดกับเรือลำนี้ยังแสดงถึงความเป็นไปของชายชราด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่เริ่มรวน หรือเมื่อมันค่อยๆ จมสู่ท้องทะเล นั่นหมายถึงห้วงเวลาแห่งการยอมจำนนนั่นเอง หนังงดงามด้วยภาพอันเปี่ยมสีสัน ทั้งสีเขียว สีแดง จากเสื้อผ้าของเด็กสาว สีฟ้าของท้องฟ้าและน้ำทะเล สีส้มของเรือ ผสานกับเสียงเพลงไพเราะที่ผสมระหว่างเครื่องดนตรีดั้งเดิมกับเครื่องดนตรีสากล กระทั่งเป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดของหนัง หลายฉากกลายเป็นฉากที่น่าจดจำ เช่น ฉากเปิดเรื่อง ฉากไกวชิงช้าดูดวง ฉากงานวิวาห์ ฉากเหล่านี้ล้วนมีเสน่ห์ด้วยอารมณ์กึ่งจริงกึ่งฝันเชิญชวนให้ลุ่มหลง นอกจากภาพและเสียงที่งดงามในตัวเองอยู่แล้ว ทุกความงดงามที่กล่าวมาทำให้เรื่องราวของชายวัยใกล้ฝั่งที่หวังครองรักกับเด็กสาว ซึ่งอาจจะดูผิดครรลองคลองธรรม แต่ในโลกเฉพาะของตัวละคร การกระทำของชายชราคือการแต้มเติมความงามให้กับทุกจังหวะชีวิต แม้ตนเองอยู่ในช่วงบั้นปลายแล้วก็ตาม Han Yeo-reum นักแสดงวัย 23 ปี ที่เคยเล่นเป็นนักเรียนขายตัวใน Samariton Girl แสดงเป็นเด็กสาวได้อย่างเหมาะสม เธอคือศูนย์กลางของเรื่องราวที่มีแรงดึงดูดรุนแรง สีหน้าไร้เดียงสาที่ซ่อนความดื้อรั้นและร้ายกาจ กำหนดการกระทำของตัวละครอื่น ขณะเดียวกันก็กำหนดความเป็นไปของเรื่องราวทั้งหมด คิม คี ดุก ยังคงเอกลักษณ์ที่เห็นบ่อยครั้งในงานของเขา นั่นคือ ใช้ตัวละครไม่กี่ตัว ไม่ระบุชื่อ พูดน้อย แต่เดินเรื่องได้หนักแน่นชัดเจน เป็นเรื่องราวกึ่งจริงกึ่งแฟนตาซีราวกับโลกที่ไม่มีอยู่จริง และเป็นอีกครั้งที่ปรากฏ โลกกลางน้ำ ในหนังของเขา ดังเช่นเรือนแพใน The Isle และสำนักสงฆ์ใน Spring, Summer, Fall, Winter... and Spring The Bow อาจจะไม่ลึกซึ้งเท่า Spring ที่ว่ากันว่าเป็นมาสเตอร์พีซของเขา แต่เรื่องความงดงามนับว่าไม่ได้ด้อยกว่ากัน ซ้ำยังโดดเด่นยิ่งกว่าด้วยดนตรีประกอบอันอ่อนช้อยน่าอัศจรรย์ที่ใส่เข้ามาอย่างเหมาะเจาะลงตัวดูจบแล้วอยากค้อมคารวะในความเป็นศิลปินของคิม คี ดุก จริงๆ
Create Date : 20 มิถุนายน 2549
2 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 2:26:00 น.
Counter : 10104 Pageviews.
โดย: octavio 21 มิถุนายน 2549 19:44:35 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
ชอบSpring, Summer, Fall, Winter... and Spring ที่บรรยากาศบรรเจิดมาก และเรื่องราวก็ให้แง่คิด
แต่เรื่อง The Isle เนี่ย หวาดเสียวค่ะ มัน....ให้ความรู้สึกที่รุนแรงมากๆ คนเรามันจิตป่วยกันได้ขนาดนั้น