Bright Star ความรักของกวี
Bright Star ความรักของกวีพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 7 มีนาคม 2553 จอห์น คีตส์ (1795-1821) คือกวียุคโรแมนติคชาวอังกฤษที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่ง ยืนเรียงเคียงข้างอย่างโดดเด่นกับไบรอนและเชลลีย์ สองกวีรุ่นราวคราวเดียวซึ่งต่างเสียชีวิตขณะยังหนุ่มแน่นเหมือนกัน ตลอดชีวิตอันแสนสั้นของคีสต์มากมายด้วยความทุกข์ตรมขมขื่น พ่อและแม่จากไปแต่วัยเยาว์ ทิ้งให้คีตส์ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต น้องชายสองคน และน้องสาวคนเล็ก อยู่ในอุปการะของเศรษฐีผู้ตระหนี่ถี่เหนียว เขาเข้าศึกษาวิชาชีพศัลยแพทย์จนสำเร็จแต่มุ่งมั่นเลือกเส้นทางเป็นกวี แม้ต้องอยู่อย่างไร้เงินตรา-ชื่อเสียง ถูกปรามาสกล่าวร้าย เจ็บป่วยด้วยโรคเดียวกับที่คร่าชีวิตแม่และน้องชาย ก่อนจะหลับลงชั่วนิรันดร์ขณะอายุเพียง 25 ปี กระนั้น แม้จะทุกข์ยากลำบากเพียงใด สิ่งที่ช่วยชุบชูจิตใจของคีตส์ได้เสมอคือการเขียนบทกวี อ่านงานเขียนดีๆ มีกัลยาณมิตรรายล้อม และความรู้สึกที่มอบให้หญิงสาวผู้เป็นที่รัก...แฟนนี บรอว์น Bright Star (2009) คือหนังว่าด้วยความรักระหว่าง จอห์น คีตส์ กับ แฟนนี บรอว์น นั่นเอง เจน แคมเปียน ผู้กำกับหญิงชาวนิวซีแลนด์ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือชีวประวัติชื่อ Keats ของ แอนดรูว์ โมชั่น ในบทที่กล่าวถึง แฟนนี บรอว์น และบทกวี Bright Star ซึ่งคีตส์เขียนให้เธอ ในหนังสือเล่มดังกล่าวรวมถึงการศึกษาประวัติชีวิตของคีสต์ตลอดเวลาที่ผ่านมามักจะอ้างอิงจากจดหมายที่คีตส์เขียนถึงน้องๆ ถึงแฟนนี และมิตรที่สนิทสนมรักใคร่ รวมทั้งวิเคราะห์จากถ้อยคำในบทกวี แต่เมื่อเรื่องราวระหว่างคีตส์กับแฟนนีมาอยู่ในมือของแคมเปียนแล้ว มุมมองของหนังจึงถูกปรับเปลี่ยนไปจากความคุ้นเคย แคมเปียนซึ่งทำหนังว่าด้วยความปรารถนาของตัวละครหญิงมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มมีชื่อเสียงจาก An Angel at My Table (1990) ประสบความสำเร็จสูงสุดจาก The Piano (1993) ก่อนจะเจือจางลงตามลำดับจาก The Portrait of a Lady (1996) Holy Smoke! (1999) และ In the Cut (2003) ทำ Bright Star โดยให้ตัวละครหลักเป็นแฟนนีซึ่งกำลังตกอยู่ในห้วงรักต่อกวีหนุ่ม หนังจับช่วงเวลา 3 ปีสุดท้ายของคีตส์ (เบน วิชอว์) ขณะที่ ทอม น้องชายป่วยหนักด้วยวัณโรค และหลังจากพิมพ์กวีนิพนธ์ Endymion ออกจำหน่ายได้ไม่นาน คีตส์อาศัยอยู่กับ ชาร์ลส์ บราวน์ เพื่อนสนิทที่เวนต์เวิร์ธเพลซซึ่งเช่าบ้านพักร่วมกับครอบครัวดิลค์ กระทั่งรู้จักกับครอบครัวของแม่หม้ายบรอว์นที่มีลูกสาวชื่อ แฟนนี (แอ็บบี คอร์นิช) วัย 18 ปี และน้องอีก 2 คน แฟนนีเป็นเด็กสาวเฉลียวฉลาด มั่นใจในตนเอง กล้าคิดกล้าพูด มีความสามารถด้านเย็บปักถักร้อยและออกแบบเสื้อผ้า เธอชอบพอคีตส์จึงหาซื้อ Endymion (ซึ่งขายไม่ออก) มาอ่านเพื่อทำความรู้จักคีตส์ให้มากขึ้น และขอให้คีตส์สอนเธอให้เข้าถึงบทกวี เมื่อครอบครัวดิลค์ย้ายออกไปและครอบครัวบรอว์นย้ายมาอยู่แทน ทั้งสองจึงกลายเป็นคนที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน มีห้องนอนติดกัน ร่วมรื่นรมย์กับความงดงามของธรรมชาติทุกเช้าค่ำ กระทั่งความสนิทสนมรักใคร่ก่อตัวมากขึ้นเป็นลำดับ คราใดที่คีตส์ต้องเดินทางไปพักอาศัยยังที่ห่างไกล แฟนนีได้แต่โหยหาเป็นทุกข์ จะมีชีวิตชีวาขึ้นก็ต่อเมื่อมีจดหมายจากกวีหนุ่มเดินทางมาถึงความรักของหนุ่มสาวทั้งสองคล้ายจะสวยงามราบรื่น แต่แม่ของแฟนนีและคนใกล้ชิดมักจะเตือนว่าฐานะของคีตส์ไม่อาจเลี้ยงดูเธอได้ คีตส์เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดีจึงพยายามหักห้ามความรู้สึกที่มีให้แฟนนี ซ้ำร้ายกว่านั้นคืออาการของโรคร้ายที่กำเริบขึ้นในตัวคีตส์ และเขารู้ดีว่าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วหญิงสาวผู้ทุ่มเทให้ความรักอย่างแฟนนีจะทนรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้อย่างไร อาจเพราะชื่อหนังที่ส่องประกายสดใส เรื่องราวความรักบริสุทธิ์ของหนุ่มสาว ประกอบกับความงามในถ้อยคำกวี แคมเปียนจึงทำ Bright Star ด้วยบรรยากาศเปี่ยมสีสันแตกต่างจากภาพทึมเทา-ซีดจางใน The Piano ทึบทึมมืดหม่นใน The Portrait of a Lady หรือวูบไหวบดเบลอใน Holy Smoke! และ In the Cut เกรก เฟรเซอร์ ผู้กำกับภาพชาวออสเตรเลียทำให้ Bright Star ราวกับภาพเขียนของจิตรกรมาร้อยเรียงต่อกัน หลายฉากจัดองค์ประกอบภาพให้ตัวละครยืนอยู่ริมหน้าต่าง รับแสงส่องผ่านเข้ามาในห้อง ชวนให้นึกถึงภาพเขียนของ โยฮันเนส เฟร์เมียร์ ศิลปินชาวดัตช์ ขณะที่ฉากกลางแจ้ง เช่น ฉากปิกนิก หรือฉากที่ตัวละครอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ก็คล้ายกับภาพเขียนอิมเพรสชั่นนิสม์อันคุ้นตา (ปี 2009 เฟรเซอร์มีงานกำกับภาพเยี่ยมๆ อีก 2 เรื่องคือ Last Ride และ The Boys Are Back) เนื่องจากเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครแฟนนี รายละเอียดหลายอย่างของคีตส์จึงไม่ถูกกล่าวถึง เช่น ความห่วงกังวลเรื่องน้องชายที่อยู่ในอเมริกา การสร้างสรรค์ผลงานเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง รวมทั้งมิตรสหายจำนวนไม่น้อยที่คีตส์คบหาสมาคม แต่ก็ยังมีรายละเอียดบางอย่างถูกใส่เข้ามาพอให้ผู้ศึกษาประวัติของคีตส์ใช้เชื่อมโยงได้ ไม่ว่าจะเป็นการเอ่ยถึงข้อเขียนวิจารณ์บทกวี Endymion ในนิตยสารแบล็ควูดส์ เอดินบะระ ซึ่งโจมตีคีตส์อย่างสาดเสียเทเสีย (ทวีปวร เล่าไว้ใน จอห์น คีตส์ กวีบริสุทธิ์ผู้อาภัพ ในหนังสือ เก้ารัตนกวีของโลก ว่าเหตุที่แบล็ควูดส์โจมตีคีตส์ เพราะเห็นว่าเขาเป็นพวกเดียวกับนักหนังสือพิมพ์หัวเสรีนิยมอันเปรียบได้กับปิศาจร้ายของชนชั้นปกครองในสมัยนั้น) หรือการหยิบยกบทกวีเด่นๆ อย่าง When I have Fears that I may Cease to Be (1818) La Belle Dame sans Merci (1819) รวมถึง Bright Star (1819) มาสอดคล้องกับเรื่องราวได้อย่างดี รวมทั้ง Ode to a Nightingale (1819) ที่ใส่เป็นเสียงวอยซ์โอเวอร์ไว้ในเครดิตช่วงท้าย แต่ช่วงกลางเรื่องก็มีฉากเล็กๆ ที่ชวนให้คิดว่าเป็นแรงบันดาลใจของบทกวีชิ้นนี้ หนังให้แฟนนีเป็นหญิงสาวที่มีความคิดอ่านและการกระทำอย่างอิสระ ไม่อยู่ในกรอบเคร่งครัดหรืออ่อนน้อมถ่อมตนตามแบบสังคมสมัยนั้น (ยุครีเจนซีหรือก่อนวิคตอเรียน) บ่อยครั้งที่เธอเป็นฝ่ายเข้าหาคีตส์ ลอบหมั้นหมายกันแบบลับๆ โดยไม่แยแสต่อคำติฉินนินทา ทั้งยังเสนอตนแต่งงานกับเขาเพื่อจะได้ไปดูแลยามป่วยไข้ในต่างแดน ขณะเดียวกัน เมื่อแรงผลักของเธอคือความลุ่มรักหมดใจ อารมณ์ความรู้สึกทั้งสุข-เศร้าจึงพรั่งพรูให้สัมผัสตลอดเวลาร่วม 2 ชั่วโมงของหนัง หญิงสาวชื่อ แฟนนี บรอว์น ที่เคยเป็นเพียงส่วนหนึ่งในประวัติชีวิตของกวีผู้ยิ่งใหญ่ จึงกลับกลายเป็นตัวละครหญิงที่มีคาแร็กเตอร์แข็งแรง เต็มไปด้วยแรงปรารถนาจากความรักอันบริสุทธิ์ โดยไม่ต้องพึ่งพาเซ็กซ์เหมือนตัวละครหญิงในหนังเรื่องอื่นของแคมเปียน อีกจุดที่ผู้เขียนมองว่าน่าสนใจคือ บทกวีใน Bright Star ไม่ได้มีฐานะเป็นเพียงองค์ประกอบเพื่อสุนทรียะ ให้ความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือใส่เข้ามาเพราะเห็นว่าเป็นหนังเกี่ยวกับกวี แต่แคมเปียนดึง ความเป็นกวี ให้เป็นคาแร็กเตอร์ของตัวละครด้วย เพราะเหตุนี้แฟนนีจึงต้องเข้าถึงบทกวีเพื่อเข้าถึงคีตส์ผู้เป็นกวีโดยแท้จริง เธอค่อยๆ เรียนรู้คีตส์ผ่านถ้อยคำ จากไม่ชอบและไม่เข้าใจกลายเป็นลึกซึ้งดื่มด่ำ พร้อมๆ กับที่ความรู้สึกชอบพอพัฒนากลายเป็นความรัก จากช่วงแรกแฟนนีเป็นผู้ฟังโดยให้คีตส์กล่าวบทกวีของเขา ต่อมาทั้งสองสลับกันกล่าวบทกวีบทเดียวกัน กระทั่งในฉากสุดท้ายแฟนนีกล่าวบทกวีของคีตส์ตามลำพังราวกับค่อยๆ เป็นหนึ่งเดียวกับคนที่เธอรักในที่สุด
Create Date : 06 ตุลาคม 2553
Last Update : 6 ตุลาคม 2553 4:25:05 น.
9 comments
Counter : 2873 Pageviews.
โดย: อุ้มสี วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:21:41:01 น.
โดย: เอกเช้า IP: 198.155.101.241 วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:16:30:12 น.
โดย: จขบ. IP: 124.120.24.249 วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:15:16:29 น.
โดย: beerled วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:13:25:27 น.
โดย: Sophia IP: 98.196.187.188 วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:17:31 น.
โดย: aomzon (aomzon ) วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:19:26:20 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31