The Pope's Toilet ‘สุขา’อยู่หนใด




The Pope's Toilet
‘สุขา’อยู่หนใด

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 29 มิถุนายน 2551


*The Pope's Toilet เป็นหนังจากอุรุกวัย ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ซึ่งนานๆ จะมีหนังโดดเด่นและเผยตัวให้รู้จักสักเรื่องหนึ่ง ต่างจากบราซิล อาร์เจนตินา รวมถึงเม็กซิโกที่เป็นหัวแถวในด้านภาพยนตร์ของละตินอเมริกา อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเคยเขียนถึงหนังอุรุกวัยผ่านคอลัมน์นี้มาแล้วครั้งหนึ่งคือเรื่อง Whisky (2004)

หนังปี 2007 ที่ชื่อหนังแปลเป็นไทยได้ว่า “สุขาของพระสันตะปาปา” มีชื่อดั้งเดิมเป็นภาษาสเปนว่า El Bano del Papa ร่วมกำกับและเขียนบทโดย เซซาร์ ชาร์โลเน และเอ็นริเก เฟร์นันเดซ สำหรับชาร์โลเนมีชื่อเสียงในฐานะผู้กำกับภาพขาประจำในหนังของ เฟอร์นานโด เมเรลลีส ผู้กำกับฯชาวบราซิล ถ้าใครเคยผ่านตาหนังดังของเมเรลลีสอย่าง City of God (2002) และ The Constant Gardener (2005) คงจำได้ว่างานด้านภาพของหนัง 2 เรื่องนี้ยอดเยี่ยมเพียงใด ล่าสุดชาร์โลเนยังได้กำกับภาพให้หนังใหม่ของเมเรลลีสเรื่อง Blindness (2008) ส่วนผู้กำกับฯร่วมอย่างเอ็นริเก เฟร์นันเดซ ถือเป็นหน้าใหม่ในวงการหนัง เครดิตที่ผ่านมามีเพียงเขียนบทและตัดต่อให้หนังเล็กๆ เรื่อง Otario (1997)

พระสันตะปาปาใน The Pope's Toilet หมายถึงสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระสันตะปาปาที่เสด็จเยือนต่างประเทศมากกว่าพระองค์ใด รวมจุดหมายทั้งสิ้น 128 ประเทศ โดยอุรุกวัยเป็นประเทศที่พระองค์เสด็จเยือนถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกช่วงเดือนเมษายนปี 1987 ครั้งที่สองคือเดือนพฤษภาคมปี 1988 ในการเสด็จเยือนครั้งที่สองนี่เองที่หนัง The Pope's Toilet ใช้เป็นเหตุการณ์สำคัญของเรื่อง

ฉากหลังคือหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองเมโล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอุรุกวัย ติดกับประเทศบราซิล เบโต้ หนุ่มใหญ่ตัวเล็กนำทีมปั่นจักรยานลักลอบขนสินค้าจากบราซิลตามใบสั่งของร้านค้าในเมือง อุปสรรคสำคัญของเบโต้และพรรคพวกคือด่านพรมแดนที่มีตำรวจชื่อ เมเลโย เป็นหัวหน้า เพราะถ้าพลาดพลั้งถูกจับได้ สินค้าที่อุตส่าห์ขนมาจะถูกยึดเอาไป และนั่นหมายถึงพวกเขาต้องชดใช้เงินให้แก่ร้านค้า ไม่ก็ลักลอบขนของให้ฟรีเป็นการชดเชย

เบโต้และเพื่อนๆ ที่หากินแบบเดียวกัน รวมถึงชาวบ้านทั่วไปล้วนแต่มีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยการเป็นแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ถึงกระนั้น ซิลเวีย ลูกสาววัยรุ่นของเบโต้ยังหวังว่าจะได้ไปเรียนต่อที่กรุงมอนเตวิเดโอ เพื่อจะได้เป็นผู้สื่อข่าวอย่างที่เธอใฝ่ฝัน โดย คาร์เมน ผู้เป็นแม่ได้สะสมเงินเตรียมไว้สำหรับอนาคตของลูกสาว

เมื่อมีข่าวว่าพระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนอุรุกวัยโดยมีจุดหมายหนึ่งอยู่ที่เมืองเมโล พร้อมกับการคาดการณ์ของสื่อว่าจะมีผู้คนจำนวนมหาศาลหลั่งไหลมายังเมโลเพื่อเฝ้ารับเสด็จ ชาวบ้านต่างพากันตื่นเต้นดีใจ และคิดว่านี่คือโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตที่จะทำเงินก้อนใหญ่ได้ พวกเขาวาดหวังไว้สวยหรู ต่างคิดการใหญ่ว่าจะทำอาหารจำนวนมากไว้รองรับนักท่องเที่ยว บ้างถึงกับขายทรัพย์สินที่มีอยู่น้อยนิดเพื่อเป็นทุนโดยมั่นใจว่าจะได้คืนกลับมาหลายเท่าตัว

*การเสด็จเยือนของพระสันตะปาปาจึงเป็นดั่งแสงสว่างส่องยังชีวิตมืดมนของชาวบ้านผู้ยากไร้

สำหรับเบโต้มีไอเดียบรรเจิดต่างจากคนอื่น เขาไม่ได้คิดเมนูอาหารสูตรเด็ดไว้ดึงดูดเงินผู้มาเยือน แต่วางแผนสร้าง “ห้องส้วม” ไว้หน้าบ้านเพื่อเก็บค่าบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการถ่ายทุกข์

ในเมื่อเป็นห้องส้วมสำหรับบริการนักท่องเที่ยว จึงต้องมีหน้าตาที่ดูดีและถูกสุขลักษณะ แต่การจะเนรมิตขึ้นมาต้องใช้เงินจำนวนมาก เมื่อเวลากระชั้นชิดเบโต้ยิ่งต้องทุ่มเททำทุกอย่างให้ห้องส้วมของเขาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แม้สิ่งที่ทำลงไปจะเป็นเรื่องไม่ถูกต้องก็ตาม กระทั่งสถานที่ถ่ายทุกข์กลายเป็นความทุกข์สาหัสของเบโต้และครอบครัว

...แต่ถึงอย่างไรพวกเขาย่อมคิดเสมอว่ายังมีความสุขรออยู่เบื้องหน้า

หนังนำเสนอในท่าทีผ่อนคลาย ด้วยมุขตลกเล็กๆ น้อยๆ ความมีชีวิตชีวาของตัวละคร และดนตรีประกอบสนุกสนานท่ามกลางเรื่องราวความยากลำบากปากกัดตีนถีบ งานกำกับภาพของชาร์โลเนยังคงโดดเด่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะฉากขี่จักรยานลักลอบขนสินค้าซึ่งแสดงให้เห็นทั้งการต่อสู้ดิ้นรน มิตรภาพ และความหวัง รวมไปถึงถ่ายทอดภูมิประเทศบริเวณพรมแดนอุรกวัย-บราซิลได้อย่างงดงาม

เบโต้คือตัวแทนของคนตัวเล็กๆ ในสังคมที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือ หนำซ้ำยังถูกอำนาจรัฐกลั่นแกล้งเอาเปรียบ เขาคือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่รู้จักเห็นแก่ตัว ใจร้อน วู่วาม ยอมก้มหัวให้กับความเลวร้ายเพียงเพื่อให้ตนเองได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ขณะเดียวกัน บุคลิกของคนที่ตกเป็นเบี้ยล่างแต่ยังพยายามต่อสู้ มีความหวังกับชีวิต และมีรอยยิ้มที่ซื่อบริสุทธิ์ ทำให้ผู้ชมไม่อาจตำหนิเขาได้ ทั้งยังเอาใจช่วยเขาตลอดเวลา

แม้ว่าหนังจะนำเสนอความทุกข์ยากอย่างผ่อนคลาย ขณะที่เรื่องราวของคนที่พยายามสร้างห้องส้วมก็ดูน่าขบขันอยู่ไม่น้อย แต่สารที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหานับว่าหนักหนาเอาการ เพราะนอกจากจะโจมตีอำนาจรัฐที่คอยเอาเปรียบชาวบ้านซ้ำยังทำผิดกฎหมายเสียเองแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับการเสด็จเยือนของพระสันตะปาปาที่ให้ความหวังแก่ผู้คนจนทุ่มเทหมดตัวหมดใจ แต่ผลลัพธ์กลับต้องผิดหวังอย่างรุนแรง

เหมือนหนังจะบอกว่าถึงที่สุดแล้วความศรัทธาใดๆ ก็ไม่สามารถทำให้ใครกินอิ่มนอนหลับ และยังต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดกันเองต่อไป

นอกจากอำนาจรัฐและศาสนาแล้ว หนังวิพากษ์บทบาทของสื่อมวลชนด้วย เนื่องจากกระแสขายฝัน-ขายความตื่นเต้นต่างๆ นานาเริ่มมาจากสื่อทั้งโทรทัศน์และวิทยุ

ช่วงท้ายของหนัง...ซิลเวียซึ่งมุ่งมั่นจะเข้าเมืองหลวงเพื่อเรียนต่อเป็นผู้สื่อข่าวจึงเปลี่ยนความตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นพ่อผู้ไม่เอาไหนในสายตาเธอพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้ภารกิจสร้างห้องส้วมสำเร็จลุล่วงทันเวลา

การมาเยือนของ “โป๊ป” (พ่อ) จึงไม่สำคัญเท่ากับได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของ “พ่อ” ของเธอเอง




Create Date : 07 ตุลาคม 2552
Last Update : 7 ตุลาคม 2552 2:39:26 น. 3 comments
Counter : 1503 Pageviews.

 
พล็อตเก๋มาก ฮา ๆ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:9:33:54 น.  

 
หนังดูเหมาะกับยุคสมัยนี้มากๆเลยครับ

จะไปหามาดูบ้าง ^^


โดย: Seam - C IP: 58.9.189.142 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:14:24:00 น.  

 
อ่านจบแล้ว อยากดูขึ้นมาเลยครับ ชอบ Plot แนวๆนี้พอดี


โดย: McMurphy วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:22:56:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.