[WFFBKK 2009] Absurdistan รักต้องซ่อม




Absurdistan
รักต้องซ่อม

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 3 พฤษภาคม 2552


*จุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้มาจากข่าวหนังสือพิมพ์ว่าผู้หญิงในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในตุรกีร่วมกันคว่ำบาตรไม่ให้สามี “เข้าห้องนอน” นัยว่าเป็นการประท้วงและบีบให้ผู้ชายออกไปซ่อมท่อส่งน้ำเข้าหมู่บ้านสักที สาวๆ จะได้ไม่ต้องเดินเป็นกิโลๆ เพื่อขนน้ำ

ไฟต์ เฮลเมอร์ คนทำหนังชาวเยอรมันขยับขยายเติมต่อข่าวดังกล่าวจนเป็นหนังโรแมนติคชวนหัวเรื่อง Absurdistan (2008) โดยเหตุการณ์หลักยังเป็นเรื่องท่อส่งน้ำและการคว่ำบาตรด้วยเซ็กซ์ของสาวๆ ในหมู่บ้าน แล้วเพิ่มเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งซึ่งฝ่ายชายต้องพิสูจน์วีรกรรมทำเพื่อเธอโดยนำน้ำจากภูเขามายังหมู่บ้านให้ได้

อันที่จริง การรวมพลังของผู้หญิงเพื่อคว่ำบาตรเซ็กซ์ต่อผู้ชายชวนให้นึกถึงละครกรีกแนวสุขนาฏกรรมแบบเก่าเรื่อง Lysistrata ของ อริสโตเฟนิส ที่หญิงสาวชาวกรีกร่วมกันไม่ยอมหลับนอนกับสามีเพื่อบังคับให้ผู้ชายหาทางยุติสงครามเพโลพอนนีเชียน แม้เป้าหมายของผู้หญิงในหนัง Absurdistan ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าในละคร แต่พลังที่แสดงออกมาเพื่อสยบเพศชายคงไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน

เรื่องราวเกิดขึ้น ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในดินแดนไม่ระบุชื่อ เสียงบรรยายช่วงต้นเรื่องเล่าว่าหมู่บ้านแห่งนี้เปลี่ยนมือผู้ปกครองมากมายทั้งเปอร์เซีย ตาตาร์ เติร์ค กระทั่งเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายก็ไม่มีรัฐบาลไหนสนใจรับผิดชอบจนแม้แต่บนแผนที่ก็ไม่มีหมู่บ้านนี้ปรากฏ

สองหนุ่มสาว เทเมลโกกับอายา ซึ่งเกิดวันเดียวกันจนกลายเป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนรัก เติบโตจนถึงวัยอยากริลองประสบการณ์ลึกซึ้งแต่ยายของอายาบอกว่ายังไม่ถึงเวลา พวกเขาต้องรอให้กลุ่มดาวคนถือธนูกับกลุ่มดาวหญิงสาวปรากฏคู่กันบนท้องฟ้าในอีก 4 ปีข้างหน้าเสียก่อน โดยต้องอาบน้ำอาบท่าเตรียมเอาไว้

เทเมลโกยืนยันว่าเขารอได้ แม้ระหว่างนั้นเขาต้องจากอายาเพื่อไปเรียนต่อในเมืองเหมือนเช่นเด็กหนุ่มทุกคนในหมู่บ้าน

ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อน้ำจากถ้ำใต้ภูเขาซึ่งคนรุ่นเก่าก่อนเคยสร้างท่อลำเลียงมายังหมู่บ้านค่อยๆ ลดปริมาณลง แต่บรรดาผู้ชายซึ่งแต่ละวันเอาแต่จับกลุ่มสังสรรค์กันเองไม่ก็สนุกกับภรรยาไม่คิดออกไปซ่อมแซมท่อน้ำหรือหาทางแก้ปัญหาใดๆ กระทั่งไม่มีน้ำออกจากท่ออีกต่อไป

กลุ่มแม่บ้านนำโดยยายของอายาจึงชักชวนกันประท้วงพวกผู้ชายและยื่นคำขาดว่าตราบใดที่ไม่มีน้ำมาถึงหมู่บ้านก็ไม่มีสิทธิจู๋จี๋กับภรรยา

แทนที่บรรดาสามีจะสำนึก พวกเขากลับคิดแผนสารพัดเพื่อหาความสำราญอย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายผู้หญิงรู้ทันและขัดขวางทุกวิถีทาง กระทั่งหมู่บ้านถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งด้วยเส้นสีขาวและรั้วลวดหนาม ห้ามก้าวล้ำกันโดยเด็ดขาด

เมื่อเทเมลโกกลับมายังหมู่บ้านแล้วพบว่าไม่มีน้ำอาบเพื่อรอรับฤกษ์ดีจากท้องฟ้า เขาจึงคิดซ่อมท่อน้ำตามลำพังแต่ก็เกินกำลังจะทำคนเดียวได้ ซ้ำร้ายเทเมลโกยังถูกอายาเข้าใจผิดว่ากลายเป็นพวกรักสนุกไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ

*นับวันเส้นตายยิ่งใกล้เข้ามา... เทเมลโกจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้วันที่เฝ้ารอต้องหลุดลอยไปท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน

หนังใช้หมู่บ้านเก่าแก่ห้อมล้อมด้วยทิวเขาในอาเซอร์ไบจานเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักให้สอดคล้องกับฉากหลังซึ่งกำหนดว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปกับเอเชีย ความแปลกตาของสถานที่ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง รวมทั้งภูมิประเทศ จึงเป็นจุดเด่นซึ่งสัมผัสได้ตั้งแต่แรก แม้จะรู้สึกแปลกๆ กับรายละเอียดเรื่องศาสนา เนื่องจากสภาพฉากหลังเต็มไปด้วยศิลปะมุสลิมแต่เนื้อหาเรื่องราวกลับให้ตัวละครประกอบพิธีแบบคริสต์

ผู้กำกับฯเฮลเมอร์ (อดีตนักเรียนหนังที่อาจารย์ วิม เวนเดอร์ส เลือกบทของเขามาทำเป็นหนัง A Trick of the Light) ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากหนังเงียบชวนหัวยุคชาลี แชปลิน บัสเตอร์ คีตัน เห็นได้จากแนวทางของ Absurdistan ที่เป็นการเล่าเรื่องราวสนุกสนานโดยไม่ใช้บทสนทนา แต่ใส่เสียงและดนตรีประกอบเพิ่มอารมณ์เข้าไป

การเล่าเรื่องโดยแทบไม่มีบทสนทนาตลอดทั้งเรื่องนำมาซึ่งความเก๋ของหนังบางประการ อย่างแรกคือหนังเล่าเรื่องผ่านเสียงบรรยายของ 2 ตัวละคร คือเทเมลโกกับอายาสลับกันตามแต่ว่าใครกำลังดำเนินเรื่อง แทนที่จะเป็นเสียงบรรยายเดียวอย่างที่เราคุ้นเคย (เสียงบรรยายมี 2 เวอร์ชั่นคือ ภาษาเยอรมัน และภาษารัสเซีย เข้าใจว่าฉบับที่ฉายนอกเยอรมนีเป็นเวอร์ชั่นภาษารัสเซียทั้งหมด)

เมื่อไม่มีบทสนทนาเป็นอุปสรรค เฮลเมอร์จึงจัดการหนังของเขาให้กลายเป็นหนังนานาชาติโดยคัดเลือกนักแสดงจากทั่วโลก นอกจากพระเอก-นางเอกซึ่งเป็นชาวเยอรมันและเช็กตามลำดับแล้ว บรรดาชาวบ้านหญิง-ชายมีทั้งชาวโปรตุเกส สเปน โมร็อกโก มาซิโดเนีย ฮังการี ลัตเวีย ฯลฯ ส่วนทีมงานต่างชาติคนสำคัญคือ ชิเงรุ อูเมะบายาชิ คนทำดนตรีประกอบซึ่งเฮลเมอร์ติดใจจากเรื่อง In the Mood for Love และ 2046 ของหว่องกาไว

ภาพรวมของ Absurdistan คล้ายนิทานหรือเรื่องเล่าเกินจริง เต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครงและอารมณ์หฤหรรษ์ ฉากหลังซึ่งไม่ระบุแน่ชัดถูกทำให้ไร้กาลเวลามากขึ้นด้วยเครื่องแต่งกายและองค์ประกอบฉากต่างๆ ความเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจจึงเกิดขึ้นแก่ผู้ชมได้ตลอดเวลา

คำว่า “แอ็บเซอดิสถาน” (Absurdistan) เป็นการเล่นคำจากคำว่า absurd แปลว่า ไร้เหตุผล เหลวไหล ไร้สาระ ถ้าเป็นศัพท์ทางวรรณกรรม-ละครคือ Theatre of the Absurd เมื่อเกิดเป็นคำว่า Absurdistan จะมีความหมายในเชิงเสียดสีประเทศที่มีบรรทัดฐานแปลกแปร่งไม่สมเหตุผล หรือเจาะจงไปที่รัฐบาลและอำนาจการปกครอง เริ่มต้นจากยุคสงครามเย็นที่มีการใช้คำนี้เรียกประเทศโลกตะวันออกซึ่งเป็นบริวารของสหภาพโซเวียต

แม้ฉากหลังและสถานที่ถ่ายทำจะอยู่ในอาณาบริเวณของอดีตรัฐบริวารของโซเวียต แต่ผู้สร้างน่าจะตั้งชื่อหนังโดยหยิบคำที่มีอยู่แล้วมาใช้เรียกเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายแบบไปกันใหญ่ของบรรดาตัวละคร ไม่ได้มีนัยทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดที่ตัวละครตีเส้นแบ่ง-ขึงรั้วลวดหนามกั้นขวางกันไว้ชวนให้คิดถึงเส้นเขตแดนที่ถูกใช้เป็นเครื่องแบ่งแยกผู้คนออกจากกันเพียงเพราะความขัดแย้งบางอย่าง

อีกจุดที่น่าสนใจคือ จากเนื้อหาว่าด้วยการคว่ำบาตรผู้ชายด้วยเซ็กซ์ทำให้องค์ประกอบฉากและเรื่องราวต่างๆ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่สื่อในทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นฉากที่พวกผู้หญิงเฝ้ารอน้ำไหลออกจากท่อ หรือจรวดซึ่งเทเมลโกพาอายาทะยานขึ้นฟ้าก่อนที่พวกเขาจะมีอะไรกัน

เห็นได้ว่าแนวคิดของหนังไม่ “เฟมินิสม์” อย่างละคร Lysistrata (ที่ถูกประเมินค่าเช่นนั้นในเวลาต่อมา) เพราะสุดท้ายผู้ชายยังสบายตัว ส่วนผู้หญิงก็กลับมาสบายใจต่อการทำหน้าที่ภรรยาได้เหมือนเดิม







หมายเหตุ : Absurdistan ฉายในเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 6-15 พฤศจิกายน 2552



Create Date : 31 ตุลาคม 2552
Last Update : 22 มกราคม 2553 22:56:59 น. 10 comments
Counter : 2139 Pageviews.

 
คนทำก็ช่างคิด งั้นไปดูเรื่องนี้เลย


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:16:01:35 น.  

 
คุณพลฯ มีเรื่องไหนควรดูอีกไหมครับ

แต่แรกผมว่าจะไปดูหนังของพี่ปุ่น แต่ปราำกฎว่าไม่ได้ฉายเสียแล้ว


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:16:02:40 น.  

 

^
^
เรื่องไหนควรดูนี่ตอบยากครับ
หลายเรื่องไม่รู้จัก ที่รู้จักก็ท่าทางเฮี้ยนๆ อาร์ตๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะถูกใจหรือเปล่า

เรื่องนึงที่อยากแนะนำคือ Home ดูไม่ยาก แต่ก็เหวอใช้ได้
เรื่องที่ดังๆ แล้วผมอยากดูคือ Face ของ ไฉ้หมิงเลี่ยง
แต่ถึงเวลาถ้าไปดูคงเลือกดูหนังโนเนมมากกว่า เพราะคงหาดูไม่ได้อีก

อันที่จริง ดูหนังเทศกาลนี้ใช้วิธีเสี่ยงเอาเองจะสนุกกว่าครับ อย่าเชื่อตามไกด์มาก
อ่านเรื่องย่อ+ดูภาพตัวอย่าง แล้วคิดว่าน่าสนใจก็ดูเลย
ยังไงก็เป็นหนังที่หาดูยากมากๆ ทั้งนั้นอยู่แล้ว




โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:20:55 น.  

 
ผมไม่ค่อยมีเงินเท่าใดนัก อาจารย์จน ๆ น่ะครับ เลยคิดแต่จะไปดูเรื่องที่อยากดูเ่ท่านั้น ปัจจัยด้านเวลาไม่ใช่อุปสรรค อุปสรรคอยู่เรื่องเงิน

ผมว่าจะไปดู เฟซ อยู่เหมือนกัน เคยดู เดอะ เวย์วอร์ด คลาวด์ ตอนมาฉาย ได้อารมณ์มาก ๆ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:42:53 น.  

 
อ่านจากเนื้อเรื่อง การถ่ายทำ ชื่อหนัง ดูแ้ล้วน่าจะเป็นหนังที่ "กวน" ทีดีนะครับ ^^


โดย: Seam - C IP: 58.9.187.128 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:17:31 น.  

 
เล็ง Home กับ Face ไว้เช่นกันครับ


โดย: เอกเช้า IP: 115.87.72.117 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:51:12 น.  

 

Absurdistan เห็นมี Q&A ด้วยค่ะ

น่าสนใจ น่าสนใจ


โดย: renton_renton วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:51:37 น.  

 
ตอนนี้อยากดูหนังโรงเป็นที่สุด ประมาณว่าคล้ายจะลงแดง เครียด Thesis ครับ เวลางวดเข้ามาทุกวินาที...


โดย: beerled IP: 58.9.246.66 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:32:44 น.  

 
ปีนี้หนักมาก วันละ 5 เรื่อง


โดย: merveillesxx วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:42:12 น.  

 
พรุ่งนี้เย็นอาจได้ดูซักเรื่อง เรื่องไหนน่าสนใจบ้าง


โดย: คนขับช้า IP: 111.84.57.156 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:21:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.