Or, My Treasure ในกรงกรอบของชีวิต
Or, My Treasure ในกรงกรอบของชีวิตพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 16 เมษายน 2549 เคยตั้งข้อสังเกตเมื่อคราวเขียนถึงหนังอิหร่านว่า ประเด็นปัญหาที่ถูกหยิบมาพูดถึงในประชาคมโลกคือวัตถุดิบชั้นดีที่คนทำหนังหน้าใหม่ควรนำมาสร้างเป็นหนังเพื่อเป็นใบเบิกทางในระดับนานาชาติ เมื่อต้นปีจึงมี Paradise Now ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนจากปาเลสไตน์ คว้าลูกโลกทองคำและเข้าชิงออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศ โดยหนังกล่าวถึงมูลเหตุที่ชาวปาเลสไตน์ 2 คนยอมพลีชีพในการก่อวินาศกรรมอิสราเอล เลบานอนซึ่งมีปัญหากับอิสราเอลเช่นกัน ก็เคยมีหนังดังเรื่อง Tayyara men wara หรือ The Kite(2003) เกี่ยวกับหญิงสาวชาวเลบานอนที่ต้องข้ามพรมแดนไปอยู่กับเจ้าบ่าวในอิสราเอล บริเวณที่เคยเป็นของเลบานอนมาก่อน ฝ่ายคู่กรณีอย่างอิสราเอลนั้นต่างออกไป ในฐานะของผู้กุมความได้เปรียบบนความขัดแย้งยิว-อาหรับ และมีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่แข็งแรงกว่าหลายเท่า หนังอิสราเอลปัจจุบันที่ฉายในระดับนานาชาติได้ข้ามพ้นจากประเด็นดังกล่าวมาไกลโข ความหลากหลายของหนังอิสราเอลมีตั้งแต่หนัง coming-of-age อย่าง Bonjour Monsieur Shlomi (2003) หนังนัวร์ Besame Mucho(2000) หรือหนังรำลึกวันวานซึ่งได้ชื่อว่าเป็นซีนีมา พาราดิโซ่ เวอร์ชั่นอิสราเอล เรื่อง Desperado Square (Kikar Ha-Halomot, 2001) รวมทั้งหนังดรามาหนักหน่วงสะท้อนปัญหาสังคมอย่าง Or, My Treasure Or, My Treasure โดยผู้กำกับฯหญิง เคอเรน เยดายา เป็นเจ้าของ 5 รางวัลที่เมืองคานส์เมื่อปี 2004 รวมรางวัลสำคัญอย่าง Camera dor ซึ่งมอบให้แก่ผู้กำกับฯที่มีผลงานเป็นเรื่องแรก เรื่องราวเกิดขึ้นในกรุงเทล อาวีฟ เกี่ยวกับ ออร์ เด็กสาววัยรุ่นที่ต้องดูแล รูธี่ แม่ผู้ป่วยกระเสาะกระแสะทั้งทางร่างกายและจิตใจ เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้แม่กลับไปเป็นโสเภณีอีกโดยหางานให้แม่ทำ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะดึงแม่ออกมาจากกับดักนั้นได้เพียงชั่วคราว นอกจากเรียนหนังสือและดูแลแม่แล้ว ออร์ยังต้องทำงานในร้านอาหาร อีกทั้งเก็บขยะจำพวกขวดพลาสติกเป็นรายได้เสริม เธอมีเพื่อนชายที่สนิทกันเป็นพิเศษชื่อ ไอโด เป็นลูกเจ้าของร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ และความสัมพันธ์กำลังคืบหน้าไปได้ดี แต่ความจริงอันเลวร้ายอย่างหนึ่งคือ ออร์มีพฤติกรรมทางเพศแบบเสพติด แทบทุกคืนเธอต้องย่องออกจากบ้านเพื่อไปมีอะไรกับผู้ชาย ไม่เว้นแม้แต่คนแปลกหน้าริมถนน ถึงตรงนี้ ออร์ต่างจากแม่ตรงที่เธอไม่ได้หาเงินจากสิ่งที่เธอทำเท่านั้นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป แม้เรื่องราวจะเหมาะกับการเล่าเรื่องแบบบีบคั้นอารมณ์ แต่ผู้กำกับฯเลือกที่จะนำเสนอแบบค่อยเป็นค่อยไป ไร้การชี้นำหรือกระตุ้นความรู้สึก ทั้งด้วยการถ่ายภาพโดยตัดต่อแต่น้อย และแทบจะไม่มีเพลงประกอบ ภาพส่วนใหญ่เป็นการตั้งกล้องทิ้งไว้ให้ผู้ชมเฝ้ามองชีวิตของตัวละครโดยเน้นไปที่ออร์ ว่าเธอต้องทำต้องพบเจอหรือจัดการอะไรกับตัวเองบ้าง หนังไม่แสดงว่าตัวละครกำลังคิดอะไร ไม่มีภาพแทนสายตาตัวละคร ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหรือตัวละครตัดสินใจทำอะไร เราก็จะได้เห็นเหตุการณ์นั้นๆ โดยไม่รู้ล่วงหน้า ผลของวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้คือหนังมีความสมจริง หนักแน่นจริงจัง ขณะเดียวกันก็ไม่ฟูมฟาย เร่งเร้า หรือบีบคั้นจนเกินพอดี แม้การตั้งกล้องทิ้งไว้ทำให้องค์ประกอบภาพขาดความหลากหลาย แต่เนื่องจากภาพที่เรามองเห็นคือภาพตัวละครเคลื่อนไหวทำโน่นทำนี่ไม่หยุดนิ่ง เท่ากับว่าแต่ละฉากจะเต็มไปด้วยองค์ประกอบภาพที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยังสื่อความหมายถึงสถานะของตัวละครได้ เช่นหลายฉากที่ออร์กับแม่อยู่ด้วยกัน แม่มักจะเป็นคนที่อยู่นิ่งภายในกรอบภาพ บางครั้งอยู่ด้านหน้า ขณะที่ออร์จะเคลื่อนที่และถูกผลักไปอยู่ริม อยู่ด้านหลัง บางครั้งหายออกไปจากกรอบภาพ พื้นที่ว่างที่ออร์มีเพียงน้อยนิด อาจสื่อความหมายได้ว่าเธอไม่มีชีวิตเป็นของตนเอง และถูกกดดันจากผู้เป็นแม่ ขณะเดียวกัน ภาพดังกล่าวก็สื่อว่าเธอกำลังดิ้นรนหาทางออกจากกรงกรอบที่โอบล้อมเธอไว้ หลังจากหนังให้เราเฝ้าดูชีวิตของออร์ จนมาถึงจุดที่เธอเลือกตัดสินใจอะไรบางอย่าง ภาพสุดท้ายที่เธอหันมามองกล้อง สีหน้าเรียบเฉย มีเสียงเฮฮาของผู้ชายกลุ่มใหญ่ดังชัดเจน ก่อนที่ภาพจะกลายเป็นสีดำสนิทเหลือเพียงเสียงหัวเราะที่ดังลอยมา คือครั้งเดียวที่หนังเล่นกับความรู้สึกและทัศนคติของผู้ชม เหมือนเป็นการสะกิดผู้ชมที่เฝ้ามองออร์มาตั้งแต่ต้นเพื่อถามว่าจะตัดสินเธออย่างไร ชื่อหนังภาษาอังกฤษว่า Or, My Treasure มาจากคำพูดของแม่ที่บอกว่าออร์เป็นสมบัติมีค่าเพียงอย่างเดียวของเธอ หากมองอีกมุมหนึ่งจะได้ความหมายว่า มรดกจากแม่ที่ออร์ได้รับคือสิ่งที่เธอพยายามเดินหนีมาตลอด ฉากที่ออร์สระผมแล้วใช้ฟองจากการสระผมมาอาบน้ำและซักผ้าในคราวเดียวกัน โดยมีแม่อยู่ใกล้ๆ นั้น ก็เปรียบเหมือนเรื่องร้ายๆ ที่ออร์ไม่อาจชำระไปได้หมดจดนั่นเอง เดนา อีฟกี บุตรสาวของ โมเช อีฟกี พระเอกแถวหน้าของอิสราเอล ต้องเปลื้องเปลือยตนเองกับบทออร์ซึ่งค่อนข้างแรง นอกจากฉากอาบน้ำข้างต้นแล้ว ยังมีฉากที่เธอเปลือยต่อหน้าชายสูงอายุอันนำไปสู่บทสนทนาและการกระทำที่ทำให้เราไร้ข้อสงสัยใดๆ ต่องานแรกของเธอ แม้ว่าหนังจะสะท้อนสภาพชีวิตของผู้หญิงที่ตกเป็นเบี้ยล่างของสังคม แต่หนังก็ไม่ได้หันหลังให้เรื่องการเมืองเสียทีเดียว เห็นได้จากทุกฉากที่เห็นออร์ล้างจานในร้านอาหาร จะมีตัวละครชาวอาหรับคนหนึ่งยืนทำงานอยู่กับที่ใกล้ๆ กันนั้น แม้เขาจะทักทายไถ่ถามทุกข์สุขออร์ แต่ออร์ก็เหมือนถามคำตอบคำแบบเลี่ยงไม่ได้ ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน ขณะที่อีกตัวละครหนึ่งเป็นอดีตคู่ขาของออร์มาหาเธอที่บ้านเพื่อขอมีอะไรด้วยก่อนจะไปเข้ากองทัพ ลงท้ายออร์ก็ยอมแต่โดยดี คนหนึ่งเจียมเนื้อเจียมตัว เงียบขรึม ขณะที่อีกคนกระเหี้ยนกระหือรือและเอาแต่ได้ คือภาพเปรียบชาวอาหรับกับชาวยิวที่ค่อนข้างรุนแรง แต่กระนั้นก็ไม่ได้โจ่งแจ้งจนเกินไป เมื่อคราวเคอเรน เยดายา ขึ้นไปรับรางวัลที่เมืองคานส์ เธอกล่าวว่า เป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะบอกว่าตนเองมาจากอิสราเอลซึ่งต้องรับผิดชอบต่อชีวิตชาวปาเลสไตน์ 3 ล้านคน ...ถึงแม้ Or, My Treasure จะเป็นหนังจากอิสราเอลที่ไม่ได้หยิบประเด็นปัญหาระดับโลกมากล่าวถึงโดยตรง อย่างไรเสีย นักสร้างหนังที่มีจิตสำนึกทางการเมืองก็ยังหาช่องทางแสดงออกได้อยู่ดี
Create Date : 01 มิถุนายน 2549
1 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 2:28:25 น.
Counter : 2460 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
ทำไงดี