Group Blog
All Blog
<<< "แค่รู้ก็อยู่เป็นสุข" >>>










"แค่รู้ก็อยู่เป็นสุข"

“รู้” ตรงข้ามกับ “หลง”

เมื่อใดที่เราหลง ปัญหาและความทุกข์ก็มักจะตามมา

 เราไม่เพียงแต่หลงทางหรือหลงเชื่อคนอื่นเท่านั้น

 ที่สำคัญและเกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็คือ “หลงความคิด”

และ“หลงอารมณ์” ซึ่งทำให้เราไม่รู้เนื้อรู้ตัว

จนพลั้งเผลอหรือผิดพลาด

 เช่น พูดร้าย หรือทำร้ายผู้อื่น กระทั่งทำร้ายตนเอง

 แม้ไม่ถึงขั้นนั้น แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นก็คือ

 จมอยู่ในความทุกข์

 เพราะจิตหลงเข้าไปในอดีตอันเจ็บปวด

หรือติดอยู่ในภาพอนาคตที่ปรุงแต่งในทางลบ

 จนเกิดความเศร้าโศก

 อาลัยอาวรณ์ โกรธแค้น ขุ่นมัว

 หรือไม่ก็วิตกกังวล หนักอกหนักใจ

เพียงแค่กลับมารู้สึกตัว หรือรู้ทันความคิด

และอารมณ์ที่เผลอพลัดเข้าไปเท่านั้น

 จิตก็จะกลับมาเป็นปกติสุข

หลุดพ้นจากอารมณ์เหล่านั้นได้

ทุกวันสามารถเป็นวันแห่งความสดชื่นเบิกบานได้

 หากเรามีความรู้สึกตัวอย่างต่อเนื่อง

โดยมีสติช่วยเตือนใจให้รู้ทัน

 ไม่หลงเข้าไปในความคิดและอารมณ์เหล่านั้น

จนหมดเนื้อหมดตัว.

พระไพศาล วิสาโล







ขอบคุณที่มา fb.  วัดป่าสุคะโตธรรมชาติที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 14 สิงหาคม 2561
Last Update : 14 สิงหาคม 2561 9:07:53 น.
Counter : 294 Pageviews.

0 comment
<<< "สุขจากใจ " >>>








"สุขจากใจ"

แม้มีน้อย ไม่ร่ำรวย ก็มีความสุขได้

เป็นสุขที่พบได้กลางใจเรา

 เป็นเพราะมองไม่เห็นความสุขดังกล่าว

ผู้คนจึงพากันดั้นด้น

แสวงหาความสุขที่อยู่นอกตัว

 แต่ไม่ว่าจะมีหรือได้มากเท่าไร

 ก็ไม่พบความสุขที่แท้

 ต่อเมื่อหยุดแสวงหาสิ่งภายนอก

 หันกลับมามองตน วางใจให้ถูก ดูแลใจให้ดี

 ก็จะพบความสุขอันประเสริฐได้ไม่ยาก

เป็นความสุขที่สัมผัสได้

แม้ประสบกับความเจ็บป่วย

 พลัดพราก หรือยากไร้.

พระไพศาล วิสาโล






ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโตธรรมชาติที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 11 สิงหาคม 2561
Last Update : 11 สิงหาคม 2561 10:39:26 น.
Counter : 443 Pageviews.

1 comment
<<< "ความผิดถูกชั่วดี" >>>







"ความผิดถูกชั่วดี"

"ความผิดถูกชั่วดีมีได้ทั้งคนทั้งสัตว์

 แต่คนกับสัตว์ก็อยู่ด้วยกันได้

ถ้ามองกันในแง่อรรถแง่ธรรม

ไม่ว่าจะเป็นคนประเภทใดก็อยู่ด้วยกันได้

เพราะจิตใจเป็นธรรมด้วยกัน

แต่ถ้ามองในแง่ร้าย แม้แต่เศรษฐีต่อเศรษฐี

ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะเป็นศัตรูกัน

พวกเรามาปฏิบัติธรรมได้อะไรบ้าง

 หรือได้แต่ความติฉินนินทากันเป็นมรรคเป็นผล

 เป็นกุศลสมภาร เป็นมรรคผลนิพพาน

แทนธรรมของศาสดา และจะเอามรรคผล

จากสิ่งเหล่านั้นกลับไปบ้านไปเรือนอย่างนั้นเหรอ

 นั้นไม่ใช่ทางของพระพุทธเจ้า

การมองดูตัวเองคือมองดูความคิด

ความปรุงผิดถูกชั่วดีของตน

นั้นแลเป็นความถูกต้องชอบธรรม

คำพูดของตนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

เป็นอรรถเป็นธรรมประการใดบ้าง

 จะได้เห็นโทษเห็นคุณแห่งการแสดงออกของตน

 การปฏิบัติธรรมคือปฏิบัติตัวเอง

 จึงต้องดูตัวเองมากกว่าดูสิ่งอื่นผู้อื่น

และถือเป็นการเป็นงานจริงๆ

ไม่สนใจใฝ่รู้ใฝ่เห็นกับสิ่งใดผู้ใด

มากกว่าความสนใจใฝ่ธรรมด้วยการดูตัวเอง

 สังเกตตัวเองตลอดเวลาอิริยาบถ

การพูดก็ให้เป็น สัลเลขกถา เครื่องขัดเกลากิเลส

 อย่าพูดให้เป็นเรื่องกอบโกยกิเลส

การก่อกวนชวนทะเลาะต่างๆ

 คนที่ฟังกันคนโง่ก็มี คนฉลาดก็มี ..."

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

................................

พระธรรมเทศนา
เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙
พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี
(พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๒๕๕๔)






ขอบคุณที่มา fb.  ธรรมะพระธุดงคกรรมฐาน
สายพระบูรพาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถระ

ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 10 สิงหาคม 2561
Last Update : 10 สิงหาคม 2561 9:12:42 น.
Counter : 427 Pageviews.

0 comment
<<< " ความซ้ับซ้อนของกรรม " >>>








" ความซับซ้อนของกรรม"

"ชีวิตในชาตินี้ชาติเดียวย่อมน้อยนัก

เมื่อเปรียบกับชีวิตในอดีตชาติ

 ซึ่งนับจำนวนชาติหาถ้วนไม่

 ดังนั้น กรรมคือการกระทำ

ที่ทำในชีวิตนี้ในชาตินี้ชาติเดียวจึงน้อยนัก

 เมื่อเปรียบกับกรรมหรือการกระทำ

ที่ทำไว้แล้วในอดีตชาติอันนับจำนวนชาติไม่ถ้วน

 การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอ

ลงบนกระดาษแผ่นเดียวนั้น

 เขียนลงครั้งแรกก็ย่อมอ่านออกง่าย

 อ่านเข้าใจได้ง่าย แต่ยิ่งเขียนทับเขียนซ้ำ

ลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวกันนั้น

 ตัวหนังสือย่อมจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที

การอ่านก็จะยิ่งอ่านยากขึ้นทุกที

จนถึงอ่านไม่ออกเลย

 ไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึก

หรือรอยดินสอทับกันไปทับกันมาเป็นสีสันเท่านั้น

 ให้เพียงรู้เท่านั้นว่า

ได้มีการเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้น

 หาอ่านรู้เรื่องไม่และหาอาจรู้ได้ไม่

ว่าเขียนอะไรก่อนเขียนอะไรหลัง

 นี้ฉันใด การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่วก็ฉันนั้น

ต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน

ทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่อ่านไม่ออก

หารู้ไม่ว่าได้เขียนอะไรก่อนเขียนอะไรหลัง

 ทำกรรมใดไว้ก็ไม่รู้ไม่เห็น แยกไม่ออก

ว่าทำกรรมใดก่อนทำกรรมใดหลัง

 ทำดีอะไรไว้บ้างทำไม่ดีอะไรไว้บ้าง

 มากน้อยหนักเบากว่ากันอย่างไร

มาถึงชาตินี้ไม่รู้ด้วยกันทั้งสิ้น

 เป็นความซับซ้อนของกรรมที่แยกไม่ออก

 เช่นเดียวกับความซับซ้อนของตัวหนังสือ

 ที่เขียนทับกันไปทับกันมา"

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก






ขอบคุณที่มา fb. ไม่ขีดครับ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 03 สิงหาคม 2561
Last Update : 3 สิงหาคม 2561 7:29:43 น.
Counter : 294 Pageviews.

0 comment
<<< "ชีวิตสมดุลได้ด้วยการให้" >>>










"ชีวิตสมดุลได้ด้วยการให้"

เดี๋ยวนี้เวลาทำบุญให้ทาน

ผู้คนมักนึกถึงโชคลาภและความมั่งมี

 หรือ “สวย รวย ฉลาด สมปรารถนา”

แม้นั่นเป็นอานิสงส์อย่างหนึ่งของทาน

 แต่หาใช่อานิสงส์สูงสุดของทานไม่

 ประโยชน์สูงสุดที่สามารถเกิดได้จากทานก็คือ

 การคลายความยึดมั่นในตัวกูของกู

หรือการลดละความโลภ

 หากให้ทานโดยยังหวังได้โชคลาภ

 ก็ไม่ช่วยให้บรรลุถึงประโยชน์ดังกล่าวเลย

 เพราะยังเป็นการให้ที่ยังเจือด้วยความโลภอยู่

นอกจากการให้ทรัพย์สมบัติแล้ว

 เรายังควรให้อย่างอื่นที่มีคุณค่าด้วย

เช่น เวลา กำลังกาย และสติปัญญา การ

 การช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก

 แม้บางครั้งต้องประสบกับความเหน็ดเหนื่อย

ไม่สะดวกสบาย แต่กลับสัมผัสได้ถึงความสุขใจ

 ความปีติและความแช่มชื่นภายใน

 เป็นสุขที่ประณีตกว่าความสุข

หรือความสนุกจากการเสพ.

พระไพศาล วิสาโล






ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต ธรรมชาตที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 02 สิงหาคม 2561
Last Update : 2 สิงหาคม 2561 11:04:20 น.
Counter : 283 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ