"ธุลีจักรวาล"
เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน
ดวงดาวพราวพร่างฟ้าสามารถสะกดใจเราให้สงบได้
ในยามนั้นแหละที่เราจะระลึกได้
ถึงตำแหน่งแห่งหนที่แท้จริงของเราในจักรวาล
ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน
คุณจะรู้สึกถึงความกะจิริดของตัวเอง
เมื่ออยู่ต่อหน้าดวงดาวนับล้าน
และทางช้างเผือกที่พาดผ่านฟ้า
ดวงดาวเหล่านี้มีขนาดมโหฬารเกินจินตนาการ
บ้างก็เป็นดาราจักรที่กว้างหลายปีแสง
แต่แล้วกลับกลายเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ระยิบระยับเบื้องหน้าเรา
ใช่หรือไม่ว่าแท้จริงเราไม่ต่างจากธุลีของจักรวาล
การปรากฏตัวของเราบนพื้นโลกนั้น
แม้จะเป็นเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของใครบางคน
แต่ก็ไม่ต่างจากการเกิดขึ้น
ของฝุ่นผงเม็ดหนึ่งในจักรวาล
พันปีนั้นนานเกินกว่าที่ทุกคนใฝ่ฝันจะอยู่ในโลกนี้
แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับอายุหลายพันล้านปี
ของดวงดาวแต่ละดวงบนท้องฟ้า
มิไยต้องเอ่ยถึงอายุของจักรวาล
เมื่อดาวดวงหนึ่งแตกดับ
อาจเกิดแรงสั่นสะเทือนไปยังดวงดาวใกล้เคียง
แต่แทบไม่มีความหมายเลย
สำหรับจักรวาลที่มีดาวแสนล้านดวงเกลื่อนกล่นเต็มฟ้า
เมื่อดาราจักรที่ไกลหลายร้อยปีแสงระเบิดกัมปนาท
เราเคยรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือไม่
อย่างมากที่สุดก็เป็นแค่แรงกระเพื่อมเล็ก ๆ
ที่เครื่องมืออันละเอียดอ่อนเท่านั้นสามารถดักจับได้
แล้วเหตุใดเราจึงคิดว่าการตายของเรา
เป็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่โลกจะไม่มีวันลืม
เป็นเพราะเราคิดว่าตัวเรานั้นเป็นคนสำคัญ
จึงเห็นความปรารถนาของตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด
ยิ่งคิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้า ก็ยิ่งเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
เมื่อไม่สมหวัง อดไม่ได้ที่จะกราดเกรี้ยวต่อโลกทั้งโลก
และเมื่อถึงวันที่จะลาลับโลก เราอดสงสัยไม่ได้ว่า
โลกจะขับเคลื่อนอย่างไรเมื่อไม่มีเรา
แต่ความจริงก็คือการตายของเรานั้น
ไม่ได้ต่างอะไรเลยกับการหายวับของฝุ่นธุลีในอวกาศ
โลกก็ยังหมุนอยู่ต่อไป และในที่สุดก็จะลืมเรา
ตราบใดที่ยังคิดถึงแต่ตัวเอง
ก็ย่อมสำคัญผิดคิดว่าฉันคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เป็นประหนึ่งศูนย์กลางของโลก
ที่ทุกคนต้องหมุนรอบ
แต่เมื่อเปิดตาเบิ่งมองท้องฟ้ายามดึก
แสงระยิบระยับของดวงดาวเต็มฟ้า
สามารถสาดส่องใจเราให้สว่างไสวและโปร่งเบา
ความทุกข์จะลดลงและรู้สึกเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น.
พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณที่มา fb. ZenSukato
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ