"ฝึกสติให้ดีอย่าให้เผลอ"
"จงพยายามฝึกหัดสติให้ดีอย่าให้เผลอ
เคยพิจารณาอย่างไรก็ให้มีสติติดตาม
อย่างน้อยก็ให้เป็นสัมปชัญญะ
มีความรู้สึกตัวอยู่ในขณะทำงาน คือรู้สึกอยู่ในตัว
ไม่ได้จำเพาะเจาะจงในจุดใดจุดหนึ่งแห่งร่างกาย
หรือแห่งอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง
มีความรู้สึกตัวประจำอยู่ ท่านเรียกว่าสัมปชัญญะ
เมื่อจ่อเข้าไปตรงจุดใดจุดหนึ่งเรียกว่าสติ
ทีนี้เมื่อสติมีความชำนิชำนาญขึ้นไป
ก็กลายเป็นสัมปชัญญะอีกทีหนึ่ง
แล้วกลายเป็นมหาสติกลายเป็นมหาปัญญา
ขึ้นจากสติขึ้นจากปัญญา
ที่เคยล้มลุกคลุกคลานนั่นแหละไม่ไปจากไหน
เมื่อฝึกหลายครั้งหลายหน ฝึกจนเกรียงไกรแล้ว
ก็ชำนิชำนาญคล่องแคล่วแกล้วกล้า
สามารถปราบปรามกิเลสได้ทุกประเภท
ไม่ว่ากิเลสประเภทไหนเหนือสติปัญญานี้ไปไม่ได้
เพราะสติปัญญาเป็นต้นนี้
พระพุทธเจ้าแลพระสาวกทั้งหลาย
เคยใช้ปราบกิเลสให้หมอบราบคาบ
ได้ผลเป็นที่พอพระทัยและใจมาแล้วจนสะเทือนโลกธาตุ
จึงไม่ประสงค์ให้ท่านนักปฏิบัติทั้งหลาย
มานอนขึ้นเขียง คอยให้กิเลสประเภทต่าง ๆ
สับยำแบบไม่เป็นท่าหาทางต่อสู้ไม่ได้ดังที่เป็นอยู่
โดยลักษณะแพ้มัน ในทางสติปัญญา
ศรัทธา ความเพียร ไม่มีอะไรเข้มแข็งพอ
จึงขอได้พยายามฟิต สติธรรม ปัญญาธรรม
วิริยธรรม ขันติธรรม เป็นต้น
ขึ้นให้พอกับความจำเป็น
ผลที่พึงหวังจะได้ครองในวันหนึ่งแน่นอนไม่สงสัย..."
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
................................
พระธรรมเทศนา
เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๒
พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี
(พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๒๕๕๔)
ขอบคุณที่มา fb. ธรรมะพระธุดงคกรรมฐาน
สายพระบูรพาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริฑฺตตเถระ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ