นกน้อย

มีหลายคนมักถามเสมอว่า ทำไมถึงใช้ชื่อว่า “นกน้อย” เป็นชื่ออีเมลล์ หรือแม้แต่นามปากกา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วตัวก็ไม่น้อยเลยซักนิด...กว่าจะมาเป็นนกน้อย คงต้องไล่เรียงลำดับกันสักหน่อย เพราะฉันรู้จักนกน้อยหลากหลายตัว และหลากหลายแหล่งที่มาเหลือเกิน

นกตัวแรกที่ฉันรู้จัก คือนกนางนวล ที่ชื่อว่าโจนาธาน คิดว่าหลายคนที่เป็นคอวรรณกรรม คงคุ้นดีกับนกที่ชื่อว่า จอนนี่ หรือโจนาธาน ลิฟวิงตัน เขียนโดยริชาร์ด บาร์ค แปลโดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ครั้งแรกที่รู้จักกับจอนนี่ ฉันรู้สึกประทับใจอย่างพิลึก ด้วยหัวใจที่ห้าวหาญ และกล้าแกร่ง เผชิญกับความโดดเดี่ยวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นนกหัวเน่า กล้าหลุดกรอบ แหกกฎ ยอมเจ็บปวด และเต็มเปี่ยมไปด้วยหัวใจแห่งการเรียนรู้ ที่สำคัญจอนนี่ได้กลับมาสอนนกรุ่นหลังให้บินตามอย่างชาญฉลาด พลังใจของจอนนี่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันกล้าเป็นฉันได้ทุกวันนี้ บอกได้เลยว่าถ้าฉันไม่ได้รู้จักจอนนี่ คงไม่มีฉันในแบบที่ฉันเป็นวันนี้

หลายครั้งที่ฉันต้องเผชิญกับความเจ็บปวด อ่อนล้า และอ่อนแรง ฉันได้รู้จักกับนกอีกตัวโดยบังเอิญ และรู้สึกซาบซึ้งตรึงใจจนน้ำตาไหลทุกครั้งที่ได้ยิน “นกที่บินข้ามฟ้า” บทเพลงที่ขับกล่อมหัวใจฉันในยามที่ท้อแท้เสมอ เพื่อนสนิทที่รู้จักฉันและบทเพลงนี้ ต่างรู้ดีว่าบทเพลงนี้เราจะไม่ขับร้องกันอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะมันจะถูกขับกล่อมเฉพาะเวลาที่เราโหยหากำลังใจจากตัวเองและคนรอบข้างเสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นาน ๆ ครั้งน้ำตาจะไหลออกมาเพื่อชุบหัวใจให้ชุ่มชื่น มีแรงสู้ต่อไปอีกครั้ง...ขอบคุณเพื่อนที่อยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอมา

แห่งไหน ไกลแสนไกล ไม่เกินหัวใจคิดคำนึง ข้ามขอบฟ้าไกล
แห่งนั้น นานเท่านาน เก็บเอาหัวใจรักดำรง ตราบจนสิ้นกาล
ในคืนวันที่เหน็บหนาวร้าวราน ไม่มีใครต้องการจะยังมีฉันคอย
เป็นกำลังใจให้เธอเดินก้าวไป จะล้มลุกคลุกคลานอย่าอ่อนแรงดิ้นรน
ด้วยใจอันทะนงไม่เริงหลงทาง แพ้เดียวดาย ในจุดหมายไกล
ดั่งนกบินข้ามฝ่าทะเลน้ำตามายาตะวัน ไม่หวั่นไหวตาม
โบยบินไปด้วยปีกฝันเสรี ที่ไม่เคยสิ้นแรงแห่งศรัทธาหัวใจ
ความเป็นจริงยังคอยเจ็บจำย้ำเตือน เคลื่อนรอยแผลระงมยังซมซานเรื่อยไป
จักทน...จนถึงฝั่ง ที่สุดฟ้าไกล ฝันเป็นจริง ได้หยุดพักใจ สักวัน...


นกอีกตัว คือบทกวีที่คอยตอกย้ำกำลังใจ ให้มีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า มิใช่เพียงคุณค่าแห่งความเป็นตัวตน แต่กลับเป็นคุณค่าที่ดำรงอยู่เพื่อผู้อื่น ทำสิ่งดี ๆ เพื่อสร้างสรรค์และจรรโลงสังคม เฉกเช่นวันนี้ที่นกน้อยหลานแสน หลานล้านที่ต้องต่อสู้กับเหล่ามารร้าย และเสียสละชีวิต ฟันฝ่ากับผองภัยทั้งปวง เพื่อเหล่ามวลประชา ดำรงรักษาไว้ซึ่งความดี ความถูกต้อง และความยุติธรรม...ขอไว้อาลัยแด่ดวงจิตวิญญาณทุกดวงที่เสียสละเพื่อชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และขอเป็นกำลังใจให้หัวใจทุกดวงที่ต่อสู้เพื่อแผ่นดินห่งมาตุภูมิ

นกนั้นมากพิษพันธุ์ในแหล่งหล้า
ฉันเห็นนกนั้นนานา จักกินภักษาโสมม
ปรบปีกฉักกระชากลากฉุด หัวมุดศพซากหมักหมม
อยู่หล้าเปื้อนหล้าอาจม ตกตมติดตังเต็มตัว
คุณไม่ใช่นกนั้น คุณคือนกแสดงตะวันว่อนไปทั่ว
นำแสงสัจธรรมขับหมอกมัว
ขับความกลัวด้วยความกล้าท้าทาย
ต่อศัตรู คุณคือเหยี่ยมเฉี่ยวสู้ธนูหลาย
ด้วยคมปากคมปีกฉีกกระจาย และตาไวปานสายอัศนี
ต่อมิตร คุณคือพิราบอิสรเสรี
คาบดอกไม้ ความจริงใจ ความใฝ่ดี
มอบแด่มวลชนที่ได้ทุกข์ร้อน
นกน้อย เร่าร้อนโลดลอยเริงร่อน
บินมาเต็มฟ้า เต็มนาคร จะต่อกรกับพญามหาอินทรี

(เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)


เพราะนกเหล่านี้ ที่หล่อหลอมหัวใจฉันจนเข้าถึงแก่นและดวงจิตวิญญาณของความเป็นนกน้อย...ผู้มีปีกอันเสรี หัวใจแห่งความอิสระ และความเอื้ออารี โบยบินไปด้วยหัวใจอันทรนงค์ ไม่หวั่นเกรง ไม่กลัวอันตรายใด ๆ แม้ยามเหนื่อยล้า ก็ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังใจที่หวังว่าสักวันจะพบดินแดนแห่งความดีงามและสงบสุข...

ได้โปรดอย่าพึ่งหัวเราะเยาะเย้ย หัวใจแห่งอุดมการณ์ และปีกกล้าแห่งความฝัน เพราะฉันจะบอกไว้อย่างว่า แม้จะต้องขยับปีกโบยบินอย่างบาดเจ็บ แต่มันทำให้ชีวิตมีค่ายิ่ง มากกว่านกที่ถูกกักขังในกรงทอง...

ด้วยจิตคารวะ...
สี่ทุมห้าสิบ
1 ธันวาคม 2551




Create Date : 01 ธันวาคม 2551
Last Update : 1 ธันวาคม 2551 22:58:44 น. 4 comments
Counter : 997 Pageviews.

 

หนูนกน้อยของพี่อุ้มขา
ไม่เว้นช่องไฟให้พี่อุ้มหายใจอ่านเลยเน๊าะ
เขียนยาวเป็นทางรถไฟ
สายกรุงเทพถึงสไหงปาดีเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:23:39:27 น.  

 
++เป็นนกน้อยที่ตัวไม่น้อย ซะงั้น++

--แต่อุดมการร์เจ้านกน้อยมันใหย๋เหลือเกิน--

++อยากกินเยอะนะค่ะ อิอิ++


โดย: เด็กชายเบียร์ IP: 115.67.23.112 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:12:46:50 น.  

 
ต่อไปถ้าใครถามว่าอยากเป็นอะไร คงจะตอบได้แล้วว่า อยากเป็นนกน้อย ที่ไม่ได้อยู่ในกรงทอง...อิอิ


โดย: พิม IP: 114.128.96.197 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:18:01:35 น.  

 
นก คำนี้แม้เป็นเพียงคำเรียกของสัตว์มีปีกชนิดหนึ่ง
แต่ถึงอย่างไร มันก็มีปีกซึ่งสามารถพามันไปไหนก็ได้อย่างอิสระ แตกต่างกับคนถึงแม้จะมีความรู้สึกนึกคิดแต่ไม่เคยคิดที่จะทำอะไรเพื่อตัวเองเลย หากว่าฉันมีปีกเหมือนกับนก
มันคงจะพาฉันบินไป ไปในที่ที่ฉันต้องการ
โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก จงแสวงหามัน
ชีวิตเป็นของเรา ทำในสิ่งที่อยากทำ ถึงจะผิดหวังบ้าง
แต่เราก็ได้ทำอย่างเต็มที่ และเหนือสิ่งอื่นใด การเดินทางช่วยให้เราเติบโตขึ้นเสมอ


โดย: เบียร์ IP: 110.164.230.53 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:22:52:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.